<<
เมษายน 2566
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 เมษายน 2566
 

XX3MyYdiary - Reverse 4 สาม

ทีแรกผมคิดว่าค่ายให้เราไปเซ็นสัญญาเพื่อเป็นศิลปินเลย แต่พี่วินเจ้าของค่ายบอกว่า เขาต้องการคนที่มี Passion ในการทำงานตรงกันจริงๆ การออดิชั่นทำให้รู้ศักยภาพของคนนั้น แต่เรื่องทัศนคติ มันต้องเห็นกันยาวๆ สัญญาที่ผมเซ็นไป เลยเป็นแค่สัญญาทดลองงาน ถ้าผมผ่านช่วง 3 เดือนนี้ไปได้ ผมถึงจะได้ทำงานในฐานะศิลปิน พี่วิกระทะอกว่า มันจะเป็น 3 เดือนที่ผมต้องถอดความรู้สึกหลายอย่างออกไป ถอยตัวเองไปที่จุดเริ่มต้น พี่วินจะให้เราเรียนทุกอย่างใหม่หมด ทั้งร้อง เต้น และ การแสดงด้วย

ก่อนวันเซ็นสัญญา xx โทร.มาถามแค่ว่า อึดอัดมั้ย เพราะในสัญญาระบุข้อห้ามไว้ชัดเจนหลายอย่างมาก ผมรู้ว่า xx กังวล ตอนอ่านสัญญาครั้งแรก ผมก็รู้สึกติดๆ เหมือนกัน แต่แม่กับป๊าบอกผมว่า ไม่มีใครได้อะไรมาเปล่าๆ โดยไม่ต้องแลก ผมอยากทำงานในค่ายเขา ก็ต้องยอมรับกฎระเบียบของเขา ผมมีเวลา 3 เดือน หลังจากนั้น ค่ายจะตัดสินใจ ผมเองก็จะได้ตัดสินใจด้วยว่า จะต่อหรือจะเลิก

ผมรู้ตั้งแต่อยู่ค่ายเก่าแล้ว xx ไม่อยากถูกบังคับ ถึงเขาจะเข้าใจเหตุผล แต่การต้องทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบโดยปฏิเสธไม่ได้ ก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดี ทั้งที่เขาชอบการเป็นศิลปินมากๆ เขาเคยบอกว่า ทุกคนที่มาดูเขา ฟังเขาร้องเพลง เป็นพลังที่ทำให้เขายังยอมทำสิ่งที่ชอบในแบบที่ไม่ชอบ ผมก็ไม่รู้ว่าที่ใหม่จะเป็นยังไง แต่ในเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เราก็แค่ต้องออกไปลองมัน

ผมรู้สึกว่าเขาเครียด ก็เลยบอกเขาว่า ยังไม่ต้องคิดว่าไม่ชอบ ผมอยากให้เขารู้สึกดี ก็เลยบอกไปว่า ฝันดีนะมึง

หลังจากนั้น ผมได้ยินแต่เสียงความเงียบ แล้วก็เสียงกดวางสาย ถ้า xx ไม่ชอบผมแบบนั้น ผมต้องทำยังไงที่จะไม่ชอบเขาแบบนั้น

แม่เป็นคนบอกพี่วินให้นัดครอบครัวของเรา 2 คน ไปคุยพร้อมกันได้เลย เพราะเราสนิทกันมาก แม่เราก็สนิทกันมากด้วย แปลกดีที่เรา 2 คนมาเจอกันได้ ผมติดแม่มาก ผมชอบให้แม่ไปรับไปส่ง ไปคอยให้กำลังใจเวลาผมทำงาน พ่อแม่คนอื่นไม่ค่อยมีใครมาตามลูก แล้วลูกก็ไม่ค่อยอยากให้ตาม ตั้งแต่อายุ 12 จนตอนนี้อายุ 18 แล้ว ผมเจอแต่ xx คนเดียว ที่ทำอะไรๆ เก่ง แต่ติดม๊า จะเรียน จะซ้อม ม๊าไปด้วยตลอด ม๊า xx กับแม่ผม ก็เลยเจอกันบ่อยมาก 2 ครอบครัวก็เลยสนิทกันไปด้วย  และเรา 2 คน  ก็กลายเป็นลูกแหง่ประจำค่าย  ไปไหนมีแม่ไปด้วยตลอด  คนอื่นพากันล้อเรา  แต่พวกผมไม่เคยอาย  ใครถามก็เต็มใจตอบว่าเราเป็น Mommy's Kid เราชอบเป็นลูกน้อยของแม่

พี่วินคุยเรื่องแผนการสร้างศิลปินไปสู่ตลาดต่างประเทศให้พวกเราฟัง แผนมันฟังดูยิ่งใหญ่จนเด็กอย่างผมได้แต่อ้าปากหวอ xx ถามคำถามที่ผมเองก็อยากรู้ ทำไมพี่วินเลือกเรา พี่วินบอกว่าเขาเห็นความอยากในตัวเรา เขารู้สึกได้ตอนที่ xx บอกว่า เขาไม่เคยอยากเป็นอย่างอื่นนอกจากศิลปิน และผมพูดว่า ที่ที่ผมมีความสุขที่สุดก็คือบนเวที แต่จะไปได้ถึงเป้าที่วินวางไว้รึเปล่า ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่เราว่าจะพยายาม ทุ่มเท อดทน กับงานหนักที่รออยู่ข้างหน้าได้มากน้อยแค่ไหน

เรามองตากัน ผมว่า เรากำลังเห็นภาพเดียวกัน ภาพเรา 2 คน บนเวทีคอนเสิร์ตเดียวกัน และคนดูนับไม่ถ้วน  ที่กำลังตะโกนเรียกชื่อเรา

เราเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ผมเห็น xx ตามพี่วินไปที่รถ คุยอะไรกันสักพักถึงได้เดินกลับมา ผมถาม xx หลังจากเราซ้อมเต้นกันเสร็จว่าคุยอะไรกัน xx ก็ไม่ยอมบอก ผมแอบหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะไม่ได้อยากซ้อมจนดึกแบบนี้ แยกกับพี่วินแล้ว xx ก็บอกให้ผมกลับไปเตรียมตัว แล้วไปเจอกันที่ห้องซ้อม เขาอยากเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนจะไปเริ่มงานที่เราก็ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง ผมยอมตามใจแล้ว เรื่องที่เขาไปคุยแค่ไม่กี่นาที ทำไมต้องทำเป็นความลับด้วย

Xx ตัดบท บอกให้ไปอาบน้ำ จะได้กลับบ้าน

:ทุกทีที่ซ้อมเต้น เลิกดึก แบบวันนี้ xx ไม่เคยปล่อยผมกลับบ้านโดยไม่อาบน้ำก่อนเลย แค่หนเดียวที่ซ้อมจนดึก แล้วแม่ฝากผมไปนอนบ้านเขา ผมเหนื่อยจนขี้เกียจอาบน้ำ กว่า xx จะอาบน้ำเสร็จ ผมก็เปลี่ยนชุดนอน นอนหลับไปแล้ว ตื่นเช้ามา xx บ่นว่าผมเอาเชื้อโรคมาแพร่ในห้องเขา บลา บลา จนผมหูชา ผมรอจนเขาเว้นจังหวะหายใจ รีบพูดว่า มึงบ่นเสร็จยัง กูหิว เขาถึงได้หยุดบ่น รีบวิ่งลงไปข้างล่าง ไปฟ้องม๊าว่า ผมนอนทั้งที่ไม่อาบน้ำ ถ้าแม่ฝากมานอนอีก จะให้ไปนอนนอกห้อง

นึกแล้วก็ขำ ตั้งแต่วันที่เขาขู่ผม ผมก็ไปนอนบ้านเขามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ผมก็ยังได้นอนห้องเขา นอนเตียงเดียวกับเขา ห่มผ้าผืนเดียวกับเขา อุ่นตัว อุ่นใจ

ถ้าผมบอกว่าผมรู้สึกอะไรกับเขา เขาจะยังยอมให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมมั้ย

ผมได้ยินเสียง xx ออกจากห้องอาบน้ำ ตอนสบู่ยังเต็มตัวผมอยู่เลย ทำไมเขารีบจัง ทุกทีก็รอเป็นเพื่อนผม วันนี้เป็นอะไร ผมรีบล้างสบู่ออกลวกๆ แล้วจ้ำตามหลังเขา มือหนึ่งถือกระเป๋าใส่สบู่แชมพู อีกมือกำผ้าเช็ดตัว ตะโกนเรียกเขาว่า รอด้วย กูกลัวผี xx หันมามองผมแวบเดียว  นอกจากไม่หยุดรอผม ยังโวยอะไรใส่ผมสักอย่าง ผมฟังไม่ถนัด ผมก้าวยาวกว่าเดิม ตามไปถามว่า มึงว่าอะไรนะ อีกก้าวเดียวผมก็ตามเขาทันแล้ว  ผมกำลังก้าวเข้าไปหา  เขาก็หันมา ตาเราสบกัน หน้าแดงๆ ของเขาอยู่ห่างแค่คืบ หัวใจผมเต้นแรงจนแทบจะดีดมานอกอก เหมือนโลกกำลังจะหยุดหมุน เวลาเดินช้าลง ในหัวผมมีแต่คำว่า กูชอบมึง กูชอบมึง  แต่ผมได้ยินเสียงตัวเองพูดว่า กูกลัวผี อย่าทิ้งกูนะ  

หน้า xx ยังแดง แต่เสียงเขาอ่อนลง เขาดึงกระเป๋าไปจากมือผม พูดเบาๆ ว่า มึงนุ่งผ้าดีๆ ตอนนี้ไม่ได้มีแค่มึงกับกูนะ เดี๋ยวก็ซวยหรอก พูดจบก็กลับหลังหันเดินลิ่วๆ ไปที่ล็อกเกอร์ ทิ้งให้ผมยืนตกใจอยู่คนเดียว ผมรีบรวบผ้าให้มิดชิดแล้วตามไป

แค่ผมนุ่งผ้าไม่เรียบร้อย ทำไมต้องโกรธจนหน้าแดงด้วย เป็นอะไรของเขาก็ไม่รู้

,ม๊า xx มารอรับอยู่ที่หน้าตึก ม๊าบอกว่า แม่โทร.มาฝากให้สามไปค้างด้วย เพราะหัวค่ำฝนตกหนัก น้ำท่วมปากซอย ออกมารับไม่ได้ ม๊าถามผมว่า หิวรึเปล่า แวะกินอะไรก่อนมั้ย ผมยังไม่ทันตอบ xx ก็โวยอีกแล้วว่า ไม่ให้กินแล้ว สามกันแล้วสามไม่ยอมนอน ม๊าหัวเราะ บอก xx ว่า ถ้าหิวก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เอาไงลูก สุดท้าย xx ก็แพ้ ผมได้บัวลอยไปกินกับม๊า 2 คน ม๊าเอาแปรงสีฟันกับผ้าเช็ดตัวมาให้ บอกผมว่า อย่างอื่น สามใช้ของ xx นะ ถ้าไม่ยอม มาฟ้องม๊าได้ ม๊าเป็นกันเอง แล้วก็ตลกมาก จนผมอดหัวเราะไม่ได้ ขอบคุณม๊า แล้วก็ขึ้นไปบนห้องนอน

ผมกำลังจะบอกขอยืมชุดนอน แต่ xx พูดก่อนว่า ชุดนอนมึงอยู่ในห้องน้ำ  เสื้อผ้ามึง  พับใส่กระเป๋าเลยนะ  เดี๋ยวมึงลืมอีก  เสร็จแล้วปิดไฟให้หมดด้วย  กูไปนอนแล้ว

ผมจัดการตัวเองเรียบร้อย  ออกมา  xx  ก็หลับไปแล้ว  เขานอนตะแคงหันไปอีกด้านของเตียง  ผมค่อยๆสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม  ไม่กล้าทำเสียงดังแล้ว  เดี๋ยวลุกมาดุผมอีก    ผมนอนมองท้ายทอยเขาเงียบๆ  ผม xx หนา  แล้วก็หยักศกนิดๆ  เวลาตัดสั้น ผมจะแนบสวย  แทบไม่ต้องเซ็ต  เวลาปล่อยยาว  ปลายผมจะม้วนๆ  จริงๆ xx อยากไว้ผมยาว  แต่เพราะงาน  ก็เลยต้องตัดสั้นตลอด  แต่พอค่ายปิดตัว  เราไม่มีงาน  xx  ก็ไม่ได้ไว้ผมยาว  เพราะไปออดิชัั่นแล้ว  ทุกที่ก็บอกว่า  ไว้ผมสั้น  เขาดูดีกว่า  เขาก็เลยต้องยอมสละความชอบของตัวเองไปอีกเพื่องานที่เขารัก

ถ้า xx รักผม  เขาจะทำแบบนั้นเหมือนกันมั้ย  ผมพลิกตัวไปนอนตะแคงหันหลังให้เขา  บอกตัวเองให้เลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว  ตอนนี้  ผมเป็นแค่เพื่อนรัก  ไม่ใช่คนรัก  ผมอยากบอกความรู้สึกตัวเองให้เขารู้  แต่ถ้าเขาไม่รับผมเป็นคนรัก  เขายังจะรักผมเป็นเพื่อนเหมือนเดิมได้มั้ย  ผมกลัว

ผมตื่นมาตอนเช้า xx  ก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว  เขาวางเสื้อยืดกับกางเกงในไว้ให้ที่ปลายเตียง  มีโน๊ตสอดไว้ด้วย  เขียนว่า  ให้มึงใส่กลับบ้าน  ผมนึกเถียงอยู่ในใจว่า  ใส่ตัวเก่ากลับบ้านก็ได้  ประโยคต่อมา  เขาเขียนว่า  ห้ามใส่ตัวเก่าซ้ำ  สกปรก  ผมนึกหน้าเขาออกเลยว่า  จะทำหน้ายังไง  ตอนพูดประโยคนี้  ดุยังกับแม่  มีข้อความต่อมาอีกว่า  กูไปฟิตเนส  เจอที่ห้องซ้อมตอนเย็น  ผมบอกตอนไหนว่าผมอยากไปซ้อม  ผมอยากไปกินหมูกระทะๆๆๆๆ

ตอนนั่งรถกลับบ้านกับแม่  แม่ถามผมว่า  อยากไปเรียนร้องเพลงมั้ย  แม่นัดครูให้  ผมบอกแม่ว่า  ยังก่อน  xx นัดผมไปเรียนเต้นกับครูของเขา  ผมจะรอถาม xx ก่อนว่า  เขาจัดตารางยังไง  แม่หันมามองผม  สีหน้าเหมือนแปลกใจ  ถามผมอีกว่า ไปซ้อม  ก็อดกินหมูกระทะสิ  ผมทิ้งตัวพิงเบาะ ตอนแม่เซ็งๆว่า  ก็อดสิครับ  คงอดยาวเลยด้วย  แม่ยังพูดเรื่อยๆว่า  สามก็ไปซ้อมเวลาอื่นก็ได้นี่ลูก  ไม่ต้องไปพร้อม xx  ผมตอบแม่แบบไม่คิดว่า  ไม่ได้หรอกแม่  มี xx มาบังคับสามก็ดีแล้ว  สามรู้ว่าสามซ้อมคนเดียว  ไม่มีคนมาคอยเชียร์อัพ  บางทีสามก็เนือย  ไม่ได้ตั้งใจเต็มที่  แม่ยังมองผมไม่เลิก  ถามว่าเสื้อนี่ซื้อใหม่เหรอ  แม่ไม่เคยเห็น  ผมบอกแม่ว่า ของ xx  ให้ยืมมาใส่  ให้ยืมกางเกงในมาด้วย  เอามาวางให้ตอนไหนก็ไม่รู้  แล้วก็ออกไปฟิตเนส  เสียงแม่พึมพำว่า  เขาห่วงสามจังเลยนะ  แต่ผมบอกแม่ว่า  เจ้ากี้เจ้าการมากกว่า

ถ้าจะเป็นห่วง  ก็คงห่วงว่าผมจะไปแพร่เชื้อโรคใส่เขามากกว่า




 

Create Date : 03 เมษายน 2566
0 comments
Last Update : 3 เมษายน 2566 22:46:36 น.
Counter : 442 Pageviews.

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com