I'm not a Chef...but I sure am a Good Cook!
Group Blog
 
All blogs
 

✿เค้กอินทผลัม - Dates Butter Cake สุดแสนอร่อย✿







สวัสดีคะเพื่อน ๆ ชาวบล๊อกแกงค์ทุกท่าน
พบกับเมนูเชฟกระทะหลุดอีกแล้ว วันนี้บ๊งศรีงดเคาะกระทะ ควงตะหลิว
แ่ต่จะชวนเพื่อน ๆ มาร่อนแป้ง ทำครัวให้เลอะเทอะขาวโพลนไปด้วยแป้ง
เป็นเค้กที่คนทำปลื้มและถูกใจที่สุด ที่สุด อร่อยไม่แพ้เค้กมะตูม เชียวคะ
เพื่อนสมาชิกหลายท่านทดลองทำและนำพามาส่งการบ้านพร้อมบอกเล่า
เรื่องราวความอร่อยของเค้กชนิดนี้ ยืนยันความอร่อยไม่แพ้เค้กมะตูมเลย





มีคำถามเรื่องการสะกดชื่อของผลไม้ชนิดนี้บ่อย ที่ถูกต้องคือ "อินทผลัม" ไม่ใช่ "อินทผาลัม"
เขาว่ากันผลไม้จากสวงสวรรค์ "Dates หรือผลอินทผลัม" นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์
หลากหลายคุณภาพ โดยจัดอันดับเดทส์เกรดชั้นเยี่ยมก็ต้องจากทางแถบซาอุดิอาราเบีย,
คูเวต, ซีเรีย, อิหร่าน ว่ามีผลผลิตอันเป็นเลิศ เท็จจริงอย่างไรก็ต้องซื้อมาลองชิมกัน

จะว่าไปบ่งบ๊งลองชิมเกือบหมดตามที่ว่า แต่รสชาติถูกใจที่สุดเป็นของประเทศลิเบีย
ส่วนเดทส์ของทางประเทศดูไบให้ผลที่มีขนาดใหญ่ แต่รู้สึกว่าเนื้อออกจะแข็ง ๆ ไปนิด

มาดูสรรพคุณของผลไม้ที่เขาว่าเป็นผลไม้จากสวงสวรรค์กันหน่อยนะคะ

1. ด้านคุณค่าทางโภชนาการ อินทผลัมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก เช่น ซัลเฟอร์ เหล็ก โพแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส และน้ำมันโวลาไดท์ เป็นต้น มีเส้นใยมาก ช่วยลดอาการท้องผูกและทำให้ย่อยง่าย รวมทั้งให้พลังงานสูง ทำให้ร่างกายที่อ่อนเพลีย กลับมีกำลังวังชาเท่าเดิม นอกจากนี้ยังสามารถบำรุงกล้ามเนื้อมดลูกและสร้างน้ำนมแม่ด้วย

2. ด้านการรักษาโรค อินทผลัมช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา ลดความหิว แก้กระหาย แก้วิงเวียนศีรษะ ทำให้กระดูกแข็งแรง ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังฆ่าเชื้อโรค พยาธิและสารพิษที่ตกค้างในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร เพราะอินทผลัมมีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคอันเป็นสารก่อมะเร็งในช่องท้องได้





เค้กอินทผลัม [Dates Butter Cake]

วิธีการทำแบบเดียวกับเค้กมะตูมสูตรคุณประภาสศรี

ส่วนผสม

1. แป้งเค้ก 114 กรัม
2. เบคกิ้งพาวเดอร์ 1 ช้อนชา
3. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
4. ไข่ไก่เบอร์ 0 (3 ฟอง) แยกไข่แดง-ไข่ขาว
5. น้ำตาลทรายสีรำ 50 กรัม
6. น้ำตาลทรายขาว 50 กรัม [ส่วนนี้เอาไว้ตีกับไข่ขาว]
7. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
8. นมเปรี้ยว 1/4 ถ้วย
(วิธีทำนมเปรี้ยว บีบน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูใส่นมสด 1 ช้อนชา)
9. เนยสดจืด 125 กรัม
10. กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
11. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา (ใส่ตอนตีไข่ขาว)
12. เนื้ออินทผาลัมหั่นหรือสับละเอียด 200 กรัม มากน้อยตามชอบ

หมายเหตุ - สูตรนี้ได้คัพเค้กแบบพิมพ์กระดาษขนาด 1.5 นิ้ว ประมาณ 6-7 ถ้วย





ก่อนอื่นต้องนำผลอินทผลัมมาแช่น้ำให้นิ่มเพื่อให้ง่ายต่อการตัด แกะเอาเมล็ดออกทิ้ง
ถ้าผลอินทผลัมหวานมากควรแช่ในน้ำร้อนก่อนเพื่อลดความหวาน วิธีนี้ช่วยได้มากนะคะ
ถ้าเนื้อยังหวานก็ลดน้ำตาลในส่วนตัวเค้กลงได้อีกนะคะ บ่งบ๊งลดน้ำตาลลงเยอะมาก






แกะเม็ดแล้วนำมาหั่นชิ้นเล็ก ๆ หรือบดสับจนเป็นชิ้นละเอียดแบบนี้
วิธีการสับละเอียดแบบนี้ทำให้ชิ้นของอันทผลัมกระจายไปทั่วเค้ก








วิธีทำ

อุ่นเตาอบก่อนอบเค้กประมาณ 15 นาที อบไฟบนล่างที่ 180 องศาเซลเซียส
เตรียมพิมพ์ปอนด์ ทาเนยขาว ปูกระดาษไข หรือวางพิมพ์กระดาษบนถาดอบ

ใช้หัวตีใบไม้ ตีเนยสดด้วยความเร็วสูงให้เนยฟูและสีของเนยเปลี่ยนเป็นสีอ่อน ๆ

ปิดเครื่อง ปาดอ่าง ทยอยใส่น้ำตาลทรายสีรำชนิดละเอียดลงไปทีละช้อน

ตีด้วยความเร็วสูงจนส่วนผสมเนยและน้ำตาลฟู ปาดอ่าง ลดความเร็วลง

ใส่ไข่แดงทีละฟอง เมื่อมองไม่เห็นลิ่มไข่ใส่ไข่ฟองต่อไปจนครบจำนวน

ปาดอ่าง ใส่กลิ่นวานิลา ใส่เนื้ออินทผาลัมสับ คนผสมให้ส่วนผสมเข้ากันดี

แบ่งแป้งในใจสามส่วน ใส่แป้งสลับกับนมเปรี้ยว [แป้ง-นม-แป้ง-นม จบที่แป้ง]

ใช้พายยางปาดแบทเธอร์ก้นอ่างขึ้นมา คนส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วพักส่วนนี้ไว้ก่อน




ในโถผสมอีกใบ ตีไข่ขาวให้ฟูเล็กน้อย ใส่น้ำตาลทรายอีกส่วนลงไป ใส่ครีมออฟ-ทาทาร์
ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ๆ แล้วนำส่วนผสมไข่ขาวใส่ไปในไข่แดง






คนผสมให้เข้ากันด้วยพายยางแบบเบามือ ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ปอนด์ หรือพิมพ์กระดาษ
นำเข้าเตาอบที่ไฟบน-ล่าง 180 C อบนานประมาณ 20 - 25 นาที สำหรับพิมพ์กระดาษ
ถ้าใช้พิมพ์ปอนด์ก็ต้องเพิ่มเวลาในการอบอีกนิด ประมาณ 35-40 นาที ขึ้นอยู่กับเตาอบ






เมื่อครบเวลา นำออกจากพิมพ์มาพักไว้บนตะแกรงจนเค้กเย็นตัว






หากไม่ตกแต่งหน้าตาจะดูโล้น ๆ ไม่สวยงาม ไม่น่ารับประทาน มังคะ
ฉะนั้นควรหั่นเนื้ออินทผลัมเพิ่มเพื่อนำมาตกแต่งหน้าตาคัพเค้กด้วย










ตัดแบ่งเพื่อดูเนื้อในกันหน่อย สังเกตุดูเนื้ออินทผลัมกระจายไปทั่วทุกอณู
นั่นเพราะเราใช้วิธีบดสับเนื้ออินทผลัมละเอียด ไม่ได้หั่นชิ้นแบบเต๋านั่นเอง






เป็นอย่างไรบ้างคะ เค้กอินทผลัมของบ่งบ๊ง หน้าตาน่ากินไหมคะ
เนื้อฟูเบา นุ่มนิ่มละลายในปาก กลิ่นหอมชื่นใจของลูกอินทผลัม
ที่หลายคนสอบถามว่า "ทำแล้วจะได้กลิ่นหอมของผลไม้ชนิดนี้รึ?"
เนื่องจากส่วนใหญ่เข้าใจว่าลูกอินทผลัมจะให้รสหวาน หวานมาก
หวานจัดจ้านจนแทบลืมนึกถึงกลิ่นและรสของผลไม้กันไปเลย






ถ้าใครที่เคยทำเค้กมะตูมแล้ว ลองทำเค้กชนิดนี้บ้างนะคะ
ความหอมคงไม่เท่าเค้กมะตูม แต่กลิ่นนั้นสุดแสนคลาสสิค








 

Create Date : 26 สิงหาคม 2556    
Last Update : 26 สิงหาคม 2556 15:27:55 น.
Counter : 24684 Pageviews.  

✿Brownies หน้ากรอบ-เนื้อหนึบ-ขมนิด ๆ สูตรฉันเอง ✿




สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวบล๊อกแกงค์และมิตรรักแฟนรายการทุกท่านคะ
เมนูเชฟกระทะหลุดวันนี้ ขอนำพาขนมฮ๊อตฮิตติดอันดับ[โลก]มาฝากน้องพี่ชาวบล๊อกคะ
"บราวนี่" กับคำถามที่พบบ่อยมาก บราวนี่หน้าไม่แตก [นั่นสิ ทำไมหน้าไม่แตก ??]
ทำไมเนื้อบราวนี่ร่วน, เนื้อแห้งไป, เนื้อฟูฟ่อง, หน้าไม่ค่อยเนียน, เกิดหลุมอากาศเยอะ
ตอนเทออกจากพิมพ์เพื่อพักให้เย็น เมื่อกลับหน้าขนม ทำไมหน้าขนมแตกหัก
โอย ร้อยแปดปัญหากับขนมที่จัดว่ารายละเอียดน้อยที่สุด แต่ไฉนปัญหามากมาย

ผู้ที่ทำและประสบผลสำเร็จสมดังใจก็จะมีคำตอบมาให้กับผู้มีปัญหามากมาย ต่าง ๆ นา ๆ
ผู้ที่ลองทำแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ยังค้างคาใจติดสงสัยก็จะเข้ามาสอบถาม บอกเล่าสู่กันฟัง
เอวัง บางท่านแอบไปค้นคิดหาคำตอบมาให้กับผู้ที่ทำแล้วแต่ไม่ประสบผลสำเร็จสักที
สรุป ... ยังคงมีคำถามมากมายร้อยแปดเกี่ยวกับขนมเจ้าปัญหาชนิดนี้ "บราวนี่"


สืบเนื่องจากคุณลูกสาวเจ้านาย นางฟ้าการบินไทย ได้ลองทำบราวนี่ไปหลายรอบ
แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ร้อนถึง "อาบี๊" ที่ต้องให้ความช่วยเหลือหลานสาวที่ใฝ่ทำขนม
ซึ่งสีมือการทำขนมของอาบี๊ก็พอถู ๆ ไถ ๆ กล้อมแกล้มพอไปได้ไม่อาย ไม่น้อยหน้า

อาบี๊ถามหลานสาว "ที่ว่าทำแล้วไม่สำเร็จ มันเป็นเยี่ยงไรรึ" ?? ได้รับคำตอบกลับมา
ทำออกมาแล้วเนื้อเค้กเหนียว ๆ แน่น ๆ ประมาณเนื้อแข็ง แข็งทั้งนอกแข็งทั้งในเลยคะ

เมื่อได้รับคำตอบ เริ่มคิดหนัก อาบี๊ผู้ซึ่งไม่เคยได้ร่ำเรียนวิชาการทำอาหารและขนมจากที่ใด
ไม่มีสถาบันใด ๆ รับรองให้ใบการันตีใส่กรอบแปะข้างฝา แต่ฉันได้รับรองตัวฉันเอง "ฉันเจ๋ง"
เริ่มใช้สมองและไตร่ตรองปัญหานั้นทันที บราวนี่เหนียว หน้าไม่กรอบ เป็นเพราะเหตุใดรึ

ยังตอบไม่ได้แต่รีบไปทำการบ้านทันที ลงมือทำบราวนี่สูตรของฉันที่ทำไปแล้วสองรอบ
สูตรมั่วนิ่มตำราล่าสุด โดยจับเอาบราวนี่สองสูตรที่ฉันปลื้มมาผสมปนเป 555 เก่งอีกตรูว์
บราวนี่สูตรที่ปลื้มตามนี้ Brownie Mania และ Toffee Brownies / Fudge Brownies
โดยนำมาปรับให้เข้ากันจนได้บราวนี่สูตรเข้มข้น เนื้อหนึบในแบบที่ฉันชอบ รสขมนิด ๆ
ส่วนจะได้เรื่องหรือไม่คงต้องให้ผู้ที่นำไปลองทำเป็นผู้ตัดสิน มีเพื่อนสมาชิกหลายคนที่
ห้องก้นครัวได้นำสูตรไปลองทำพร้อมส่งการบ้านและแจ้งผลให้ทราบ บอกเล่าถึงปัญหา
มีน้องคนหนึ่งเล่าว่าทำไปให้เพื่อนในที่ทำงานชิม มีคำถามกลับมา "จะรับสั่งทำหรือไม่"
บ่งบ๊งตรวจการบ้านอ่านรายละเอียดก็แอบอมยิ้ม เราไม่ได้เก่ง แต่เราภูมิใในสิ่งที่เรารัก


บราวนี่ของฉัน






Toffee Brownies
บราวนี่หน้ากรอบ เนื้อหนึบ ขมนิด ๆ

ส่วนผสม


แป้งอเนกประสงค์ 125 กรัม

น้ำตาลทรายแดง [muscovado] 220 กรัม

เนยสดจืด 150 กรัม

ไข่ไก่เบอร์ (2) 3 ฟอง

ผงฟู 1 ช้อนชา

Dark chocolate 250 กรัม [ความเข้มระดับ 58%]

Hershey’s chocolate chips 100 กรัม

Cocoa powder 2 ช้อนโต๊ะ

Instant Espresso 1 ช้อนโต๊ะ

กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา

เกลือ 1 หยิบมือ


สิ่งที่ต้องเตรียม

อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง

เตรียมพิมพ์ขนาด 9 x 9 นิ้ว ปูกระดาษไข โดยให้ปลายกระดาษโผล่
พ้นจากพิมพ์ประมาณ 4 นิ้ว เพื่อให้ง่ายต่อการยกเค้กออกจากพิมพ์

ร่อนแป้งที่ผสมผงโกโก้, เกลือป่น, ผงกาแฟ เข้าด้วยกัน 1 รอบ






เค้กช๊อกโกแลต และบราวนี่ของบ่งบ๊ง กับโกโก้ตัวโปรดยี่ห้อนี้เท่านั้น Cadbury
และกาแฟชื่อดังจากเวียตนาม ยี่ห้อฮ๊อตฮิตติดอันดับที่รสชาตเข้มข้น เด็ดขาดมาก






วิธีทำ

น้ำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ แล้วนำหม้อใบย่อมอีกใบซ้อนบนหม้อใบล่าง
ใส่เนยที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และช๊อกโกแลตที่บิเป็นชิ้นเล็กลงไป
ทำการตุ๋นละลายด้วยวิธีการระบบไอน้ำที่เรียกว่า double boiler
ตุ๋นจนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี แล้วดับไฟ พักไว้






ในชามผสม ตีไข่ไก่ให้ขึ้นเป็นครีมสีนวล ๆ
ทยอยใส่น้ำตาลทราย ตีผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
นำช๊อคโกแลตและเนยที่ละลายไว้ใส่ลงไป ใส่กลิ่นวานิลา
แล้วคนผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ส่วนผสมจะหนืด ๆ

หมายเหตุ ถ้าจะใส่ถั่วหรือผลไม้แห้งต่าง ๆ ให้ใส่ไปในขั้นตอนนี้

เทแป้งที่ร่อนลงไปครั้งเดียวหมด แล้วใช้ตะกร้อมือคนผสมให้เข้ากัน
คนแบบเบามือด้วยวิธีการม้วนตะกร้อ จนส่วนผสมเข้ากันดี อย่าคนนาน
การคนผสมนาน ๆ จะทำให้เค้กเหนียว ใช้ตะกร้อมือม้วนตลบสองรอบพอ










เทส่วนผสมใส่พิมพ์ นำเข้าอบไฟที่ 175 องศาเซลเซียส อบประมาณ 30-35 นาที
เช็คสุกด้วยการเอาไม้ปลายแหลมจิ้มไปตรงกลางถาด ถ้าดึงขึ้นมาแล้วไม้แห้ง ๆ
ไม่มีมีเนื้อเค้กติดขึ้นมา แสดงว่าเค้กสุกดีแล้ว พักเค้กในถาดอีกประมาณ 1 ชม.






พักเค้กให้เซทตัว นำออกจากถาดมาพักบนตะแกรงจนเค้กเย็นสนิท
จากนั้นนำเข้าตู้เย็นแช่ต่อเพื่อให้เค้กเซทตัวอีกประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง
เมื่อแน่ใจว่าบราวนี่เซ็ทตัวดีแล้ว ให้ใช้มีดฟันเลื่อยตัดแบ่งเป็นชิ้น ๆ






ตัดเป็นชิ้น ๆ แล้วห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยด์แบบนี้
เก็บใส่ตู้เย็นอีกหนึ่งคืนเพื่อให้เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำขึ้นอีก

บราวนี่ก็เหมือนเค้กเนยอื่น ๆ ทำแล้วทานทันทีไม่ได้อรรถรส
ต้องเก็บอีกสักหนึ่งถึงสองวัน รสชาติจะเด่นชัดเจนขึ้นมาก





จำความได้ สมัยก่อนโน้น ถ้าพูดถึงบราวนี่ ก็ต้องบราวนี่ของมิสเตอร์โดนัท
เป็นบราวนี่ที่จัดว่าแพงและไฮโซมากในยุคสมัยโน้น ชิ้นละ 18 บาท แพงน๊ะ
เมื่อได้ลองทำขนมต่าง ๆ กินเอง ทำให้เราแอบติดสงสัยในเรื่องของราคา
ทำไมเขาขายขนมเค้กกันแพงจัง แพงมาก ทั้งที่ต้นทุนไม่ได้มากมายเลย
แต่ขายกันแบบเอากำไรประมาณ 100-300% กันเลยเชียว

บราวนี่เป็นขนมที่เราชอบทำแต่ไม่ชอบทาน เพราะเราไม่ปลื้มช๊อกโกแลต
แต่ถ้าเป็นช๊อกโกแลตที่เคลือบคลุมไอสกรีมอย่าง"แมกนั่ม" อันนี้ชอบมาก






ตัดเสร็จแล้วก็ต้องลองชิมกันหน่อย บราวนี่ต้องทานกับชาร้อน ๆ
ถ้าทานกับกาแฟจะแรงและเข้มข้นเกินไป ความชอบส่วนตัวนะคะ






เป็นอย่างไรบ้างคะ ขนมบราวนี่ของบ่งบ๊งศรี หน้าตาดูดีไม๊คะ
หน้าตาแบบที่หลายคนโหยหาแต่ยังทำไม่ได้ บราวนี่หน้าแตก
การแตกของส่วนหน้ามีให้เลือกสองแบบ แตกแบบหนาและบาง






ส่วนเซทนี้เป็นบราวนี่หน้ากรอบ ไม่แตกมาก
เป็นบราวนี่ใส่ผงโกโก้ล้วน ๆ และไม่ใส่ช๊อกชิพ






เซทนี้เป็น Fudge Classic Brownies ใส่ครบถ้วย
ใส่ดาร์กช๊อกฯ, ช๊อกชิพ, ผงโกโก้, ผงกาแฟ จัดเต็ม






ผลสรุป ... บ่งบ๊งเองก็ตอบเพื่อน ๆ ไม่ได้ว่าทำไมทุกครั้งที่ทำบราวนี่
ผลที่ได้คือบราวนี่หน้าแตกยับเยินในทุก ๆ ครั้ง และปฏิิกิริยาการแตกในส่วนผิวหน้า
จะเริ่มตั้งแต่ห้านาทีแรกในเตาอบแล้ว และเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง ประมาณแอบมองตลอด

บ่งบ๊งให้ข้อสรุปว่า น่าจะเป็นที่ส่วนผสม ซึ่งหลายคนได้ยืนยันในเรื่องส่วนผสม
คือต้องใส่ช๊อกโกแลตชิพ แล้วจะทำให้หน้าบราวนี่แตก แต่สำหรับบ่งบ๊งขอยืนยัน
ด้วยวิธีการทำมีส่วนอย่างมาก เริ่มตั้งแต่การตีไข่และน้ำตาล จนถึงการใส่แป้ง
เอวัง ... คงต้องติดตามเรื่องราวและผลของขนมเจ้าปัญหาชนิดนี้กันต่อไปคะพี่น้อง









 

Create Date : 20 สิงหาคม 2556    
Last Update : 21 สิงหาคม 2556 9:55:59 น.
Counter : 166058 Pageviews.  

✿ครองแครงกรอบ-สูตรประจำตระกูล[เรา] ☀




หลังจากร้างลากระทู้ไปขณะหนึ่ง ปล่อยการบ้าน 3F ทอดอาลัยอยู่หน้าจอจนตัวเองเห็นแล้วยังเบื่อ
ที่สุดก็ต้องไสหัวอันฟูฟ่องกลับบ้านเกิด กลับมาอัพบล๊อก อัพเดทเรื่องราวของตัวเองกันต่อไป
ช่วงนี้เชฟกระทะหลุดห่าง ๆ หายไปจากบล๊อกแห่งนี้อันเนื่องจากปัจจัยหลายประการคะพี่น้อง

ประการแรก .. นิสัย[เสีย] คือเป็นโรคขี้เบื่อ อยู่ตรงไหนนานเกินจะรู้สึกอึดอัดขัดใจ
หายใจติด ๆ ขัด ๆ รู้สึกไม่โล่ง แม่หมอ[ดู]ได้แนะนำให้ปรับเปลี่ยนที่ทางลมเสียบ้าง
เผื่ออาการ[บ้าบอ]ที่ว่านั้นจะหายไป เอิ๊กกกกก .....

ประการที่สอง ... กำลังหลงระเริง ติดพันเวปไซด์พันทิพโฉมใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
ซึ่งหลายคนกลับไม่ปลื้ม บอกว่า "งง" ไม่ปลื้มรูปแบบ ไม่ปลื้มการเพิ่มลูกเล่นแนวใหม่
ไม่ปลื้มหน้าตารูปลักษณ์ ขนาดตัวหนังสือ สรุป ... คือไม่ปลื้มพันทิพโฉมใหม่นั่นเอ๊งง

แต่สำหรับบ่งบ๊ง ด้วยนิสัยขี้เบื่อ เบื่อง่าย-หน่ายเร็ว กลับโดนใจพันทิพโฉมใหม่เป็นที่สุด
ทำให้ช่วงนี้เกิดอาการลูกติดพัน ไปวิ่งเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ช่องทางนั้นเป็นส่วนใหญ่เจ้าคะ

อย่างไรก็ตาม ... เชฟกระทะหลุดยังคงต้องกลับมาอัพบล๊อกเพื่อเก็บข้อมูลให้ตามหาง่าย
ถือเป็นแหล่งเก็บข้อมูลเรื่องราวไม่ลี้ลับของตัวเองอีกช่องทางที่ยังคงรักและคิดถึงเสมอ

อนึ่ง เกรงว่าผู้คนจะเบื่อการบ้านหน้าจอ เกิดอาการเลี่ยนที่เข้ามาเห็นยำไส้กรอกทุกวัน
วันนี้จึงต้องกลับมาอัพบล๊อก นำเสนอของกินโบราณอันเป็นสูตรประจำตระกูลเราเอง
ของกินที่ว่าจัดว่าเป็นขนมที่หากินง่าย แต่รสชาติจะอร่อยหรือไม่ ขึ้นอยู่ความชอบ







สมัยเป็นเด็กน้อยโดนคุณย่าบังคับให้ปั้น ทำเสร็จนับชิ้นใส่ถุงผูกมัดแล้วส่งตามออเดอร์
สมัยโน้นทำกันเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว นั่งล้อมวงปั้นครองแครง เม้าท์มอยกันไป
เมื่อยจัดก็นอนปั้นซ๊า เง้อออ จริงคะ ก็ยังเด็กนี่น๊ะ ทำอะไรไม่เคยคิดถึงความถูกต้องอ่ะ
ลูกหลานมาช่วยปั้นไม่รู้สึกเหงาและเบื่อ แต่มีเมื่อยแข้งขาเพราะต้องนั่งปั้นกับพื้นนั่นเอง







สมัยนั้นด้วยค่าครองชีพที่ไม่สูงนัก ครองแครงกรอบประจำตระกูลขายแบบนับร้อยชิ้น
คือร้อยชิ้น 18 บาท กร๊ากกก สมัยนี้มีเรอะ 100 ชิ้น 18 บาท แต่ด้วยค่าเงินในสมัยนั้น
ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ ราคามาตรฐานอุตสหกรรม[ในครัวเรือน] สมัยนี้เขาขายแพงเวอร์

ยังมีขนมอีกหลายหลายที่โดนย่าบังคับให้ต้องทำในช่วงปิดเทอม อาทิ ขนมเรไร นำแข็งไส
ขนมทองพลุ เมี่ยงมะม่วง ถั่วทอดแบบต่าง ๆ วุ้นน้ำหวานเฮลซ์บลูบอย อีกหลายอย่าง
ทำเสร็จแล้วก็ไปตั้งร้านขายหน้าบ้าน 555 คนขายล้วนเป็นสาววัยละอ่อนหน้าใสทั้งน๊าน
ขนมที่วางขายส่วนใหญ่จะกินเองเสียมากกว่า สะตุ้งสะตังค์ประมาณทุนหายกำไรหด
ย่าบอกไม่เป็นไร ดีกว่าออกไปวิ่งซุกซนนอกบ้าน 555 เป็นสาวเป็นนางเด้ออีนางเด้อ







มาดูส่วนผสมแป้งครองแครงกรอบ "สูตรประจำตระกูล" ของเรากันคะ
อร่อยหรือไม่คงต้องให้ผู้ที่นำการบ้านมาส่งที่ห้องก้นครัวเป็นผู้ยืนยัน
นับแต่บ่งบ๊งทำออกอากาศไป มีสมาชิกทำมาส่งการบ้านสีคนแล้วนะคะ


ส่วนประกอบ

1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม
2. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
4. ไข่ไก่เบอร์ 2 - 1 ฟอง
5. หัวกะทิ 120 กรัม
6. น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
9. น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง

สูตรประจำตระกูลร่อนน้ำตาลทรายไปพร้อมกับแป้ง
คุณย่าบอกว่า "น้ำตาลทรายเป็นตัวช่วยให้ความกรอบ"

ถ้าท่านคั่วมะพร้าว หรือเจียวกระเทียม เสร็จแล้วเอาน้ำมันออก
เมื่อเย็นตัวใส่น้ำตาลทรายลงไป จะทำให้คงความกรอบนาน


ส่วนผสมน้ำตาลเคลือบ

1. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
2. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
3. รากผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลปีบ 1/4 ถ้วยตวง
5. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ



นำส่วนผสมข้อ 1 + 2 + 3 สามเกลอ
ใส่ครกโขลกให้ละเอียดมากที่สุด แล้วพักไว้







ขั้นตอนการทำแป้ง

ร่อนแป้ง + น้ำตาลทราย + พริกไทยป่น สองรอบ
เสร็จแล้วเกลี่ยแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง
ใส่ไข่ไก่ + น้ำปูนใส + น้ำกะทิ + เกลือ + น้ำมันพืช
นวดให้พอเข้ากัน ไม่ต้องนวดนานเดี๋ยวแป้งจะเหนียว
พักแป้งประมาณ 20 นาที








จากนั้นแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็ก ๆ กลม ๆ ขนาด 1 - 1.5 ซม.
นำแป้งที่ปั้นกดลงบนพิมพ์ ชอบรูปทรงแบบไหน จะแบบขดหอย
หรือแบบแบนยาว ก็ว่ากันไป บ้านเรานิยมรูปทรงแบนยาวแบบนี้คะ
เวลาดึงแป้งจะได้ยินเสียงดึงดังกรึ๊บ แสดงว่าแป้งได้ที่แล้ว







นำแป้งมากดลงบนพิมพ์แล้วรีดแป้งออกไปให้ยาว
ควรใช้น้ำหนักกดแป้ง กันไม่ให้สปริงตัวกลับมา

รูปแบบของเราจะเป็นทรงแบน ๆ ยาว ๆ แบบนี้นะคะ
เราไม่ม้วนแบบขดขอด ทรงนี้ทอดง่ายและกรอบด้วย







โรยแป้งในถาดเล็กน้อยแล้วเกลี่ยแป้งให้ทั่ว กันแป้งติด
หรือซ้อนด้วยแผ่นพลาสติก แล้วนำแป้งที่ปั้นวางซ้อนกัน

555 แต่ตัวเองลืม ดันเอาแป้งวางซ้อนกันแบบไร้แผ่นรอง
ผลปรากฎว่าแป้งติดกัน ต้องนำกลับไปปั้นขึ้นรูปกันใหม่







วิธีการทอด

เปิดไฟเตาระดับปานกลาง ตั้งกระทะใส่น้ำมัน
ของทอดแนะนำให้ใช้น้ำมันรำข้าว จะทำให้กรอบนาน
นำแป้งที่พักไว้ลงทอดให้เหลืองกรอบ หมั่นกลับแป้ง
แล้วนำขึ้นใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำมัน








กรี๊ดดดด ทอดได้สีเหลืองทอง สีสันสวยได้ใจคนทำมาก







วิธีเคลือบน้ำตาล

เทน้ำมันที่ใช้ทอดแป้งออก ให้เหลือประมาณ 1 -2 ช้อนโต๊ะ
ใส่สามเกลอลงผัดให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย
พอน้ำตาลละลายดี ดูว่าเข้มข้นใช้งานได้แล้ว ปิดไฟเตาได้เลย

นำตัวครองแครงที่ทอดไว้ลงคลุกเคล้าเร็ว ๆ ให้น้ำตาลเคลือบจนทั่ว
คลุกจนกว่าจะแห้ง นำครอบแครงที่คลุกน้ำตาลใส่ในถาด
เกลี่ย ๆ ตัวครองแครงให้ทั่วเต็มถาดเพื่อให้เย็นตัว เป็นอันเสร็จ








เวลาเคลือบน้ำตาลต้องคลุกเร็ว ๆ ให้น้ำตาลเคลือบทั่วทุกชิ้น







บ่งบ๊งแอบติดสงสัยเล็กน้อย มีสมาชิกห้องก้นครัวท่านหนึ่ง คนทำขนมไทย
นำวิสูตรและการวิธีการทำครองแครงกรอบมาให้พวกเราได้ชมที่ห้องก้นครัว
เธอบอกสูตรแป้ง และแจ้งว่า แป้งครองแครงกรอบ และแป้งกรอบเค็ม
เป็นชนิดเดียวกัน ส่วนผสมเดียวกัน บ่งบ๊งเก็บมาเล่าสู่กันฟังกับน้องโอศรี
น้องโอศรีเธอว่า แป้งไม่เหมือนกัน สูตรไกรกังวลที่เคยทำ แป้งก็แตกต่างกัน
ถ้าพี่บี๊จะทำแนะนำให้ใช้แป้งคนละชนิด ผลที่ได้จะแตกต่างกันด้วย ..."

สมาชิกท่านั้นยังเรียกครองแครงกรอบรูปลักษณะแป้งแบนยาวแบบที่บ่งบ๊งทำ
ว่า "กรอบเค็ม" เรียกแป้งแบบม้วนก้นหอยว่า "ครองแครง" เกิดอาการ "งง"
ทำให้หลายคนเกิดการสับสน แล้วกรอบเค็มรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนนั่นเล้า
ที่ผู้คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าแป้งรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน คือกรอบเค็ม
แล้วมันเยี่ยงไรกันนี่ ... วานกูรู กรูว์รู้ มาไขความกระจ่างให้หน่อยเถอะ







ครองแครงกรอบสูตรประจำตระกูลเรา จะใส่น้ำตาลปีบล้วน ๆ ไม่ใส่แบะแซ
ผิวแป้งที่เคลือบน้ำตาลจะเป็นมันเงาวาววับอยู่แค่วันสองวัน แต่หลังจากนั้น
ผิวแป้งจะด้าน ๆ แต่ความกรุบกรอบ บ่งบ๊งยืนยันว่า กรอบนานนับสัปดาห์
โดยเก็บใส่กระป๋อง Lock Lock แล้ววางไว้ข้างนอก รสชาติจะเข้มข้นขึ้นคะ
เข้มกว่าวันแรก ๆ ยิ่งนานวันรสชาติยิ่งจัดจ้าน ความกรอบนานนับสัปดาห์







แชะ ...






แชะ ... แชะ ....








แชะ ... แชะ ... แชะ ....







อีกสักแชะ ....







อ๊ะอ๊ะ เรื่องราว "ครองแครงประจำตระกูลพี่หญิงใหญ่" จบแล้วจ้า
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยือน แวะมาให้กำลังใจเสมอ ๆ
เจ้าบ้านอาจห่างหายไปบ้าง อาจแวะเยี่ยมเยือนท่านล้าช้าไปบ้าง
โปรดเข้าใจความเป็น สว.วัยโก๊ะ ที่มัวเชื่องช้าอันด้วยสังขาร เอวัง

ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขกายสบายใจ มีความสุขกับการทำครัว
ได้กินอาหารอร่อย ๆ นอนหลับสนิท ฝันหวานว่าได้กินของอร่อย ๆ

ตื่น ตื่น .... เช้าแระ มัวฝันยืดน้ำลายย้อยอยู่นั่น สายแล้วน๊ะ










 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2560 0:07:27 น.
Counter : 266313 Pageviews.  

✿ Classic Scone - โดนใจ ✿




วันนี้เชฟกระทะหลุดของดควงตะหลิวบิน จะพาน้องพี่เข้าครัว
ช่วยกันนวดแป้งทำ scone เป็นของว่างทานกัน






สูตรอร่อยที่น้อง ๆ หลายคนในก้นครัวฟันธงว่าอร่อยเหาะ แหล่มคะ





ส่วนผสมสโคน (จำนวน 10 ชิ้น)

150 gm. แป้งสาลีอเนกประสงค์
100 gm. แป้งเค้กพัดโบก
13 gm. ผงฟู
20 gm. น้ำตาลทราย
65 gm. เนยเค็ม
1 ฟอง ไข่ไก่ [เบอร์ 1]
75 gm. นมสดจืดเย็น บ่งบ๊งใส่บัตเตอร์มิลค์แทน
[การทำบัตเตอร์มิลค์คือ นมสด ใส่น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 1 ชช.]


หมายเหตุ - สูตรนี้เป็นแบบแป้งกรอบนอกนุ่มใน
ถ้าชอบแป้งร่วนกว่านี้ก็ต้องปรับตรงส่วนแป้งให้เป็นสูตรน้องดรีม
คือ แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม แป้งเค้ก 50 กรัม



ส่วนผสม egg wash

1 ฟอง ไข่แดงของไข่ไก่
1 ชต. นมสดจืด






วิธีทำ

1. วอร์มเตาอบที่ไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเวียส

2. ร่อนแป้ง น้ำตาลป่น ผงฟู เกลือ รวมกัน พักไว้

3. หั่นเนยสดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขยำเนยกับแป้ง โดยถูแป้งกับเนย
แบบเบามือไปทางเดียวกัน จนได้แป้งที่มีลักษณะเป็นเม็ดถั่วเขียว


หรือจะใช้ตัวช่วยเป็น pastry blender แบบนี้ก็สะดวกดีนะคะ






4. ทำหลุมตรงกลางแป้ง ใส่ไข่ที่ผสมกับบัตเตอร์มิ้ลค์ลงไป






แล้วคนผสมด้วยพายยางพอให้เข้ากัน ไม่ต้องนวดนานนะคะ






ถ้าชอบสโคนแบบใส่ผลไม้แห้งจำพวก ลูกเกด หรือผลไม้แห้งอื่น ๆ ก็ใส่ลงไปนะคะ
ส่วนใหญ่บ่งบ๊งจะผสมกันระหว่างลูกเกดดำผสมกับแครนเบอรี่แห้ง หรือบลูเบอรี่แห้ง






รวบแป้งให้เป็นก้อนความหนาประมาณสองนิ้ว






ห่อหุ้งด้วยพลาสติคแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาที






ครบกำหนดเวลาแล้วไปนำแป้งที่พักไว้ออกจากตู้เย็น
ในถาด โรยแป้งนวลแล้วนำแป้งมาคลึงด้วยไม้อีกครั้ง
แล้วใช้ที่ตัดคุ๊กกี้ตัดแป้งให้เป็นทรงกลม ๆ หรือทรงสามเหลี่ยม
ชอบรูปทรงแบบไหนก็จัดไป แต่ทรงนิยมคือทรงกลมแบบนี้คะ






เตรียมไข่แดงและนมสดสำหรับทาหน้าขนม






นำแป้งที่ตัดวางลงในถาดอบ ทาหน้าด้วยไข่แดงของไข่ไก่ที่ผสมนมสด
หรือจะใช้ไข่แดงล้วน ๆ ก็ได้ แบบนี้จะได้หน้าที่สีเข้มกว่าผสมนมสด






แต่งหน้านวลน้อง ผ่องแผ้วนพคุณ






นำเข้าอบไฟบนล่างที่ 180 C อบนานประมาณ 15-20 นาที






แถ่น แทน แท๊นนนน .... เพียงแค่ 15 นาที ก็สุกแล้วคะ






เสิรฟพร้อม Colotted Cheese ส่วนผสมตามนี้



แต่เราชอบทานกับแยมผลไม้ต่าง ๆ แอพพริคอท, สตอเบอรี่
หรือ mamalaide แต่สมาชิกที่บ้านเขาชอบป้ายหน้าตับบด











scone กับชาร้อน ๆ อย่างเอิร์ลเกรย์ ... เด็ดสุดยอด






scone ป้ายแยม ทานกับผลไม้สดก็แหล่ม ...










ผ่าดูเนื้อในกันหน่อย






ส่วนผสมไม่เรื่องมาก ... ทำก็สุดแสนจะง่าย
เหตุไฉนขายกันแพงเวอร์ ชิ้นละ 30-35 บาท
ใหญ่กว่านี้หน่อยก็ 50 บาท .. แพงไปป่ะ??






ไหน ๆ จะ "งก" ทำกินเองแล้ว ทำแยมกินเองด้วยซ๊ะเลย งกได้อีก
แยมสตอเบอรี่โฮมเมด ทำเองกับมือ เน้นเนื้อสตอเบอรี่ล้วน ๆ โดน






แยมสีแดงได้ใจ แยมสีแดง แต่คนทำไม่ใช่พวกเสื้อแดง เอิ๊กกก


















ทุกวันนี้ร้านที่มีสโคนรสเลิศวางขายไม่มีวันได้กินตังค์บ่งบ๊งอีกแล้ว
ณ วันนี้ บ้านเรามีแป้งลูกกลม ๆ เหลี่ยม ๆ เป็นของกินประจำบ้าน
โดยไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายให้กับร้านเบเกอรี่ที่แอบขายแพงเวอร์





ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม มีความสุขในทุก ๆ วันนะคะ







 

Create Date : 21 สิงหาคม 2555    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2560 0:13:23 น.
Counter : 88287 Pageviews.  

❤Rich Almond Cake - ง่าย อร่อย ❤

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ แม่ครัวบี๊ห์งดควงตะหลิว จับกระทะ วันนี้ทำขนมมาให้ชมค่ะ
ที่เลือกเค้กนี้มาฝากเพราะมั่นใจว่าสาวกคนปลื้มถั่วอัลมอนด์ต้องชอบเค้กชนิดนี้
ไปอ่านพบในหนังสือขนม เห็นสูตรไร้แป้ง แยกไข่แดงและไข่ขาว โดนใจสุด ๆ
เค้กไม่ใส่แป้ง ไม่ใส่เนยและน้ำมัน น้ำตาลทรายไม่มาก ต้องจัดค่ะ ต้องจัด

 ขนมไข่ขาวแบบจัดหนักอัลมอนด์ .. มันโดนใจที่สุด





ทำเค้กตอนเย็น ตอนเช้ามาตัดชิม รสชาติประมาณขนมฝรั่งกุฏีจีน
หอมอัลม่อน กัดไปตรงไหนเจอแต่ถั่วอัลม่อน ก็จัดหนักซ๊ะขนาด





ที่น่าสนใจและโดนคือเค้กสูตรนี้ไม่มีแป้ง ไม่มีเนย และน้ำมันพืช
อ่ะ ไม่มีเนยไม่มีไขมันยังพอลุ้น แต่ไร้แป้งนี่จิหน้าตาและรสชาติจะไปทางไหน
จะเรียกเค้กได้เยี่ยงไร ตามที่ผู้คนเข้าใจเค้กมักจะมีส่วนผสมของแป้ง-ครีมชีส
แบบนี้น่าจะเรียกขนมไข่เพราะมีแค่ไข่และถั่วอัลม่อนที่จัดหนัก

ส่วนผสมไม่ยุ่งยากมากเรื่อง ทำง่ายมาก ใช้เวลาไม่นานด้วยคะพี่น้อง
ฝรั่งเรียกเค้กชนิดนี้ “Easy one bowl cake” เราไปดูสูตรและลองทำกัน

เค้กถั่วสูตรนี้ไม่หวานมากเพราะส่วนใหญ่จะรับประทานร่วมกับซอสต่าง ๆ
ทอฟฟี่ซอส คาราเมลซอส ทานกับน้ำผึ้ง ไอซิ่งเกลซ หรือไอสกรีมต่าง ๆ

Rich Almond Cake
ไข่ไก่เบอร์ 0 - 4 ฟอง แยกไข่แดงและไข่ขาว
น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
อัลมอนด์ป่น 1+1/2 ถ้วยตวง
กลิ่นอัลมอนด์ 2 หยด
วานิลา 1 ช้อนชา หรือ วานิลาฝัก









สิ่งที่ต้องเตรียม
เตรียมพิมพ์อบขนาด 9 นิ้ว ทาเนยโรยแป้ง
หรือทาเนยปูกระดาษไข หรือ ทำใส่พิมพ์คัพเค้ก
อุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส

วิธีทำเค้ก
เริ่มจากตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ ให้ขึ้นฟู





ตีแรง ๆ ผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย
จะตีด้วยตะกร้อมือ หรือ ตีด้วยเครื่อง เลือกเอาตามสะดวก





ตามสูตรไม่มีกลิ่นวานิลา ฉันขอใส่เพิ่มเพื่อกลบกลิ่นคาวของไข่ขาว








ระหว่างอุ่นเตาอบ เรานำอัลมอนด์ป่นไปอบก่อนเพื่อเพิ่มความหอม
ทยอยใส่อัลมอนด์ป่นลงไป จะใช้ตะกร้อมือ หรือพายยางผสมก็ตามใจ




พักส่วนไข่แดงไว้ก่อน แล้วมาตีไข่ขาวให้ตั้งยอดอ่อน ๆ
เอาไข่ขาวใส่โถตี ใส่ครีม-ออฟ-ทาทาร์ไปสัก 1/4 ช้อนชา
เมื่อได้ไข่ขาวยอดอ่อน ๆ แล้ว ค่อย ๆ ตักใส่ในส่วนผสมไข่แดง




ผสมแบบเบามือ อย่าลืมปาดก้นอ่างขึ้นมาด้วย
ด้วยความหนึดของไข่แดงกับถั่วอัลม่อน คนยากนิดนึง

พอดีมีส้มซัสคิส อยากให้เค้กมีกลิ่นหอมของผิวส้ม ใส่ผิวส้มไปด้วย
ใส่ผิวส้มเข้าไปด้วย ตรงนี้นอกสูตร ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ไปนะคะ




ได้แบทเธอร์ประมาณนี้ เค้กที่ผสมไข่ขาวค่อนข้างจะผสมยาก




เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์ นำเข้าอบที่อุณฯ 180 C ไฟบน-ล่าง
อบนานประมาณ 30-35 นาที สำหรับพิมพ์ปอนด์
พิพม์คัพเค้กอบประมาณ 25 นาที ขนมสุกพอดี













ทำใส่พิมพ์ปอนด์ ขนาดสองปอนด์ สูตรนี้จึงได้ขนมไม่สูงมาก




เค้กจำพวกแยกไข่แดงและไข่ขาว อบแล้วจะยุบตัวเล็กน้อย
จะไม่สูงมากเพราะไม่มีผงฟู แต่ได้ไข่ขาวช่วยพยุงตัวเค้ก
และได้น้ำมันจากถั่วอัลมอนด์บดละเอียดในปริมาณแทนแป้ง




ตามสูตรเสริฟพร้อมหน้าคาราเมล ฉันจึงให้สูตรซอสคาราเมลด้วย

Toffee Sauce / Caramel Sauce
ส่วนผสม
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
วิปปิ้งครีม 2 ถ้วย

วิธีทำ
ใส่น้ำตาลในหม้อ ตั้งไฟอ่อนจนน้ำตาลละลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน
ระหว่างนี้ห้ามคน และต้องระวังอย่าให้ไหม้เพราะจะขม
เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้วยกลงจากเตา ค่อย ๆ เทวิปปิ้งครีมลงไป
แล้วใช้ตระกร้อมือคนตลอดเวลา ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ อีกครั้ง
ระหว่างตั้งไฟต้องคนจนส่วนผสมเข้ากันและข้น





ฉันไม่อยากทานวิปปิ้งครีม จึงทำเกรซน้ำตาลไอซิ่งราดหน้าแทนคาราเมล








โปรดสังเกตุเนื้อเค้ก อัลมอนด์บดแทรกไปทุกอนูของเนื้อเค้ก
กัดตรงไหน เคี้ยวแล้วเจออัลม่อนเต็มทั่วไปหมด โดนมาก ๆ





รสชาติเหมือนกินขนมฝรั่งกุฎีจี กลิ่นและรสประมาณนั้น




อัลมอนด์เค้ก ทำไม่อยาก ไม่เรื่องมาก ส่วนผสมก็ง่าย ไม่เยอะ
เพื่อน ๆ ลองทำดูนะคะ แม่ครัวบี๊ห์เอาหัวเป็นประกันว่า อร่อย ชัวร์




Umhhm ... Delicious



 




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 5 เมษายน 2562 16:41:59 น.
Counter : 33407 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

บ่งบ๊ง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1911 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่บ้านแห่งความสุขค่ะ วันทั้งวันหมกมุ่นแต่เรื่องทำกิน ทั้งวี่ทั้งวันวุ่นวายแต่เรื่องในครัว เรื่องสังสรรค์เฮฮาพอมีประปราย

ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะมาเยือน นำพามาซึ่งความสุขและสิ่งดีงามมีสาระ มาร่วมแชร์ความคิดเห็น นำเสนอเรื่องราวการทำอาหารและขนม รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ แบบไม่ปิดบังซ่อนเล้น มีความสุขกับการเข้าครัวในทุกวัน ซึ่งถือเป็นการคลายเครียดอีกทั้งจรรโลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่และงดงามตราบนานเท่านาน ....



เมี่ยงคำกลีบบัว

หมี่กรอบโบราณ

น้ำจิ้มเมี่ยงคำ

เมี่ยงมะม่วง

ยำส้มโอ

ข้าวตังหน้าตั้ง

กระทงทอง

มัสมั่นไก่และเนื้อ

เนื้ออบสูตรประจำตระกูล

ปีกไก่ทอดซีอิ้ว

กล้วยเชื่อมแดง

ไก่อบเกือบจะ S&P

Filipino Chicken Adobo

ซอสเย็นตาโฟในตำนาน

น้ำจิ้มสุกี้ชาบูเลอเลิศ

น้ำพริกสะระแหน่-น้ำจิ้มลุยสวน

น้ำจิ้มชนิดต่างๆ

ซอสเทอริยากิ

ไข่ตุ๋นเนื้อเนียน

Mango Cheese Cake

Strawberry Cheese Cake

Cheese Pie

New York Cheese Cake

เค้กมะตูมสูตรอร่อย

เค้กอินทผลัม Dates Cake

ปลาทูต้มเค็ม

ไข่พะโล้-ต้มเค็มพะโล้-ก๋วยจั๊บ

ข้าวหน้าไก่สูตรเด็ด

บะหมี่หน้าไก่

อุ๊กไก่-ไก่พม่า

ซุปไก่มุสลิม

ผักดอง-Veggies Chutney

ครองแครงกรอบสูตรประจำตระกูล

กุ้งหวานบ้านฉัน

เค้กกล้วยน้ำว้า

หลนกุ้ง

กะปิคั่ว-กะปิหลน

Friends' blogs
[Add บ่งบ๊ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.