<<
กุมภาพันธ์ 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
15 กุมภาพันธ์ 2565
 

เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 8

30 มิ.ย.

ผมมีอะไรกับเขาแล้ว แล้วผมก็มีความสุขมากด้วย มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำด้วยอารมณ์ที่มาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่มีแต่สัญชาตญาณ

เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นกับเข็ม ผมเพิ่งรู้ว่า จุดสุดยอด กับ ความสุขสุดยอด มันไม่เหมือนกัน

เขาไม่เคยบอกว่ารู้สึกยังไงกับผม เข็มไม่กัดคอผม ไม่หายไปจากชีวิตผมด้วย เขาคงชอบเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เพราะหลังจากวันนั้น เขาก็มาหาผมแทบทุกวัน มากินกาแฟแทนค่าอาหารที่เขาไม่ยอมให้ผมจ่าย ทั้งที่มาแล้ว เราก็แทบไม่ได้คุยอะไรกัน  เพราะช่วงหัวค่ำที่เข็มมาเป็นช่วงลูกค้าเยอะ  ผมเห็นเขาเอา โน๊ต บุ๊คมาวาง เอกสารมากาง แล้วกินแต่กาแฟ ผมถามว่ากินอะไรอีกมั้ย เขาตอบว่าเขากินข้าวเป็นเวลา  แล้วก็กินมาจากที่คลินิกแล้ว ขอกินแต่กาแฟ ผมก็เลยจัดผลไม้ที่เอาไว้กินเองมาให้เขา กว่าผมจะได้มาดูเขาอีกที ผลไม้ก็หมดจานไปแล้ว

ผมมีเวลาได้คุยกับเข็มจริงๆ ก็แค่ตอนใกล้ร้านจะปิด เขาอยู่จนผมปิดประตูร้านตอน 4 ทุ่ม เขาถึงได้กลับ ผมคิดว่าบ้านเขาอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น แต่เขาบอกว่า บ้านเขาต้องขับรถไปอีกครึ่งชั่วโมง ถ้ารถไม่ติด

วันต่อมา พอ 3 ทุ่ม ผมก็เลยเดินไปเก็บจานเก็บแก้ว แล้วก็บอกให้เขากลับบ้าน เขาทำท่าเหมือนเด็กโดนขัดใจ แต่ผมบอกว่า ผมไม่อยากให้ขับรถตอนดึกๆ ไม่อยากให้นอนดึกเพราะผม เข็มถึงได้ยอมกลับบ้าน

 

วันที่โรงพยาบาลโทร.มา เข็มมาถึงร้านได้สักพักแล้ว วันนั้นเราได้คุยกันยาว เพราะเป็นวันธรรมดาใกล้สิ้นเดือน ลูกค้าเข้ามาแค่ไม่กี่โต๊ะ เข็มคุยให้ฟังว่า ปกติ เขาอยู่ห้องตรวจถึงแค่ 5 โมงเย็น กินข้าว แล้วก็ค่อยมาดูพวกงานเอกสาร ป๊าเขาบอกว่า ถ้าเก็บประสบการณ์จากคลินิกพอแล้ว ก็น่าจะวางแผนทำโปรเจคท์โรงพยาบาลได้แล้ว ตอนนี้ ก็เลยมีเอกสารต้องอ่านเพิ่มอีกเยอะ ผมถามเขาว่า ทำไมต้องหอบมาอ่านที่นี่ เข็มยิ้มๆ บอกว่า กาแฟฝีมือจอม อร่อย

ผมนั่งอมยิ้มอยู่ตรงหน้าขา เข็มกินแต่อเมริกาโนร้อน ไม่ใส่น้ำตาล แก้วนั้นมีแค่กาแฟกับน้ำร้อน กาแฟที่ไม่ต้องมีสูตรอะไรในการชงมากนัก แต่ผมก็ไม่เคยให้เด็กในร้านทำให้เขากิน และก็คงไม่มีวันให้ใครทำให้ด้วย

ใกล้ 3 ทุ่มแล้ว ผมกำลังบอกให้เข็มกลับบ้าน ตอนที่โรงพยาบาลโทร.มาขอบริจาคเลือดด่วน ได้ยินคำว่าบริจาคเลือด ในหัวผมก็มีแต่เข็มฉีดยาลอยไปลอยมาเต็มไปหมด ผมกลัวจนใจเต้นแรง มือสั่น ถ้าผมไม่ได้นั่งอยู่ ก็คงทรุดลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว ผมรู้ว่าผมมีเลือด RH- ผมรู้ว่าเป็นเลือดกรุ๊ปที่หายาก คนไทยพันคน มีแค่ 3 คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ แต่ผมกลัวเข็มฉีดยา กลัวเข็มเจาะเลือด ผมยังพูดกับเข็มไม่จบ เพื่อนผมก็โทร.มา เขาบอกว่าคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุ ต้องการใช้เลือด เป็นพี่ชายเขาเอง พี่เขาอาการหนัก เสียเลือดมาก และต้องผ่าตัดใหญ่ด้วย ผมวางสายโดยที่ไม่ได้รับปากอะไรเพื่อน ผมกลัว แค่นึกถึงเข็ม ผมก็ใจสั่นจนจะเป็นลมอยู่แล้ว ผมอยากบริจาคเลือด แต่ผมจะทำได้ยังไงโดยที่ผมไม่กลัวจนช็อกตายคาเข็มไปซะก่อน เข็มจับมือผมแน่น ถามผมว่า ผมอยากไปมั้ย เขาจะไปเป็นเพื่อน ผมรีบตอบเขาว่า ผมไม่อยากไป ผมกลัว แต่ถ้าผมไม่ไป คนนั้นจะตายมั้ย คนนั้นจะตายใช่มั้ย

เข็มถามผมว่า คุณไว้ใจผมมั้ย ถ้าคุณไว้ใจผม เราก็ไปด้วยกัน

ผมรู้สึกถึงความกลัวที่อยู่ข้างใน รู้สึกถึงมืออุ่นๆ ของเข็มที่กำลังจับมือที่ชื้นเหงื่อของผม สายตาเขาจริงจัง มั่นคง มันคงน่ากลัวน้อยลง ถ้ามีเข็มไปด้วย บางทีผมอาจจะทำได้

เข็มเป็นคนจัดการโทร.แจ้งโรงพยาบาลนัดเวลาให้ผมไปบริจาคเลือด ผมได้ยินเขาโทร.หาม๊า บอกว่า คืนนี้ไม่กลับบ้าน เข็มอยากอยู่กับจอม เข็มกลัวจอมนอนไม่หลับ

ผมนอนไม่หลับจริงๆ ในหัวผมมีแต่ภาพตัวเองตอนเป็นเด็ก ทั้งร้องทั้งดิ้นสุดชีวิต มีเข็มฉีดยาหักคาแขน และคนเยอะแยะไปหมดมารุมกันจับตัวผม ผมได้ยินแต่เสียงตัวเองร้องว่า ไม่เอา ไม่เอา ดังลั่น ผมไม่อยากให้เข็มเห็นผมในสภาพนี้ แต่ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมหลับตาร้องไห้อยู่อย่างนั้น จนได้ยินเสียงเข็มบอกให้ลืมตามองเขา ภาพในหัวผมหายไปแล้ว แต่ผมยังหยุดร้องไห้ไม่ได้ ผมบอกเขาว่า ผมเคยไปรักษาแล้ว มันก็ดีขึ้น แต่ไม่ได้หาย ตอนนี้ ผมกลัว กลัวมาก เข็มจับตัวผมให้นอนลง เช็ดน้ำตาให้ มือที่แตะตัวผมไม่ได้แค่ทำให้ผมรู้สึกอุ่น เขาบอกว่า ไม่ต้องกลัว ตอนนี้ที่นี่ ไม่มีเข็มฉีดยา มีแต่เขา

ในความกลัวที่ตัวผมถูกทิ้งดิ่งลงไปสู่ความมืดอันเคว้งคว้างนั่น ยังมีมือของเข็มที่ยึดตัวผมไว้ไม่ยอมปล่อย

ผมจับมือเขาแนบแก้มตัวเอง หลับตา หายใจลึกๆ ช้าๆ ตามที่เขาบอก ผมค่อยๆ รู้สึกสงบลง อย่างน้อยตอนนี้ ผมก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวอันแสนสาหัสนั้นลำพังคนเดียว

 

ม๊าเข็มให้คนเอาเสื้อผ้ากับอาหารเช้ามาส่งให้แต่เช้า มีทั้งโจ๊กหมูใส่ตับใส่ไข่ นมอัลมอนด์ แล้วยังมีผลไม้สีแดงทั้งแตงโม แก้วมังกรแดง และ สตรอเบอร์รี่ เข็มบอกว่า ของบำรุงเลือดทั้งนั้น ให้ผมกินให้หมด

 

เข็มอยู่กับผมตลอดเวลาที่แสนจะน่ากลัวนั้น เขาไม่ปล่อยมือผมเลย ไม่ว่าเราต้องไปไหนตั้งแต่แผนกต้อนรับ ห้องเจาะเลือด ห้องบริจาคเลือด เข็มไม่สนใจสายตาแปลกๆ ที่มองมาที่เราเลย ผมเองที่อยากปล่อยมือเขาเพราะสายตาพวกนั้น แต่ก็ไม่อยากปล่อยมือเขาเพราะผมกลัว ใจผมสั่น มือผมเย็น ตอนอยู่ในห้องเจาะเลือด ผมได้แต่หลับตาซุกอยู่กับอกเขา หัวใจผมกำลังดิ่งลงไปในหลุมดำนั่นอีกแล้ว มีแต่เสียงเข็มที่ดึงผมกลับมา จอมหายใจตามผมนะ หายใจเข้าลึกๆ อีกครับ ยาวๆ ดีครับ หายใจออกนะ ค่อยๆ ผ่อน ช้าๆ ยาวๆ ดีครับ อีกทีนะ หายใจเข้า ลึกๆ ยาวๆ ...

แต่ผมก็ยังร้องไห้อยู่ดี ผมได้ยินเสียงเข็มปลอบอยู่ข้างหูเบาๆ ว่า เสร็จแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะครับ ไหน มองผมหน่อย คุณลุกไหวแล้วบอกผมนะ ผมพยักหน้า เขาก็เช็ดน้ำตาให้ ประคองผมออกไปนั่งข้างนอก

ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้เวลาเก็บเลือด 10 – 15 นาที ผมหลับตากำมือตัวเองแน่น ผมต้องให้เข็มปักอยู่ 15 นาที หัวใจผมเต้นแรงอีกแล้ว เริ่มรู้สึกเหมือนหายใจเท่าไหร่ก็ไม่พอ ผมรู้สึกว่าเข็มกำลังนวดมือผมเบาๆ ค่อยๆ แกะทีละนิ้วให้มือผมคลายออก เสียงเข็มบอกให้หายใจตามเขา หายใจเข้านับ 1 2 3 4 เก็บลมหายใจไว้นับ 1 2 3 4 5 6 7 หายใจออกช้าๆ นับ 1 2 3 4 5 6 7 8

แขนผมโดนเจาะแล้ว ลูกเหล็กอยู่ในมือ แล้วผมก็บีบไว้แน่น เสียงเข็มยังอยู่ข้างๆ จอม บีบแล้วคลาย แล้วบีบ จอม หายใจตามผมนะ จอมรู้มั้ย เราจะรู้ว่ากระต่ายมีไข้รึเปล่า เราต้องจับที่หู แล้วผมก็รู้สึกว่ามีมือมาจับหู อังหน้าผาก แตะข้างแก้ม

เข็มเล่าเรื่องที่คลินิก เรื่องสัตว์แปลกๆ ที่เขาเคยไปรักษา คอยดึงใจผมให้อยู่กับเขา ตอนไหนสติผมหลุด ผมเริ่มใจสั่น หายใจเร็ว ก็ได้ยินเสียงเขาคอยบอกให้ผมหายใจช้าลง

แล้วเข็มก็ถูกถอดออกไป ความรู้สึกว่าเนื้อเหล็กเย็นๆ ฝังอยู่ในแขนยังเหลือค้าง เสียงเข็มพูดกับผมว่า ลืมตาได้แล้วนะ คุณเก่งมาก ผมลืมตามาก็เห็นเขายิ้มอยู่ตรงหน้า มือผมยังอยู่ในมือเขา ผมทำเรื่องน่ากลัวนั่นได้แล้ว ถ้าเล่าให้แม่ฟัง แม่ต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าผมทำได้เพราะมีเขา

ท้องไส้ผมยังปั่นป่วนอยู่เลย ตอนเข็มชวนผมกินของว่างของโรงพยาบาล ผมไม่ยอมกิน เขาก็เอาส้อมจิ้มขนมมาป้อนถึงปาก เขาบอกให้ผมรีบกิน เพราะคนมอง เขาเขิน ผมยอมกินขนมที่เขาป้อนแต่โดยดี ไม่ใช่เพราะคนมองหรอก สายตาแปลกแบบนั้น คงไม่ทำให้ใครเขินได้ ผมกินเพราะเข็มเป็นห่วงผม

เขาพาผมกลับมาส่ง แล้วไปทำงานต่อ ก่อนไปเขากำชับให้ผมกินธาตุเหล็ก กินน้ำเยอะๆ นอนพัก ถ้ามีอะไรผิดปกติให้รีบบอก เขาจะมา

เข็มน่ารัก ถ้าเขาน่ารักกับผมคนเดียวไปตลอดกาลก็คงดี

 

แล้วคนน่ารักคนนั้นก็ชวนผมไปดูหนังเรื่อง Ghost Lab หนังที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักและความตาย เข็มบอกว่า เขาไม่ค่อยได้ไปดูหนังในโรง แต่พระเอกทั้ง 2 คนในเรื่องเป็นเพื่อนเขา เขาเลยอยากไปดู

ตอนที่เข็มมารับ เขาตะลึงมองจนผมเขิน ผมถามว่าไม่เคยเห็นผู้ชายแต่งหน้าหรือไง เขาถึงได้หัวเราะบอกว่า เคย แต่ไม่ใช่คุณ ผมบอกเขาว่า ที่ห้างที่เราจะไปดูหนัง มีอีเว้นท์บ้านและสวน ผมก็เลยแต่งหน้าเพราะตั้งใจจะไปถ่ายรูป

เราซื้อตั๋วหนังเรียบร้อยแล้ว กำลังจะลงไปชั้นที่มีอีเว้นท์ ก็มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาทักเข็ม เธอคุยกับเข็มเหมือนทั้งโลกมีกันอยู่ 2 คน จนเข็มพูดว่า ผมมาดูหนังกับจอม นั่นแหละ เธอถึงได้หันมามองผม แล้วก็หันกลับไปถามเข็มว่า เข็มมากับ โอเมกา เหรอ ปลายเสียงแสดงอาการเหยียดแบบไม่ปิดบัง เธอยื่นนามบัตรมาให้ผม พูดกับผมว่า ถ้าอยากกำจัดรอยแผลเป็นที่คอก็ติดต่อมาได้ ช่วงเวลาแค่ไม่กี่วินาทีนั้น ผมทั้งเจ็บ อาย โกรธ แค้น ชิงชัง และ รู้สึกไร้ค่า ยิ่งเห็นสายตาอย่างนั้น เลือดในตัวผมก็เดือดพล่านจนอยากทำอะไรสักอย่าง เข็มก้าวมายืนชิดตัวผม ยื่นมือไปรับนามบัตรมาเก็บไว้เอง แล้วหันมาพูดกับผมว่า ถ้าวันไหนอยากทำบอกผมนะ เดี๋ยวผมพาไปเอง เข็มบอกลาผู้หญิงคนนั้น แตะหลังผม แล้วเลื่อนมือมาโอบเอวพาผมเดินผ่านเธอไป

เข็มพูดกับผมว่า เขาขอโทษ แต่ว่า ถ้ามากับเขาอีก ก็คงต้องเจอคนแบบนี้อีก ผมยังอยากมากับเขามั้ย เราเดินมาถึงจุดที่ผมตั้งใจมาถ่ายรูปพอดี ผมชี้ให้เขาดูชิงช้าดอกไม้ที่มีคนเข้าแถวรอถ่ายรูป ชิงช้าไม้ที่มีดอกไม้หลายสี พันเกี่ยวเป็นเกลียวร้อยสลับกับใบไม้สีเขียวไล่เฉดอ่อนแก่ เข็มถามผมด้วยเสียงพูดปนเสียงหัวเราะว่า อยากมีแบบนี้อยู่ที่บ้านสักอันหรือไง ผมมองเขาแล้วหันกลับไปมองชิงช้า ตอบเขาว่า ไม่หรอก แค่อยากให้มีแบบนี้สักอันให้แขกถ่ายรูปตอนวันแต่งงาน

เข็มถ่ายรูปให้ผม แล้วก็ขอถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกัน เรามีรูปคู่รูปแรก คู่กับชิงช้าที่ผมฝันอยากให้มีอยู่ในงานแต่งงานของผม

 

Ghost Lab เล่าเรื่องของคนที่พุ่งเป้าไปที่จุดมุ่งหมาย ยิ่งเป้าหมายชัด อย่างอื่นๆ ก็ค่อยๆ เลือนราง ไม่ว่าจะเป็นความดี ความงาม ความรัก จนสุดท้าย แม้แต่ตัวตนของตัวเองก็แทบมองไม่เห็น

ผมพูดกับเข็มว่า ผมคงไม่ลืมตัวอย่างหมอในเรื่อง เพราะคงมีคนคอยเตือนอยู่เรื่อยๆ ว่าผมเป็นแค่ โอเมกา

 

ผมรู้สึกแปลกๆ ตอนเดินออกมาที่ลานจอดรถ ผมบอกเข็มว่ามีคนตามเรามา เข็มบอกว่าเขาเห็นแล้ว โจทก์เก่า แค่ 2 คน คุณไหวมั้ย ผมเดินตามเข็มมาเงียบๆ คอยตั้งใจเสียงฝีเท้าที่ยังตามเรามาเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงรถอยู่แล้ว ก็มีอีก 2 คนโผล่มาดักหน้าเรา คราวที่แล้วหลอกกูซะเนียนเลยนะ มึงเสร็จกูแน่ ผมได้ยินแค่นั้น แล้วพวกนั้นก็พุ่งเข้ามาหาเรา

ผมฉากหลบ แล้วใช้วิชาป้องกันตัวที่แม่ผมส่งไปเรียนอยู่หลายปี จับคนนึงล็อกแขน บิดข้อมือ ดัดนิ้ว แล้วเหวี่ยงไปหาพวกเดียวกันเองจนล้มไปทั้งคู่ ผมฉวยโอกาสวิ่งไปเขย่ารถทุกคันที่อยู่แถวนั้น มีบางคันที่มีเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ผมได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังว่า เฮ้ย ไปจัดการมัน แต่ผมไม่หยุดวิ่ง ผมยังเขย่ารถอีกหลายคน จนเสียงสัญญาณกันขโมยดังลั่นไปทั้งลานจอดรถ เริ่มมีเสียงกรี๊ด เสียงคนวิ่งออกมาจากประตูห้าง ผมได้ยินเสียงเจ้า 2 คนที่ตามมา เรียกกันเองให้รีบหนี ผมเลยรีบวิ่งกลับมาหาเข็ม

เข็มเพิ่งลุกขึ้นยืน ปัดเสื้อผ้า แขนเขามีรอยถลอก โหนกแก้มแดง เลือดซึมอยู่ที่มุมปาก เขามองสำรวจผมขึ้นลงอยู่หลายรอบ ถามย้ำๆ ว่าผมไม่เป็นไรแน่นะ ผมบอกว่าไม่เป็นไรจริงๆ ที่ผมเรียนเป็นวิชาเอาตัวรอด ครูสอนให้เป็น survivor ไม่ใช่ fighter แบบคุณ

ผมขอกุญแจรถเขามาขับเอง ระหว่างทางไปบ้านเข็ม เขาเล่าให้ฟังว่าเจอพวกนั้นวันเดียวกับที่เจอผมครั้งแรก เขาใช้ปืนปลอมขู่พวกนั้นให้ปล่อยโอเมกาคนนึง เขาพาโอเมกาคนนั้นไปส่งบ้าน ถึงได้หลงทางมาถึงร้านผม เข็มบอกว่าเขาไม่อยากแจ้งความเพราะพ่อของพวกนั้น ก็คงไปเคลียร์กับตำรวจเหมือนที่ป๊าเขาทำ

ม๊าเข็มอยู่บ้านตอนที่ผมไปส่งเข็ม ม๊าตกใจนิดหน่อยตอนเห็นหน้าเข็มที่เริ่มบวม ผมจะลากลับแต่ม๊าบอกให้อยู่เป็นเพื่อนเข็มจะได้ช่วยประคบน้ำแข็ง แล้วก็กินข้าวเย็นด้วยกันก่อน ป๊ากลับมาเจอเข็มจะได้ไม่โดนดุ

ผมไม่รู้ว่าเข็มเล่าเรื่องผมให้ป๊าม๊าเขาฟังว่ายังไง ทั้ง 2 คน ดูไม่ค่อยแปลกใจที่เจอผม ม๊าเข็มใจดีและร่าเริงมาก ส่วนป๊าถึงจะดุกว่า แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไม่ชอบผม ทั้งที่รู้ว่าผมเป็นโอเมกา แล้วยังบอกให้ผมเรียก ป๊าม๊า เหมือนที่เข็มเรียกด้วย

 

ไม่กี่วันหลังจากนั้น เป็นวันหนึ่งในหน้าฝนที่แดดแรงตั้งแต่เช้า เข็มส่งรูปดอกเข็มขาวต้นที่ปลูกอยู่ในสวนหน้าบ้านมาให้ พร้อมข้อความว่า เพิ่งบานครับ

วันนี้ ร้านเรามีเมนูใหม่ เพิ่งมาทดลองขายวันแรก ผมลงโปรโมชั่นในเพจร้านว่า โปรเปิดตัว วันนี้วันเดียว สั่ง 1 แถมอีก 1 ลูกค้าประจำให้การตอบรับดีมาก มาแล้วก็สั่งกันแทบทุกโต๊ะ ตอนบ่ายๆ ร้านเริ่มว่าง ฝนเริ่มตก เข็มก็กระชากประตูร้านเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน ดึงแขนผมลากขึ้นชั้น 2 พอเข้าห้องนอน ล็อกประตูได้ เข็มก็แทบจะกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวผม

ผมไม่รู้ว่าเข็มเป็นอะไร ผมได้ยินเสียงเขาหายใจแรง รู้สึกถึงแรงที่โถมทับ กระแทกกระทั้นลงมาที่ตัวผม รู้สึกถึงรอยฉีกขาด และเลือด ผมเจ็บจนน้ำตาไหล ผมพยายามขยับตัวหนีแต่เข็มรั้งตัวผมไว้ แล้วเขาก็ทำต่อไปอีก ตัวผมเจ็บจนชาจนผมไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว แต่หัวใจผมปวดจนผมกำลังจะทนไม่ไหว ผมคว้าฟ้าน้อยมาอุดปากตัวเองไม่ให้เสียงร้องไห้ดังออกมา ผมซบหน้าลงกับฟ้าน้อย เข็มคนดี เข็มคนไม่ดี เข็มใจดี เข็มใจร้าย ผมเจ็บ

เข็มเสร็จแล้ว เขายังนอนทาบทับอยู่บนตัวผม ร่างกายเราแนบชิดกันแทบจะทุกส่วน แต่มันไม่อุ่นอีกแล้ว เข็มเลื่อนตัวมาพูดคำขอโทษอยู่ข้างหู จูบซับน้ำตา แต่มันยิ่งทำให้ผมเจ็บ ผมคือใคร แก้วเจ้าจอม หรือแค่โอเมกาต่ำๆคนหนึ่ง เข็มยังพูดว่า ผมขอโทษ ซ้ำๆ เขาขอดูแผล แล้วก็รีบแต่งตัวลงไปข้างล่าง ไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาล้างแผลใส่ยาให้ผม

เขาประคองให้ผมลุกขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ เข็มบอกว่าเขาจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอน แล้วจะเอาผืนนี้ไปซักให้

ผมถามเขาตอนเขากำลังทำท่าเก้ๆ กังๆ กับการปูผ้าปูที่นอนว่า ผ้ามันเลอะเลือดใช่มั้ย คุณทำแบบนี้ทำไม เข็มก้มหน้าก้มตาอยู่กับผ้าปูที่นอน พึมพำเบาๆ ว่า ผมรักคุณมั้ง ผมถามย้ำว่า คุณพูดว่าอะไรนะ แต่เข็มไม่ตอบผม

ผมได้ยิน เขาพูดว่า ผมรักคุณ ผมเคยคิดว่า วันที่ผมได้ยินประโยคนี้จากปากเขา ผมคงจะมีความสุขราวกับกำลังล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ แต่ตอนนี้ คำรักนั้นยิ่งเหมือนมีดกรีดแผลในใจผมให้ลึกกว้างลงไปอีก เขาทำร้ายผมเพราะเขารักผม มันเป็นวิธีปฏิบัติของอัลฟาคนนึงที่รักโอเมกาคนนึง งั้นหรือ

 

เข็มเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเสร็จแล้ว เขาพับผืนที่เปื้อนเลือด พาดไว้ที่แขน เข็มถามผมว่าอยากนอนต่อมั้ย ผมส่ายหน้า บอกให้เขากลับ เดี๋ยวผมจะลงไปดูร้าน เข็มยังพูดคำเดิมว่า จอม ผมขอโทษ เขาทำท่าจะเดินเข้ามาหา ผมหลับตา พูดกับเขาว่า ออกไป

ผมใช้เวลาร้องไห้อยู่อีกเป็นชั่วโมง กว่าจะรวบรวมชิ้นส่วนตัวเองที่มันแตกกระจัดกระจาย ประกอบร่างให้มันพอใช้ได้ แล้วก็ลงไปทำหน้าที่ของผม




Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2565 12:58:54 น. 0 comments
Counter : 521 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com