Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
เสน่ห์มนตราริมฝั่งโขง จากเชียงคานถึงเมืองพญานาค


สีสันชีวิตยามเย็นในลำน้ำโขงเมืองเชียงคาน

“แม่น้ำโขง”หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญแห่งเอเชีย
แม่น้ำสายนี้เต็มไปด้วยเรื่องเล่า ตำนาน ความลี้ลับ ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นบ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมและ
ประเพณีอันหลากหลาย นอกจากนี้ความงามของสายน้ำ ธรรมชาติ เกาะ แก่ง ขุนเขา ป่าไม้ ชุมชน บ้านเรือน
วิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำใน 2 ฝั่งโขง
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งผูกมัดให้ผู้หลงใหลในวิถีแห่งสายน้ำ ตรึงตราอยู่กับ มนต์เสน่ห์เหล่านั้น

สำหรับตัว“ตะลอนเที่ยว”แล้ว แม่น้ำโขงคือมหานทีแห่งชีวิตอันน่าตื่นตาตื่นใจ มากมายเรื่องราวชวนค้นหา
นั่นจึงทำให้ในทริปนี้ เราหลีกลี้จรลีหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง เดินหน้าสู่อีสานเหนือไปพักใจแต่ไม่พักแรง
ในเส้นทางเลาะเลียบริมฝั่งโขง เพื่อชื่นชมเสน่ห์มนตราของมหานทีแห่งชีวิตสายนี้


ปั่นจักรยานชมเชียงคาน

เชียงคาน ความงามในความเงียบ
ปฐมบทของเส้นทางเลาะเลียบริมโขงเริ่มขึ้นที่เมือง“เชียงคาน” อ.เชียงคาน จ.เลย
ดินแดนแรกในอีสานที่สัมผัสกับลำน้ำโขง ณ จุดที่เรียกว่า“ปากเหือง”บ้านท่าดีหมี

พูดถึงเชียงคานแล้วชื่อนี้คงไม่ต้องสาธยายกันมาก เพราะนี่คือเมืองท่องเที่ยวแห่งยุคสมัยที่กำลังดัง กำลังแรง
สอดคล้องกับเทรนด์และจริตของคนเมืองยุคใหม่ ที่อยากจะหลีกลี้หนีความวุ่นวาย ในเมืองใหญ่
ความเร่งรัดในหน้าที่การงาน มาพักกายคลายใจ เอกเขนก นอน นั่ง ฟังสรรพสำเนียงของความเงียบสงบ
(Sound Of Silence) ที่แฝงเจือไว้ด้วยความงามแห่งวิถีอันเรียบง่าย


ป้ายอะไรหว่า?

สำหรับการมาเยือนเชียงคานครั้งนี้ สิ่งแรกที่เราทำคือการไปยืดเส้นยืดสาย
ให้หายเมื่อยจากการนั่งรถมายาวนานด้วย การปั่นจักรยานชมเมืองเชียงคานในช่วงบ่ายแก่ๆของวัน
โดยเราเริ่มออกสตาร์ทที่ “วัดท่าคก” (ถ.ชายโขง ซ.20-21)
วัดเก่าแก่ ที่โดดเด่นไปด้วยโบสถ์ศิลปะล้านช้างอันกระทัดรัดเรียบง่าย

จากนั้นเราบรรจงปั่นเจ้า 2 ล้อย้อนตัวเลขซอยเรื่อยไปบนถนนชายโขง ชื่นชมกับบรรยากาศบ้านเรือน 2 ฟากฝั่ง
ที่เป็นดังแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสชื่นชม ในความเรียบง่ายแต่ มีเสน่ห์อยู่ในตัว


บรรยากาศยามเย็น ณ ริมโขง

บ้านเรือนที่นี่ด้านหนึ่งหันหน้าออกแม่น้ำโขง ด้านหนึ่งหันหน้าเขาหาถนน
ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้เก่าประตูบ้านเฟี้ยมแซม ด้วยบ้านใหม่ที่สร้างอย่างไม่ แปลกแยก
บางบ้านดูเงียบเหงาไร้วี่แววคนอยู่ บางบ้านดูมีชีวิตชีวาด้วยสมาชิกอันอบอุ่นในครอบครัว
บางบ้านปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นเป็นที่พัก เกสต์เฮาส์ ราคาประหยัด
บางบ้านเปิดเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านนวดแผนโบราณ เรียกว่าเป็นการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

เราปั่นชมวิถีสีสันเมืองเชียงคานบนถนนชายโขงไปจนถึง“วัดศรีคุนเมือง” (ซ.6-7)
วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแหล่งรวมศิลปะล้านนาและล้านช้าง
ที่นี่ “ตะลอนเที่ยว” เข้าไปไหว้พระประธานชื่นชมศิลปะภายในโบสถ์ ก่อนเปลี่ยนเส้นทางการปั่นออกไปยัง
ถนนบนสันเขื่อนเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศริม ฝั่งโขงอย่างใกล้ชิด พร้อมเฝ้าชมดวงตะวันลาลับขอบฟ้า
อันเป็นอีกหนึ่งมนต์ขลังของเชียงคานที่ผู้มา เยือนไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง


ร้านรวงยามราตรีที่เชียงคาน

หลังแสงสุดท้ายของวันลาลับ แสงแห่งราตรีเข้าแทนที่ ร้านรวงจำนวนหนึ่งบริเวณเฮือนหลวงพระบาง
ย่านดาวน์ทาวน์สำคัญดูคึกคักเล็ก น้อย จากการเปิดขายของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียน
เข้ามาซื้อของชื่นชมกันพอประมาณ ก่อนที่ม่านวิกาลจะค่อยคลี่คลุมเมืองนี้ ให้กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง


เชียงคานยามเช้ากับวิถีการตักบาตรข้าวเหนียวของนักท่องเที่ยว

ตักบาตรข้าวเหนียว เที่ยวแก่งคุดคู้
วันเวลาที่เชียงคานอาจเดินช้าในความรู้สึกของใครหลายๆคน
แต่กับ“ตะลอนเที่ยว”แล้ว เช้านี้มันมาถึงเร็วเป็นพิเศษ เพราะถ้าไม่รีบตื่นแต่เช้าตรู่ก็จะพลาดการตักบาตร
ข้าวเหนียวที่เรานัดกับ เจ้าของที่พักไว้ให้ตระเตรียมข้าวของไว้สำหรับใส่บาตร

เวลาประมาณ 6 โมงเช้า พระ-เณร แต่ละวัดได้ทยอยเดินเป็นแถวมาให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวใส่บาตร
กันอย่างแช่มชื่นอิ่มเอิบใจ


ช่วงหน้าแล้งแก่งคุดคู้จะสวยงามด้วยแก่งหินใหญ่และชายหาดน้ำจืด

จากนั้นช่วงสายของวันนั้นเราล่ำลาถนนชายโขงไปแวะชม “แก่งคุดคู้”
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของเชียงคาน มีลักษณะเป็นแก่งหินขนาดใหญ่พาดขวางกลางลำน้ำโขง
ที่เชี่ยวกราก ยามหน้าฝนแก่งคุดคู้จะซ่อนตัวอยู่ใต้ลำน้ำโขงที่ไหลบ่า เป็นปริมาณมาก รอวันเผยอวดโฉมความงาม
ในช่วงหน้าแล้งที่สายน้ำโขงแห้งขอดมองเห็นตัวแก่ง ขนาดมหึมาได้อย่างชัดเจน
พร้อมๆกับหาดทรายชาดหายน้ำจืดอันสวยงามในบริเวณนั้น
ซึ่ง ณ ที่นี่ เราเดินทางเลาะเลียบสายน้ำโขง มุ่งหน้าต่อไปยังจังหวัดหนองคายเมืองพญานาคอัน เลื่องชื่อ


ห้อง ซอก ซอย มากมายในถ้ำดินเพียง

ท่องเมืองพญานาค
เมื่อเข้าเขตหนองคาย จุดแรกที่เราไปเยือนคือ“ถ้ำดินเพียง” วัดถ้ำศรีมงคล (บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม)
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ ที่แม้ระบบการจัดการยังไม่ลงตัวนัก
แต่ว่านี่คือหนึ่งในสถานที่ ที่ตอกย้ำความเป็นเมืองพญานาคของหนองคายได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะเรื่องเล่าขานต่างๆนานๆเกี่ยวกับงูใหญ่ ผนวกกับรูปลักษณะภายในถ้ำอันน่าพิศวง
ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่านี่คือเมืองพญานาค ที่สามารถเดินทางไปใต้ลำโขง ไปๆมาๆระหว่างหนองคายกับเวียงจันทน์ได้

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า
ในถ้ำแห่งนี้เป็นเส้นทาง ที่พระธุดงด์จากลาวใช้ข้ามฝั่งลอดใต้แม่น้ำโขงเข้ามายังเมืองไทย
เป็นถ้ำที่ต้องเป็นพระผู้ทรงศีล อันแก่กล้าเท่านั้นจึงจะเห็นเส้นทางสัญจรดัง กล่าว
ส่วนเราๆท่านๆนั้นสามารถเข้าไปเที่ยวในถ้ำได้ แต่เป็นในเส้นทางของมนุษย์ทั่วไป ไม่ใช่เส้นทางของผู้บำเพ็ญเพียร
ซึ่งถ้ำดินเพียงนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ท้าทาย
โดยต้องมีผู้นำทางเข้าชม และผู้เข้าชมก็ต้องมีร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคไขข้อ
เนื่องจากการเข้าถ้ำต้องย่อ หมอบ ลอด มุด คลานสูง คลานต่ำ และแถเถือกไถเลื้อยไปดังพญานาคในหลายๆช่วง
เริ่มประเดิมตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำที่ต้องมุดซอกหินเข้าไป


คลานลุยน้ำ เที่ยวแบบผจญภัยในถ้ำดินเพียง

จากนั้นภายในถ้ำจะเป็นเพียงช่องเล็กๆแคบๆขนาดตัวคนให้เคลื่อนกาย สารพัดวิธี(ที่กล่าวมาในข้างต้น)
ไปตามเส้นทาง ซึ่งภายในมีห้อง ช่อง ซอก ซอย ที่มากด้วยส่วนโค้ง ส่วนเว้า อันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดิน
จำนวนมากนับเป็นพันๆ หลายช่องทางสามารถเดินทะลุเชื่อมถึงกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อีกทั้งในเส้นทางเที่ยวถ้ำ ยังมีสายน้ำตื้นๆไหลเอื่อยๆให้เราตะลุยกันไปเกือบ ตลอดเส้นทาง
และเมื่อเราหยุดเพ่งพิจารณาสารพัดช่องทาง อันซอกซอนเหล่านี้ มันอดให้นึกถึงเส้นทางการเลื้อยของงูใหญ่ไม่ได้

สำหรับจุดเด่นๆภายในถ้ำนั้นก็มี
ส่วนห้องโถง ห้องหีบศพปู่อินทร์นาคราช ช้างสามเศียร บรรลังก์พญานาค ธิดาพญานาค 3 องค์ ฯลฯ
โดยบริเวณทางออกจากมีเจดีย์หินที่เชื่อว่า สร้างถวายแก่พญานาคตั้งโดดเด่นให้ สักการะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล
ก่อนที่ “ตะลอนเที่ยว”จะล่ำลาเมืองพญานาคแห่งนี้ไปด้วยความทุลักทุเลจากการผจญภัยอัน น่าระทึกใจ


รูปเคารพหลวงปู่เทสก์ ในเจดีย์บรรจุอัฐิ

จบจากการผจญถ้ำอันเหน็ดเหนื่อยแต่สนุก
เราเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวสบายๆไหว้พระทำบุญในเมืองหนองคายกันบ้าง
เริ่มจาก“วัดหินหมากเป้ง” ริมแม่น้ำโขง(บ้านไทยเจริญ ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่)
สถานที่ปฏิบัติธรรมของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ภายในวัดมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่เทสก์ให้สักการะบูชาริมแม่น้ำโขง
ท่ามกลางบรรยากาศแมกไม้อันร่มรื่น โดยก่อนจากเราแวะไปสักการะเจดีย์บรรจุอัฐิหลวงปู่เทสก์ ที่ภายในมีรูปปั้น
เครื่องอัฐบริขารพร้อมด้วยชีวประวัติของท่านให้เราศึกษากัน


พระสุธรรมเจดีย์

จากวัดหลวงปู่เทสก์ เราไปต่อเส้นทางบุญกันที่ “พระสุธรรมเจดีย์” วัดอรัญบรรพต
(ริมถนนศรีเชียงใหม่-สังคม ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่) ที่สร้างถวายแด่หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ อีกหนึ่งเกจิชื่อดัง
ภายในจัดแสดงกึ่งพิพิธภัณฑ์ มีโลงทองบรรจุสังขารของหลวงปู่เหรียญให้พุทธ ศาสนิกชนเคารพสักการะ

เสร็จจากการเข้าชมพระสุธรรมเจดีย์ เวลาเดินทางมาถึงช่วงเย็นย่ำ “ตะลอนเที่ยว”
จึงเดินทางยาวเข้าสู่ตัวเมืองหนองคายไปหาอะไรอร่อยๆ กินแถวร้านริมโขง ก่อนเข้าที่พักนอนเอาแรง
เก็บพลังไว้ลุยต่อในวันรุ่งขึ้น


อุโมงค์ชมปลาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำฯ

เที่ยวตัวเมืองหนองคาย
สำหรับเช้าวันใหม่ ณ ใจกลางเมืองหนองคาย หลังเติมพลังในมื้อเช้าแล้ว จุดท่องเที่ยวแรกที่เราจะไปแวะชมก็คือ
“พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย” (ตั้งอยู่ใน ม.ขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย อ.เมือง)
ภายในเป็นแหล่งรวบรวมปลาน้ำจืดและน้ำเค็ม โดยเน้นเป็นพิเศษที่พันธุ์ปลาน้ำจืดทางอีสานและลุ่มแม่น้ำโขง
มีอุโมงค์ชมปลาช่วงเดียวที่ยาวที่สุดในเมืองไทย 34 เมตร ที่ในอุโมงค์ประกอบด้วยปลามากมาย
ภายใต้การตกแต่งแบบเมืองบาดาลอันเป็นที่อยู่ของพญานาค


พระธาตุบังพวน

ต่อจากการดูปลาสารพัดสารพันแล้ว “ตะลอนเที่ยว”เดินตามเส้นทางบุญอีกครั้งด้วยการไปสักการะ
“พระธาตุบังพวน” ณ วัดพระธาตุบังพวน (บ้านดอนหมู ต.พระธาตุบังพวน อ.เมือง) วัดที่มีพระธาตุบังพวน
อันเก่าแก่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีการจำลองสัตตมหาสถาน
หรือสถานที่สำคัญ 7 แห่ง ในพุทธประวัติหลังพระพุทธเจ้าตรัสรู้ และได้เสด็จไปประทับเสวยวิมุติสุขแห่ง ละ 7 วัน
รวมถึงมีสระปัพพฬนาค หรือสระพญานาค
ซึ่งในสมัยโบราณเมื่อมีการตั้งเจ้าเมือง มีการนำน้ำในสระนี้ไปสรงเพื่อความเป็นสิริมงคล


หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย

จากวัดพระธาตุบังพวน เราไปต่อยัง“วัดโพธิ์ชัย”เพื่อไหว้ “หลวงพ่อพระใส”
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย ที่เมื่อมาเมืองนี้แล้วควรไปสักการะท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล


ประติมากรรมหลากรูปแบบที่ศาลาแก้วกู่

ก่อนจะไปปิดท้ายทริปกันที่ “ศาลาแก้วกู่” สถานที่แสดงประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งขนาดใหญ่
อันเกิดจากศรัทธาและแรง บันดาลใจของหลวงปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ที่มี พระพุทธรูป เทวรูป
และรูปปั้นคติเตือนใจหลากหลายรูปแบบ ทั้งในศาสนาพุทธ พราหมณ์ พร้อมหลักธรรมคำสอนให้ศึกษากัน
นับเป็นเสน่ห์ความงามแฝงหลักธรรมส่งท้ายในเส้นทางเลาะเลียบลำน้ำโขง ที่หากใครอยากรู้ว่าริมฝั่งโขง งดงาม
ชวนหลงใหลแค่ไหน คงต้องหาวันเวลาเดินทางไปสัมผัสในเสน่ห์มนตรา ริมฝั่งโขงกันสักครั้งหรือ หลายๆครั้ง
ตามแต่ใจปรารถนา

***********

การ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดเส้นทางท่องเที่ยว
“เสน่ห์มนตราริมฝั่งโขง”(อีสานเหนือ)ขึ้น ในรูปแบบแพ็คเกจทัวร์
โดยให้ 4 สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งผู้สนใจสามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ส.ธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ 0-2270-1505-8 ส.ไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย 0-2393-5855
ส.ส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย 0-2961-2204-5 ส.ผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย 0-2998-0744

ส่วนผู้สนใจรายละเอียดเส้นทางท่องเที่ยว เชียงคาน หนองคาย สามารถสอบถามข้อเพิ่มเติมได้ที่
ททท.เลย 0-4281-2812 ททท.อุดรฯ(อุดรฯ-หนองคาย) 0-4232-5406-7


โดย ผู้จัดการออนไลน์
ที่มา //www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000111552



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 2 ธันวาคม 2552 8:08:11 น. 2 comments
Counter : 2004 Pageviews.

 
แวะมาทักทาย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ


โดย: กัปตันลูกชุบ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:05:45 น.  

 
โห้.. อยากไปจังเลยคร๊าบบบ.. ดูจากภาพแระ น่าไปเที่ยวมั๊กมากกกก บรรยากาศดูเป้บกับเองตามแบบชนบท ดีแท้...

ปล.ชอบรูปตักบาตรค่ะ...


โดย: ผู้หญิงสีน้ำเงิน วันที่: 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:24:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.