เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 5
31 พ.ค. ผมเล่าเรื่องจอมให้ม๊าฟัง เพราะผมอยากได้ขนมของม๊าไปให้จอม วันที่นัดกัน ผมวางแผนไว้ว่าจะย้ายเจ้าโบ้หมาวัด ไปอยู่ที่ที่ปลอดภัยกว่า สบายกว่า และเป็นประโยชน์มากกว่า ผมเล่าให้ม๊าฟังเรื่องที่ผมบังเอิญไปเจอจอม เรื่องที่ผมคุยกับจอมที่คลินิก เรื่องที่ผมพาจอมไปบ้านป้าแนม เรื่องที่เขาเป็นโอเมกา เรื่องที่ผมชวนเขาไปด้วยกัน ม๊าตั้งใจฟังผมเล่าอยู่นาน ก่อนจะถามว่า จอมเป็นผู้ชายเหรอ เข็มชอบเขาเหรอลูก เขา เป็น ผู้ ชาย นะ ประโยคสุดท้าย ม๊าเน้นเสียงทีละคำ ช้า ชัด จริงสิ จู่ๆ ผมก็เพิ่งรู้สึกว่า จอมเป็นผู้ชาย ผมไม่เคยชอบผู้ชาย ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วยังเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วย เราคบกันหลายปี ก่อนเธอจะหายไปจากชีวิตผม ผมไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหน เหมือนที่รู้สึกกับจอม และก็ไม่รู้ด้วยว่า ที่ตัวเองรู้สึกอยู่ คืออะไร ผมแค่รู้สึกดีที่ได้เห็นเขา ยิ้มให้สติ๊กเกอร์ทุกอันที่เขาตอบไลน์กลับมา ดีใจที่เขาตอบตกลงจะไปด้วยกันตามนัด อยากบอกกับเขาให้ฝันดีก่อนนอนทุกคืน นี่ผมกำลังชอบผู้ชายอยู่หรือไง ก่อนถึงวันนัดไปรับเจ้าโบ้ ผมไปซ้อมยิงปืนที่สนามซ้อมยิง ถึงผมจะมีปืนพกติดตัว แต่ผมก็ไม่ได้ยิงจริงๆ มาสักพักแล้ว ผมเลยต้องกลับไปซ้อมให้มั่นใจว่า ตัวเองจะไม่พลาด เพราะผมคงมีโอกาสแค่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น ปกติผมยิงปืนแม่นพอตัว แต่วันนี้ สมาธิผมไม่ดีเลย ผมคิดถึงหน้าจอม คิดถึงคำถามของม๊า กระสุนชุดแรกที่ผมยิงเกือบทั้งหมด พลาดจากจุตายไปโดนที่หัวใจ ผมลองเปลี่ยนปืนแล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ผมหมดกระสุนไปเกือบครึ่งของที่เตรียมมาซ้อม กว่าสมาธิผมจะเข้าที่ และกลับมายิงเข้าจุดที่ต้องการ ได้เหมือนที่เคยทำได้ ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องยอมรับว่าตัวเองชอบผู้ชาย แต่ถ้าจะไม่รับแล้วปล่อยให้จอมหายไปจากชีวิต ผมก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น วันที่จะไปรับเจ้าโบ้ ผมขอยืมรถคันใหญ่ของป๊า เตรียมกรงใบใหญ่ใส่ท้ายรถ แล้วก็ยังมีกระติกน้ำแข็งใส่วัคซีน กล่องใส่อุปกรณ์สำหรับฉีดวัคซีน ผมไม่แน่ใจว่าเจ้าโบ้จะยอมมาด้วยดีๆ หรือเปล่า ก็เลยเตรียมปืนใส่กล่องไปด้วย ม๊าช่วยผมเอาของใส่รถ ส่งกล่องขนมให้ ม๊าบอกว่าทีแรกว่าจะทำขนมที่จอมชอบ แต่คิดอีกที น่าจะให้เขาได้กินขนมแบบที่บ้านเราชอบมากกว่า เขาจะได้รู้จักบ้านเรามากขึ้น ม๊ากอดผมแล้วบอกว่า ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน ดูใจเขา ดูใจตัวเราเองด้วย ผมไปถึงที่ร้านจอมตามเวลานัด จอมเตรียมตัวพร้อมรออยู่แล้ว จอมดูหล่อตามปกติของเขา ผมเองต่างหาก ที่เพิ่งรู้สึกตัวว่า คิดถึงเขามาก ผมไม่ได้ละสายตาจากเขาเลย ตั้งแต่เขาก้าวออกมาจากร้าน ล็อกประตู หันมายิ้มให้ผม เดินมาขึ้นรถ มองจนเขาถามว่า เขาลืมรูดซิปกางเกงรึเปล่า นั่งรถกันไปสักพักแล้ว ผมถามจอมว่ากินอะไรมารึยัง แล้วก็ส่งกล่องขนมของแม่ให้ บอกจอมว่า ม๊าผมทำทอฟฟี่เค้กอร่อย จอมรับกล่องไปเปิดดูแล้วทำหน้าแปลกๆ พึมพำเบาๆ ว่า ม๊าคุณคงขี้เล่นเนอะ ผมหันไปทำหน้าสงสัย จอมเลยเอียงกล่องให้ผมดู หน้าทอฟฟี่เค้กซึ่งปกติก็ไม่มีอะไรตกแต่ง กลับมีมาร์ซิแพนปั้นเป็นรูปเด็กผู้ชาย 2 คน คนนึงใส่เสื้อสีขาว อีกคนใส่สีฟ้าอมม่วง สีของดอกเข็มขาว กับ แก้วเจ้าจอม แปะมาบนหน้าทอฟฟี่เค้กด้วย ผมเขินจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยิ้ม ไหนม๊าบอกว่า อย่ารีบ.... จอมหัวเราะร่วน ถามว่าม๊าผมรู้ได้ยังไง ผมโดนแม่แกล้งบ่อยมั้ย ผมอยากกินเขาหรืออยากกินตัวเอง ผมหันไปมองหน้าจอมแล้วก็ต้องรีบหันกลับมา กลัวจอมเห็นความติดที่เตลิดไปไกลในใจผม ผมบอกว่า ตามใจจอมเลย เขาหยิบเด็กเสื้อสีขาวเข้าปาก แล้วบอกว่า ตัวเขา เขาให้ผม เราออกกันเช้ามาก สายๆ หน่อยเราก็ถึงบ้านป้าแนมแล้ว จอมช่วยผมขนของลงจากรถ ช่วยเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ฉีดวัคซีน แต่จอมไม่ยอมจับเข็มฉีดยา เขาบอกว่า เขากลัวเข็ม ถึงจะยังอยู่ในปลอก ก็กลัวอยู่ดี ผมบอกป้าแนมว่า อีก 2 อาทิตย์ จะกลับมาทำหมันให้แมว วันนี้ได้แค่ฉีดวัคซีน เพราะผมต้องเอาเจ้าโบ้จากวัดไปส่งที่อื่นก่อน ป้าแนมมาช่วยจับแมวให้ผมฉีดวัคซีน จอมหายตัวไปแล้ว จนผมจัดการตัวสุดท้ายเสร็จแล้ว กำลังเตรียมจะเก็บของ จอมถึงได้เดินมาหา พร้อมกับกระติกน้ำแข็งใบจิ๋วที่เขาเอาติดตัวมาด้วย เขาปิดออกแล้วหยิบของข้างในยื่นให้ผม มันเป็นผ้าขนหนูสีฟ้าผืนเล็ก เย็นและหอม จอมบอกว่า สงสารว่าผมจะร้อน คราวที่แล้ว ลงมาเดินกันแป๊บเดียว ผมเหงื่อออกจนตัวเปียก คราวนี้เขาเลยเตรียมผ้าเย็นมาให้ ผ้านั้นชุบน้ำจนชุ่ม แช่มาเย็นจัด เกล็ดน้ำแข็งบางๆ ยังจับอยู่ที่ผ้า ผมคลี่ผ้าออกเช็ดมือ เช็ดหน้า ผ้านั้นทำให้ผมเย็นตัว แต่กลับอุ่นอยู่ข้างใน ผมพันผ้าคืนจอม กลิ่นหอมจากผ้ายังติดอยู่ที่ผิว หอมเย็นชื่นใจ เหมือนเวลาเขายิ้มให้ผม ยังไงยังงั้น เราลาป้าแนมแล้วไปวัดกันต่อ จอมกับหลวงพี่ไปช่วยกันตามหาเจ้าโบ้ ระหว่างที่ผมประกอบปืนยิงลูกดอกยาสลบ ผมมีปืนมาแค่กระบอกเดียว ผมต้องยิงให้เข้าที่หลังคอ ตรงใต้ฐานสมอง เพื่อให้ยาสลบเข้าสู่สมองได้เร็วที่สุด ผมมีโอกาสครั้งเดียว พลาดไม่ได้ เพราะถ้าผมยิงพลาด แล้วเจ้าโบ้หนี จะตามไปยิงดอกที่ 2 ก็ยากแล้ว แต่โชคดีที่วันนี้ งานง่ายกว่าที่คิด เจ้าโบ้กำลังหลับสบายอยู่ใต้ต้นไม้ ผมเลยเล็งยิงได้สบายๆ เจ้าโบ้โดนลูกดอกปักก็ตกใจตื่น ลุกขึ้นเดินหนี เดินไปได้ไม่นาน ยาสลบก็เริ่มออกฤทธิ์ แต่ก็ยังช้ากว่าเวลาที่ผมคำนวณไว้ ผมเลยต้องฉีดยาสลบเพิ่มไปอีกนิดหน่อย เพื่อให้มั่นใจว่า เจ้าโบ้จะไม่ตื่นก่อนถึงที่หมาย ยังต้องขับรถอีกเกือบ 2 ชม. กว่าจะถึงศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ที่ผมตั้งใจส่งเจ้าโบ้ไปอยู่ ให้มันได้ทำประโยชน์ให้เพื่อนหมาด้วยกัน พอจอมรู้ เขาก็ไปหาของกินมาให้ผมรองท้อง เพราะอีกนานกว่าจะได้กินข้าว ส่วนทอฟฟี่เค้ก พอผมบอกว่า ผมกินที่บ้านบ่อยแล้ว จอมก็กินจนหมดกล่องตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้านป้าแนม ผมเห็นแบบนั้นก็อดบ่นไม่ได้ว่า เขาไม่ควรกินของหวานเยอะขนาดนี้ จอมยิ้มให้ผม บอกว่า ไม่ต้องห่วง ปกติไม่กินเยอะแบบนี้ วันนี้ไม่ปกติ ม๊าคุณทำเค้กอร่อย ผมเพิ่งรู้วันนี้ว่า จอมร้องเพลงเพราะมาก เขาร้องไปเรื่อยตามเพลงที่รายการวิทยุเปิด สลับกับคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ผมฟัง จอมเขาดูมีความสุขง่าย อะไรๆ เขาก็เล่าให้เป็นเรื่องที่ฟังแล้วต้องยิ้ม แต่จู่ๆ เขาก็เงียบไปเฉยๆ ผมหันไปดู จอมหลับไปแล้ว ขนตางอนยาวทาบอยู่ที่แก้ม สันจมูกเป็นเส้นสวย ข้างแก้มมีรอยเคราเขียวจางๆ ผมเอามือถือมาถ่ายรูปจอมเก็บไว้ ผมไม่เคยกล้าขอเขาถ่ายรูปเลย เพราะผมไม่รู้จะตอบยังไง ถ้าเขาถามว่า ผมจะเอารูปไปทำอะไร ผมมาที่ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินหลายครั้งแล้ว คุ้นเคยกับพี่ๆ ที่นี่หลายคน ส่งเจ้าโบ้เสร็จ ก็เลยขออนุญาตพาจอมเดินดูเล่น จอมชอบโซนธาราบำบัดมาก ทำท่าอยากจะลงไปแช่น้ำกับหมาๆ ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ในสระ ผมพาจอมมาดูกรงสำหรับสุนัขที่ให้เลือดได้ หลังจากตรวจร่างกายและทำหมันแล้ว ถ้าเจ้าโบ้แข็งแรงดี ก็จะได้ให้เลือด เพื่อเอาไว้ใช้รักษาเพื่อนหมาตัวอื่นๆ จอมมองยิ้มๆ บอกว่า พวกนี้เก่งกว่าเขาอีก เขาคงไม่มีโอกาสได้ทำบุญแบบเจ้าพวกนี้ ถึงจะตัวโตเหมือนกันก็เถอะ เราไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารริมชายหาด จอมบอกผมว่า สั่งอะไรก็ได้ เขากินได้หมด แต่อย่าแพงมาก เดี๋ยวเขาไม่มีตังค์จ่าย ผมบอกว่าผมเลี้ยงเอง เขาก็ไม่ยอม เขาบอกว่า การที่ผมรวยกว่าเขา ไม่ใช่เหตุผลให้เขาเอาเปรียบผม เขายืนยันว่า มื้อนี้ต้องหาร 2 เขาบอกอีกว่า อันที่จริง เขาอยากหาร 2 กับผมทุกอย่าง ทั้งค่าวัคซีน ค่าน้ำมันรถ แต่ผมคงไม่รับ เขาเลยขอแค่นี้ คำพูดของจอม ทำให้ผมยิ้ม อีกแล้ว จอมเป็นคนแรกที่พูดกับผมแบบนี้ เป็นคนแรกที่ปฏิเสธฐานะของผม ผมไม่ได้อยากทำตามเขา แต่ก็ต้องยอมเพราะประโยคสุดท้าย เขาจะไม่มากับผมอีก ถ้าผมไม่ให้เขาจ่าย กินข้าวเสร็จแล้ว เราไปเดินเล่นชายทะเลกัน แววตาจอมวิบวับแปลกๆ ผมถามว่าเป็นอะไร จอมตอบว่า เขาอยากนั่งเล่นทราย แต่กลัวจะพาทรายไปเลอะรถ ผมหัวเราะบอกว่า รถเลอะก็ล้างได้ อยากเล่นอะไรก็เล่นเลย จอมยิ้มกว้าง ขอบคุณผม แล้วก็วิ่งไปหาเด็กที่เล่นทรายอยู่แถวนั้น เขาสนุกสนานกับการขุดทรายเป็นร่องลึกยาว ปั้นทรายเปียกให้เป็นลูกกลมๆ แล้วปล่อยลูกทรายจากคนละฝั่งของร่องที่ขุดไว้ ให้ลูกทรายมาชนกัน ของใครแตกก็แพ้ เด็กแถวนั้น ไม่มีใครสู้จอมได้สักคน เสียงจอมหัวเราะดังลั่นไปทั้งชายหาด สั่นสะเทือนจนหัวใจผมหวั่นไหว ผมไม่รู้ว่านี่คืออะไร ผมแค่รู้ว่า ผมชอบมากที่ได้เห็นจอมหัวเราะแบบนี้ ผมส่งจอมที่ร้าน แอบเซ็งนิดหน่อย เพราะผมชวนจอมไปด้วยกันวันที่จะไปทำหมันให้แมวที่บ้านป้าแนม แต่จอมบอกว่า เขาไปด้วยไม่ได้ เขาถามผมว่า ผมชอบผ้าเย็นมั้ย เขาจะทำไว้ให้ ให้ผมแวะมาเอา ผมถามเขากลับว่า เขาชอบเค้กของม๊าผมมั้ย จอมยิ้ม บอกว่า ชอบสิ ชอบมาก แต่คุณยังไม่กินผมเลยนะ เขายื่นกล่องเค้กให้ผม ผมมองกล่อง มองหน้าเขา พูดกับเขาว่า กินแป๊บเดียวก็หมดแล้ว ผมอยากเก็บไว้ดูนานๆ มากกว่า คืนนั้น ผมส่งสติ๊กเกอร์ไปราตรีสวัสดิ์จอมแล้วก็นอนดูรูปจอมที่ดูท่าทางหลับสบาย สลับกับดูที่นอนว่างๆ ข้างๆ ผม ถ้าเป็นจอมตัวจริง นอนอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ ผมจะรู้สึกยังไง ผมอยากรู้เหลือเกิน
Create Date : 12 มกราคม 2565 |
Last Update : 12 มกราคม 2565 22:15:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 621 Pageviews. |
|
 |
|