<<
สิงหาคม 2565
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 สิงหาคม 2565
 

เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 21

30 ต.ค.

ผมนัดเจอกับทนายความ  แล้วพาจอมไปโรงพัก  ผมแค่ต้องการแจ้งความ  ไม่ได้อยากเป็นข่าว  แต่กลับเจอนักข่าวรุม  มีนักข่าวถามว่า คิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับที่ผมเคยไปอาละวาดไว้หรือเปล่า  จอมรู้ว่าผมไม่ชอบคำถามแบบนี้  และผมกำลังโกรธ  เขาจับแขนผมไว้แน่น  กระซิบบอกผมว่า ไม่ได้นะเข็ม นักข่าวทั้งนั้น  ผมหายใจเข้าลึก  แค่นี้ก็วุ่นวายพอแล้ว  ทนายเข้ามาช่วยกันนักข่าวให้  ผมเลยรีบพาจอมออกมา

ผมออกจากโรงพักได้แค่ไม่กี่นาที มือถือผมก็ส่งเสียงแจ้งเตือนไม่ได้หยุด จนผมต้องส่งให้จอมช่วยปิดเสียง จอมบอกว่ามีแต่คนถามเรื่องที่รถโดนกรีด โลกยุค 5G แค่เพราะเป็นรถผมหรือไง ข่าวถึงได้ไปเร็วไปไกลขนาดนี้ แล้วมันยังไปแบบไร้ทิศทางด้วย มีคนเอาเรื่องนี้ไปแชร์ไปแสดงความคิดเห็นกันต่อจนกลายเป็นว่า แถวร้านจอม โจรชุม ผมตามเข้าไปทีหลังจอม เลยไม่รู้ว่าพีทพูดอะไรกับจอม ผมได้ยินเขาโวยวาย แล้วก็ปิดประตูใส่หน้าจอม แต่จอมบอกว่าไม่เป็นไร พีทโมโหก็เป็นแบบนี้ เดี๋ยวก็หาย จอมบอกให้ผมกลับไปทำงาน ถ้าผมอยากรู้เรื่องพีท เอาไว้ค่อยมาคุยกันตอนค่ำ

ว่านทำใบเตือนมาให้ผมเซ็น มันบอกว่านักศึกษาฝึกงานคนนี้ สะเพร่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ทั้งที่มีประวัติอยู่แล้วว่าสัตว์ตัวนี้ แพ้ยา แต่ก็ไม่ได้ดูให้ละเอียด ยังสั่งยาตัวที่แพ้ให้อีก ว่านย้ำกับผมว่า ยังไงก็ต้องให้ใบเตือน คราวที่แล้วก็ไม่ได้สังเกตว่าหมาไม่สบาย เจ้าของอยากให้ฉีดวัคซีนก็ฉีดให้ หมาตัวนั้นก็เลยแพ้วัคซีน ไม่สบายหนักอยู่หลายวัน ผมบอกว่านว่า ขอเรียกมาคุยอีกที ถ้าเขาอธิบายไม่ได้ว่าทำไมทำแบบนั้น ผมจะเซ็นให้ ว่านส่ายหัว บ่นใส่ผมว่า ใจดีตลอดอ่ะมึง

เพื่อนผมส่งคลิปมาให้ เขาบอกว่าในคลิปไม่มีเสียง เขาก็เลยไม่รู้ว่าจอมกับพี่นาราคุยอะไรกัน เขาส่งมาให้ดูเพราะจอมโดนแก้วบาด ผมเปิดคลิปดูแล้ว ดูเหมือนพี่นาราจะจงใจปาแก้วใบนั้นลงบนโต๊ะ หลังจากสาดน้ำใส่จอมไปแล้ว ถึงผมจะคิดว่าที่จอมเจ็บมันเป็นอุบัติเหตุ แต่ผมก็ไม่ชอบที่พี่นาราทำอยู่ดี ถ้าเขาไม่ยอมเห็นผมเป็นน้อง เป็นเพื่อน ผมก็คงต้องทำอะไรบ้าง แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ป๊าโทร.มาถามเรื่องรถ ผมบอกป๊าว่า คงไม่มีอะไร ให้ตำรวจท้องที่เขาตามดูก่อน ยังไงถ้าไม่ไหว ผมจะขอให้ป๊าช่วย

ผมรออยู่จนเย็น คิดว่าจอมจะโทร.มาบอก แต่จอมก็เงียบ ผมหยิบเทปปิดแผลแบบกันน้ำได้ใส่กระเป๋า แล้วก็ออกไปหาจอมตั้งแต่เย็น ผมว่าผมได้ยินพีทพูดเรื่องลูกค้าน้อยลง ผมเลยอยากไปดูให้เห็นเอง

ที่แขนจอมมีผ้าพันแผลปิดไว้เป็นแนวยาว จอมเห็นผมแล้วก็ยังไม่เล่าอะไรอยู่ดี ผมอดรนทนไม่ไหว ตอนจอมยกกาแฟมาให้ ก็เลยจับแขนเขามาดู ถามว่าไปโดนอะไรมา จอมก็ยังตอบแค่ว่า แก้วบาด แล้วจอมก็ไปทำโน่นนี่ของเขาไปเรื่อยจนปิดร้าน ก็ดีแล้ว คุยกันตอนนี้ ผมก็คงหงุดหงิดใส่เขาให้คนอื่นเห็น ผมกินข้าวเสร็จแล้ว ก็เอางานออกมาทำไปเรื่อยๆ ระหว่างรอจอม ร้านจอมลูกค้าน้อยลงจริงๆ กลุ่มลูกค้าที่ผมเคยเห็นมากันเป็นครอบครัว แทบไม่มีเลย

ผมขอจอมดูแผล แล้วจัดการเอาผ้าพันแผลออก ปิดเทปกันน้ำให้แทน จะได้ล้างของสะดวกหน่อย ไม่ต้องระวังมาก ผมบอกจอมว่า ตอนอาบน้ำก็ยังต้องระวัง ให้ผมอาบให้มั้ย จอมหัวเราะพูดว่า เขาไม่ใช่เด็ก ผมเลยบอกเขาว่า ไม่ใช่เด็ก ทีหลังอย่าทำแบบนี้ ผมไม่ชอบ  ผมรู้เรื่องหมดแล้ว  ผมถามว่ามีอะไรทำไมไม่บอก จอมไม่เถียงแต่ทำเสียงอ่อยๆ ว่า มันแค่เรื่องเล็กๆ ผมบอกจอมว่า เรื่องเล็กแต่เกี่ยวกับผม ก็ต้องบอก ผมถามว่าพูดอะไรกัน พี่นาราถึงได้โกรธขนาดนั้น จอมเล่าทั้งหมดให้ผมฟัง เขาพูดกับพี่นาราว่า เขาจะไม่ปล่อยให้ผมไปมีความสุขกับคนอื่น บอกด้วยว่า ผมเลือกให้โอกาสจอม เรียกจอมว่าแฟน วาดรูปจอมไปแขวนไว้ที่คลินิก แล้วก็เหตุผลที่ผมติดรูปเขาไว้เต็มห้องน้ำ

ฟังจอมเล่าจบ ผมก็อดขำไม่ได้ ถ้าผมเป็นพี่นารา ก็คงอยากทำอะไรสักอย่างให้จอมหยุดพูดเหมือนกัน ผมบอกจอมว่า ทีหลังไม่ต้องหวงผมขนาดนี้ก็ได้ ห่วงตัวเองบ้าง

ผมถามเรื่องที่พีทโวยวาย จอมบอกว่าพีทเครียด เพราะยอดขายไม่ดีมาสักพักแล้ว หลังจากผมพาเขาไปงานประมูลเพชรไม่กี่วัน ก็เริ่มมีมอเตอร์ไซค์แปลกๆ มาป้วนเปี้ยน มีรถลูกค้ามาจอดกินข้าวแล้วโดนทุบกระจก มีข่าวว่าแถวนั้นไม่ค่อยปลอดภัย พอข่าวเริ่มซา พีทคิดว่าจะทำโปรเรียกลูกค้า ก็มามีเรื่องกรีดรถอีก จอมโทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขาไม่ระวัง ผมไม่อยากให้จอมคิดแบบนี้ ผมบอกเขาว่า ถ้าจะโทษตัวเอง ก็ต้องโทษผมด้วย เพราะผมเป็นคนยืนยันให้เอารถมา เลิกคิดแล้วไปอาบน้ำนอนกันดีกว่า

ผมจะตามไปอาบน้ำให้ แต่จอมหัวเราะ บอกว่าไม่ต้อง ให้คุณอาบให้ ผมคงไม่ได้นอน ก็ถูกของเขา ถึงผมไม่ได้มีอะไรกับเขา แต่ผมทำให้จอมหัวเราะได้ สำหรับวันเครียดๆ อย่างวันนี้ ก็ดีพอแล้ว

 

แค่ 2-3 วัน ตำรวจก็ได้ตัวคนร้ายแล้ว ทนายโทร.มาแจ้งให้ผมพาจอมไปโรงพัก คนร้ายเป็นแค่เด็กติดยา อายุ 15 เท่านั้น ตำรวจบอกว่าเด็กรับสารภาพแล้ว ที่ทำก็เพราะอยากได้ยา เด็กนั่นได้ค่าจ้างเป็นยาบ้า 2 เม็ด จากคนที่ขายยาให้เขานั่นแหละ ตำรวจบอกว่า น่าจะมีคนจ้างมาอีกที ผมไม่เห็นพ่อแม่เด็ก ตำรวจบอกว่า กำลังตามให้ แต่ไม่รู้ว่าจะมาได้เมื่อไหร่ เพราะไปทำงานต่างจังหวัดกันหมด เห็นหน้าเจ้าตัวแสบนี่ ทีแรกผมก็โกรธ แต่พอรู้ว่าครอบครัวเป็นแบบนี้ ผมก็อดสงสารไม่ได้ ถ้าผมเอาเรื่องต่อ พ่อแม่ก็เดือดร้อน เด็กก็เสียประวัติ ผมหันมาถามจอมว่าเอาไง จอมเหมือนรู้ใจ เขาบอกว่าแล้วแต่ผม เขาถามอีกว่า ถ้าไม่เอาเรื่อง ก็ต้องถอนแจ้งความ จะตามเรื่องต่อยังไง เรื่องนี้มีผลกับร้านจอม แล้วผมก็อยากรู้ว่าคนว่าจ้างเป็นใคร ผมบอกจอมว่า ผมจะจ้างนักสืบ ผมบอกเด็กว่า ผมจะไม่เอาเรื่อง แต่จะส่งเขาเข้าสถานบำบัด แล้วจะคอยตามดู ถ้าหนีออกมาก่อนบำบัดเสร็จ ผมจะกลับมาเอาเรื่อง ทีนี้จะเอาให้ขังลืมเลย เด็กนั่นยกมือไหว้ผม แล้วก็ร้องไห้

น่าสงสาร ก็ขอให้ผมช่วยคนไม่ผิดแล้วกัน

ผมบอกกับตำรวจว่า ขอฝากขังไว้ก่อนสักวัน เผื่อจะเข็ดหลาบ ขอเวลาไปดำเนินเรื่องส่งเด็กเข้าสถานบำบัดยาเสพติด แล้วจะให้ทนายมาถอนแจ้งความ

ผมรักจอมจัง เราคุยกันมาในรถ จอมไม่โกรธ ที่ผมไม่เอาเรื่องเด็ก ไม่โกรธเด็กที่ทำเรื่องให้เขา เขาคงสงสารเด็กเหมือนกัน จอมถามว่า ไม่โกรธเด็กเหรอ ผมตอบว่าโกรธ แต่บ้านผมมีรถหลายคัน เด็กมีชีวิตเดียว พูดแค่นี้จอมก็เข้าใจแล้ว ผมถามจอมว่า กลัวรึเปล่า เพราะเด็กสารภาพว่า ไม่ได้ตั้งใจ เจาะจงมาทำรถผม เด็กโดนจ้างให้มาทำรถจอม แต่เด็กเห็นจอมเอารถผมมาจอด ก็เลยเข้าใจผิด จอมยังบอกว่าไม่เป็นไร ตำรวจจับคนทำได้เร็ว คนจ้างก็คงไม่กล้าทำอะไรแล้ว ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมคิดผิด ผมประเมินเรื่องนี้ต่ำเกินไปมาก ไม่กี่วันต่อมา ร้านจอมถูกปาหินใส่จนกระจกหน้าร้านแตก

จอมโทร.หาผมแต่เช้า ผมรีบเข้าไปดู พีทกำลังยืนทำหน้าเซ็งอยู่หน้าร้าน พีทถามด้วยเสียงไม่พอใจว่า ถ้าจับได้ว่าคนทำเป็นเด็กติดยาอีก จะปล่อยอีกมั้ย ผมรู้สึกไม่ดีเลย ไม่น่าประมาทจนเกิดเรื่องกับจอมซ้ำอีก ผมขอโทษพีท บอกเขาว่าผมขอรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด แต่เขาไม่รับ เขาบอกให้ผมใช้พาวเวอร์ตัวเองไปจัดการกับคนร้ายให้ได้เร็วๆ ดีกว่า

เรื่องนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ผมบอกให้จอมไปอยู่บ้านผมก่อน ผมเป็นห่วง ไม่อยากให้อยู่ที่นี่ ไม่อยากให้จอมไปนอนบ้านแม่ด้วย เพราะไม่รู้จะมีใครตามไปทำอะไรอีกหรือเปล่า ลำพังแค่ผม ก็คงดูแลอะไรไม่ได้มาก

 

ผมพาจอมไปแจ้งความ ไปถึงโรงพัก นักข่าวก็กรูเข้ามายังกับรู้อยู่แล้วว่าเราจะมา หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีรูปผมกับจอม และกระจกแตกที่หน้าร้าน ไปลงเป็นข่าว ผมเห็นรูปแล้วก็เริ่มสงสัยว่า มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ตอนเราออกมา พีทบอกว่าจะหากระดาษมาติดทับไว้ก่อน จะได้ไม่ดูน่ากลัว ระหว่างรอหาช่างมาซ่อม แล้วพีทก็ถ่ายรูปที่กระจกที่เขาติดกระดาษทับไว้ให้จอมดูตั้งแต่ยังไม่ถึงโรงพัก ก่อนหน้านั้น เราก็อยู่กันที่หน้าร้าน ไม่มีทางถ่ายรูปโดยไม่ติดพวกเราได้ หมายความว่า คนถ่ายรูป มีเวลาแค่ไม่กี่นาที ที่จะได้รูปกระจกแตก ตอนกลางวัน โดยไม่ติดเรา 3 คนไปด้วย

ผมกลับมาส่งจอมเอารถ บอกให้เขาขับรถเขาไปบ้านผมเลย คงต้องอยู่หลายวัน เผื่ออยากไปไหนจะได้มีรถใช้ ผมจะไปทำงาน แล้วจะไปหานักสืบด้วย

 

ว่านเอาลิสต์รายการอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับห้องผ่าตัดเฉพาะสำหรับสัตว์เล็กเข้ามาให้ มันบอกว่าเห็นผมยุ่ง ก็เลยเช็คสเปคของมาให้แล้วด้วย ให้ผมเลือกว่าอยากได้ยี่ห้อไหน ว่านถามว่าจอมเป็นไงบ้าง มีข่าวแชร์มาว่า มีคนปาหินใส่ร้าน เกือบโดนคนที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างในด้วย ผมพูดกับว่านว่า แม่งมั่ว มันมาปาตอนกลางคืน ในร้านมีจอมคนเดียว นอนอยู่ชั้น 2 จะไปโดนใครได้ กูเพิ่งพาเขาไปแจ้งความเมื่อเช้านี้เอง ว่านเปิดมือถือให้ผมดูข่าว แล้วก็บอกว่า แปลกว่ะ ยังกับจงใจสร้างสถานการณ์ เพื่อปล่อยข่าวปลอม ข่าวแชร์กันแบบนี้ ใครจะกล้าไปร้านน้องตาหวานของมึงล่ะ ถูกของว่าน ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ทุกอย่างมันเหมาะเจาะเกินไป

จอมอยู่ในห้องผม กำลังอ่านอะไรในมือถือ ก็คงไม่พ้นข่าวแย่ๆ ของร้านเขา จอมบอกว่าแก้ข่าวแล้วคนก็ไม่อ่าน พีทบอกให้ปิดร้านไปก่อนระหว่างรอช่างมาเปลี่ยนกระจก ผมไม่อยากให้จอมอ่านข่าวต่อแล้ว เลยบอกให้เขาไปทำกาแฟ แต่พอผมอาบน้ำออกมา มีกาแฟวางไว้บนโต๊ะ และจอมก็ไปอยู่กับมือถืออีกแล้ว ผมดึงออกจากมือเขา เอาไปวางที่อื่น บอกเขาว่า ผมไม่ให้อ่านแล้ว ผมบอกจอมเรื่องที่นักสืบบอกผมว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะกรีดรถ ปาหิน ข่าวปลอม กระแสบุลลี่เขา ไม่ได้บังเอิญมาเกิดพร้อมกัน มันเป็นการจงใจให้เกิด

ผมแค่ไม่อยากให้จอมใส่ใจกระแสบุลลี่ปลอมๆ พวกนั้น แต่ดูเหมือนกระแสนั่นจะมีผลกับจอมมาก ผมเห็นคอมเม้นท์แรงๆ ที่สมน้ำหน้าจอม เยาะเย้ยจอมว่าเป็นแค่โอเมกาอยากจะมาเคียงข้างอัลฟา ก็ต้องโดนแบบนี้ เห็นสีหน้าเขาเหนื่อยอย่างนั้น ผมอดกลัวไม่ได้ว่าเขาจะถอดใจ ถอยออกไปจากชีวิตผม จะได้ไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้

ผมจับมือจอม มองตาเขา พูดกับเขาว่า รักผมก็อยู่กับผม ห้ามทิ้งผม ผมรักเขา ผมก็จะอยู่กับเขาเหมือนกัน ห้ามคิดว่าไม่คู่ควรกับผม ทุกอย่างจะเรียบร้อย ขอให้เชื่อใจผม ผมจูบจอม จอมจูบตอบผม

ตอนนี้เราอยู่ด้วยกัน ต่อๆ ไป เราก็ต้องอยู่ด้วยกัน

จอมจะช่วยม๊าทำอาหารเช้า แต่ม๊าไม่ให้ทำ บอกให้ไปนั่งกินสบายๆ เอาไว้ค่อยมาทำมื้อเที่ยงไปส่งให้ผมกินที่คลินิก ม๊าตามมาส่งผมกับป๊าเหมือนทุกวัน จอมเดินตามหลังมาห่างๆ ป๊าหอมแก้มม๊าแล้วก็ออกไป แต่ม๊าไม่ยอมกลับเข้าข้างใน ยืนดูผมกับจอม ผมเลยต้องเรียกให้จอมตามไปที่รถ แล้วก็หอมแก้มเขา จอมหัวเราะถามว่าผมเขินม๊าเหรอ ผมบอกเขาว่า ม๊าชอบล้อผม ผมโตป่านนี้แล้วก็ยังไม่เลิก จอมยังหัวเราะ บอกว่า ก็คุณเขินแล้วน่ารัก

ถ้าไม่ติดว่าผมเอาเวลางานมาตามเรื่องจอมหลายวันแล้ว ผมจะลากจอมขึ้นห้องเดี๋ยวนี้

 

ผมเรียกนักศึกษาฝึกงานคนนั้นมาถามสาเหตุที่เขาจ่ายยาที่สัตว์ตัวนั้นแพ้ให้ไป ทั้งที่มีบันทึกไว้ในประวัติการรักษา เขายอมรับว่าเขาอ่านไม่ละเอียด แต่ประวัติการรักษามันยาวมาก แล้วที่คลินิกผมก็ยังใช้บันทึกลงกระดาษ ประวัติการแพ้ยาก็ไม่ได้แยกไว้ชัดเจน ตัวเขาเองก็ไม่ได้รักษาสัตว์ตัวนี้มาตั้งแต่แรก ก็เลยพลาด

หน้าตาเขาไม่ได้ดูสำนึกผิดเลยว่าเขาเกือบทำสัตว์ตัวนั้นตาย ผมลุกขึ้นยืน พูดกับเขาว่า คุณรู้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาฝึกงานแล้วว่า ระบบของที่นี่เป็นแบบนี้ มันเป็นหน้าที่ของคุณ ที่คุณต้องอ่านให้ละเอียด เขาลุกขึ้นยืนเถียงผมว่า ถ้าทำเอกสารให้ชัดเจน ผมก็ไม่พลาด ผมถามเขาเสียงดังกว่าเดิมว่าแปลว่า ถ้าคุณยังต้องทำงานภายใต้ระบบนี้ คุณก็จะพลาดซ้ำอีก ใช่มั้ย เด็กนั่นทำท่าจะตอบ แต่ประตูห้องทำงานผมเปิดออกโดยไม่มีเสียงเคาะ ผมถามเสียงดุทั้งที่ยังไม่ได้หันไปมองว่า เข้ามาทำไม ใครอนุญาต

จอมยืนมองผมอยู่ที่ประตู พูดกับผมว่า ถ้าคุณจะดุน้องคนนี้คนเดียว คุณต้องลดเสียงลงนะ เมื่อกี๊คุณเสียงดังเหมือนกำลังดุคนทั้งคลินิก ผมมาส่งมื้อเที่ยง รอที่ห้องกินข้าวนะ แล้วจอมก็ปิดประตู

ผมลดเสียงลง พูดต่อว่า ผมจะให้พนักงานแก้ไขเอกสารใหม่ ให้เขาทำใบประวัติการแพ้ยาแยกออกมาต่างหาก ผมหยิบใบเตือนที่ว่านทำยื่นให้เขา บอกเขาว่า ผมยังไม่ได้เซ็น แต่ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ความไม่ละเอียดรอบคอบของคุณ ทำให้เกิดข้อผิดพลาด เขารับเอกสารไปแต่ไม่ได้สนใจจะอ่าน เขามองผม ถามผมตรงๆ ว่า คุณเป็นอัลฟา ทำไมยอมให้โอเมกาคนนั้นมาสั่งคุณ ผมหายใจเข้า บอกตัวเองว่า ไม่อาละวาด ถามเขากลับว่า ทำไม เขาตอบผมว่า โอเมกาเป็นคนชั้นล่าง จะให้มามีอำนาจเหนืออัลฟาอย่างเราได้ยังไง ผมหายใจเข้าลึกอีกรอบ บอกให้เขากลับไปทำงาน ผมโทร.หาพนักงานให้ค้นประวัติเจ้าของสัตว์ที่เด็กนั่นทำพลาด ว่าเป็นโอเมกาหรือเปล่า แล้วผมก็ออกไปหาจอมที่ห้องกินข้าว

จอมจัดอาหารใส่จานเสร็จแล้ว เขาบอกว่า ม๊ากลัวว่าอยู่บ้านเฉยๆ จะเบื่อ ก็เลยให้ออกมากินข้าวกับผม แล้วเลยไปซื้อของมาทำมื้อเย็นด้วย จอมถามผมว่า อยากกินอะไร เขาเลือกของเก่ง แต่ทำอาหารเป็นอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ม๊าบอกว่าจะสอนให้ ผมบีบแก้มจอมด้วยความเอ็นดู เจ้าเด็กนั่นคงอาภัพ ไม่รู้จักความรักเหมือนที่ผมรู้จัก ผมบอกจอมว่า เอาที่คุณทำเป็นก่อนก็ได้ ผมไม่เคยกินอาหารฝีมือคุณเลยนะ นอกจากข้าวไข่เจียว แต่คุณต้องรอกินพร้อมผมนะ อาจจะค่ำหน่อย ผมจะไปหานักสืบก่อน

จอมกลับไปแล้ว พนักงานเข้ามารายงานว่า เจ้าของสัตว์เป็นโอเมกาทั้ง 2 เคส ผมไปหาว่านที่ห้องตรวจ บอกเขาว่า ผมไม่เอาใบเตือน ผมอยากได้ใบส่งตัวเด็กคนนั้นกลับ ให้เขาไปหาที่ฝึกงานใหม่ ผมพอเข้าใจเรื่องความผิดพลาดในการทำงาน แต่ผมรับไม่ได้ที่เขาเหยียดชนชั้น

เคสผ่าตัดวันนี้ ไม่ยากเท่าที่คิดไว้ ผมเลยมีเวลาออกไปหานักสืบได้เร็วขึ้น เขาทำงานเร็วกว่าตำรวจ ถึงเรื่องที่เขาสืบได้ จะเอาไปเป็นหลักฐานทางคดีไม่ได้ แต่ผมก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ เขาบอกว่า ไฮโซคนนั้น ชื่อ นารี ผมเห็นรูปแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า เป็นไปได้ยังไง คนในรูปคือป้านารี ที่มาถามผมวันงานประมูลเพชร ว่าทำไมผมพาโอเมกาเข้ามา ป้านารีดูเป็นคนถือตัว แต่ก็ไม่ได้ดูเป็นคนใจร้ายอะไร นักสืบบอกว่า ป้านารีเป็นพวกแอนตี้โอเมกา เขาไปสืบมาแล้ว แถวละแวกบ้านป้านารี ไม่มีโอเมกาอาศัยอยู่เลย เพราะถ้ามีโอเมกาย้ายเข้ามาอยู่ ป้านารีจะส่งคนไปก่อกวนจนอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายออกไป คนเก่าคนแก่แถวนั้น เขารู้กันดี แต่ไม่มีใครทำอะไร เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนแฮกเกอร์ บอกว่า ป้านารีจ้างนักคอมพิวเตอร์ทำแบบนี้ 2-3 ครั้งแล้ว ปล่อยข่าว สร้างกระแส จนคู่รักเลิกกันไปจริงๆก็มี  แฮกเกอร์ยังบอกผมว่า เขารู้จักคนที่ทำงานนี้ ปล่อยข่าวได้ เขาก็ลบได้ หรือจะให้เขาสร้างกระแสโจมตีป้านารีก็ยังได้ ถ้าผมอยากจ้าง เขาทำได้หมด ผมฟังแล้วอยากจะต่อยคนทำให้ปากแตก แต่ผมก็ต้องพึ่งเขา  ผมบอกแฮกเกอร์ให้ติดต่อให้ด้วย  ผมต้องการให้ลบข่าวของร้านจอม แล้วก็โพสต์ที่บุลลี่จอมด้วย เขายังให้รายชื่อ Blogger กับ Influencer ผมมาด้วย เขาบอกให้ผมจ้างพวกนี้ทำรีวิวร้าน เดี๋ยวก็มีลูกค้าใหม่เข้ามา สักพัก คนก็ลืมเรื่องข่าวไปเอง

ผมกลับไปเล่าให้ป๊าม๊า กับจอมฟังเรื่องที่นักสืบบอกผม ป๊าม๊าจะไปคุยกับป้านารี แต่ผมบอกว่า ผมอยากไปเองมากกว่า ผมอยากแน่ใจว่า ป้านารีจะไม่ทำแบบนี้ซ้ำอีก

ผมนั่งข้างหลังจอม กอดเขาไว้ บอกจอมว่าผมขอโทษ ถ้าแฟนคุณไม่ใช่อัลฟาแบบผม คุณคงไม่ต้องเดือดร้อนขนาดนี้ จอมจับมือผมไปบีบเบาๆ บอกว่า ถ้าแฟนคุณไม่ใช่โอเมกา คุณก็คงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกัน ผมขยับตัวไปนั่งข้างจอม ผมพูดกับจอมว่า สายเลือดเราจะมาจากไหน เราก็เป็นคนเหมือนกัน เป็นคนที่รักกันด้วย ใช่มั้ย จอมพยักหน้ารับ ผมกอดเขาแน่นขึ้นอีก บอกเขาว่า ม๊านัดป้านารีได้วันไหน ผมจะรีบไปเคลียร์ให้เรียบร้อย ผมลูบแขนเขาตรงที่โดนแก้วบาด ผมจะไปจัดการกับพี่นาราด้วย จอมหันมาถามว่าผมจะไปทำอะไร จอมทำหน้าตาตื่น ผมหัวเราะ บอกจอมว่า ผมไม่เอาแก้วปาเขาคืนหรอกน่า ผมพาจอมมานั่งที่พื้น แล้วไปยกกล่องผ้าไหมสีทองออกมาเปิดให้จอมดู ในนั้นมีทั้งของที่พี่นาราให้มา กับที่ผมเก็บไว้เป็นที่ระลึก จอมหยิบตั๋วหนังใบหนึ่งขึ้นมาดู ด้านหลังมีข้อความว่า คนสวยชอบหนังผี ผมบอกจอมว่า ผมจะเอาของที่พี่นาราให้ไปคืน ส่วนกระดาษกับรูปพวกนี้ ผมจะเอาทิ้ง แต่จอมบอกว่าอย่าทิ้งเลย วันหนึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมก็ไม่อยากให้คุณทิ้งความทรงจำของเราไปจนหมดเหมือนกัน แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าคุณรักผม ผมโยกหัวเขาเบาๆ บอกว่า ก็ได้ ผมเอากล่องผ้าไหมไปเก็บ เอากล่องกระต่ายมาให้จอมดู บอกจอมว่า นี่กล่องของคุณ จอมหยิบกล่องถุงยางขึ้นมาดู พึมพำว่า ไม่น่าล่ะ ผมหาไม่เจอ จอมหยิบของในนั้นดูไปเรื่อยๆ ผมเห็นเขายิ้ม แก้มเขาแดง น้ำตาเขาซึม ผมบอกเขาว่า ในนั้นมีแต่ความทรงจำของผม เรามาเริ่มเก็บความทรงจำของเราไว้ด้วยกันนะ ผมขยับไปนั่งข้างเขา บอกให้เขายิ้ม ผมถ่ายรูปเรา 2 คน พิมพ์รูปออกมา เอามายื่นให้จอมพร้อมปากกา จอมเขียนลงไปว่า ความทรงจำแรก กับ คนสุดท้ายของผม ผมเขียนข้อความเดียวกันลงไป แล้วจูบเขา

ก่อนหน้านี้ กล่องความทรงจำนั้นเป็นของผม แต่นับจากนี้ มันเป็น ของเรา




Create Date : 19 สิงหาคม 2565
Last Update : 28 สิงหาคม 2565 22:20:54 น. 0 comments
Counter : 324 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com