Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 

"วัดหนัง” มนต์ขลังวัดงามย่านฝั่งธน


พระปรางค์ตั้งอยู่ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร

ย่านฝั่งธนบุรี นับว่ามีวัดเก่าแก่ วัดสวยๆงามๆที่ซ่อนกายแฝงเร้นอยู่ตามเรือกสวน ตามชุมชน เป็นจำนวนไม่น้อย

หนึ่งในนั้นก็คือ "วัดหนังราชวรวิหาร" หรือ"วัดหนัง" ที่ฉันได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนในทริปนี้

วัดหนัง ถือเป็นวัดสำคัญอีกวัดในฝั่งธนฯ เป็นวัดเก่าแก่ริมคลองด่าน มีประวัติว่าสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ในรัชกาลสมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 9 (พระเจ้าท้ายสระ)
ก่อนหน้าที่จะมาเป็นวัดพระอารามหลวงนี้วัดหนังเป็นวัดร้างอยู่กว่า 200 ปี จนมารุ่งเรืองขึ้น
เมื่อสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3
ทรงสถาปนาวัดขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม
ด้วยเหตุนี้เองที่วัดหนังไม่ได้เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ตามแบบพระราช นิยมของรัชกาลที่ 3
แต่เป็นวัดแบบไทยๆ เพราะพระบรมราชชนนีของพระองค์ทรงสถาปนาขึ้น


หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่เอี่ยมมีคนมากราบไหว้อยู่เสมอ

ต่อมาวัดแห่งนี้ก็ได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของรัชกาลที่ 3 ซึ่งพระองค์ได้ทรงโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆขึ้นภายในวัดอีกหลาย สิ่งด้วยกันดังที่ได้เห็นกันในปัจจุบัน
ซึ่งก็ได้แก่ พระอุโบสถก่ออิฐถือปูนขนาด 5 ห้อง มีเฉลียงโดยรอบ หน้าเป็นประดับกระจกเป็นรูปดอกไม้สวยงาม
ส่วนภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระพุทธปฏิมากร" พระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยเป็นพระประธาน
ประดิษฐานอยู่บนฐานแว่นฟ้า 2 ชั้น ฐานพระ 1 ชั้น แบบชุกชีในพระอุโบสถวัดพระเชตุพนฯ แต่ย่อส่วนให้เล็กลง

ส่วนพระวิหารนั้นก็มีลักษณะคล้ายกับพระอุโบสถ แต่ภายในแบ่งเป็นสองห้อง มีประตูทางเข้าคนละด้าน
ด้านหนึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเรียงเป็นแถว 5 องค์
ส่วนอีกด้านหนึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปศิลา พอกปูนลงรักปิดทองปางมารวิชัยไว้
พระประธานองค์นี้สันนิษฐานว่าเดิมเป็นพระประธานของวัด
รวมทั้งตัวพระวิหารก็สันนิษฐานว่า เป็นพระอุโบสถเก่าก่อนที่จะถูกบูรณะในสมัย รัชกาลที่ 3

สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้พระอุโบสถ และพระวิหารนั้นก็คือพระปรางค์องค์สูง ใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างกลาง
เป็นพระปรางค์ที่มีความสูง 22.30 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 13.60 เมตร
มีลานประทักษิณ 3 ชั้นเป็นรูปแปดเหลี่ยม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ สามารถมากราบสักการะกันได้
โดยบริเวณหน้าพระปรางค์นั้นมีแท่นหินประกอบเป็นรูปเก้าอี้จีนอยู่ 1แท่น เรือนไฟหิน 1 คู่
ตุ๊กตาหินนักรบจีนโบราณ 1 คู่ โดยของเหล่านี้เป็นของพระราชทานจากรัชกาลที่ 3 นั่นเอง


พระปรางค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

และคนที่มาที่วัดหนังนี้หลายๆคนก็มาเพื่อกราบสักการะหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่ฉัตร และหลวงปู่ผล ที่วิหารหลวงปู่
ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศาลาการเปรียญ โดยหลวงปู่ทั้งสามองค์นี้ก็ถือเป็นเกจิชื่อดังแห่งวัดหนัง โดยเฉพาะหลวงปู่เอี่ยม
หรือพระภาวนาโกศลเถระนั้น ถือเป็นพระสงฆ์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ทรงให้ความเคารพศรัทธาเป็นอย่างสูง เพราะเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสยุโรปไปที่ประเทศฝรั่งเศส
พระองค์จะต้องทรงขึ้นขี่ม้าพยศตัวหนึ่งซึ่งไม่มีใครปราบได้
แต่พระองค์ได้ทรงใช้คาถาของหลวงปู่เอี่ยม เสกหญ้าให้ม้ากินจนม้าเชื่องสงบ
และสามารถประทับขี่บนหลังม้าตัวนั้นได้อย่างสง่างาม

และบริเวณริมคลองด่านก็ยังมีพระมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาท
โดยจำลองแบบมาจากพระพุทธบาทสระบุรีนั่นเอง

แต่เมื่อมาเยี่ยมเยือนวัดหนัง แล้วก็ต้องไม่พลาดชม "พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาวัดหนังราชวรวิหาร"
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นภายในวัดหนัง ที่มีข้าวของที่น่าสนใจหลากหลายอย่าง
และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นความร่วมมือระหว่างบ้านกับวัดอีกด้วย


วัดงามริมคลองด่าน

จุดกำเนิดของพิพิธภัณฑ์นี้ก็เนื่องมาจากว่า อาคารพิพิธภัณฑ์เดิมเป็นกุฏิของหลวงปู่ผล หรือพระครูภาวนาภิรัตน์
ก่อนที่ท่านจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นพระสุนทรศีลสมาจาร เจ้าอาวาสองค์ที่ 7 ของวัดหนังฯ
โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เอี่ยม ท่านจึงมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิปัสสนาธุระ ทำให้มีคนนับถือมากมาย
ต่อมาลูกศิษย์ของท่านคือพระครูวิบูลศีลวัตร (หลวงปู่ช้วน) เป็นผู้รับดูแลต่อมา
และมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เก็บไว้มากมาย หลังจากที่หลวงปู่ช้วนมรณภาพลงก็ได้มีการจัดทำความสะอาดกุฏิ
จึงพบว่ามีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเป็นจำนวนมากที่ผู้คนนำมาถวาย
พระครูสังฆรักษ์ไพฑูรย์ สุภาทโรจึงคิดจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้น แทนที่จะเก็บไว้เฉยๆให้เก่าเสื่อมโทรม
แถมยังจะถูกขโมยไปอีกต่างหาก

ประโยชน์ที่ได้รับจากพิพิธภัณฑ์ นอกจากจะเป็นการเก็บรักษาสิ่งของมีค่าแล้ว
ก็ยังถือเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนรุ่นหลังอีกด้วย เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ทราบข่าวการจัดทำพิพิธภัณฑ์
ก็ได้บริจาคเครื่องมือเครื่องใช้เก่าแก่ ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตในอดีตของคนในแถบนี้
ทำให้พิพิธภัณฑ์นี้แบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน คือส่วนหนึ่งเก็บรวบรวมของมีค่าเก่าแก่ของวัด
อีกส่วนหนึ่งเก็บข้าวของเครื่องมือของชาวชุมชนในอดีต


ภายในชั้นสองของพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์นี้จัดทำขึ้นในเรือนไทยโบราณ ซึ่งเคยใช้เป็นกุฏิพระมาก่อน
เมื่อเดินเข้าไปชมที่ชั้นล่าง จะจัดแสดงประวัติศาสตร์ของพื้นที่เขตจอมทองใน แถบวัดหนังแห่งนี้
บริเวณนี้มีระฆังเก่าแก่ใบหนึ่ง ซึ่งเป็นของชิ้นสำคัญเพราะจารึกบนตัวระฆัง
ทำให้เราทราบถึงช่วงเวลาในการเริ่มสร้างวัด ทั้งยังมีก้อนอิฐโบราณที่เป็นฐานรากของวัดมาแต่เดิม
รวมไปถึงเครื่องปั้นดินเผาต่างๆที่ขุดพบเมื่อปฏิสังขรณ์วัดอีกด้วย

ชาวบ้านในแถบวัดหนังนี้ในอดีตส่วนใหญ่ก็ประกอบอาชีพทำไร่ทำสวน ทำเกษตรกรรมต่างๆ
จึงมีการจัดแสดงเครื่องไม้เครื่องมือเกี่ยวกับการเกษตร มีเรือชนิดและขนาดต่างๆ ที่ชาวบ้านใช้เป็นพาหนะเดินทาง
และมีการจำลองเอาสภาพบ้านเรือนของคนในแถบนี้ให้ดูกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ซึ่งมีมุมแต่งตัว
มีโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็กๆน่ารัก มีเครื่องเล่นแผ่นเสียงหน้าตาโบราณแต่ยังใช้ได้จริง
และมีเตียงเก่าหลังหนึ่งมาจัดแสดงไว้
แถมบอกว่าเตียงนี้ใช้ไม้จากฝาโลงศพมาทำ คิดแล้วก็ บรื๋อออ.... กลัวนอนไม่หลับแทนเจ้าของเตียง

แล้วก็ยังมีครัวไฟ ส่วนสำคัญที่เป็นปากท้องของบ้าน มีเตาไฟหน้าตาโบราณ หม้อไหที่ทำจากดินเผา
ตู้กับข้าวหน้าตาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมีที่บ้าน รวมทั้งกระบุงกระจาดเครื่องใช้อีกมากมาย
จัดแสดงไว้ให้รำลึกถึงอดีต และมีตะเกียงน้ำมันหลายขนาด ที่เป็นของใช้สำคัญก่อนที่ไฟฟ้าจะเข้ามาถึง


พระอุโบสถวัดหนังฯ

คราวนี้เดินขึ้นมาดูบนชั้นสองบ้าง ที่ชั้นบนนี้จะเป็นข้าวของที่เกี่ยวข้องกับวัดหนังล้วนๆ
เริ่มตั้งแต่แผ่นไม้เก่าแก่ที่เป็นป้ายชื่อวัดหนัง ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรีอยู่เลย
ใกล้ๆกันนั้นจัดแสดงเรื่องของตำรายาไทย ซึ่งพระสุนทรศีลสมาจาร
หรือหลวงปู่ผล เจ้าอาวาสองค์ที่ 7 ของวัดหนัง นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ
และต่อมาหลวงปู่ช้วนก็ได้รับถ่ายทอดวิชาแพทย์แผนโบราณจากหลวงปู่ผล
ซึ่งท่านก็ได้ปรุงยาและรักษาคนป่วยต่อมาที่กุฏิหลังนี้
ดังนั้นจึงมีการจัดแสดงข้าวของที่เกี่ยวข้องอย่างหม้อต้มยา และเครื่องต้มยาต่างๆ

ถัดเข้าไปด้านใน เป็นที่จัดแสดงคัมภีร์ใบลานของวัด และตู้เก็บคัมภีร์
รวมไปถึงหนังสือเรียนเล่มเก่าๆที่ปัจจุบันหาดูได้ยากแล้ว นอกจากนั้นก็ยังจัดแสดงเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ต่างๆ
และพระพุทธรูปหลายปางต่างยุคสมัยกัน พระเครื่องวัตถุมงคลที่ทางวัดจัดทำ
อีกทั้งยังมีเครื่องอัฐบริขารของพระสงฆ์ สำรับอาหารสำหรับพระสงฆ์
ตาลปัตรพัดยศ ที่พระผู้ใหญ่ในวัดได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์จัดแสดงให้ ชมอีกด้วย


เรือชนิดต่างๆจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ชั้นล่าง

มาถึงห้องสุดท้ายในชั้นสองซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญพลาดไม่ได้ นั่นก็คือ
ห้องด้านในสุดที่ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่เอี่ยม พระเกจิที่เป็นที่เคารพเลื่อมใสของพระมหากษัตริย์คือ
รัชกาลที่ 5 และของชาวบ้านในแถบนี้ดังที่เล่าให้ฟังไปตอนต้นแล้ว
ภายในห้องนี้นอกจากจะมีหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าองค์จริงของท่านแล้ว ก็ยังมีพัดยศทำด้วยงาช้างที่เป็นของจำลอง
ส่วนของจริงนั้นเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีกรอบรูปไม้พระราชทานจากรัชกาลที่ 3
และลับแลหรือฉากกั้น ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 อีกด้วย


เครื่องถ้วยเบญจรงค์ต่างๆ ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์

ภายในห้องนี้ ยังเก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้ประจำตัวของหลวงปู่เอี่ยม
และภาพถ่ายเก่าๆ รวมไปถึงภาพถ่ายหลวงปู่เอี่ยม ซึ่งเป็นภาพฝีพระหัตถ์ของรัชกาลที่ 5
ที่ทรงถ่ายไว้เมื่อคราวเสด็จมาทอดพระเนตรการบูรณะวัดหนัง

มาวัดหนังที่เดียวได้เที่ยวทั้งวัดทั้งพิพิธภัณฑ์ ถือว่าคุ้มจริงๆ

* * * * * * * * * *

"วัดหนังราชวรวิหาร" ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150
สำหรับ "พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาวัดหนังราชวรวิหาร" นั้น เปิดให้เข้าชมเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์
ในเวลา 13.00-16.00 น. ควรติดต่อมาล่วงหน้าก่อนเข้าชม
สำหรับการเดินทางมายังวัด มีรถประจำทางสาย 43, 111 ผ่าน สอบถามรายละเอียดโทร.0-2875-4405


โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ที่มา ://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000021332




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2552
4 comments
Last Update : 5 ธันวาคม 2552 15:10:50 น.
Counter : 2543 Pageviews.

 

ละแวกบ้าน แต่เพิ่งรู้จัก - -"

 

โดย: 55 IP: 58.9.42.183 6 ธันวาคม 2552 13:54:14 น.  

 

เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยไปเลย ต้องหาเวลาไปชมบางแล้ว
ขอบคุณ ข้อมลูดีๆๆครับ...

 

โดย: ชายเอ ทุ่งรังสิต 6 ธันวาคม 2552 15:06:58 น.  

 

แวะมาทักทาย เมื่อก่อนเคยเรียนที่วัดสิงห์ นั่งรถผ่านทุกวัน ทำให้คิดถึงอดีต ..ขอบคุณที่นำมาให้ดู

 

โดย: tifun 10 ธันวาคม 2552 14:06:57 น.  

 

ผมอยู่วัดหนังครับแล้วก็เคยขึ้นไปขอสายสินหลวงปูชวนมาแล้วได้กับมือดีใจมาก

 

โดย: โอ่ง วัดหนัง IP: 192.168.179.216, 183.88.249.186 27 กันยายน 2554 11:38:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.