<<
มิถุนายน 2565
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
29 มิถุนายน 2565
 

เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 19

17 ต.ค.

ผมบอกม๊าว่าจะพาจอมมาค้างที่บ้าน ตอนเช้าจะได้ไปขึ้นเรือพร้อมกัน ม๊าทำท่าเหมือนมีอะไร แต่ก็ไม่ได้พูด ถามผมแทนว่า  เคลียร์เรื่องนารากับจอมแล้วเหรอ  ผมยิ้ม บอกม๊าว่า ไม่ต้องเคลียร์อะไรเลยครับ เข็มแค่ทำให้จอมเห็นว่าเข็มรักจอมจริงๆ แล้วจอมก็ไว้ใจเข็ม เขายอมให้พี่นารามาเจอเข็มแล้วก็... ผมหยุด คิดถึงของที่จอมทำไปโชว์พี่นารา จอมรักเข็ม เขาสนใจแต่ความรู้สึกเข็ม ม๊าบอกว่า ดีแล้ว ม๊าดีใจด้วย ต่อไปเจอปัญหาอะไร ก็ประคับประคองกันไปนะลูก

จอมเตรียมของเขาใส่เป้เขามาแล้ว แต่ผมบอกให้เอาเป้ใหญ่ของผมไปใบเดียว แล้วก็จัดกระเป๋าให้ผมด้วย ผมบอกให้จอมเลือกเสื้อผ้าให้ ทีแรกผมอยากรู้ว่าจอมจะเลือกแบบไหนให้ผม แต่ไปๆ มาๆ ผมเห็นเขาตั้งใจเลือก ก็เลยอยากแกล้งเล่น จอมหยิบตัวไหนมา ผมก็ติหมด แล้วบอกให้จอมหยิบตัวอื่น จนจอมอ่อนใจ เขาถามผมว่า ทำไมไม่มาเอาเอง ผมไม่เคยเห็นจอมทำหน้าง้ำหน้างอแบบนี้มาก่อนเลย ผมขำ เดินเข้าไปกอด บอกว่าก็ผมอยากรู้ แล้วก็ไปหยิบเสื้อกางเกงตัวที่ผมตั้งใจจะเอาไป ซึ่งไม่ใช่ทั้งตัวที่จอมหยิบ และที่ผมบอก เอาไปวางให้จอมรวมกับของอื่นให้เขาเอาลงเป้ จอมทำหน้างอนหนักกว่าเดิมอีก เขาถามว่า แกล้งเขาทำไม ผมถามยิ้มๆ ว่า โกรธเหรอ เมื่อคืนยังเรียกผมว่าที่รักอยู่เลย  จอมเขินจนหน้าแดง หายงอนเป็นปลิดทิ้ง จอมปิดเป้ เสถามว่า จะให้เอาเป้ไว้ไหน ผมลุกมาหยิบเป้ไปวาง แล้วกลับมากอดเขาใหม่ ทวงรางวัลของผม บอกเขาว่า ผมนอนไม่หลับ ผมจะทำให้เขามีความสุขเหมือนอยู่ในฝัน ถามเขาว่า ผมเป็นที่รักของจอมจริงๆ ใช่มั้ย ผมจูบจอมจนเขาพูดไม่ได้ ฟังจากเสียง ดูจากอาการเขา ผมว่า ผมทำได้ดีกว่านั้นอีก

 

ผมตั้งใจพาจอมไปเที่ยว ไปรู้จักเพื่อนผม แต่กลายเป็นว่า ผมพาจอมไปเจอเรื่องแย่ๆ อีกแล้ว ผมเข้าใจว่าเบสท์ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมก็โมโหอยู่ดี แล้วยังท่าทีของคนอื่นที่มีกับจอมอีก ผมไม่ได้พูด แต่ผมก็เห็นว่ามีคนทำท่าเหมือนโล่งอก ที่แม่เบสท์ห้ามไม่ให้จอมขึ้นเรือ ผมทั้งโกรธทั้งอายแทนจอม เขาแค่เป็นโอเมกา ไม่ได้ฆ่าใครตาย ทำไมจะต้องรังเกียจกันขนาดนี้ ผมรู้ว่ามีคนเป็นแบบนี้ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมาเจอกับคนใกล้ตัวแบบนี้ จอมคนดีของผม ยังห้ามไม่ให้ผมอาละวาดใส่เพื่อน บอกให้ผมไปเที่ยวกับเพื่อน เขาจะแยกไปที่อื่นเอง แต่ผมไม่ยอม แล้วยังไปขอบคุณเบสท์ที่ชวนเขามา ขอโทษที่ทำให้มีปัญหา เอาของขวัญของผมให้เบสท์ แล้วก็พาผมขับรถออกมา

ผมคิดวนๆ โกรธตัวเองที่น่าจะรู้ น่าจะถามให้ดีก่อนจะพาจอมมา ผมเข้าใจเบสท์ เข้าใจแม่ของเบสท์ แต่ทำไมผมไม่รู้ก่อน จะได้ไม่ต้องพาจอมมาเจอเรื่องเดิมซ้ำอีก

ผมกลัวจอมจะน้อยใจ เสียใจ ไม่อยากให้เขาคิดว่า เขาเข้ากับสังคมของผมไม่ได้ ไม่อยากให้เขารู้สึกแปลกแยก จนไม่อยากไปกับผม

ผมหงุดหงิดแทนจอม ทั้งที่จริงๆ จอมก็ดูไม่ได้เป็นอะไร แถมยังมาเอาใจ ปลอบใจผมอีก จอมไม่อยากกลับบ้าน ถามผมว่าอยากไปไหน ผมไม่ตอบเพราะไม่แน่ใจว่า ที่ที่ผมรู้จัก จะไม่ต้อนรับจอมอีกมั้ย แต่เหมือนจอมจะมีที่ที่เขาอยากไปอยู่แล้ว ผมเห็นจอมเปิด GPS แล้วก็ขับไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ผมอยู่กับอารมณ์ตัวเอง ตอนจอดรถแวะกินข้าวที่ร้านเล็กๆ ริมทาง ได้ยินจอมโทร.จองที่พัก ผมก็ยิ่งรู้สึกผิด ผมกำลังจะพูดกับจอมว่า ผมไม่น่าพาเขามา แต่พูดไม่ทันจบ จอมก็ยื่นนิ้วมาแตะปากผม สีหน้าผมคงไม่ดี จอมถึงได้บอกว่า เอาไว้คุยตอนผมอารมณ์ดีกว่านี้ดีกว่า

บ่ายๆ เราก็ถึงอัมพวา ที่พักของจอมเป็นบ้านไม้เอามาปรับเป็นห้องพัก บ้านไม้หลังเล็กมีห้องพักอยู่ไม่กี่ห้อง หน้าบ้านติดคลอง มีทางเดินไม้ทอดยาวไปถึงตลาดน้ำ ลุงเจ้าของบ้าน ไม่ได้สนใจว่าผมเป็นอัลฟา ไม่สนใจว่าจอมเป็นโอเมกา ลงทะเบียนเสร็จ  ลุงแค่ถามว่า มื้อเช้าอยากกินอะไร  จะไปซื้อให้

ห้องพักเล็กกว่าห้องนอนผม 3 เท่า ไม่มีเตียง มีแต่ที่นอนบางๆ ปูกับพื้น ไม่มีเก้าอี้ ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง มีแต่กระจกติดอยู่ที่บานประตูตู้เสื้อผ้า กับกระจกตรงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ แล้วก็โต๊ะเตี้ยๆ ตัวหนึ่ง ที่พอวางของได้ แต่ก็ไม่มาก เพราะบนนั้นมีของหลายอย่างวางอยู่ก่อนแล้ว

จอมชวนผมไปเดินเล่น เขาบอกว่าเขาชอบที่นี่ เพราะบรรยากาศอบอุ่น ผู้คนก็น่ารัก ก็คงจริงอย่างจอมว่า ผมเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ก็เห็นแล้วว่า ไม่มีใครสนใจแผลของจอม ไม่มีสายตาแปลกๆ จับจ้องผู้ชาย 2 คนที่เดินจูงมือกัน ร้านขายขนมที่มียายกำลังสาละวนเอาขนมลงจากเตา ข้างๆ กันมีหลานตัวน้อย ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว เชิญชวนให้เข้ามาซื้อของ ริมคลองตอนปลายฤดูฝน อากาศกำลังสบาย ผมหลงเข้าไปในร้านกาแฟที่มีรูปถ่ายตึกเก่า แขวนเรียงเต็มผนัง เจ้าของร้านออกจากหลังเคาน์เตอร์ชงกาแฟมาคุยกับผมเรื่องรูปถ่าย ผมไม่ได้สั่งอะไรกินเลย แล้วยังคุยเพลินจนลืมไปแล้วว่าจอมมาด้วย เจ้าของร้านยังบอกให้ผมแวะมาอีก ไม่กินอะไรก็มาได้ เพราะเขาจะมีรูปใหม่หมุนเวียนมาเรื่อยๆ

จอมยืนยิ้มให้ผม ในมือมีแก้วน้ำ จอมบอกว่าเป็นโอเลี้ยง ผมชิมแล้วบอกว่า แปลก จอมหัวเราะว่าผมกินแต่กาแฟฝรั่ง เลยไม่รู้ว่า กาแฟไทยแท้ คั่วกับเม็ดมะขาม รสชาติก็เลยไม่เหมือน ไม่ได้แปลก

เราเดินต่อไปเรื่อยๆ เรือนไม้หลายหลังยังรักษาความเก่าเอาไว้ได้อย่างดี ช่องลมไม้ฉลุลายสวยๆ บานประตูไม้แบบพับ แปลกตาสำหรับผม ผมบ่นกับจอมว่าเสียดาย ไม่ได้เอากล้องมา จอมยิ้ม บอกให้มาใหม่

เราเดินเข้าใกล้ตลาด คนเริ่มมาก อากาศเริ่มร้อน แล้วจู่ๆ ก็มีฟีโรโมนมาปะทะ ผมหยุดเดิน ร่างกายผมเริ่มตอบสนองต่อกลิ่นแบบควบคุมไม่ได้อีกแล้ว จอมขยับจะเข้ามาหา ผมรีบบอกเสียงหลงว่า อย่า จอมเดินน้ำผมไปยืนบนสะพานข้ามคลอง กว่าจะพ้นจากบริเวณที่คนแออัด มาหายใจโล่งๆ ได้ มันก็อึดอัดคับแน่นจนผมเริ่มเจ็บ จอมดูจะเข้าใจดี เขายืนห่างจากผม คอยจนผมปกติดีแล้ว พาผมไปลงสะพานอีกฝั่ง เดินไปเรื่อยๆ จนพ้นตรงที่มีคนมากแล้ว ก็จับมือผมเดินไปร้านโปรดของเขา

ร้านนั้นดูเป็นกันเอง อบอุ่น เหมือนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ริมคลองหน้าบ้านตัวเอง ผมฟังรายการอาหารที่จอมสั่งแล้วก็สงสัย ถามเขาว่า หารไหวเหรอ ทำไมสั่งแต่ของแพง จอมพูดยิ้มๆ ว่า หารไม่ไหวหรอก ไม่หารด้วย ให้คุณจ่าย แล้วยังสั่งเบียร์มากินด้วย ผมถามว่าทำไม จอมก็ตอบทีเล่นทีจริงว่า อยากกินของฟรี จนผมต้องดุว่า อย่าเล่น ผมอยากรู้จริงๆ

จอมบอกว่า ตั้งแต่ตกลงเป็นแฟนกัน เขาก็ไม่ได้จริงจังเรื่องหาร 2 แล้ว เขาแค่หาข้ออ้าง เพราะรู้ว่าร้านหรูที่ผมอยากพาไป จะไม่ให้เขาเข้า จอมไม่อยากให้ผมรู้สึกว่าเราต่างกันเกินไป เขาถึงได้พยายามเลี่ยง แต่ก็หนีความจริงไม่ได้อยู่ดี ผมว่า ผมเข้าใจแล้ว ทำไมจอมอยากดื่มเบียร์ เขาถามผมว่า ยังอยากคบกับผมอยู่มั้ย มันเป็นคำถามที่ผมไม่อยากได้ยินเลย ผมลุกจากที่นั่งตรงข้าม ไปนั่งข้างเขา ไม่ได้ตอบอะไร แต่สอดมือเข้าไปหามือเขา กระชับไว้แน่น แทนคำตอบ สังคมของผมไม่ยอมรับเขา แต่จอมกลับบอกให้ผมทำความเข้าใจและก็ยอมรับสิ่งที่ผมเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ ถึงผมจะไม่ชอบ จอมบอกให้ผมโทร.หาเบสท์ด้วย ผมทำตามที่จอมบอก โทร.ไปอวยพรวันเกิด แล้วก็ขอโทษที่ผมโมโหมากไป

กลับไปถึงห้องแล้ว ผมถึงรู้ว่า ห้องไม่มีแอร์ ผมมองจอมแบบไม่เข้าใจเลยว่า เขาทำแบบนี้ทำไม จอมยิ้มหวานสุดๆ ให้ผม บอกผมว่า ริมน้ำ อากาศดี ลมเย็น น่านอน แล้วเขาก็หนีเข้าห้องน้ำ ก็คงเพราะฤทธิ์เบียร์ ผมอาบน้ำเสร็จออกมา จอมก็หลับไปแล้ว

อากาศในห้องไม่ร้อน แต่ผมก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดี นอกจากเสียงลมหายใจของจอม ยังมีเสียงเพลงแว่วมาจากที่ไกลๆ เสียงแมลงกลางคืน เสียงเหมือนคนพายเรือ นานๆ ทีก็มีเสียงเหมือนอะไรตกน้ำ หลับไปแล้วก็สะดุ้งตื่น เพราะเสียงคนเดินร้องเพลงผ่านหน้าบ้าน ผมนอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว ก็เลยออกไปยืนรับลมที่ระเบียงหน้าห้อง เรื่องจอม คำพูดของจอมยังวนอยู่ในหัว สังคมของจอม เอื้อเฟื้อ ต้อนรับผมแบบไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้น สังคมของคนที่ถือว่าตัวเองสูงอย่างสังคมของผม กลับตั้งแง่ กีดกัน ทั้งที่จอมก็ไม่ได้ไปรบกวนหรือทำให้เขาเดือดร้อน ผมคิดไปเรื่อยเปื่อยว่า คนแรกๆ ที่พยายามแยกอัลฟากับโอเมกาออกจากกัน อาจจะแค่เหนื่อยและก็ไม่อยากถูกปลุกอารมณ์ทางเพศตลอดเวลาก็ได้ นานๆ เข้า เหตุผลนั้นมันก็อาจจะเพี้ยนไปจนกลายมาเป็นแบบนี้ ก็เป็นได้

ผมได้ยินเสียงจอมลุกไปเข้าห้องน้ำ แป๊บเดียวเขาก็เข้ามากอดผมข้างหลัง ถามว่าผมคิดอะไรอยู่ ผมตอบว่า คิดเรื่องคุณ ผมไม่น่าพาคุณมา จอมยิ้มทั้งปากทั้งตา ยิ้มแบบที่อยากให้ผมรู้สึกดีจริงๆ จอมบอกว่า พามาดีแล้ว จะได้รู้ นอนไม่หลับแล้วใช่มั้ย ไปหาอะไรเล่นกันดีกว่า แล้วดึงมือผมกลับเข้าห้อง

จอมรื้อของเล่นบนโต๊ะออกมาวาง ผมเลือกเล่นหมากฮอส เพราะอย่างอื่นผมเล่นไม่เคยเล่น แต่จอมแพ้เร็วมาก เขาก็เลยบอกให้ผมเล่นอย่างอื่น  ผมไม่เข้าใจเลยว่า การเป่าให้ยางรัดของวงหนึ่งไปทับอีกวงหนึ่งได้ มันสนุกตรงไหน มันดูเหมือนง่าย แต่พอผมทำไม่ได้สักที ผมก็โวยวายบอกให้เปลี่ยนเกม จอมสอนผมเล่นบันไดงู แต่ลูกเต๋าคงไม่รักผม  ตัวของผมเดินไปตกช่องบันไดขาลงตลอด จอมหัวเราะชอบใจแล้วก็ทำโทษผมด้วยการให้เขย่าซองขนมปังไส้ช็อกโกแลตให้กลายเป็นชอคบอล

อารมณ์ผมค้างมาตั้งแต่เย็นแล้ว ยิ่งมาเห็นจอมหัวเราะ ตาเขาเป็นประกายเหมือนดาวล้านๆ ดวงที่ผมยืนดูที่ระเบียง กำลังจับมือกันเต้นระบำหยอกยั่ว...  จอมยังบอกให้ผมเขย่าถี่ๆ  แรงๆ  จะได้เสร็จเร็วๆ

ผมเลยเลิกเขย่าถุงขนมไปเขย่าเขาแทน

เสร็จกับจอม ผมตั้งท่าจะนอน แต่จอมบอกให้ผมไปอาบน้ำแล้วลงไปใส่บาตรด้วยกันก่อน ที่นี่มีพระพายเรือมารับบาตรทุกวัน ผมไม่มีปัญหาเรื่องใส่บาตร แต่มีปัญหากับคำขอของจอมที่ให้ผมสัญญาต่อหน้าพระว่า  ผมจะไม่อาละวาดเพราะเขาอีก จอมยิ้มอ้อนผม ส่วนพระท่านก็สำทับว่า ทำเถอะคุณโยม เวลาจะอาละวาด จะได้นึกถึงพระ จะได้มีสติ ผมไม่เต็มใจเลย ผมไม่ชอบให้ใครแสดงอาการรังเกียจจอม ผมพนมมือ แล้วก็พูดว่า ผมสัญญาว่า จะไม่อาละวาดเพราะแก้วเจ้าจอม ถ้าไม่จำเป็น

ใส่บาตรเสร็จ ลุงก็กลับจากตลาดพอดี อาหารเช้าพร้อมแล้ว จอมลุกไปชงกาแฟ ลุงเดินมาถามว่า เอาไข่เพิ่มมั้ย ลุงแถม เช้ามืดเนี่ย ลุงได้ยินเสียง แล้วแกก็หัวเราะดังลั่นบ้าน ผมอายจนทำอะไรไม่ถูก จอมบอกผมแล้วว่าให้เบาๆ เดี๋ยวคนอื่นตื่นกันหมดบ้าน แต่อารมณ์นั้น ใครจะไปเบาได้ จอมกลับมานั่งข้างๆ กระซิบกับผมว่า เป็นไง บอกแล้ว ลุงยังหัวเราะ บอกว่า บรรยากาศดีใช่มั้ยล่ะ มาท้องกันที่นี่หลายคนแล้ว พูดก็พูดเถอะ บ้านลุงขลังพอๆ กับเจ้าพ่อเจ้าแม่เลยแหละ

ผมหันไปมอง จอมก้มหน้าก้มตากินโรตี ถ้าเอากระจกมาวางตรงหน้าเราสองคนตอนนี้ ก็คงเห็นหน้าเราแดงพอๆ กัน

จอมออกไปตลาด เขาอยากได้ของไปฝากบ้านผมกับบ้านแม่ ผมกลับขึ้นไปนอน ผม อากาศข้างนอกเริ่มร้อน แต่ในห้องก็ไม่ได้ร้อนมาก จอมคงตั้งใจให้ผมมาอยู่แบบนี้ เขาเคยเล่าว่า ตอนเด็กๆ บ้านเขาก็มีแต่พัดลม ตอนที่มีแอร์เดือนแรกตื่นเต้นมาก ชอบมาก เปิดทุกวัน แต่พอเห็นบิลค่าไฟแล้ว  แม่ก็สั่งให้เปิดได้เฉพาะวันที่ร้อนมากๆเท่านั้น

ผมอยากคบกับเขา อยากอยู่กับเขา ก็ต้องอยู่แบบขาให้ได้ด้วย

ผมตื่นมาเห็นจอมหลับอยู่ข้างๆ ผมลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของจนเสร็จหมดแล้ว จอมก็ยังไม่ตื่น ผมรอจนหิวแล้ว ก็เลยปลุกเขา ผมจูบแก้ม จูบตา จูบหน้าผาก จูบปาก จูบซ้ำๆ จนเขาลืมตา ผมบอกให้ลุกได้แล้ว ผมหิว ถ้ายังไม่ลุก ผมจะกินคุณแทน

 

เรากลับถึงบ้านผมบ่ายแก่ๆ ม๊ามาดักตรงทางขึ้นบ้าน บอกว่า พี่นารามาตั้งแต่เช้า ม๊าบอกแล้วว่าผมไปกับจอม ไม่รู้จะกลับตอนไหน พี่นาราก็ยืนยันว่าจะรอจนกว่าผมจะมา จอมบอกว่างั้นเขากลับก่อนดีกว่า  เขาเข้าไปเดี๋ยวจะอึดอัดกันหมด แต่ผมไม่ยอม จูงมือจอมเดินเข้าบ้าน จอมไหว้พี่นารา แล้วก็ทำท่าไม่สนใจที่พี่นาราไม่รับไหว้ หันไปคุยกับม๊าว่า มีกุ้งกับปูมาจากแม่กลอง อยู่ในลังโฟมท้ายรถ ม๊าเรียกพี่นีให้ไปเอาของลง แล้วบอกจอมให้เอากระเป๋าไปเก็บข้างบน ผมยื่นมือถือให้จอม บอกเขาว่า ชาร์จแบตให้ผมด้วย ปลั๊กอยู่ที่เดิม

จอมขึ้นข้างบนไปแล้ว ผมถามพี่นาราว่า อุตส่าห์มารอผม มีอะไร ม๊ายังยืนอยู่แถวนั้น พี่นาราก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ ม๊าถามผมว่า จอมจะอยู่กินมื้อเย็นด้วยมั้ย ผมตอบม๊าว่า ยังไม่ได้คุยเลย เดี๋ยวผมไปถามให้ แล้วก็ขอตัวจากพี่นาราไปหาจอม

จอมยังยืนยันว่า เขากลับดีกว่า สงสารพี่นารา เจอม๊าผมคนเดียวก็แย่แล้ว ผมหัวเราะ เห็นด้วยกับจอม ขอมือถือจอมมาโหลดแอพล็อครถกันขโมย ส่งกุญแจรถให้ บอกให้เขาเอารถผมไป ไม่งั้นผมไม่ให้กลับ

ผมพาจอมลงมา บอกม๊าว่า จอมจะกลับแล้ว เขาอยากไปกินข้าวกับแม่ ม๊าบอกให้จอมรอเดี๋ยว แล้วไปเอาขนมให้จอม บอกว่าม๊าฝากให้แม่

จอมไหว้ลาพี่นารา พี่นาราก็ยังไม่รับไหว้จอมอีก ผมชักจะหงุดหงิด แต่จอมก็ยังดูนิ่ง จอมเดินไป 2-3 ก้าวแล้วก็หยุด หันมาพูดกับผมว่า ส่งแค่นี้ก็ได้ แล้วก็ยื่นหน้ามาจุ๊บปากผม ผมพูดเบาๆ ว่า ร้ายจริง จอมยิ้มถามว่า อีกทีมั้ย แล้วก็จุ๊บผมอีก 

จอมไม่แสดงความหยาบคาย  ไม่โวยวายอาละวาด  แต่ทำแบบนี้  ถ้าผมเป็นพี่นารา  ผมคงกลั้นใจตายไปแล้ว

จอมไปแล้ว พี่นาราอยากคุยกับผมแบบส่วนตัว ผมเลยพาพี่นาราไปเดินคุยกันในสวน พี่นาราถามผมว่า คิดว่าจะคบกับจอมได้นานแค่ไหน เข็มก็เห็นแล้วว่าสังคมของเราไม่ยอมรับเขา ผมสงสัยว่ารู้ได้ยังไง พี่นาราเปิดคลิปให้ผมดู มีคนตัดต่อคลิปตอนผมอาละวาดทั้ง 2 ครั้ง ใส่เพลงประกอบทำนอง ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป คลิปแค่ไม่กี่วินาที แต่มีคนดูแล้วหลายพัน พี่นารายังพูดต่ออีกว่า เขาไม่คู่ควรกับเข็มเลย จอมเป็นโอเมกานะเข็ม ความจริงมันเปลี่ยนไม่ได้ เข็มจะทนให้คนอื่นดูถูกเข็มทำไม ผมยังเดินคู่กับพี่นาราไปเรื่อยๆ แดดร่ม ลมพัดเอื่อยอ่อน ดีแล้วที่ทิ้งผมไป ไม่งั้นผมอาจจะนึกเสียใจที่หลงคบคนแบบนี้มาได้ตั้งนาน ผมบอกพี่นาราว่า ผมก็เพิ่งรู้ว่าคนเรารังเกียจกันได้ขนาดนี้ ทั้งที่ไม่รู้จัก สังคมของเราไม่ต้อนรับจอม แต่สังคมของจอม ไม่เคยปฏิเสธเข็ม ผมหยุดเดิน ถามพี่นาราว่า สวยมั้ย พี่นารายื่นมือไปแตะกลีบเล็กๆ สีฟ้าอมม่วง หันมายิ้มให้ผม บอกว่าสวย สีแปลก ผมยิ้มแล้วก็พูดว่า ผมภูมิใจมากที่ผมพยายามดูแลจนแก้วเจ้าจอมเขายอมออกดอกมาให้ชื่นชม ผมตั้งใจปลูกเองกับมือ ถึงใครจะคิดว่าไม่สวยพอจะเอาไปโชว์ได้ แต่ผมก็รัก

พี่นารายังถามว่า ไม่กลัวจอมมาหลอกเอาเงินเหรอ ผมรู้ว่าเจตนาของพี่นาราคืออะไร เขาไม่ได้ห่วงหรอกว่าผมจะโดนหลอก ผมเลยพูดขำๆ ว่า ผมรวย จอมน่าจะต้องหลอกผมไปตลอดชีวิตแหละ กว่าผมจะหมดตัว

ผมชวนพี่นารากินมื้อเย็น ผมแกะกุ้งเผาใส่จานให้ด้วย พี่นาราชมว่ากุ้งน่ากิน ผมเลยบอกให้กินให้หมด จอมเป็นคนไปเลือกไปขนจากตลาดแม่กลองมาเองเลย พี่นาราทำท่ากลืนไม่เข้า คายไม่ออก แล้วยังโดนป๊าหยอกทับไปอีกว่า เชื่อเข็มเถอะ จอมเขาเลือกของเก่ง ของที่จอมเลือกมาให้ที่บ้านนี้กิน ดีๆ อร่อยๆ ทั้งนั้น

ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่นาราไม่เอารถมา พอพี่นาราขอให้ไปส่ง ผมเลยบอกว่า ผมให้จอมเอารถผมไปแล้ว แล้วบอกให้คนขับรถ พาพี่นาราไปส่งแทน

 

ป๊าขึ้นข้างบนไปแล้ว ม๊ายิงคำถามแรกมาเลยว่า จอมโกรธรึเปล่าที่ไม่ได้ขึ้นเรือ ผมมองม๊าแบบสงสัย ม๊าพูดต่อว่า ม๊ารู้อยู่แล้ว ถ้าแม่เบสท์รู้ว่าจอมไปด้วย เขาไม่ยอมให้ขึ้นเรือเขาแน่ ผมถามม๊าว่าทำไมไม่บอกก่อน ม๊าลูบหัวผมบอกว่า ม๊าไม่อยากให้หลบ มันเป็นเรื่องจริงที่เข็มกับจอมต้องเจอ ผมบอกม๊าว่า จอมเข้าใจอะไรๆ ดีกว่าเข็มอีก เขาพาเข็มไปนอนบ้านที่ไม่มีแอร์ เขาคงอยากให้เข็มปรับตัวไปหาเขา เขารู้ว่า เขามาเข้ากับสังคมของเราไม่ได้ เขายังเป็นห่วงเข็มอีกว่ามาคบกับเขา เข็มจะพลอยโดนรังเกียจไปด้วย ม๊ายิ้มๆ พูดว่า เข็มโชคดีนะ จอมเป็นเด็กดี แล้วก็รักเข็ม

 

ผมโทร.บอกจอมเรื่องที่ผมแกะกุ้งให้พี่นารา เขาเลยต้องกินกุ้งที่จอมเป็นคนซื้อทั้งที่ไม่อยากกิน แล้วก็ไม่ต้องเอารถมาคืน เดี๋ยวสายๆ ผมไปเอาเอง

แต่ผมยังไม่ได้ออกจากบ้าน จอมก็โทร.มาหา เขาละล่ำละลักบอกว่า รถผมโดนกรีดรอบคัน จอมขอโทษผมที่เขาดูแลรถไม่ดี ผมบอกเขาว่า  คุณไม่ได้เป็นคนกรีดรถนะ จะขอโทษทำไม รถจอดหน้าร้านใช่มั้ย หน้าร้านมีกล้องใช่มั้ย ไปดูกล้องแล้วอัดคลิปไว้ เดี๋ยวผมพาไปแจ้งความ

ใครมันช่างกล้ามาแตะรถผม แล้วยังมาทำให้จอมตกใจ  จับได้เมื่อไหร่  ผมจะยัดข้อหาให้ขังลืมเลย




Create Date : 29 มิถุนายน 2565
Last Update : 9 กรกฎาคม 2565 12:01:12 น. 0 comments
Counter : 456 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com