เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 46
ผมเคยเจอแต่เข็มโวยวายใส่คนอื่น แล้วเข็มก็ยอมทุกทีพอผมห้าม แต่พอมาโดนโวยวายเอง ทำไมมันยากจัง ผมรู้ว่าผมต้องทำใจให้ชิน แต่มันยากจริงๆ และตอนนี้ ผมก็ยังทำไม่ได้ จริงๆ ผมก็สงสารเข็มที่ต้องมาทนนอนพื้นแข็งๆ เพราะอยากง้อผม เขาคงหลับไม่ค่อยสนิทมาทั้งคืนแล้ว ตอนที่ผมตื่นตามเวลามาเข้าห้องน้ำ แล้วออกไปข้างนอก เขาถังได้ยังหลับไม่รู้สึกตัว มันก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้ทำให้เขากลับไปง่ายหน่อย โชคดีที่ร้านโปรดของเข็ม วันนี้ไม่มีใครหยุดขาย ผมซื้อได้ครบทุกอย่าง กลับมาถึงร้าน ก็เห็นเข็มอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยส่งของที่ซื้อมาให้เขา แล้วก็บอกให้เขากลับ ที่จริงผมแค่รู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมจะฟังเขาพูดอะไร ไม่อยากให้มานั่งกินข้าวด้วยกันด้วยบรรยากาศอึดอัดอย่างนั้น แต่เข็มคงไม่คิดแบบผม เขาพูดเหมือนคนเหลืออด ว่าจะโกรธเขาไปถึงไหน อยากได้อะไรทำไมไม่พูด น้ำตาผมจะมาอีกแล้ว ทำไม ทำไม แค่เข้าใจความรู้สึกผม มันยากมากหรือไง ผมน้อยใจจนบอกไม่ถูก แล้วก็เลยหลุดปากพูดไปว่า ผมพูดไปแล้ว คุณไม่เข้าใจเอง ไม่พอใจ ก็ไม่ต้องมา ผมไม่เห็นหน้าเขา เพราะผมกำลังยืนหันหลังให้เขา แต่เสียงรองเท้ากระแทกพื้นแรงๆ ตามด้วยเสียงปิดประตูดังสนั่น ก็บอกได้แล้วว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ผมตามไปดูก็เห็นเข็มใส่อารมณ์กับประตูรถ แล้วกระชากรถออกไปเสียงดังไปทั้งถนนจนคนที่เดินอยู่แถวนั้นตกใจ ผมได้แต่คิดว่า ไม่น่าพูดจนเขาอารมณ์เสียเลย ขับรถเร็วแบบนั้น จะไปชนอะไรเข้าหรือเปล่า เวลาผ่านไปชั่วโมงนึงแล้ว เข็มน่าจะถึงคลินิกแล้ว ผมถึงได้โทร.หาเพื่อนที่ทำงานบริษัทมือถือ ขอให้เขาช่วยเช็กพิกัดโทรศัพท์ของเข็ม พิกัดอยู่แถวคลินิก เข็มก็น่าจะปลอดภัยดี โล่งอกไปที ไรเดอร์โทร.มาแจ้งส่งของ ผมเข้าใจว่าเป็นของที่ผมกำลังรอ แต่พอไปเปิดประตูรับ กลับกลายเป็นช่อดอกไม้สีฟ้าอมม่วง คล้ายๆ สีของดอกแก้วเจ้าจอม มาพร้อมกับการ์ดที่เขียนด้วยลายมือเข็มว่า ขอโทษนะ ที่ผมใจร้อน ผมกินทุกอย่างที่คุณซื้อให้หมดแล้ว ขอบคุณนะครับ ผมอดยิ้มให้ดอกไม้ช่อนั้นไม่ได้ ใครก็ตามที่ต้องการทำให้เรามีปัญหากัน ก็คงทำได้แต่นั้น แต่คนคนนั้น ไม่มีทางทำให้เราสองคน บาดหมางจนถึงกับต้องเลิกกันได้แน่ๆ ความรักความผูกพันระหว่างเรา มันมากเกินกว่าที่คนคนนั้นจะคิดถึงได้แน่ๆ แล้วไรเดอร์อีกคนก็มา ของที่ผมรออยู่มาถึงแล้ว บล็อกไม้สำหรับถักผ้าพันคอ กับไหมพรมเนื้อนุ่มๆ สีที่เข็มเห็นแล้วต้องชอบแน่ๆ ผมไปสั่งล่วงหน้าไว้แล้วตั้งเดือน เพิ่งจะได้ของ เพราะเป็นสีที่ไม่ค่อยมีใครใช้ ร้านเลยต้องสั่งให้ผมใหม่ ผมมีเวลาอีกเกือบ 2 อาทิตย์ แต่จริงๆ ผมมีเวลาทำแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง แล้วถ้าเข็มยังมาขอนอนด้วยทุกวัน ผมก็ไม่รู้จะได้ทำตอนไหน ผมเอาช่อดอกไม้ไปแขวนห้อยหัวไว้ในห้องน้ำ เอาบล็อกไม้ ไหมพรมเก็บเข้าตู้ แล้วล็อกประตูห้อง เข็มดูเซ็งๆ นิดหน่อยตอนที่เขากลับลงมาขอกุญแจห้องแล้วผมไม่ให้ แต่เขายังไม่ยอมกลับ เดินไปหาโต๊ะนั่ง แล้วทำตัวเป็นลูกค้า เรียกให้ผมไปรับออเดอร์ ก็ยังดีที่คุณหนูไม่โวยวาย แต่ถ้านั่งยาวไม่ยอมกลับจริงๆ ผมจะทำยังไง เข็มเอาโน๊ตบุ๊คมาเปิดทำงานระหว่างรออาหาร ผมเห็นเขาทำหน้ายุ่งใส่หน้าจอ ท่าทางเหมือนอยากจะบ่นใครสักคน เข็มไม่ค่อยเล่าเรื่องงานเขาให้ผมฟัง เขาบอกว่าพูดไปก็มีแต่จะพาผมปวดหัวไปด้วย เข็มปิดโน๊ตบุ๊คตอนอาหารไปเสิร์ฟ ผมไม่อยากให้เข็มต้องทำหน้ายุ่งใส่คอมพ์อีก ก็เลยคอยดู พอเขากินข้าวใกล้หมด ผมก็ยกผลไม้ไปให้ แล้วก็ยกกาแฟตามไปอีก ผมไม่รู้ว่าเข็มคิดออกหรือยังว่าผมต้องการอะไรจากเขา แต่สำหรับผมตอนนี้ มันไม่สำคัญเท่าไหมพรมในตู้ วันเกิดเข็มในปีแรกที่เราคบกัน ผมอยากให้ของที่เข็มจะได้รู้สึกทุกครั้งที่หยิบมาใช้ ว่าผมรักเขามากแค่ไหน ผมต้องการเวลาถักผ้าพันคอให้เสร็จทันวันเกิดเขา พอเห็นเขากินเสร็จแล้ว ผมเลยรีบไปเก็บจาน แล้วบอกให้เขากลับบ้าน คราวนี้เข็มไม่ว่าอะไร ยอมกลับแต่โดยดีจนผมอดแปลกใจไม่ได้ แต่ก็ดีแล้ว ดีกว่าคุณหนูเอาแต่ใจไม่ยอมกลับ ผมเก็บร้านเรียบร้อยแล้ว ก็รีบอาบน้ำ แล้วเริ่มลงมือถักผ้าพันคอ เริ่มผูกเส้นไหม แล้วพันคล้องลงบนหลักตะปูบนบล็อกไม้ พันครบทุกหลักแล้ว ค่อยใช้เข็มโครเชต์ ควักใหม่ขึ้นตามลาย ผมเคยโดนแม่บังคับให้ทำ จนผมชอบไปเอง งานที่ได้อยู่นิ่งๆ อยู่กับตัวเอง ใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเส้นไหมที่ต้องพันให้ถูกหลัก พันให้พอดีๆ ไม่แน่น ไม่หลวมเกินไป มันก็คงคล้ายๆ อะไรหลายอย่างในชีวิตคนเรา ถ้ารักษาให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกไปได้ตลอด มันก็ง่าย แต่ถ้าเผลอพันผิด พันข้าม ก็ต้องถอยมาแก้ แล้วเริ่มพันใหม่อีก เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก ผมทำไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเมื่อย ถึงได้หันไปดูนาฬิกา เกือบตีหนึ่ง เลยเวลานอนผมไปเยอะแล้ว ดีจริงที่วันนี้ผมไม่พลาดเลย ได้ความยาวมาพอควร ผมเอาของเก็บเข้าตู้ ล้มตัวลงนอนข้างหมอนว่างๆ ตอนผมเลือกซื้อเตียงไซส์นี้มา เพราะผมชอบนอนกว้างๆ นอนกลางเตียง แล้วกลิ้งซ้ายกลิ้งขวาไปเรื่อย แต่ตั้งแต่มีเข็มมานอนด้วย ผมก็ไม่เคยอยากไปนอนกว้างๆ ตรงกลางเตียงคนเดียวอีกเลย เข็มมาทำให้ที่นอนแคบลง ผมกลิ้งเล่นตามใจชอบไม่ได้ แต่ผมกอดเขา ก่ายเขา ได้ไออุ่นจากเขา มันดีกว่าเป็นไหนๆ ถ้าผมถักผ้าพันคอได้ความยาวประมาณนี้ทุกวัน อีกไม่กี่วัน ผมก็ให้เข็มมานอนห้องนี้กับผมได้เหมือนเดิมแล้ว แต่จะให้นอนตรงไหน ค่อยมาว่ากันอีกที ผมเห็นเข็มตั้งแต่เขาชะลอรถผ่านหน้าร้าน คงกำลังหาที่จอดรถ ผมพยายามนึกอยู่ว่า ถ้าวันนี้เข็มดื้อ จะค้างกับผมให้ได้ ผมจะทำยังไง แต่โชคดีเป็นของผม ดูเหมือนเข็มจะรู้สึกเองแล้วว่า ควรปล่อยเวลาให้ผมบ้าง เขาเลยแค่เข้ามาหาที่เคาน์เตอร์ มาบอกว่า ม๊าชวนไปกินข้าวที่บ้าน ม๊าคงอยากให้ผมกับเข็มได้คุย ได้เคลียร์กัน เข็มคงไปบอกว่า ผมไม่ยอมคุยด้วย วันจันทร์เป็นวันหยุดผม ผมอยากถักผ้าพันคอให้ได้เยอะๆ จะได้เสร็จไวๆ แต่ผมก็เกรงใจม๊า ก็เลยต้องพยักหน้ารับ แต่ตอนเข็มบอกว่าจะมารับ ผมรีบบอกเลยว่า ไม่ต้อง ผมไปเอง ขืนให้เขามารับ คืนนั้นผมคงไม่ได้กลับ แล้วเมื่อไหร่ของขวัญของเข็มจะเสร็จ เข็มพูดกับผมแค่นั้น แล้วก็ลากลับ วันนี้เข็มดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อวานมาก ผมมองตามหลังเขาไป แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกว่า คิดถึงจัง เพื่อนสมัยเรียนส่งข้อความมาถามว่า ผมมีปัญหาอะไรกับธันวา เขาตระเวนยืมเงินเพื่อน แล้วก็ด่าผมให้ทุกคนฟัง ผมโมโหจี๊ดอยู่ในอก ทำเข็มเกือบตาย ยังจะกลัวเอาผมไปว่าอีก เขาคงแค้นที่ป๊าเล่นงานซะจนเขาแทบจะหมดตัว ผมไม่อยากเอาตัวเองไปข้องเกี่ยวกับคนแบบนี้แล้ว ผมเลยตอบเพื่อนแค่ว่า ธันวามีปัญหา แล้วผมไม่ช่วยเขามั้ง เขาเลยโกรธ ผมไม่มีสมาธิจะพันไหมพรมเลย ผมอดนึกเสียดายไม่ได้ว่า วันนั้น น่าจะปล่อยให้เข็มต่อยให้กรามหักไปเลย จะได้ไม่ต้องพูดมาก ผมพันไหมผิดแถวอีกเป็นรอบที่ 2 ก็เลยต้องยอมแพ้ ลงไปหาอะไรกินแก้อารมณ์เสีย ช็อกโกแลตของเข็มยังไม่หมด ผมถือกล่องกลับขึ้นมากินบนห้อง รสชาติของช็อกโกแลตทำให้อารมณ์ผมเย็นลง ตั้งแต่เข็มผ่านเรื่องธันวามาได้ เราก็ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้อีก เขาไม่มีความสำคัญกับเรา 2 คนอีกแล้ว คำพูดของธันวา อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผมผิด มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะผมก็เอาเรื่องเข็มไปบอกใครไม่ได้เหมือนกัน และถ้าต้องเลือกยอมให้คนอื่นเข้าใจผิด กับ ให้คนอื่นรู้เรื่องเข็ม ผมยอมให้คนอื่นเข้าใจผิดดีกว่า ผมกินช็อกโกแลตจนหมดกล่อง จัดการลบข้อความที่ธันวาด่าผมให้เพื่อนอ่านทิ้งไป แล้วตั้งใจพันไหมไปตามแถวตะปู เข็มเป็นคนสำคัญของผม ธันวาไม่ใช่ คนที่เชื่อธันวาก็ไม่ใช่ด้วย มาถึงตอนนี้ จริงๆ ผมว่าผมแค่น้อยใจที่เข็มเชื่อคนอื่นมากกว่าผม ผมไม่ได้โกรธอะไรเข็มมากมาย แต่ผมก็อยากให้เขารู้ว่าผมไม่ชอบ ไม่อยากปล่อยผ่านไปเฉยๆ เพราะผมไม่อยากให้เขาทำแบบนี้กับผมอีก ผมไม่รู้ว่าม๊าจะโกรธหรือเปล่า จะคิดว่าผมทำกับเข็มมากเกินไปมั้ย แต่คงไม่ ไม่งั้นม๊าคงไม่ให้เข็มมาชวนผม คนที่ผมไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่จริงๆ คือ คนที่มาหาผมวันนี้ อาม่าเข้ามาในร้านตอนบ่ายโมงกว่า ผมรู้ตอนพี่เข้ามาตามผมหลังร้าน บอกว่าลูกค้าอยากเจอ ผมออกมาเห็นอาม่าก็อดตกใจไม่ได้ว่าอาม่ามาทำไมถึงที่นี่ จะมาหาเรื่องอะไรผมอีกมั้ย ผมเดินเข้าไปไหว้อาม่า แล้วยืนรออยู่เฉยๆ จนอาม่าเริ่มเอ่ยปากเองว่า ร้านสวยดีนี่ ฉันได้ข่าวว่าเข็มเป็นคนจ่ายค่าตกแต่งร้านใหม่ หลอกหลานฉันมาเท่าไหร่ล่ะ ผมกัดปากตัวเองนับ 1 ถึง 5 ก่อนตอบว่า อย่าดูถูกหลานคุณนายเองดีกว่านะครับ เข็มไม่ใช่คนโง่ และถ้าผมหลอกเข็มจริง ป๊าคงไม่ปล่อยให้ผมได้อยู่สบายหรอกครับ อาม่ามองผมสีหน้านิ่งสนิท ก่อนจะพูดว่า ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย ไปกันฉันหน่อย แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ผมไม่อยากไปเลย แต่อาม่าอุตส่าห์มาหาผมถึงที่นี่ ผมไม่ควรเสียมารยาท ก็เลยบอกโจว่า ผมจะไปข้างนอก น่าจะไม่นาน ฝากบอกพีทด้วย อาม่าเดินนำไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าร้าน เข้าไปนั่งในรถ แล้วก็ไม่พูดอะไร ผมก็เลยยืนรออยู่ข้างรถ อาม่าส่งเสียงขุ่นๆ มาว่า จะยืนค้ำหัวฉันอยู่ทำไม ขึ้นรถสิ ผมจะเปิดประตูไปนั่งข้างคนขับ อาม่าก็ดุมาอีกว่า นั่งตรงนั้นจะพูดกันยังไง มานั่งข้างๆ นี่ ผมทำตามคำสั่งแบบงงๆ พระอาทิตย์จะตกทางทิศตะวันออกหรือไง ผมเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างอาท่า แล้วรถก็เคลื่อนออกไป ผมหันไปมอง อาม่าพูดทั้งที่ยังมองตรงไปข้างหน้าว่า กลัวอะไร ฉันไม่เอาเธอไปฆ่าหรอก ทำไมไม่เลิกกันสักที ผมมองตรงไปข้างหน้าเหมือนกัน ถามกลับว่า ทำไมเราต้องเลิกกันครับ อาม่ากลับมาพูดเสียงเรื่อยๆ ว่า เข็มไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเธอ เธอเองก็ให้อภัยเข็มไม่ได้ กับแค่ความใจร้อน ขี้หวง หวง?? ผมทวนคำหันไปมองอาม่า อาม่าก็หันมามองผม ถามเสียงสูงว่า นี่เธอคิดว่าเข็มโวยวายขนาดนั้นเพราะอะไร แล้วก็กลับไปพูดเสียงเรียบเหมือนเดิมว่า เห็นมั้ยล่ะ เข็มก็ไม่เข้าใจเธอ เธอก็ไม่เข้าใจเข็ม อยากคบกันก็คบกันไปเถอะ อีกไม่นานเธอ 2 คนก็ต้องเลิกกันอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แล้วก็หัวเราะ รถวนกลับมาส่งผมที่เดิม ก่อนลงจากรถ อาม่าสำทับประโยคสุดท้ายว่า คิดได้แล้วก็บอกฉัน แล้วจะให้คนติดต่อมา ผมไหว้ลาอาม่า ลงจากรถแล้วก็มองตามจนรถเลี้ยวหายลับมุมถนนไปแล้ว ถึงได้กลับเข้าร้าน วันนี้อาม่าพูดอะไรแปลกๆ ยังกับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับเข็ม แล้วยังถามด้วยว่า วันแรกที่ไปกินข้าวที่บ้านอาม่า ทำไมผมถึงทนให้อาม่าดูถูกอยู่ได้ ผมตอบกลับไปเรียบๆ ว่า เพราะคุณนายเป็นญาติผู้ใหญ่ของเข็ม แม่ผมสอนให้แสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ทุกคน ส่วนผู้ใหญ่จะทำตัวน่าเคารพหรือเปล่า ไม่ใช่ปัญหาของผม และที่สำคัญ คุณนายดูถูกผมได้ แต่เปลี่ยนตัวตนผมไม่ได้ แม่ผมสอนให้เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นมองผม แดดข้างนอกคงจ้าเกินไป จนทำให้ตาผมพร่า ถึงได้เห็นว่า อาม่าอมยิ้ม ใกล้ 4 ทุ่มแล้ว ผมพยายามรวบรวมสมาธิถักผ้าพันคอต่อ แต่คำพูดของอาม่ายังวนอยู่ในหัวผม ฉันจะให้ของขวัญเข็ม คนที่เขาจะต้องอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต คำพูดผมที่บอกอาม่าว่า เราก็แค่ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ เราไม่เลิกกันเพราะเรื่องแค่นี้ ผมวางมือจากไหมพรม ไปหยิบผ้าพันคอส่วนที่ถักไปแล้วมาลูบเล่น ของขวัญจากความตั้งใจของผม จะดีพอสำหรับเข็มหรือเปล่า คนที่เข็มจะอยากอยู่ด้วยไปทั้งชีวิต ของขวัญ ผม ผมพันไหมได้แค่ไม่กี่แถวก็ต้องยอมแพ้ เก็บของเข้าตู้ แล้วกลับมาขึ้นเตียง นอนเร็วก็ดีเหมือนกัน พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้ามาเคลียร์ห้อง เคลียร์ร้าน แล้วคงมีเวลาสักชั่วโมงให้ผมได้ทำต่อ ก่อนไปบ้านเข็ม เข็มโทร.มากำชับว่ากินมื้อเย็น ไม่ต้องรีบมา ผมรู้สึกว่าเข็มต้องกำลังทำอะไรอยู่แน่ๆ แต่ผมขี้เกียจคิดแล้ว ผมโทร.บอกป๊าว่า ผมจะเอารายงานเรื่องการปรับปรุงร้านไปให้ ป๊าบอกว่ายังไม่รู้จะถึงบ้านกี่โมง ให้ผมเอาให้เข็มอ่านก่อน เดี๋ยวเข็มก็มาคุยกับป๊าเอง ผมฟังแล้วก็แอบงง เพราะป๊าพูดมาอีกว่า ไม่ต้องรีบมา ผมชักจะสงสัยว่าถ้าผมรีบไปผมจะเจออะไร แต่ผมอยากถักผ้าพันคอมากกว่าอยากรู้ ผมก็เลยแค่แวะซื้อบัวลอยงาดำ แล้วก็ไปถึงบ้านเข็มใกล้ๆ เวลาอาหารเย็น พี่นีรับถุงบัวลอยไปแล้วบอกผมว่า ทุกคนอยู่ที่ห้องกินข้าว ผมเข้าไปถึงก็เจอรอยยิ้มของทุกคนรอต้อนรับผมอยู่ ท่ามกลางตุ๊กตา ลูกโป่ง ดอกไม้ ที่ตกแต่งไว้ทั่วห้อง สีชมพู สีฟ้า สีขาว สลับจัดวางไว้อย่างสวยหวาน จนผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยๆ แม้แต่ที่หุ้มกล่องทิชชูบนโต๊ะ ก็ยังถูกเปลี่ยนเป็นผ้าสีฟ้าขนนุ่มฟู มีกระต่ายสีขาวแก้มอ้วน นั่งยิ้มอยู่ตรงช่องดึงกระดาษ ผมเขินจนทำตัวไม่ถูก เข็มเดินข้ามาหา โอบเอวผมพาเดินไปนั่งข้างเขา ถัดจากผมมีฟ้าใสนั่งอยู่ ถัดไปอีก มีกุหลาบขาวหลายดอกมัดเข้าด้วยกันหลวมๆ ด้วยโบสีเขียวสดเส้นใหญ่ เข้าไปดูใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่าสีมันดูหม่นๆ เพราะมันเป็นดอกไม้แห้ง ป๊าเรียกให้ผมนั่ง ส่วนม๊าก็บอกว่าทุกคนรอจอมอยู่ มาเร็ว แล้วก็ยิ้มให้ผมจนผมเกรงใจ ต้องรีบพูดว่า ขอโทษนะครับ ผมมาช้า ม๊าหัวเราะพูดว่า จอมไม่ได้มาช้า เข็มตื่นเต้นเอง เกณฑ์ม๊ากับป๊ามารอ จอมชอบมั้ย เข็มเขาแต่งห้องไว้รอจอมเลยนะ เข็มยิ้มรออยู่แล้ว ตอนผมหันไปหา เขาพูดเบาๆ ว่า กินข้าวกันก่อนนะ แล้วเราคุยกันนะครับ ในห้องมีแค่พวกเรา 4 คน เข็มลุกไปตักข้าวให้ทุกคนเอง แล้วมาตักกับข้าวใส่จานให้ผมอีก ผมพูดเบาๆ ว่า ไม่ต้องเอาใจผมขนาดนี้ก็ได้ เข็มทำท่าเหมือนจะพูดอะไร เหลือบไปมองป๊าม๊า แล้วแก้มเขาก็แดง ตักกับข้าวให้ผมอีก พูดกับผมว่า อันนี้ของชอบคุณ ผมสั่งให้ทำเอง กินให้หมดนะ แล้วก็หันไปคุยกับป๊าม๊า เสียงจานช้อนกระทบกัน สลับกับเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ บรรยากาศอบอุ่นแสนดี จนผมลืมไปแล้วว่าผมมาที่นี่เพราะอะไร ป๊าม๊าอิ่มข้าวแล้วลุกออกไปกินกาแฟกับผลไม้ที่ห้องนั่งเล่น ผมกินเสร็จแล้วจะลุกตาม แต่เข็มจับมือผมไว้ บอกว่าอย่าเพิ่งไป ผมบอกเข็มว่าเดี๋ยวผมมา ผมลืมรายงานไว้ในรถ จะเอามาให้ป๊า เข็มขอกุญแจรถผม บอกว่าจะให้คนอื่นไปเอาให้ เข็มหายไปสักพักแล้วก็กลับเข้ามา หยิบช่อกุหลาบแห้งมาให้ผม พูดกับผมว่า ผมขอโทษนะที่ผมไม่เชื่อใจคุณ คิดว่าคุณโกหก ผมหวงคุณมากจนสติแตก แค่คิดว่ามันเคยแตะต้องตัวคุณ ผมก็โกรธแทบบ้าแล้ว ผมจะพยายามไม่ใจร้อนแบบนี้อีก ผมจะถามคุณ แล้วก็จะฟังคุณก่อน คุณให้อภัยผมได้มั้ย ผมยังมองเข็มนิ่งอยู่ เข็มพูดต่อว่า กุหลาบขาวนี่ ช่อที่คุณใส่ถุงขยะกลับมาให้ผม จำได้มั้ย แต่ผมไม่อยากทิ้ง ผมตั้งใจให้คุณแทนคำขอโทษ แต่ตอนผมคิดได้ ร้านดอกไม้ก็ปิดหมดแล้ว ผมเลยต้องไปตลาดดอกไม้ที่ขายตอนกลางคืน ไปเลือกทุกดอกมาเองกับมือ ผมไม่ได้แค่อยากให้คุณหายโกรธ แต่อยากให้รู้ด้วยว่า ผมรู้สึกผิดจริงๆ ผมหลับตาลงสำรวจความรู้สึกตัวเอง ลืมตามามองเข็ม ผมบีบแก้มเขาแรงๆ ทั้ง 2 ข้างด้วยความหมั่นไส้ พูดแบบแทบไม่หยุดหายใจไปด้วยว่า ทำไมไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก รู้มั้ยว่าผมเสียใจมากแค่ไหนที่คุณไม่เชื่อผม ผมน้อยใจจนคิดว่าคุณคงเห็นผมเป็นแค่โอเมกาต่ำๆ คุณถึงได้เชื่อคนอื่นมากกว่า ทำไมคุณไม่หนักแน่น ไม่อยู่ข้างผม ทำไมไม่เข้าใจผม คุณไม่ตั้งใจ แต่ผมเจ็บนะ ได้ยินมั้ย แล้วก็ปล่อยมือ แก้มเข็มเป็นรอยแดงรูปนิ้วผมแทบจะครบทุกนิ้ว ผมรับช่อดอกไม้มาถือไว้ เดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น ไปบอกป๊าม๊าว่าผมจะกลับแล้ว ม๊าทำหน้างงๆ ตามด้วยเสียงอุทานด้วยความตกใจ ผมหันไปกระซิบบอกเข็มว่า หน้าคุณเป็นรอยมือผม เข็มฟังแล้วก็หัวเราะ บอกม๊าว่า โดนบีบแก้มครับ ไม่ได้โดนตบ ม๊าถึงได้ยิ้ม ผมหันไปถามเข็มว่า รายงานกับกุญแจรถผมอยู่ไหน เข็มยืนเอามือไพล่หลัง พูดเฉยๆ ว่า อยู่บนห้องผม ผมค้อนใส่เข็ม ไม่เคยรู้เลยว่าแฟนผมเจ้าเล่ห์แบบนี้ เขาขอดอกไม้กลับไปถือไว้เอง ตอนเดินตามหลังผมขึ้นข้างบน เข้าห้องแล้วผมคงไม่ได้กลับ แต่ไม่มีกุญแจรถ ผมก็กลับไม่ได้อยู่ดี ผมยังไม่เห็นเลยว่า รายงานกับกุญแจรถวางอยู่ตรงไหน ผมก็โดนเข็มกอดจากข้างหลัง รัดตัวผมไว้แน่นจนหลังผมชิดกับอกเขา วางคางบนไหล่ผม พูดอยู่ข้างหูว่า คุณยังไม่หายโกรธผมก็ได้ แต่ช่วยลืมก่อนได้มั้ยว่าผมทำไม่ดีกับคุณ ช่วยจำแต่ว่า ผมรักคุณ คุณรักผม ก่อนได้มั้ย ผมนึกอยู่ในใจว่า บ้าจริง คนที่ทำให้ผมกลับบ้านไม่ได้ คงไม่ใช่เข็มแล้ว ผมไม่ได้ฮีต แต่เข็มทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลัต ผมจับแขนเขาให้กางออก หันกลับไปจูบเข็ม ร่างกายผมต้องการเขา ผมละจากปากเข็ม ปลดกระดุมเสื้อเขาแล้วจูบ ปลดอีกเม็ดแล้วจูบอีก ผมแกะกระดุมกางเกงเข็ม รูดซิป แล้วจูบลงตรงนั้น เข็มรักผม ร่างกายเขาตอบสนองกับผม มันเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ ที่ได้ยินเขาเรียกชื่อผม ตอนที่เขามีความสุขที่สุด และผมมีส่วนทำให้มันเกิดขึ้น เข็มถอยออกจากตัวผม มานอนคว่ำซบไหล่ผม ถามผมว่าชอบมั้ย ผมยังหายใจไม่ปกติเลย ได้แต่พยักหน้า รอจนหายใจดีแล้ว ถึงได้พูดว่า ขอโทษที่ผมแกล้งให้คุณนอนพื้น เข็มหัวเราะลั่น บอกว่าไม่เป็นไร ผมแค่ปวดหลังทั้งคืน ปวดเมื่อยทั้งวัน ก็เท่านั้นเอง เข็มเลื่อนตัวมาจูบแก้มผม พูดเสียงอ้อนๆว่า ถ้าเรามีปัญหากันอีก คุณอย่าเดินหนีออกไปอีกนะ ถ้าไม่อยากนอนห้องเดียวกับผม ก็นอนห้องอื่นก็ได้ บ้านผมมีอีกหลายห้อง ผมจูบแก้มเขากลับ ถามว่าทำไม เข็มพูดไปยิ้มไปว่า ผมจะได้ง้อคุณง่ายๆ ไงครับ คุณแฟน แล้วเข็มก็คุยให้ฟังเรื่องกุหลาบขาวที่ยังแห้งไม่ดี ยังต้องเอาไปตากต่อ ช็อกโกแลตที่ยังอยู่ในตู้เย็นที่คลินิก แล้วก็เล่าว่าเขาเกือบจะไล่เตะหมอว่านแล้ว นอกจากไม่ช่วยเขาง้อผมแล้ว ยังแกล้งแซวว่า ถ้าเขาไม่มาง้อผมเอง ให้หมอว่านไปง้อให้ หมอว่านจะง้อให้ผมไปเป็นแฟนตัวเอง เข็มพูดไปด้วย วนๆ มืออยู่แถวหน้าอก หน้าท้องผมไปด้วย จนผมต้องบอกเข็มว่า อย่า ผมอยากนอน แต่เข็มไม่ยอมหยุด เขาบอกว่า เพิ่ง 4 ทุ่มเอง แล้วก็จูบผม จูบไปเรื่อยๆ จูบต่ำลงไปเรื่อยๆ จนผมต้องยอมตามใจเขาอีกรอบ ผมนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องรีบตื่น เพราะผมเสียเวลาไปเยอะแล้ว ผมเขียนโต๊ตทิ้งไว้ให้เข็มว่า ผมมีอะไรต้องไปทำ อยู่กินมื้อเช้าด้วยไม่ได้ นี่ถ้าผมเป็นแค่ลูกจ้าง จะขอลาป่วยไปถึกผ้าพันคอแล้ว ตอนบ่ายคนของอาม่าโทร.มา ผมตอบตกลงตามที่อาม่าบอก แต่ผมได้รับคำสั่งใหม่เพิ่มมาอีกว่า อย่าบอกเข็ม ผมชักไม่แน่ใจ แต่ก็รับปากไปแล้ว ผมหายใจโล่งได้แค่วันนั้น เพราะเข็มบอกว่าเขาต้องไปงานเลี้ยง มาหาผมไม่ได้ แต่พออีกวัน เข็มก็สะพายเป้เข้ามา เตรียมตัวมาค้างกับผม พอผมไม่ให้เข้าห้อง ก็แทบจะเป็นเรือง สีหน้ารื่นเริงของเข็ม หายวับไปยังกับกระดาษถูกฉีก ผมบอกเข็มว่า ให้เข้าห้องไม่ได้ แล้วก็ยังบอกอะไรตอนนี้ไม่ได้ ผมไม่อยากหาเรื่องมาโกหก มาหลอกไม่ให้เขามา ผมอยากให้มา แค่ให้ค้างด้วยไม่ได้ เข็มถามหลายคำ ผมก็ยังย้ำคำเดิม สุดท้ายเข็มก็นิ่วหน้า ถามเสียงแข็งว่า ซ่อนใครไว้ในห้อง ไม่ให้ผมค้างด้วย เก็บห้องไว้รอใคร ผมเรียกชื่อเขาเสียงเข้มกว่า พูดต่อว่า คุณเพิ่งพูดเองว่า คุณจะเชื่อผม ฟังผม คุณลืมหมดแล้วเหรอ เข็มหันไปทางอื่นที่ไม่มีหน้าผม ท่าทีเขาอ่อนลง ก่อนจะพูดเบาๆ ว่า ขอโทษ แล้วก็เดินออกไป ผมเดินตามไปส่งที่รถ พูดกับเขาว่า คุณต้องเชื่อใจผมนะเข็ม ถ้าเราไม่หนักแน่นในกันและกัน สักวันเราต้องเลิกกันแน่ๆ เข็มไม่พูดอะไร แต่แววเอาแต่ใจฉายชัดอยู่ในตาเขา ผมไม่อยากให้เขาระแวงจนโกรธอีก ได้แต่บอกเขาว่า เชื่อผมนะเข็ม ผมแค่บอกคุณตอนนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ไม่อยากให้คุณรู้ ที่คุณต้องรู้ตอนนี้คือ ผมไม่ได้โกหก ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี เชื่อผมนะ เข็มเข้ามากอดผม กระซิบถามว่าแล้วจะบอกผมเมื่อไหร่ ผมตอบเข็มว่า ตอนที่ผมบอกได้ ผมรู้ว่าเข็มไม่ชอบคำตอบนี้ เขาปล่อยผม ขึ้นรถจะขับออกไปเลย ผมต้องรีบดึงประตูรถไว้ บอกเข็มว่า ขับรถดีๆ อย่าใจร้อน ผมเป็นห่วง เก็บร้านเสร็จเดี๋ยวผมโทร.หา ผมเพิ่งคิดออกว่า ผมพูดกับเข็มเหมือนที่อาม่าพูดกับผม ถ้าไม่หนักแน่น ไว้ใจไม่ได้ ไม่เชื่อใจ ความระแวงมันจะทำให้เราทนกันไม่ได้ แล้วก็ต้องเลิกกัน ไม่ใช่เพราะเป็นโอเมกากับอัลฟา แต่เพราะเรารักกันไม่มากพอ ที่จะยอมรับและให้อภัยในเรื่องที่เราไม่เข้าใจในกันและกันได้ ผมโทร.หาเข็มตามที่บอกเขาแล้ว แต่คุยได้ไม่นาน ผมก็ขอวางสาย เพราะผมพยายามจะคุยไปด้วย พันไหมไปด้วย แต่ผมพันไหมผิดๆ ถูกๆ จนขี้เกียจจะแก้แล้ว ผมมีเวลาอีกแค่ 3 วัน ก็จะถึงวันเกิดเข็มแล้ว ผมต้องมีของขวัญให้เขา ไปอยู่ที่นั่น เพื่อเขา ในวันนั้นด้วย เข็มงอแงใส่ผมตามคาด ก่อนวางสายเขาขอให้เปิดกล้อง ผมก็ส่องแต่หน้าตัวเอง ไม่ให้เขาเห็นมุมอื่น จูบหน้าเขาบนจอ พูดกับเขาว่า ผมให้แค่นี้ อย่าโวยวาย ไว้พรุ่งนี้ ค่อยทำกาแฟ ส่งผลไม้ กับข้อความหวานๆ ไปให้เข็มที่คลินิก ส่งไปเอาใจเขาหน่อย ผมรู้ว่าผมทำตัวน่าสงสัย เพราะฉะนั้น ถ้าผมอยากให้เขาไว้ใจ ผมก็ต้องทำให้เขาเชื่อว่า ไม่ว่าผมจะทำอะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ความรักของผมที่ให้เขา ไว้ใจได้เสมอ
Create Date : 01 มิถุนายน 2567 |
Last Update : 1 มิถุนายน 2567 10:56:40 น. |
|
2 comments
|
Counter : 317 Pageviews. |
|
 |
|