เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 57
ตอนอยู่กับผม จอมก็ดูปกติดี แล้วจอมก็ดูดีขึ้นมากแล้วด้วย เขาไม่ผวาแล้ว เวลาเห็นเข็มฉีดยาที่ผมวางไว้ทั่วไปหมด จอมไม่ร้องไห้แล้ว ตอนที่จับเข็มฉีดยาที่อยู่ในมือผม วันนี้เป็นวันที่หมอนัด แต่เมื่อคืนเขาก็อารมณ์ดี แล้วก็...หวานไปทั้งตัว แค่หวนไปคิดถึง ความรู้สึกก็มาอีกแล้ว ผมบีบมือจอมแน่นขึ้น ตอนเราเดินจับมือกันไปที่ห้องหมอ จอมยังยิ้มแย้มคุยกับผมดี แต่พอเข้าไปในห้องหมอ ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นคนละเรื่อง ผมไปนั่งมุมเดิม ดูจอมกับหมอคุยกัน มือจอมสั่น แต่เขาก็รับเข็มฉีดยาจากมือหมอมาถือเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่ได้นาน จอมค้างนิ่งอยู่ท่านั้น จนหมอหยิบเข็มฉีดยาออกไปจากมือเขา จอมถึงได้ขยับตัวให้นั่งสบายขึ้น หมอวางเข้มฉีดยาไว้บนโต๊ะ จอมก็วางมือไว้บนโต๊ะ หมอถามเขาว่า จำได้มั้ย ครั้งแรกที่รู้สึกกลัวเข็มฉีดยามากๆ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น จอมเล่าเรื่องตอนเด็กที่เคยเล่าให้ผมฟัง ให้หมอรู้ ผมว่าจอมดูโอเคมากกว่าตอนที่เล่าให้ผมฟังเยอะมาก ตอนนั้นจอมเล่าไปร้องไห้ไป น้ำตาไหลพรากๆ จนผมสงสาร แต่วันนี้ เขาเล่าเรื่อยๆ มีแค่อาการเกร็งนิดหน่อยเท่านั้น จอมพูดเองว่า เขาไม่แน่ใจว่า เพราะกลัวมากก็เลยเกิดเรื่อง หรือเพราะมันเกิดเรื่อง เขาเลยฝังใจกลัว ซึ่งหมอก็ตอบเขาตอนนี้ไม่ได้ หมอบอกว่าถ้าอยากรู้ อาจต้องสะกดจิตช่วย แต่หมอก็บอกว่า ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ เพราะจอมดีขึ้นจากครั้งแรกที่เจอกันมากแล้ว หมอยังบอกด้วยว่า ผมเป็นผู้ช่วยที่ดี และผมต้องช่วยเขาต่อไป โจทย์ใหม่คือ ให้จอมจับเข็มฉีดยาเปล่าๆ ที่ไม่มีซองหุ้ม แล้วนัดอีก 2 เดือน ค่อยมาเจอกัน ผมหันไปมองจอม ตอนนี้ ถ้าไม่ได้อยู่ในมือผม จอมก็ยังถือมันไว้นานๆไ ม่ได้เลย แค่ 2 เดือน กับโจทย์ใหม่ที่ยากกว่าเดิม จอมจะไหวมั้ย ที่แน่ๆ คือ ตอนนี้เขาไม่ไหว จอมได้ยินที่หมอพูด ผมนึกไม่ออกเลยว่า ในหัวจอมมีอะไร ผมรู้แต่ว่า อะไรในนั้น มันต้องไม่ดี จอมถึงได้หลับตา เกร็งแขน กำมือตัวเองแน่น ผมต้องเรียกให้เขาลืมตา ดึงสติมาอยู่กับผม หมอพยายามปลอบใจจอมว่า ไม่ได้เร่งรัด เอาเท่าที่ได้ ผมรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไรจอมเท่าไหร่ มาเจอหมอคราวหน้า จอมก็คงจะเครียดอีกเหมือนเดิม แต่ก็ช่างเถอะ อีก 2 เดือน ผมยังมีเวลาคิดว่าจะหาอะไรมาปลอบใจเขา วันนี้ พาไปที่ที่ผมคิดไว้ก่อน ผมเลือกอยู่นาน แล้วก็ตกลงใจพาจอมมางานนี้ งานโชว์ของทุกอย่างที่เกี่ยวกับบ้าน ผมบอกจอมว่า ผมยังไม่รู้เลยว่าเขาชอบบ้านแบบไหน ก็เลยพามาดูด้วยกัน ผมชวนไปดูแบบบ้านของบริษัทรับสร้างบ้าน แต่จอมบอกให้ไปดูอย่างอื่น เขาไม่อยากได้บ้านใหม่ บ้านผมก็ดีอยู่แล้ว ผมถามจอมว่า ดียังไง ผมคิดว่าจะได้คำตอบประมาณว่า บ้านสวย กว้างใหญ่ ตกแต่งไว้ดีแล้ว แต่ที่ผมได้ยินคือ จอมชอบบ้านที่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ถ้ามีลูก ก็อยากให้ลูกได้อยู่ใกล้ปู่ย่าตายาย อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ คอยดูแลกัน น่าจะอบอุ่นดี บ้าน ของจอม ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง แต่คือ ครอบครัว ผมไม่รู้จะขอบคุณอะไรดี ที่ทำให้ผมได้เจอคนที่ใจตรงกับผมขนาดนี้ ถ้าจอมอยากแยกบ้าน ผมก็ตามใจจอมอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เต็มใจอยากให้ป๊าม๊าอยู่กันตามลำพัง ภาพความเป็นครอบครัวของผมกับจอม มันชัดมากขึ้นทุกที ชัดจนผมอยากเห็นมันเกิดขึ้นจริง ผมชวนจอมเดินดูอะไรไปเรื่อย บอกจอมว่า ถ้าจะมีคนมาอยู่เพิ่ม ผมก็อยากแต่งห้องใหม่ จอมยิ้ม แววตาดูมีความสุข เขาคงลืมเข็มฉีดยา ลืมการบ้านของหมอไปแล้ว ผมบอกจอมว่า ตรง walk-in closet น่าจะรื้อทำใหม่ แต่จอมบอกว่า เสื้อผ้าเขามีนิดเดียว ผมแค่เลือกเสื้อผ้าที่ผมไม่ใส่แล้ว ออกไปบริจาค ก็จัดพื้นที่ให้เขาได้แล้ว ผมเจอเก้าอี้นอนที่ดูน่าสบายมากๆ ผมชี้ให้จอมดู พูดกับเขาว่า เอาไว้ให้คุณนอนอ่านหนังสือตอนกลางวัน เปลี่ยนโซฟาเก่าออก แล้วก็ทำไฟตรงนั้นใหม่ จอมก็บอกว่า ทำไฟใหม่ก็ดี จะได้ประหยัดไฟขึ้น โซฟาเดิมก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก เราเดินไปเจอห้องน้ำตัวอย่างที่ตกแต่งด้วยอ่างล้างหน้าสวยๆ วางคู่กัน 2 อัน ผมพูดกับจอมว่า สวยดีนะ ใช้พร้อมกัน 2 คนได้เลย ไม่ต้องคอย จอมดูแล้วก็ส่ายหน้า บอกว่า อย่าเลย ใส่ซิงค์เพิ่ม ก็น้องรื้อฝา ทำท่อระบายน้ำเพิ่ม เสียเงินเปล่าๆ ผมมองจอม แล้วก็นึกในใจว่า อีกหน่อยผมคงรวยกว่าเดิม เพราะแม่บ้านของผม น่าจะเก็บเงินเก่ง ผมถามจอมว่า ที่พูดนี่คือ บ้านผมใช่มั้ย จอมก็พยักหน้า ผมถามอีกว่า ห้องผมนะ ใช่มั้ย จอมก็พยักหน้าอีก ผมเลยถามขำๆ ว่า แล้วที่คุณไม่เอาสักอย่างนี่ ผมต้องตามใจคุณมั้ย จอมเดินเข้ามาพูดใกล้ๆ ผมว่า ถ้าคุณจะอยู่ห้องนั้นคนเดียว ไม่ต้องตามใจผมก็ได้ แล้วก็เดินจากไป แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากเดินตามที่รักของผมไป ผมกะจะชวนจอมไปดูชุดเครื่องนอน แต่เราเจอร้านขายที่นอนก่อน ก็เลยแวะดู ผมเคยเห็นโฆษณาที่นอนแบบนี้มาแล้ว แต่เพิ่งได้มาเห็นของจริง เขาให้ทดลองนอนได้ด้วยว่า พลิกตัวแล้ว คนนอนข้างๆ จะไม่รู้สึกถึงแรงยวบ ว่าจริงหรือเปล่า ผมชอบตั้งแต่เห็นโฆษณาแล้ว รู้สึกว่า มันน่าจะดี ผมพลิกไปพลิกมายังไง จอมก็ไม่ต้องตื่นไปด้วย แต่จอมไม่ยอมลอง แล้วก็ไม่ชอบด้วย จอมบอกว่า เขารู้ว่า ถ้าผมพลิกไปมาหลายรอบ มันต้องมีอะไรไม่ปกติสักอย่าง จะให้เขานอนสบายไม่รับรู้อยู่ได้ยังไง และถ้าผมไม่ชอบที่เขาพลิกไปพลิกมา แล้วผมจะพลอยไม่ได้นอนไปด้วย ก็ให้ผมนอนคนเดียว ไม่ต้องให้เขานอนด้วย ผมฟังแล้วก็ขำตัวเอง เขินคนขายด้วย เขาอุตส่าห์อธิบายสรรพคุณมาอย่างดี เจอเหตุผลของจอมเข้าไป ผมก็ต้องตามใจคนนอนด้วย ชวนจอมออกจากบูธนั้น ไปหาซื้อผ้าห่ม แล้วก็กลับออกไปหาของกิน ตามใจให้จอมเลือกเองทีไร จอมก็พาผมไปเจออะไรที่ผมไม่ค่อยได้เจอทุกที วันนี้จอมพาผมไปร้านผัดไทย ร้านอยู่ในตึกแถวริมถนน ไม่มีแอร์ ไม่มีเพลงคลาสสิค มีแต่พัดลมที่พัดสู้ไอร้อนจากเตาถ่านหน้าร้านไม่ไหว และเสียงสั่งงาน สั่งอาหาร สลับกับเสียงเคาะกระทะ เหมือนจอมอยากให้ผมเห็น ว่าชีวิตเขาก็เป็นประมาณนี้ ร้านหรูๆ บรรยากาศสบายๆ ที่ผมชิน ไม่ใช่วิถีปกติของจอม สั่งผัดไทยเสร็จแล้ว จอมค่อยเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนมากินบ่อย เพราะมาฝึกงานแถวนี้ เขาชอบมาร้านนี้ นอกจากรสชาติอาหาร ก็เป็นเพราะคนผัด ที่สู้กับความร้อนจากเตาไฟอยู่ได้เป็นนานสองนาน เพื่อความอร่อยของคนกิน ผมก็เห็นด้วยกับที่จอมบอก คนผัดเบาพัดลมที่เป่าไฟในเตาถ่าน เฉพาะตอนที่เอาผัดไทยจากกระทะลงจานเสิร์ฟ พอวางกระทะกลับลงไปบนเตา ใส่น้ำมัน แล้วก็พวกเครื่องลงไป เขาก็ปรับพัดลมให้แรงขึ้นเพื่อเร่งไฟในเตาแล้วก็ผัดต่อ ท่าทางมุ่งมั่น อย่างกับเป็นอัศวินที่กำลังต่อสู้กับมังกรไฟ จอมก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือนานจนผมผิดสังเกต ปกติจอมอยู่กับผม เขาหยิบมือถือมาดูอะไรนิดหน่อย แล้วก็เก็บ จะได้คุยกับผม แต่วันนี้ไม่ใช่ จนผมต้องถามว่า คุยกับใคร พี่คิม จอมตอบผม แต่ยังไม่เงยหน้าจากมือถือ ผมเริ่มรู้สึกไม่โอเค ก็เลยบอกจอมว่า เขากำลังคุยกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าแฟนตัวเองอยู่นะ ผมว่าจอมรู้ว่าผมหงุดหงิด แต่ก็ยังพูดกับผมเฉยๆ ว่า ไม่ให้คุยต่อหน้า จะให้ไปคุยลับหลังหรือไง แล้วยื่นมือถือให้ผม ผมแอบเจ็บเบาๆ เหมือนโดนต่อยเข้าเต็มหน้า ถูกของจอม ถ้าไปคุยลับหลัง ยิ่งน่ากลัวกว่าเป็นไหนๆ จอมนัดเจอกับพี่คิม จะไปร้านขนมด้วยกัน จอมบอกว่า พี่คิมแนะนำร้านนี้ให้ แต่ร้านมันอยู่ลึกลับ แล้วก็ไม่มีอยู่ในแผนที่ พี่คิมก็เลยจะพาไป ผมรู้สึกตงิดๆ ยังไม่รู้ ผมถามจอมตรงๆ ว่า คุณสนิทกับขาขนาดไหน ถึงไปไว้ใจเขาขนาดนั้น จอมตอบเรื่อยๆ ว่า เขาทำงานชมรมเดียวกับพี่คิม 2 ปี รู้จักกันดี พี่คิมไม่หลอกเขาหรอก จอมน่าจะอยากให้ผมสบายใจว่า เขาจะปลอดภัย แต่ผมกลับรู้สึกอีกอย่าง ทำกิจกรรมด้วยกันมา 2 ปี รู้จักกันดีแปลว่า ต้องสนิทกัน ผมรู้จักจอมยังไม่ถึงปีเลย คนที่ทักกันว่า คิดถึง หลังจากไม่เจอกันหลายปี ต้องสนิทกันขนาดไหน ผมชักจะหงุดหงิดไม่มีเหตุผลอีกแล้ว ในร้านนี้ร้อน ผมไม่อยากให้จอมไปกับพี่คิมสองต่อสอง อยากให้จอมเลิกทำงาน อยากให้อยู่กับผม ไม่ต้องไปเจอใคร ผัดไทยมาเสิร์ฟแล้ว ยังดีที่หน้าตากับกลิ่นมันโอเคดี ผมกำลังจะตักกิน จอมก็ถามว่า บีบมะนาวมั้ย ผมส่งสายตาถามจอมว่า บีบทำไม แล้วบอกจอมว่า ผมไม่เคยปรุง จอมบอกผมว่า งั้นอย่าเพิ่งกิน แล้วก็บีบมะนาว ตักโน่นตักนี่จากพวงเครื่องปรุงใส่จานตัวเอง ผมเท้าคางมองว่า จอมให้ผมรออะไร พอเขาคลุกเคล้าผัดไทยในจานเขาเสร็จ เขาก็ยกจานนั้นให้ผม บอกให้ผมลองชิม ผมยังไม่ได้กิน ก็รู้สึกแล้วว่า มันต้องหวานแน่ๆ จอมทำให้ผมคิดถึงตอนม๊าสอนให้ผมกินก๋วยเตี๋ยวใส่พริก ผมไม่อยากกิน ม๊าก็จัดการคลุกให้ผมแบบนี้ แล้วก็บอกให้เชื่อใจม๊า ว่าม๊ารักผม ม๊าจะมีแต่สิ่งดีๆ ให้ผม มันเป็นรสชาติที่ผมไม่เคยกิน แต่มันก็อร่อยจับใจ ผมกินจนเกลี้ยงจาน อากาศดูจะร้อนน้อยลง จอมยิ้มหวาน ตาเป็นประกายอยู่ตรงหน้าผม ที่ที่มีจอม ที่ไหนผมก็มีความสุขได้ ผมรักจอมจัง จอมไปกับพี่คิมแล้วก็หายไปเลยทั้งวัน ไม่โทรหาผมเลย แล้ววันนี้ก็มีแต่เรื่องวุ่นวาย แม่บ้านใหม่เพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรก ตรงไหนบอกก็ทำเรียบร้อยดี แต่ตรงไหนไม่บอก ก็เดินผ่านไปผ่านมา ไม่เก็บไม่ทำ จนผมต้องถามว่าทำไมปล่อยไว้ ตึกฝั่งตรงข้ามมีคนมาเช่าใหม่ ผมไม่รู้ว่าเขาจะรีโนเวทไปทำอะไร แค่เห็นว่ามีช่างมาทำงานหลายวันแล้ว แรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ดูเหมือนช่างจะทำอะไรผิด แล้วต้องทุบทิ้ง แต่ไม่รู้ทำงานกันยังไง เศษปูนถึงได้กระเด็นข้ามมาโดนรถที่จอดอยู่หน้าคลินิก แล้วโดนรถใครไม่โดน ดันไปโดนรถคนที่เก็บลูกนกมาให้เราช่วยเลี้ยง แต่ผมปฏิเสธ เพราะลูกนกอ่อนขนาดนี้ ต้องป้อนอาหารวันละหลายมื้อ ซึ่งผมไม่มีคนว่างจะไปทำขนาดนั้น แล้วอีกอย่าง ผมก็คิดว่า ถ้าเขาตัดสินใจช่วย เขาก็ควรช่วยให้ตลอด ไม่ใช่เอาภาระมาส่งต่อให้คนอื่น ผู้ชายคนนั้นเลยโมโหหนักเป็น 2 เท่า ด่าผมว่า ใจโหด ไร้มนุษยธรรม เป็นหมอรักษาสัตว์ได้ยังไง ใจดำปล่อยให้สัตว์ตายต่อหน้าต่อตาได้ เขาเสียงดังจนคนมามุงกันเต็ม ผมจะตวาดกลับแล้ว ถ้าว่านไม่ดึงตัวผมไว้ก่อน ว่านบอกให้ผมเข้าไปสงบสติอารมณ์ข้างใน ทางนี้เขาจัดการเอง ผมก็เลยเดินกลับเข้าไปดูห้องพักฟื้นสัตว์ป่วย นี่ก็อีกเรื่อง แมวตัวผอมบักโกรก นอนหลับนิ่งอยู่ในกรง น้ำเกลือหมดไปเกินครึ่งขวดแล้ว ตั้งแต่เจ้าของเอามาส่งเมื่อ 2 วันก่อน ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมมาดูเลย ส่วนเจ้าแมวตา 2 สี ที่กำลังนั่งจ้องผมอยู่ในกรงข้างๆ ควรจะได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ไม่มีใครมารับ ติดต่อเจ้าของก็ไม่ได้ ถ้าพรุ่งนี้ยังติดต่อเจ้าของไม่ได้ เจ้านี่จะถูกย้ายไปไว้ห้องข้างบน และอีก 7 วัน ถ้ายังไม่มีใครมารับ ผมจะลงประกาศหาคนมารับเลี้ยงต่อ ผมไม่เคยใจจืดใจดำกับสัตว์พวกนี้ ผมไม่รู้ว่าเจ้าของเขามีปัญหาอะไร หรือเขาอาจจะตั้งใจเอามาทิ้งจริงๆ มันมาอยู่ในมือผมแล้ว ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบ แต่ผมไม่ใช่เจ้าโลก ผมเแค่ป็นสัตวแพทย์ ผมเลยจะต้องรับผิดชอบชีวิตสัตว์ทุกตัวหรือไง เขาเรียกร้องจากผมมากไปหรือเปล่า ว่านกลับมาบอกผมว่า มีคนอาสาเอาลูกนกไปเลี้ยงให้แล้ว ก็พวกที่มามุงๆ นั่นแหละ ส่วนเรื่องรถ ว่านมีคูปองล้างรถฟรี ก็เลยให้เขาไป ผมถามว่านว่า ไปให้เขาทำไม เศษปูนไม่ได้มาจากเรา ว่านตอบผมง่ายๆ ว่า ซื้อความสงบ ไม่งั้นก็เอาแต่ร้อง ซวย ซวย อยู่หน้าร้าน ผมยังทำหน้านิ่ง ว่านพูดต่อว่า ช่างแม่งเหอะ เขาคงไม่ได้เรียนมาเหมือนเรา ก็เลยปลงไม่เป็น ว่านมองเจ้าตาแป๋วในกรง ถามผมว่า จะเอาไง ผมส่ายหัว เดินออกไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ว่าติดต่อเจ้าของได้หรือยัง พนักงานตอบว่า เขาเพิ่งโทร.กลับมา บอกว่า ไม่ต้องโทร.ไปรบกวนเขาอีก แฟนเขาเป็นคนอยากได้ และตอนนี้ไม่อยากเลี้ยงแล้ว จะเอาไปทำอะไรก็เอาไปเลย ส่วนค่ารักษา ให้ไปทวงกับแฟนเขาเอง เขาไม่รับผิดชอบ ผมพยักหน้ารับ ไม่พูดอะไร เพราะไม่อยากเผลอไปใส่อารมณ์กับพนักงาน ว่านตามผมมาที่ห้อง มาฟังผมบ่นว่า เชี่ยฉิบหาย เก็บเงินล่วงหน้า ก็ว่ากูหน้าเลือด เก็บทีหลัง แม่งหนีไปเฉยๆ ว่านหัวเราะ ถามว่า มึงก็ตั้งงบกันไว้แล้ว จะบ่นทำไมวะ ผมเลื่อนหน้าจอมือถือ ไม่มีแจ้งเตือน แปลว่าจอมไม่ได้โทร.มา ผมตอบว่านว่า ก็กูเซ็ง จะทิ้ง จะไม่เอา ก็บอกตรงๆ แต่แรกมั้ย กูจะได้จัดการถูก ไม่ต้องจิกต้องตามให้เสียอารมณ์ ว่านตบไหล่ผม พูดกับผมว่า มึงก็ชินได้แล้ว นี่ไม่ใช่เคสแรก แล้วก็ไม่ใช่เคสสุดท้ายด้วย ผมนึกถึงตอนเรียน ที่อาจารย์พาเราไปวัด ไปเจอพระอาจารย์ ที่สอนให้เราตระหนักถึงเรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย อันเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต พระอาจารย์พาเราไปดูรูปปั้น งูที่กำลังกินนก พระอาจารย์ถามเรา คนส่วนใหญ่ตอบว่า ช่วยนก ที่เหลือก็ลังเล ไม่มีใครตอบว่า ปล่อยให้งูกินนก พระอาจารย์ถามต่อว่า งูมีบ้านได้มั้ย มีครอบครัว มีลูกได้มั้ย ทุกคนตอบว่าได้ พระอาจารย์ถามต่อว่า ถ้างูไม่ได้กินนก แล้วอดตาย ครอบครัวเขาจะเดือดร้อนมั้ย คราวนี้ทุกคนเงียบ แล้วพระอาจารย์ก็สอนเราว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทุกชีวิตมีกรรมเป็นของตัวเองทั้งนั้น บางครั้ง เราก็ต้องมีอุเบกขา รับรู้แล้วต้องรู้จักวาง ตอนนั้นผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก นึกเถียงในใจด้วยซ้ำว่า ผมเลือกมาเรียนสาขานี้ เพราะผมอยากช่วยสัตว์ทุกตัวให้รอด จะให้รับรู้เฉยๆ ได้ยังไง จนผมได้เรียนเยอะขึ้น เริ่มเจอสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว มากขึ้นเรื่อยๆ ผมถึงได้เข้าใจที่พระอาจารย์สอน วันนี้ผมไม่ได้รู้สึกผิดที่ปฏิเสธผู้ชายคนนั้น แต่จะให้ไม่โกรธคนที่ด่าผมแบบไร้สาระนี่ ผมคงต้องฝึกจิตอีกนาน ผมมีทั้งเรื่องที่อยากฟังและอยากเล่า แต่จอมไม่สนใจผมเลย เขาบอกว่า ได้ข้อมูลมาแล้ว อยากรีบทำให้เสร็จ จะได้เอาไปเสนอลูกค้า ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เช็กเมล์เสร็จแล้ว จอมก็ยังจดจ่ออยู่กับคอมพ์ ผมน้อยใจจนอดบ่นไม่ได้ว่า ทำไมไม่บอกแต่แรก ผมจะได้กลับบ้าน ไม่ต้องมา ผมแค่อยากบ่น แล้วก็จะไปนอนแล้ว แต่จอมหันมาหาผม ดูนาฬิกา แล้วพูดว่า ผมคุยกับคุณก่อนก็ได้ 20 นาทีนะ แล้วมานั่งข้างผม ตอบผมเรื่องที่ไปร้านขนม จอมรู้ว่าผมหวง เขาตอบตรงประเด็นว่า ทีหลังไปเองได้แล้ว ไม่ต้องไปกับพี่คิม จอมให้ผมดูรูปที่เขาไปถ่ายมาวันนี้ นอกจากรูปขนม ก็มีรูปช่องลมทำจากไม้แกะสลัก ประตูไม้ที่เป็นบานพับแบบโบราณ จอมบอกว่า แถวนั้นมีบ้านเก่าแบบนี้อีกหลายหลัง แล้วก็ชวนผมหาวันว่างไปถ่ายรูป ผมดูรูปพวกนั้นด้วยความชอบใจ ชอบทั้งตัวบ้านที่เจ้าของยังรักษาสภาพเดิมไว้ได้อย่างดี ชอบทั้งที่จอมใส่ใจเก็บมาฝาก จอมถามผมว่าที่คลินิกเป็นไง ผมรีบเล่าทุกเรื่องที่ผมอัดอั้นมาทั้งวัน จอมตั้งใจฟังผม พยักหน้าตาม บางจังหวะจอมก็ยิ้ม พอผมเล่าจบ จอมก็จูบผม จูบหน้าผาก จูบแก้ม จูบปาก แล้วถามผมว่า เป็นไง ดีขึ้นมั้ย ผมจับตัวจอมไว้ แล้วจูบตอบเขา มันดียิ่งกว่าดีอีก จอมรู้ว่าผมเครียด ผมไม่ชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ผมอยากได้กำลังใจ อยากให้คนเอาใจ แล้วจอมก็ให้ผมทุกอย่าง น่ารักขนาดนี้ ผมจะไปรักใครได้อีก จอมเอาฟ้าน้อยให้ผมกอด บอกให้ผมนอนเลย เขาจะไปทำงานต่อ ผมนอนมองจอมตั้งอกตั้งใจทำงาน ผมเคยแต่เป็นฝ่ายทำงาน ปล่อยให้จอมรอ จอมไม่เคยบ่น ไม่เคยงอแง ผมชินกับการที่เวลาของจอม เป็นเวลาของผม ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่า ผมทำไม่ดีเลย ผมควรจะให้เวลาของผม เป็นของจอมด้วย ผมปล่อยให้จอมทำงานตามสบาย ไม่เซ้าซี้เขาอีก คืนนั้น ผมฝันว่า ผมนั่งอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวซีดๆ แล้วก็มีลมอุ่นๆ วูบหนึ่ง พัดผ่านแก้มผมไป แล้วดอกไม้ทุกสีก็พากันบานสะพรั่งรอบตัวผม สดใสเหมือนรอยยิ้มของจอมที่ผมลืมตาตื่นมาเจอตอนเช้าเลย งานที่จอมเตรียมไปเสนอ ถูกใจลูกค้ามากจนเขานัดให้เข้าไปเจอ แล้วก็ตกลงวางมัดจำกันวันนั้น แล้วยังแนะนำจอมให้กับอีกคน วันนี้จอมเลยปิดจ็อบได้ 2 งาน ฟังจากเสียงก็รู้ว่าจอมตื่นเต้นมาก จอมบอกว่างานด่วน เขาได้ค่างานเพิ่ม แต่ก็ต้องรีบหาของ วันนี้ไม่ได้ดูร้านเลย ผมไปเจอจอมตอนค่ำ จอมยังนั่งเช็กรายการของอยู่ จอมเคยบอกผมว่า เขารวมรายได้ทุกอย่าง แล้วหาร 2 กับพีท แต่งานนี้ ผมเห็นจอมวิ่งทำอยู่คนเดียว ผมอดสงสัยไม่ได้ ก็เลยถามจอมว่า ไม่คิดว่าตัวเองเสียเปรียบพีทบ้างเหรอ จอมตอบผมว่า เขาไปวิ่งงานข้างนอก พีทก็ต้องเหนื่อยกับงานในร้านเพิ่ม หาร 2 ก็ถูกแล้ว ผมแซวเล่นว่า เมื่อไหร่จะรวย จอมก็ตอบว่า ก็อยากมีความสุข อยากมีเพื่อน ไม่ได้อยากรวย จอมคนดีที่หนึ่งของผม สำหรับจอม เงินไม่เคยมาก่อนความรู้สึก ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง แต่ผมก็อยากให้จอมได้ทุกอย่าง ถ้าผมเป็นผู้วิเศษ ผมจะเสกให้... ผมไม่มีไม้กายสิทธิ์ มีแต่เข็มฉีดยา ที่จอมไม่ชอบ ผมแกว่งมันไปมาในอากาศ ก่อนจะแตะลงบนผมเขา พูดกับจอมว่า เจ้าจะได้ทุกอย่าง รวมทั้งความร่ำรวยด้วย แต่เจ้าต้องจูบชายคนนี้ จอมมองผมเหมือนกำลังเห็นสัตว์ประหลาด ผมยื่นเข็มฉีดยาให้เขา พูดอีกว่า นี่เป็นของเจ้า รับไปสิ จูบข้า แล้วเจ้าจะได้ทุกอย่าง จอมยื่นมือมารับ แล้วจูบผม จอมไม่สั่น ไม่ตัวแข็ง ผมไม่รู้ว่าเพราะใจจอมแข็งแรงขึ้น หรือเพราะอารมณ์ที่มีกับผม แต่จะเพราะอะไร มันก็ดียิ่งกว่าดี ถึงผมจะเสกอะไรให้จอมไม่ได้ แต่ผมเป็นความสุขที่สุดของจอมได้แน่ๆ ได้เสมอ ได้เรื่อยๆ จนกว่าผมจะทำไม่ไหว ผมไม่อยากไปค้างตั้ง 2 คืนเลย แต่ม๊าอยากได้ของกินที่จอมเคยซื้อมาฝากจากเชียงใหม่ ให้ผมหาซื้อกลับมาให้ด้วย ผมบอกให้จอมมาด้วยกัน จอมก็บอกว่า เขาเที่ยวบ่อยเกินแล้ว เกรงใจเพื่อน ผมเปิดกล้องให้จอมดูห้องน้ำในห้องพักว่าเขาแต่งสวยดี จอมถามว่ามีที่วางมือถือมั้ย ผมหาที่วาง ถอยออกห่างจอตามที่จอมบอก ถามเขาว่า จะดูอะไร จอมพูดไปยิ้มไปว่า ดูคุณอาบน้ำ จอมนะจอม รู้อยู่แล้วว่าผมคิดถึง ยังจะมาแกล้งกันได้ลงคอ ที่งานสัมมนา ผมเจอเพื่อน เจอพี่ ที่ไม่ได้เจอกันนาน รวมทั้งนุ่นด้วย นุ่นเป็นผู้หญิงห้าวๆ และเป็นผู้หญิงคนเดียวในรุ่น ที่ไปไหนไปกันกับก๊วนผู้ชาย และก็นุ่นนี่แหละ ที่ด่าผมกลางวงเหล้าว่า โง่ฉิบหาย เพราะผมเอาแต่ตามหาพี่นาราจนไม่สนใจเรื่องเรียน ผมได้คุยกับนุ่นไม่กี่คำ ผมรู้สึกว่านุ่นห้าวกว่าเดิม แล้วก็ดูเป็นทอมบอยกว่าเดิมอีก ผมได้คุยกับจอมนิดหน่อยตอนพักเที่ยง แล้วก็ไปเข้าสัมมนากลุ่มย่อยต่อจนเย็น แล้วไปต่อที่ร้านอาหารกับเพื่อนจนค่ำ พวกนั้นจะไปผับต่อ แต่ผมขอตัวกลับ ผมไม่ถนัดไปนั่งที่หนวกหูขนาดนั้น ผมออกจากลิฟต์ กำลังจะเดินไปที่ห้อง ก็ได้ยินเสียงโวยวายมาจากห้องตรงข้าม ผมยืนฟังจนจับใจความได้ว่า ห้องนั้นแอร์เสีย ช่างมาดูให้แล้ว แต่แก้ไม่ได้ ไม่มีห้องให้เปลี่ยนด้วย เพราะแขกพักเต็มหมดทุกห้อง ทางโรงแรมจะชดเชยให้ด้วยการพาไปพักที่โรงแรมอื่น แล้วจะแถมวอยเชอร์ห้องพักฟรีให้ด้วย มันจะ 4 ทุ่มแล้ว มาบอกให้ย้ายโรงแรมตอนนี้ เป็นผม ผมก็คงโมโหเหมือนกัน ผมยื่นหน้าเข้าไปดูให้แน่ใจ แล้วค่อยพูดกับนุ่นว่า เขาให้อะไรก็เอาไว้ แล้วย้ายมานอนห้องกู เสียงมึงดังขนาดนี้ เขาตื่นกันหมดฟลอร์แล้ว เสียงนุ่นสวนกลับมาว่า เสือก ผมตอบกลับว่า เออ มึงไม่เอาก็เก็บของไปที่อื่นเลย หยุดโวยได้แล้ว กูจะนอน นุ่นย้ายของมาห้องผม ยังไม่ทันได้คุยอะไรกัน ผมก็ได้รับข้อความแจ้งยกเลิกเที่ยวบินตอนเที่ยงที่ผมจองไว้ เปลี่ยนไปเป็นไฟลท์ค่ำแทน นุ่นก็ได้ข้อความเหมือนกัน ผมหัวเสียเพราะไม่อยากอยู่จนค่ำ แต่นุ่นบอกว่า ก็ดี กูจองเที่ยงเพราะตั๋วถูก ได้บินค่ำ ได้มีเวลาไปหาขุนที่ปางช้าง ขุนเป็นรุ่นน้องที่โดนแกล้งหนักสุดตอนรับน้อง และตอนเรียนก็เป็นน้องที่รัก เพราะใครๆ ก็ใช้แต่ขุน ตอนนี้ขุนมาทำงานที่ปางช้าง นุ่นบอกว่า ถ้ามาได้ ก็มา มาช่วยขุนทำงาน เพราะที่นั่นคนไม่ค่อยพอ ผมถามด้วยความแปลกใจว่า ปางช้างเป็นเอกชน เขาให้คนนอกไปยุ่งได้เหรอวะ นุ่นตอบผมว่า มึงอยากรู้ก็ไปดูเองดิ ผมได้ยินเรื่องงานขอขุนมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยเห็นเอง ตอนเรียนผมแค่ได้ตรวจสุขภาพช้าง ไม่เคยได้รักษาจริงจังเลย ทีแรก ผมว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ ก็เลยเปลี่ยนใจ บอกนุ่นว่า กูไปด้วย ผมโทร.หาจอม บอกจอมเรื่องเวลากลับ จอมเล่าเรื่องที่ร้านให้ผมฟังนิดหน่อย ผมกำลังจะเซย์กู๊ดไนท์กับจอม นุ่นก็ถามขึ้นมาว่า จะชงกาแฟ เอามั้ย ผมภาวนาขอให้จอมไม่ได้ยิน แต่จอมถามผมว่า เสียงใคร ผมคิดอะไรไม่ทัน ตอบจอมดื้อๆ ว่า เสียงทีวี แล้วก็บอกจอมว่า ฝันดี พรุ่งนี้เจอกันครับ ผมวางสายแล้วก็อยากเขกหัวตัวเอง จะโกหกจอมทำไม ผมไม่ได้มีอะไรกับนุ่นสักหน่อย แต่จะให้จอมเข้าใจ ก็คงต้องอธิบายกันยาว เอาไว้ผมค่อยกลับไปแก้ตัวแล้วกัน
Create Date : 12 มกราคม 2568 |
Last Update : 12 มกราคม 2568 20:20:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 105 Pageviews. |
|
 |
|