<<
เมษายน 2567
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
16 เมษายน 2567
 

เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 43

ผมเปิดกล่องดูโมเดลรูปอุลตร้าแมนที่เพิ่งส่งมาถึง กว่าจะหาตัวที่เป็นแบบเดียวกับที่อยู่ในตู้ของจอม และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ผมต้องใช้ทั้งเงินทั้งคน กว่าจะหาเจอ แล้วยังต้องเพียรเทียวไปเทียวมาตั้งหลายรอบ กว่าเจ้าของจะยอมขายให้ จอมพูดถึงยอดมนุษย์ แต่ไม่ได้บอกว่าตัวไหน แต่ถ้าจอมเก็บโมเดลตัวนั้นไว้ ทั้งที่ขาหักไปข้างหนึ่ง มันคงต้องมีความหมายกับเขามากๆ

คืนนี้ผมจะชวนจอมไปดูป้าวดีร้องเพลง แล้วค่อยเอาโมเดลให้ ผมอยากให้จอมมีความสุขมากๆ ก่อนที่จะรู้ว่าต้องไปเจออาม่าอีก

ผมแค่บอกว่าอยากพาเขาไปฟังเพลง จอมน่ารัก เชื่อใจ ไว้ใจผม ไม่ถามอะไรเลย แค่หยอกผมว่า ถ้าผมจ่าย ที่ไหนเขาก็ไป แต่วันนี้ผมพาจอมมาดูของฟรี งานดนตรีในสวน ป้าวดีมาเป็นนักร้องสมัครเล่น เอาแมวมาหาหมอ ก็ชวนผมเรื่อย ผมไม่ค่อยรู้จักเพลงที่ป้าวดีเคยเอาคลิปให้ผมดู แต่ค่ำๆ อากาศเย็น มานั่งฟังเพลงในสวนโล่งๆ โปร่งๆ เพลงนั้นก็น่าจะช่วยให้ผ่อนคลาย แล้วก็มีความสุข ซึ่งผมคิดถูกมากๆ จอมร้องตามได้ทุกเพลง แล้วยังบ่นเสียดายว่า มาช้าไป เลยได้ฟังแค่ไม่กี่เพลง

จอมคงอารมณ์ดีเกินไป ตอนที่ผมทำหน้าไม่พอใจใส่เขา เพราะผมไม่อยากร่วมรำวง ตามที่ลุงป้านักร้อง ประกาศเชิญให้ทุกคนมาร่วมสนุกกันปิดท้ายงาน จอมถึงได้ยื่นหน้ามาใกล้ พูดกับผมว่า ถ้าคุณไม่ยิ้มเดี๋ยวนี้ ผมจะจูบคุณ คนตั้งเยอะ ป้าวดีก็เป็นลูกค้าประจำของคลินิก ถ้าป้าวดีเห็น ผมโดนล้อแน่ ผมก็เลยต้องยิ้ม แล้วปล่อยให้จอมพาผมไปอยู่ในวง ยกมือรำท่าทางตลกๆ ไปจนจบเพลง

จอมหัวเราะผมแทบจะตลอด แววตาเขาเป็นประกายล้อกับแสงจากหลอดไฟดวงเล็กๆ ที่แขวนร้อยอยู่รอบๆ ผมชอบจังที่เห็นจอมมีความสุข เขาแซวผมว่า โรงเรียนคงไม่ได้สอนอีก ผมหัวเราะตอบกลับไปว่า คงต้องคิดเรื่องโรงเรียนลูกใหม่ ผมแค่อยากให้จอมขำ แต่ผมกลับทำให้เขาคิดถึงเรื่องอาม่าอีก เขาถามเสียงเบาลงว่า เรายังมีลูกด้วยกันได้จริงๆ เหรอ แววตาสนุกสดใสเมื่อกี๊นี้ จางหายไปแล้ว ไม่น่าเลย ผมได้แต่จับมือจอม ยิ้มให้เขา บอกเขาว่า ได้สิ อย่าปล่อยมือจากผมก็พอแล้ว จอมบีบมือตอบ ไม่ได้พูดอะไร แต่ผมก็ต้องการแค่นี้ แค่เขาแสดงออกว่า ยังอยากอยู่กับผม ผมจะทำให้อาม่าเห็นว่าผมรักจอมมากแค่ไหน จะทำให้อาม่ายอมรับจอมให้ได้สักวัน

ผมเอากล่องใส่โมเดลอุลตร้าแมนลงจากรถ เดินตามจอมขึ้นไปบนห้อง ผมต้องบอกจอมเรื่องอาม่าสั่งให้ไปงานเลี้ยง ผมเดาไม่ถูกเลยว่า จอมจะรู้สึกยังไง ได้แต่หวังว่า ของขวัญของผม คงจะทำให้จอมรู้สึกดีมากพอที่จะไปเผชิญหน้ากับอาม่าได้ แต่ผมได้มากกว่านั้นอีก

แค่เห็นผมเอาโมเดลออกจากถุงผ้า จอมก็ร้องไห้ เข้ามากอด แล้วยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมจนผมใจเสียว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ผมกอดเขาไว้นานกว่าจอมจะค่อยๆ พูดไปสะอื้นไปว่า วันที่พ่อเขาเจออุบัติเหตุจนเสียชีวิต พ่อออกไปที่ร้านขายโมเดล ไปประกอบโมเดลให้เขา ผมใจหายวูบ คิดในใจว่า ไม่น่าเลย ผมน่าจะถามจอมก่อน แทนที่ผมจะทำให้เขาดีใจ กลับไปจี้จุดในใจเขา ผมรีบขอโทษจอม แต่จอมบอกว่าไม่เป็นไร แม่ก็กลัวว่า เขาจะคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ ทำให้พ่อตาย แม่ก็เลยเก็บไว้ รอจนถึงวันที่จอมรับปริญญา ถึงได้เอามาให้ บอกว่าเป็นของขวัญของพ่อ จอมยิ้มทั้งน้ำตา พูดต่อว่า เขาร้องไห้อยู่ตั้งหลายวัน ตอนที่ไม่ระวังทำขามันหัก พยายามหาทางซ่อมแล้ว ก็ไม่ได้ ก็เลยต้องเก็บไว้อย่างนั้น จอมไม่ได้พูด แต่ผมรู้ว่า จอมอาจจะอยากซื้อใหม่ แต่คงจ่ายไม่ไหว ที่พ่อจอมต้องแอบออกไป ก็เพราะถ้าแม่รู้ แม่ก็ต้องห้ามไม่ให้ซื้อ

จอมเช็ดน้ำตา ค่อยๆ ลูบคลำโมเดลตัวนั้นอย่างทะนุถนอม หันมายิ้ม กอดผมอีก บอกผมว่า เหมือนได้พ่อกลับมาเลย ขอบคุณนะ

จอมทำผมน้ำตาซึมอีกแล้ว ผมมีป๊าม๊าอยู่ด้วยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่า การที่พ่อไม่อยู่กับจอม จะทำให้เขาโหยหาพ่อขนาดนี้ แล้วเขาก็ยังเป็นคนพิเศษ เขาอาจจะเคยน้อยใจกับชะตาชีวิตตัวเอง แต่เขาไม่เก็บมาเป็นปมให้ตัวเองเจ็บปวด

เขาใจดีกับตัวเองเป็น ถังได้ใจดีกับคนรอบข้างได้ง่าย วันหนึ่งที่เขามีลูก เขาต้องพ่อที่ดีแน่ๆ ลูกผมโชคดีจัง

จอมเอาโมเดลไปวางไว้ชิดติดผนังบนโต๊ะเขียนหนังสือ ข้างๆ กับหัวใจกระดาษสีชมพู และกระดาษที่มีลายมือผมเขียนว่า รักที่สุด คิดถึงที่สุด ปิดไฟ แล้วกลับมานอนข้างผม ผมบอกจอมเรื่องงานเลี้ยงน้ำชา บอกเขาว่า เราไม่ต้องไปก็ได้ แต่จอมบอกว่า ผมอยากเป็นคนของคุณ ผมต้องไปกับคุณให้ได้ทุกที่ เขายังบอกด้วยว่า เราไม่ไป ป๊าจะพลอยโดนโกรธไปด้วย จอมจูบผมเบาๆ พูดเสียงอ่อนๆ ว่า ถ้าไม่ไหวกลับมา คุณช่วยปลอบผมหน่อยนะ

ผมกอดเขา จูบหน้าผากเขาแทนคำตอบ แต่ลึกๆ ผมก็ยังแอบหวังว่า จอมจะไม่เจออะไรที่มันหนักหนาจนทำให้เขาไม่ไหว จอมน่ารัก แล้วก็เป็นคนดี ถ้าผมทำได้ ผมอยากเสกให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเขาจริงๆ

ผมถามจอมเรื่องวันนัดไปหาหมอ จอมยิ้มเจื่อนๆ บอกว่าเขาเลื่อนนัดไปเดือนหน้าแล้ว มิน่าเล่า ถึงได้เอาใจผมจัง มานั่งป้อนผลไม้ให้ผม แต่ผมก็อดบ่นไม่ได้อยู่ดี เพราะจอมทำอะไร ไม่ปรึกษาผมเลย เขายิ้มเอาใจผม ป้อนแคนตาลูปผมอีก บอกว่าเขาขอผจญภัยทีละเรื่อง ปากจอมบอกว่าไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้มันก็หนักสำหรับเขาอยู่ดี ผมเองก็ไม่อยากให้จอมไป ตั้งแต่อาม่าโทร.มาสั่ง ผมก็ยังไม่ได้เจออาม่าเลย จะทำอะไรจอมอีกก็ไม่รู้ ผมไม่อยากให้ตัวเองจำต้องอยู่เฉยๆ แล้วช่วยอะไรจอมไม่ได้เหมือนคราวที่แล้วอีก ผมบอกจอมแล้วว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องป๊า ผมเป็นห่วงเขามากกว่า ผมนึกถึงภาพที่8จอมเมาเละ ถ้าไปเจอเดชอาม่าแล้วจอมต้องไปเมาแบบนั้นทุกครั้ง ผมไม่ไหวแน่ๆ แต่จอมบอกว่า เขาแค่ตกใจ เรื่องรองเท้ากับคำที่อาม่าเรียกเขาว่า ตัวประหลาด ทำให้เขานึกถึงเรื่องตัวเองตอนเด็ก เรื่องที่เขาลืมมันไปแล้ว

จอมเล่าว่า แม่ต้องไปพบครูใหญ่ ก็เพราะรองเท้านักเรียนที่โดนแกล้งเอาไปแช่น้ำ จอมบอกว่า ไอ้คนขโมย ยังล้อเขาไม่เลิกว่าลูกไม่มีพ่อ แล้วยังแกล้งเอารองเท้าเขาไปซ่อนอีกเป็นครั้งที่ 2 พอเขาหารองเท้าเจอ เขาก็เลยเอามาไล่ตีเด็กคนนั้นจนเลือดกบปาก พ่อแม่ของเด็กคนนั้นเรียกค่าทำขวัญ แล้วก็ให้เขาขอโทษ แม่สั่งให้เขาขอโทษ เพราะถึงยังไง การทำร้ายร่างกายคนอื่น มันก็เป็นความผิด แต่แม่จะไม่จ่ายค่าทำขวัญ จนกว่าลูกเขาจะขอโทษจอม รองเท้าคู่นั้นมีค่ากับจอมมาก เพราะจอมไม่มีพ่อมาซื้อรองเท้าให้อีกแล้ว

จอมบอกว่า เด็กคนนั้นยอมขอโทษเขา แต่เขาก็โดนแม่ทำโทษ โดนตีไปหลายที แม่บอกว่า จอมต้องเป็นเด็กดีของพ่อ ไม่ใช่นักเลงแบบนี้ แล้วพอปิดเทอมใหญ่ ก็จับเขาไปบวชเณรยาวตลอดปิดเทอม จะได้ไม่ทำอะไรมุทะลุแบบนั้นอีก

จอมเล่าด้วยว่า ตอน ม.ปลาย เขาย้ายไปอยู่โรงเรียนใหม่ พอมีคนรู้ว่าเขาเป็นโอเมกา ก็เอาเรื่องเขาไปโพสต์ในเฟสปุ๊กแล้วแท็กเฟสโรงเรียน ไม่เอ่ยชื่อเขา  แต่บอกชั้นเรียน  ใช้คำให้คนสงสัยว่าเป็นเขา  เขาก็เลยโดนคนมองด้วยความสงสัยตลอด  จนเขาทนไม่ไหว  ประกาศลงในโซเชียลของตัวเองทุกสื่อว่า ผมเป็นโอเมกา  แล้วก็ใส่ลิงค์ให้ไปกดอ่านว่า  โอเมกา คืออะไร

คนมองเขาน้อยลง แต่เขาก็ยังโดนแกล้ง โรงเรียนเขาเป็นระบบเดินเรียน เปลี่ยนห้องเรียนที พอเข้าไป ก็เจอข้อความอย่าง ไอ้ตัวประหลาด ผู้ชายมีผัว ตัวอะไรออกลูกทางก้น แต่ที่หนักสุดคือ แอบเอาสมุดการบ้านเขาไป แล้วเอาปากกาเคมีหัวใหญ่ ทั้งเขียนคำหยาบ วาดรูปอวัยวะเพศ แล้วก็ขีดทับไปยันหน้าสุดท้ายที่เขาทำการบ้านไว้แต่ยังไม่ได้ส่งครู จอมบอกว่า เขาโกรธ แต่ไม่ได้อาย ก็เลยส่งครูไปทั้งอย่างนั้น ครูไม่มีหลักฐานจะเอาผิดใคร แต่ครูก็ช่วยด้วยการหาสมุดเล่มใหม่ให้ แล้วบอกนักเรียนทุกคนในห้องว่า ถ้าสมุดของผมโดนทำแบบนี้อีก โดยไม่มีใครรับว่าเป็นคนทำ ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ที่ปล่อยให้การกระทำรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นในห้องเรียน ทุกคนจะโดนตัดคะแนนสอบ สมุดของเขาเลยอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีตลอดเทอม แต่พอเปิดเทอมใหม่ แค่วันแรก สมุดของเขาก็โดนยำเละ

ผมนึกว่าจอมจะเสียใจ น้อยใจ แต่จอมกลับหัวเราะ เขาเล่าต่อว่า เขาเอาสมุดเล่มนั้นไปฟาดใส่โต๊ะกลุ่มที่นั่งคุยกันและหัวเราะเยาะเขาอยู่ แล้วใช้คัตเตอร์ปักลงบนสมุด แล้วกรีดเป็นทางยาวจนทะลุไปถึงแผ่นสุดท้าย พวกนั้นเงียบกริบ  หยุดหัวเราะไปเลย  ผมมองจอมแบบไม่อยากเชื่อว่าจอมจะโหดขนาดนั้น เขาหัวเราะบอกว่า ผมฝึกมาตลอดปิดเทอมเลยนะ เสียสมุดไปหลายเล่ม  กะว่าได้ใช้แน่ๆ พวกนั้นมันไม่ได้แน่จริง โดนขู่นิดเดียวก็หงอแล้ว

จอมเล่าอีกว่า พอมีคนเห็นรูปสมุดที่ถูกกรีดพร้อมกับแคปชั่นว่า ผมเตือนแล้วนะ ในโซเชียลของเขา ผสมกับที่เขาจับพวกที่เคยพยายามจับเขาแก้ผ้า เพราะอยากรู้ว่าเขามีอะไรเหมือนผู้ชายทั่วไปหรือเปล่า ล็อคแขนแล้วเหวี่ยงระเนระนาด หลังจากที่เขาไปเรียนวิชาป้องกันตัวมา เขาเลยกลายเป็นคนดัง มีเด็กในโรงเรียนส่งข้อความมาปรับทุกข์ มาขอความช่วยเหลือ ผมชมว่าจอมเก่ง แต่จอมบอกว่าเขาก็แค่ให้กำลังใจ ให้ความมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเอง เหมือนที่แม่กับยายคอยบอกคอยให้กำลังใจมาตลอด และทีมของเขาก็ได้รับเลือกเป็นกรรมการนักเรียน ก็เพราะเด็กที่เคยโดน bully ช่วยเขาหาเสียง  ผมรู้ว่าจอมอยากให้สบายใจ แต่ผมก็รู้ด้วยว่า อาม่าของผม ไม่ใช่เพื่อนนักเรียนของจอม เขาใช้วิธีข่มขู่เพื่อให้หยุดคุกคามเขาไม่ได้ จอมพูดว่า ถ้าเอาแต่หลบ อาม่าจะยอมรับผมได้ยังไง ผมเห็นด้วยกับจอมเรื่องนั้น ตอนนี้จอมดูโอเคดี แต่ตอนที่ไปเจออาม่าอีก ผมไม่รู้เลยว่า จอมจะอดทนได้แค่ไหน

ผมยังไม่สบายใจอยู่ดี จนถึงคืนก่อนวันงาน ผมก็ยังถามย้ำอีกว่า แน่ใจนะว่าจะไป ผมกำลังนอนอยู่บนเตียง จอมพับผ้าเก็บเข้าตู้ กำลังจะปิดไฟ พอได้ยินคำถาม เขาละมือจากสวิตช์ไฟทั้งที่ยังไม่ได้กดปิด เดินมาจูบผม แล้วขึ้นคร่อมทับตัวผม

จอมตั้งใจจะบอกอะไรผมหรือเปล่า เขาเล้าโลมจนอารมณ์ผมขึ้นมาเต็มเปี่ยม แล้วเขาก็ค่อยๆ กดตัวเองลงมาหาผม ขยับขึ้นลงถี่ๆ ผมกำลังจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว จอมก็หยุด เปลี่ยนมาโยกตัว บดเบียด ผมเสียวจนแทบไม่ไหว ขอทำเอง แต่จอมไม่ยอม ยังโยก ยังบด ผมเด้งตัวกระทุ้งใส่ตัวจอมแรงๆ ติดกันหลายครั้งจนผมเสร็จ จอมรูดของตัวเองแรงๆ ก่อนจะปล่อยน้ำพุ่งมาเลอะตัวผม จอมก้มลงจูบผม ถามผมว่าเชื่อหรือยัง ว่าเขาพร้อม

ผมไม่เคยคิดเลยว่า การต้องเป็นฝ่ายตามเกม ยอมให้จอมคุมทุกอย่าง จะทำให้ผมรู้สึกได้ขนาดนี้ ผมชอบมากจนต้องตอบจอมว่า ผมไม่เชื่อ ขออีกทีได้มั้ย จอมคงรู้ทันผม ถึงได้ยิ้มยั่วผม บอกผมว่า เก็บแรงไปช่วยเขาสู้กับอาม่าก่อน

จอมมีความสุข มีกำลังใจดี ถ้าเขาอยากควบคุม เขาก็คงจะคุมเกมได้จริงๆ อย่างที่เขาแสดงให้ผมดู จอมแค่มีสายเลือดโอเมกา ไม่ใช่คนขลาดเขลา

จอมใส่เสื้อผ้าที่ผมเตรียมให้ ใส่นาฬิกาที่ม๊าซื้อให้ เขาเรียบร้อย ดูดี เหมาะสมที่จะไปปรากฏตัวในฐานะคู่หมั้นของผม แต่พอไปถึงงาน จอมก้ต้องถอดเสื้อนอก ถอดนาฬิกา เอามาฝากให้ผมเอาไปเก็บ เพราะอาม่าบอกทุกคนว่า จอมมาเป็นคนงาน ให้คนเตรียมผ้ากันเปื้อนมาไว้ให้พร้อม อารมณ์โกรธมันวูบวาบขึ้นมาอีกแล้ว แต่วันนี้ จอมเขาพร้อมจริงๆ เขารับผ้ากันเปื้อนมาอย่างสงบ ตอนส่งเสื้อกับนาฬิกาให้ผม แล้วสวมผ้ากันเปื้อน จอมถามผมว่า คุณรักผมมั้ย ผมยังเป็นคนรักของคุณได้มั้ย ใช่ ใครจะเห็นจอมเป็นคนงาน คนชั้นต่ำ ก็ไม่สำคัญอะไร สำหรับผม จอมเป็นที่รักของเข็มเสมอ ผมช่วยจอมผูกผ้ากันเปื้อน จูบแก้มเขา บอกให้เขาระวังตัว เสียงอาม่าดุแหวกอากาศมาว่า ทำอะไรน่าเกลียด

ผมเดินกลับมาหาอาม่า ยิ้มให้สีหน้าแปลกๆ ที่ยังยืนรวมกลุ่มกันอยู่ใกล้อาม่า ผมตอบไปว่า ขอโทษครับ เข็มชิน แล้วผมก็ยิ้มอีก ผมแน่ใจว่า ในกลุ่มคนนั้น ต้องมีผู้หญิงดีๆ ที่อาม่าอยากให้ผมแต่งงานด้วยรวมอยู่แน่ๆ ผมอยากให้เขารู้ว่า ผมกับจอมลึกซึ้งกันแค่ไหน จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลากับผม แต่อาม่าดูเหมือนจะไม่สนใจ ผมเอาของจอมไปเก็บในรถ กลับมาอีกที อาม่าก็ไปนั่งที่โต๊ะ และจัดการให้ผมนั่งตรงกลางระหว่างเบลล์กับจีน่า ผมรู้จักเพราะจีน่าเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที ส่วนเบลล์เป็นหลานของเพื่อนม๊า อาม่าคงอยากให้จอมเห็นภาพนี้ แต่ดูเหมือนจอมจะไม่ได้สนใจ เขายกถ้วยชากับกาน้ำชามาให้ ผมกำลังจะลุกไปตักของว่างที่จัดไว้บนโต๊ะยาวที่มุมห้องมาให้ แต่อาม่าสั่งให้ผมนั่ง แล้วบอกให้ทุกคนสั่งของที่ตัวเองต้องการ ให้จอมไปเอามาเสิร์ฟให้ ทุกคนเหมือนจะรุมแกล้งจอมโดยไม่ต้องนัดหมาย แทนที่จะบอกทีเดียว  กลับทำท่าเพิ่งนึกออก  แล้วสั่งให้จอมไปยกมาใหม่ นั่งกันอยู่แค่ 6 คน จอมต้องเดินเป็นสิบรอบกว่าทุกคนจะหยุดสั่ง เพราะบนโต๊ะ ไม่มีที่วางจานแล้ว แต่อาม่าก็ยังบอกให้จอมไปเปลี่ยนน้ำชา เอาที่ร้อนกว่านี้มาให้ พอจอมเดินมาถึงโต๊ะ เพื่อนอาม่าก็เอาช้อนในแก้วของตัวเองไปตักน้ำตาลในโถ จอมเลยต้องไปเอามาเปลี่ยนใหม่ ผมมองจอม จอมยังยิ้มให้ผม เรื่องแค่นี้มันเล็กน้อย

เบลล์กับจีน่าแทบจะแย่งกันป้อนผม ผมก็เลยตัดปัญหา ดันจานออกไปเป็นเชิงว่า ผมไม่กินแล้ว แผนของอาม่าดูจะไม่ค่อยได้ผล เพราะจอมตั้งใจทำงาน ไม่ได้มาคอยมองผม เขายกของว่างเต็มถาดออกมาเติมที่โต๊ะ เดินมาเก็บจานเปล่า แล้วบอกผมว่า อยากได้อะไรเพิ่มให้เรียก เขาจะไปช่วยดูโต๊ะอื่น เพราะพนักงานที่รับผิดชอบเกิดไม่สบาย โต๊ะที่พี่นารานั่ง ก็อยู่ใกล้ๆ กัน กับโต๊ะที่จอมเดินไปเดินมาบริการให้อยู่  ผมว่า  คนส่วนใหญ่ในงานก็รู้ว่าจอมเป็นอะไรกับผม  แต่ก็ไม่เห็นมีใครเกรงใจ  เรียกใช้ไม่ได้หยุด  เพื่อนพี่นาราก็ด้วย

ผมเห็นจอมเพิ่งวางกาน้ำชาลงบนโต๊ะ พี่นาราก็ทิ้งขนมลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำจนเลอะไปหมด จอมดูเหมือนจะไม่มีทางเลือก เขาย่อตัวลงไปที่พื้น จังหวะเดียวกับที่พี่นารายกกาน้ำชา ผมรีบลุกขึ้น ไม่สนใจเสียงเรียกของอาม่า ส่งเสียงไปก่อนตัวว่า ชามันร้อน ผมรินให้ดีกว่า แล้วจับพวยกาไว้ ไม่ให้พี่นาราเทใส่หลังจอม คนอื่นในโต๊ะ มองผมเป็นตาเดียวแต่ผมไม่สนใจ จอมพูดเสียงปกติและสุภาพ บอกให้พี่นาราถอดรองเท้า เขาจะเอาไปล้างให้ ไม่งั้นครีมที่ติดพื้นรองเท้าจะทำให้พื้นห้องเลอะเพิ่มอีก พี่นาราหันมาสบตาผม สายตาดูเจ็บแค้น สะบัดเท้าจนรองเท้าเกือบโดนหน้าจอม ผมปล่อยมือจากกาน้ำชา โกรธจนอยากทำอะไรสักอย่าง แต่จอมจับมือผม บีบไว้แน่น ดึงตัวเองขึ้นจากพื้น พูดไปยิ้มไปว่า ขอบคุณนะ มาทันเวลาพอดี จอมกำลังพยายาม งานนี้ต้องไม่พังเพราะจอม ไม่พังเพราะอารมณ์ผม ผมรินน้ำชา หยิบรองเท้าขึ้นมา เดินตามจอมที่ยกจานตั้งใหญ่ไปเก็บ

ไปถึงห้องน้ำ จอมใช้ทิชชู่ค่อยๆ เช็ดคราบออกจากพื้นรองเท้า เปิดน้ำแล้วใช้มือถูล้างจนสะอาด ใช้ทิชชูซับจนแห้ง แล้วเปิดน้ำล้างอ่างล้างมือจนสะอาด จอมตั้งใจทำจนสะอาด เพราะเขาสงสารรองเท้า แพงขนาดนี้เจ้าของยังไม่รัก จอมดูทุกข์ร้อนเพราะรองเท้าโดนกระทำมากกว่าที่ตัวเขาโดนเองอีก จอมยังยิ้มให้ผมเห็นว่า เขายิ้มได้จริงๆ ไม่ได้ฝืน เห็นแล้วผมก็อดไม่ได้ หอมแก้มเขาไปทีนึง ชมเขาว่า เก่งจัง

จอมกลับไปทำงานต่อแล้ว ผมถือรองเท้าไปคืนพี่นารา แล้วก็พูดกับพี่นาราตรงๆ ว่า ครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ ถ้าคุณทำอะไรจอมอีก ผมไม่ไว้หน้าแล้วนะครับ แล้วหันหลังเดินกลับไปหาอาม่า ผมยังไม่ได้นั่งเข้าที่ดี อาม่าก็ส่งเสียงขุ่นๆ มาแล้วว่า ไปปกป้องมันทำไม คนต่ำๆ ผมเหลียวหาจอม เห็นเขากำลังเดินไปทางอีกฟากของห้อง เหมือนจะมีใครกำลังโวยวายว่าไม่ได้อะไรอย่างใจ ดีแล้ว จอมจะได้ไม่ได้ยินคำนั้น ผมกลั้นหายใจท่องชื่อจอม 10 รอบ ก่อนจะตอบอาม่าว่า ต่ำยังไงจอมก็เป็นแฟนเข็ม สองสาวหันไปมองอาม่าเป็นตาเดียว อาม่าก็เลยเปลี่ยนเรื่อง พยายามหาเรื่องให้ผมคุยกับ 2 คนนั้น พิธีกรในงาน ประกาศเชิญอาม่าขึ้นไปรับของที่ระลึกในฐานะที่บริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนการทำงานของสมาคมมาตลอดปี อาม่าใจดีกับคนอื่นได้ตั้งเยอะ เมื่อไหร่จะยอมใจดีกับจอมของผมสักที

งานเลี้ยงเลิกแล้ว อาม่าสั่งให้ผมไปส่งเบลล์ด้วย ผมจะรอให้จอมออกมาก่อน อาม่าก็บอกว่าไม่ต้องรอ จอมยังต้องเก็บกวาด เคลียร์สถานที่ให้เรียบร้อย แค่กลับบ้านเอง จะอะไรนักหนา ผมไม่อยากเถียงกับอาม่าแล้ว ก็เลยเดินไปตามหาจอมจนเจอ บอกจอมว่า ผมต้องไปส่งเบลล์ เดี๋ยวผมกลับมารับ แต่จอมบอกว่า เขากลับเองได้ ไม่ต้องห่วง ผมเลยบอกให้ไปเจอกันที่บ้าน ไปกินมื้อเย็นกับป๊าม๊า

ผมส่งเบลล์เสร็จแล้ว กลับมาถึงบ้าน จอมยังมาไม่ถึง ผมโทร.หาก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ ผมขับรถไปดูที่งาน ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว โทร.ถามพีท พีทก็บอกว่าจอมไม่ได้อยู่ที่ร้าน ผมโทร.ถามแม่ จอมก็ไม่ได้ไปหาแม่เหมือนกัน ผมเริ่มจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว จอมหายไปไหน อาม่าพูดอะไรไม่ดีกับเขาอีกหรือเปล่า ผมไม่น่าทิ้งจอมไว้ที่นั่นเลย หรือจะเกิดอุบัติเหตุ ผมรีบกลับบ้าน ขอป๊าให้คนของป๊าช่วยโทร.เช็กตามโรงพยาบาล ม๊าบอกให้ผมใจเย็นๆ ก่อน จอมอาจจะแค่ไปธุระที่ไหน ผมรู้ว่าผมทำตัววุ่นวาย แต่ผมเป็นห่วงจอมจนกลัวไปหมด จะไปธุระอะไรที่ไหน ทำไมไม่บอก ทำไมไม่ให้ผมติดต่อ ใจผมหายหมดแล้ว ถ้าจอมหายไปจากชีวิตผมจริงๆ ผมจะทำยังไง จะอยู่ยังไง

พอเห็นจอมเดินตามหลังพี่นีเข้ามาในบ้าน ผมก็วิ่งเข้าไปกอดจอมเต็มแรง จับตามเนื้อตัวเขา ถามเขาว่าเป็นอะไรรึเปล่า ไปไหนมา ผมเป็นห่วง อย่าหายไปแบบนี้อีกนะ แล้วผมก็กอดเขาอีก จนจอมพูดว่า ปล่อยผมก่อนนะ ผมหายใจไม่ออก จอมแตะนิ้วลงตรงน้ำตาบนแก้มผม พูดต่อว่า ขอโทษนะ โทรศัพท์ผมแบตหมด จอมบอกต่อว่า น้องคนนั้นอาการไม่ดีขึ้นเลย เขาสงสาร ก็เลยอาสาพาไปโรงพยาบาล เสร็จแล้วก็นั่งรถไปส่งที่หอพัก แล้วถึงได้กลับมา ม๊ามองผมแล้วก็หัวเราะ บอกให้พาจอมมากินข้าวได้แล้ว โทร.บอกแม่จอมด้วยว่า จอมมาแล้ว ม๊ายังบ่นต่อว่า ผมทำยังกับจอมเป็นเด็ก 3 ขวบ

เข้าห้องมาแล้ว ผมบอกจอมให้รีบชาร์จแบตโทรศัพท์ก่อนเลย แล้วยื่นใบเสร็จค่าเหล้าให้จอมดู บอกจอมให้จ่ายคืนผมด้วย ผมเต็มใจจ่ายค่าอะไรๆ ให้ได้ทุกอย่าง ยกเว้นค่าเหล้า จอมมองผมตาปริบๆ ขอโทษผม แล้วก็เงียบ ผมดึงจอมให้มานั่งข้างผมบนโซฟา พูดกับเขาว่า มีอะไรก็บอกผม ระบายกับผม ไม่ต้องไปลงกับเหล้า ได้มั้ย ผมไม่ใจเย็น ใจดี เท่าพ่อคุณ แต่ผมก็รักคุณมาก คุณรู้ใช่มั้ย อย่าหายไปแบบวันนี้อีกนะ ผมกลัว

จอมบอกว่า อาม่าแค่พูดว่า ขยันดี สมกับเป็นคนงาน ถามผมเรื่องเบลล์กับจีน่า ผมเล่าให้จอมฟังว่ารู้จัก 2 คนนั้นได้ยังไง วันนี้คุยอะไรกับบ้าง แล้วจบด้วยคำถามสุดท้ายว่า หึงผมเหรอ  

จอมหัวเราะ ส่ายหน้า บอกว่า ผมรู้ ผมไว้ใจคุณได้ แล้วก็ลุกไป ผมลุกตามไปกอดจอมจากข้างหลัง บ่นเบาๆ ว่า ใจร้าย ผมกลัวแทบตายว่าคุณจะหายไปกับคนอื่น คุณไม่กลัวผมหายบ้างหรือไง จอมเอี้ยวตัวมาจูบผม บอกผมว่า คุณไม่หายหรอก คุณหลงผม ปล่อยได้แล้ว ผมจะไปอาบน้ำ ผมจูบซอกคอเขา  บอกเขาว่าไม่ปล่อย ผมก็อยากอาบน้ำเหมือนกัน  ยั่วผมขนาดนั้น  ใครจะปล่อยไปได้

เราใช้เวลาในห้องน้ำด้วยกันนานกว่าปกติ แล้วเราก็หลับสนิทรวดเดียวยาวถึงเช้า ผมนอนมองจอมหายใจยาวสม่ำเสมออย่างคนหลับลึก ผมหลงจอม รักจอม อย่างที่เขาบอก แล้วก็หวงเขามากๆ ด้วย ที่ว่าไม่หึงผม แค่พูดหยอกผม หรือ จอมไม่ได้รักผมมากเท่าที่ผมรักเขารึเปล่า

 

ผมได้บัตรเชิญไปเป็นแขกของอีเว้นท์ในงานมอเตอร์โชว์ งานตรงกับวันหยุดร้านจอมพอดี ผมเลยชวนจอมไปด้วย ผมแกล้งถามจอมว่า ผมซื้อให้สักคันมั้ย จอมส่ายหน้า บอกว่า นั่งรถที่ผมขับ สบายกว่า ผมลงทะเบียนเข้างานแล้ว ยังมีเวลาเหลือก่อนงานจะเริ่ม ผมกับจอมก็เลยไปเดินเล่นกันตรงโซนขายอาหาร จอมอยากไปดูว่าอาหารที่ขายในงานแบบที่ไม่มีที่ให้นั่งกินแบบนี้ เขาจัดแพคอาหารกันยังไง เผื่อจะเอาไปใช้กับงานของเขาได้

เรากำลังเดินออกจากห้องน้ำ จะกลับเข้าไปในงาน ก็มีผู้ชาย 2 คนเดินสวนไป 1 ในนั้น หันมาเรียกจอม แล้วก็ถามว่า จำผมได้มั้ย อีกคนที่มาด้วยกัน ถามว่า แกรู้จักโอเมกานี่ด้วยเหรอ คนที่ทักจอมหันไปตอบว่า เออ เคยนอนด้วย 2 - 3 หน จอมหน้าเสีย หันมามองผม แล้วหันกลับไปพูดกับ 2 คนนั้นว่า คุณพูดอะไร ผมไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จักคุณ แต่คนที่ทักจอมกลับหัวเราะ พูดว่า ฮีตจนหน้ามืด ถึงกับจำไม่ได้เลยเหรอว่านอนกับใครไปบ้าง ผมรู้สึกเหมือนอะไรในหัวผมดีดขาด ผมเหวี่ยงหมัดใส่หน้าไอ้บ้านั่นเต็มแรงแบบไม่ได้นับ จนจอมเข้ามาจับแขนผม บอกให้ผมพอ ผมบอกให้จอมปล่อยผม แล้วก็กระแทกหมัดสุดท้ายลงไปก่อนลุกยืน ผมล้วงกระเป๋า หยิบนามบัตรโยนทิ้งไว้ ตะคอกใส่พวกนั้นว่า ถ้าพวกมึงอยากมีเรื่องอีก ไปแจ้งความได้เลย แล้วคว้าแขนจอมพากลับไปขึ้นรถ

ผมโกรธจนหัวหมุน ไม่รู้เลยว่าตัวเองพูดอะไรไปบ้าง ได้ยินแต่เสียงจอมตอบว่า ไม่ ไม่ใช่ ผมไม่รู้ ผมไม่รู้จักเขา จะไปรู้ได้ยังไง ถึงบ้าน ผมเหยียบเบรกจนจอมหัวทิ่ม  ตะโกนใส่จอมว่า คุณจะโกหกผมไม่ถึงไหน ไม่มีอะไร มันจะพูดขนาดนั้นได้ยังไง แล้วก็เหวี่ยงประตูปิด จอมลงจากรถ แต่แทนที่จะเดินเข้าบ้าน เขาเดินย้อนไปอีกทาง ผมยิ่งขึ้นเสียงดังกว่าเดิม สั่งให้กลับมาเดี๋ยวนี้ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่จอมไม่หยุดเดิน ผมตามไปกระชากตัวเขา แต่ม๊าดึงแขนผมไว้ ถามจอมว่ามีอะไรกัน จอมจะไปไหน จะไปยังไง  ม๊าบอกให้ป๊าพาผมเข้าบ้าน แล้วบอกคนขับรถให้ไปส่งจอม ผมไม่ยอม แต่ม๊าเสียงดังใส่ผมว่า เข็ม หยุด อารมณ์แบบนี้ จะคุยกับใครรู้เรื่อง

ป๊าดึงตัวผมเข้าบ้าน จับผมนั่ง บอกให้ผมค่อยๆ เล่า ป๊าฟังจบก็ส่ายหัวใส่ผม บ่นว่าทำตัวเป็นเด็ก เข็มไม่เชื่อจอม จะไปคาดคั้นถามเขาทำไม แค่ให้คนไปสืบ เดี๋ยวก็รู้แล้วว่าไอ้นั่นพูดจริงหรือเปล่า คืนนี้ไปสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมารอดูความจริง

ผมคิดเรื่องเมื่อวานวนๆ จนไม่มีสมาธิทำงาน ผมคิดมาทั้งคืนแล้วก็ไม่ได้อะไร  แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้ ผมโกรธไอ้บ้านั่น โกรธจอม โกรธไปถึงวันข้างหน้าที่จะมีใครมาพูดจาหยาบคายแบบนี้อีก จอมเคยบอกว่าเขาเลือก แล้วฮีตจนหน้ามืด คืออะไร จอมมีอะไรกับใครไปทั่วจนถึงขึ้นจำไม่ได้ ผมทั้งโกรธทั้งเสียใจ ทำไมจอมเป็นคนแบบนี้ ทำไมจอมต้องโกหกผม

พอป๊าโทร.มาบอกว่า มีคนตั้งใจแกล้งจอม จ้าง 2 คนนั้นมาทำให้ผมเข้าใจผิด ผมดีใจได้อยู่แป๊บเดียวก็ใจหายวาบ ผมโวยวายอาละวาด ไม่ฟังอะไรจอมเลย ผมจะขอโทษเขายังไง จะง้อเขายังไง เมื่อเช้าคนขับรถมารายงานว่า จอมร้องไห้ตลอดทางไปบ้านแม่ ผมจะทำยังไงดี ทำยังไงดี




 

Create Date : 16 เมษายน 2567
0 comments
Last Update : 16 เมษายน 2567 16:34:37 น.
Counter : 82 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com