เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 56
ผมรีบตื่นมาเขียนโน๊ตบอกเข็ม แล้วลงไปคุยกับม๊า ม๊าแนะนำผมมา 2 ร้าน ร้านหนึ่งเป็นขนมไทย อีกร้านหนึ่งเป็นเบเกอรี่ ม๊าบอกว่า ทั้ง 2 ร้านนี้ เน้นทำขนมชิ้นพอดีคำ กินง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ น่าจะเหมาะกับงานที่ผมจะเอาไปใช้ แล้วม๊าก็ถามว่า เมื่อคืนเป็นไงบ้าง เข็มโทร.มาย้ำแล้วย้ำอีก ว่าอย่าลืมจุดเทียน ผมได้แต่ยิ้มเขินๆ ไม่รู้จะเล่ายังไง ว่าเมื่อคืน เข็มอะไรกับผมแค่ไหน แล้วก็นึกขึ้นได้ ผมขอบคุณม๊า ขอบคุณพี่นี ที่มีส่วนช่วยทำเซอร์ไพรส์ให้ผม ทุกคนน่ารักกับผมมากจริงๆๆ เช้านั้นบรรยากาศดีมากๆ เข็มไม่น่าทำเสียด้วยการถามผมเลยว่า พรุ่งนี้หมอนัดกี่โมง ทุกครั้งที่ผมจับเข็มฉีดยาได้ เพราะมันอยู่ในมือเข็ม แต่พรุ่งนี้ ต่อหน้าหมอ มันต้องไม่ใช่แบบนั้นแน่ๆ ป๊าม๊าเห็นหน้าผม ก็คงสงสาร ถึงได้พูดกับผมว่า สู้ๆ นะลูก ผมบอกตัวเองว่า ไม่ไหวบอกไหว ยังไงผมก็ต้องไป และผมต้องมีความสุขกับมันให้ได้ ผมไปตามหาร้านที่ม๊าบอก ขนมเขาสวย น่ารัก แปลกตาจริงๆ ผมเก็บข้อมูลราคา ขอถ่ายรูป แล้วก็ซื้อกลับมาลองชิม ไม่ดีอย่างเดียวคือ 2 ร้านนี้อยู่ไกลกันมาก ผมเสียเวลาไปครึ่งค่อนวันกว่าจะกลับถึงร้าน ยังดีที่ผมไปเจอแคนตาลูปสีทองของโปรดของเข็มขายอยู่แถวนั้นพอดี เลยไม่เสียเวลาไปหาซื้ออีก เข็มไลน์มาบอกว่า มีหมอลางาน เขาน่าจะต้องอยู่ห้องตรวจทั้งวัน ผมเข้าทางหลังร้าน บอกให้ทุกคนมาช่วยกันชิมขนม แล้วก็ไปหั่นแคนตาลูปใส่กล่องส่งไปให้เข็ม เสร็จแล้วถึงได้ออกมาหน้าร้าน พี่คิมทักผมแบบดีใจมาก ตรงหน้าพี่คิมมีแก้วกาแฟเย็นที่เริ่มละลาย กับ จานเปล่า 1 ใบ ผมยิ้มให้ตามมารยาท ถามพี่คิมว่า รับอะไรเพิ่มมั้ยครับ พี่คิมส่ายหน้า พูดกับผมว่า ขอนั่งหน่อยนะ พี่มาเอาเครื่องมือที่ร้านซ่อม แต่เขายังทำไม่เสร็จ พี่เลยต้องหาที่นั่งรอ ผมตอบพี่คิมว่า ไม่เป็นไรครับ ตามสบาย ผมเก็บจานบนโต๊ะ กำลังจะเดินกลับ พี่คิมก็พูดต่อว่า ทำไมพูดกับพี่ห่างเหินจัง โกรธพี่หรือเปล่า เมื่อคืนพี่ไม่ได้ตั้งใจจะไม่ทักแฟนจอมนะ แต่พี่มัวแต่ดีใจที่เจอจอม เลยเสียมารยาทไปหน่อย พี่ฝากไปขอโทษเขาด้วยนะ ผมกะพริบตามองพี่คิม ตั้งแต่ตอนนั้น พี่คิมก็ไม่ได้มีใจให้ผม ผ่านไปหลายปีถึงตอนนี้ พี่คิมก็ไม่น่ามีเยื่อใยแบบนั้นกับผมอยู่แล้ว คิดถึง มันก็คงแค่ คิดถึงอย่างพี่น้องที่เคยเรียนเคยเล่นด้วยกันมา ผมไม่น่าหลงตัวเอง คิดว่าพี่คิมจะมีความรู้สึกแบบนั้นกับผมเลย ผมก็เลยยิ้มให้พี่คิม บอกพี่คิมว่า ผมไม่ได้โกรธ และเข็มก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ แล้วก็ขอตัวเอากล่องไปให้ไรเดอร์เอาไปส่งให้เข็ม ทุกคนชิมขนมหมดแล้ว โจกับพีท ชอบทุกอย่างที่ผมซื้อมา มีแต่พีบอกว่า ถ้ามีเด็กด้วย หน้าตาขนมมันก็อาจจะดูไม่ค่อยเร้าใจ ผมบอกพีว่า ร้านเขามีเอแคลร์รูปหงส์ กับ เต่าด้วย ถ้ารสชาติผ่าน ก็คงเลือก 2 แบบนั้นมากกว่า กำลังคุยกันอยู่ พี่คิมก็เรียกผม บอกว่าจะสั่งอาหารกลับบ้าน พี่คิมบอกว่าเกรงใจ เพราะน่าจะต้องอยู่อีกสักพัก ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องเกรงใจ พี่คิมก็ยืนยันจะสั่งเอากลับบ้าน แล้วถามผมว่า จะเอาขนมไปทำอะไร ผมก็เลยเล่าให้ฟังว่าผมรับงาน Catering พอดีมีลูกค้าใหม่ เขาไม่ชอบของเจ้าที่ผมเคยดีลไว้ เลยต้องหาใหม่ นี่ก็ได้ขนมไทย ขนมฝรั่งมาแล้ว แต่ผมอยากได้แนวจีนๆ ไปเสนอลูกค้าด้วย ยังหาไม่ฃได้เลย พี่คิมบอกว่า พี่คิมรู้จักร้านที่ขายเผือกหิมะ กับพายพุทราจีน เป็นร้านห้องแถวเล็กๆ ทำขายอยู่ 2 อย่างนี้ ก็ส่งลูกเรียนได้แล้ว เพราะทำอร่อยมาก ทำส่งภัตตาคารหลายที่ ถ้าผมสนใจ พี่คิมจะพาไป ไปพรุ่งนี้เลยก็ได้ ผมขอบคุณพี่คิม แล้วก็บอกว่า พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง ต้องไปหาหมอ ขอเป็นวันมะรืน พี่คิมถามว่าผมเป็นอะไรถึงต้องหาหมอ ผมยังไม่ได้ตอบก็ได้ยินเสียงมือถือดัง เข็มโทร.มาหา สงสัยดูกล้องแล้วเห็นพี่คิม ผมรับสายแล้วถามว่า ได้ผลไม้หรือยัง เข็มถามกลับว่าอะไร แล้วก็พูดต่อว่า เพิ่งมาส่ง เข็มเงียบไปอีก คงกำลังอ่านข้อความของผมบนกล่อง ผมเขียนว่า ไม่มาก็คิดถึง ไม่เห็นก็คิดถึง ผมอยากเห็นหน้าเขาจัง ตอนเขาพูดว่า ทำขนาดนี้ เดี๋ยวผมก็เป็นเบาหวานตายหรอก เสียงเขานุ่มนวลจนผมอดเขินไม่ได้ ผมบอกเขาว่า ผมแค่อยากดูแล อยากบอก เข็มทำให้ผมเขินหนักกว่าเดิมอีก ด้วยคำพูดว่า สัญญานะ ต้องบอกผมคนเดียว ห้ามไปบอกใคร สัญญาครับ แก้วเจ้าจอมคิดถึงเข็มขาวคนเดียว เข็มคงเขินเหมือนกัน เสียงเขาถึงได้อ่อนนุ่มอย่างนั้น ตอนเขาบอกว่า จะกินแคนตาลูปให้หมด แล้วจะมากินผมด้วย แล้วคืนนั้น เขาก็มากินผมหมดเนื้อหมดตัวจริงๆ เข็มอยู่ใกล้ๆ ผม แต่เขาช่วยอะไรผมไม่ได้แล้ว หมอคุยกับผมเรื่องสัพเพเหระ แล้วก็ถามผมว่า พร้อมหรือยัง ผมอยากตอบว่าไม่พร้อม แต่ผมพยักหน้า หมอยื่นซองเข็มฉีดยามาให้ ผมแบมือออกไปรอรับ เข็มฉีดยายังทำให้ผมเจ็บ แต่ความเจ็บนั้นมันไม่น่ากลัวเท่าเดิมแล้ว หมอหยิบเข็มฉีดยาจากมือผมไปวางบนโต๊ะ แล้วถามผมว่า พอจำได้มั้ยว่ารู้สึกกลัวมากๆ ตอนอายุเท่าไหร่ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ผมเล่าเรื่องที่เคยเล่าให้เข็มฟัง ให้หมอฟัง บอกหมอด้วยว่า ผมก็ไม่รู้ว่า เพราะผมกลัวมากก็เลยทำแบบนั้น หรือผมแค่ตกใจ แต่เจอปฏิกิริยาแบบนั้น ผมถึงได้ฝังใจ หมอตอบผมว่า อาจเป็นได้ทั้ง 2 อย่าง ถ้าอยากรู้จริงๆ อาจจะต้องลองใช้วิธีสะกดจิต แต่เคสผม ไม่น่าต้องทำขนาดนั้น เพราะผมมีผู้ช่วยดี แล้วผมก็เผชิญหน้ากับความกลัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ หมอถามผมว่า สวดมนต์บ้างมั้ย ผมตอบแบบงงๆ ว่า ก็สวดตามพระเวลาไปงานตามวัด หมอแนะนำให้ผมลองสวดมนต์ก่อนนอน สวดทุกวันจนจำขึ้นใจ เวลาตกใจกลัว บทสวดมนต์มันจะมาเอง สติอยู่กับตัว จะทำให้หายกลัวได้เร็วขึ้น แล้วก็บอกเข็มว่าหมอนัดอีกที อีก 2 เดือนไปเลยนะครับ การบ้านต่อไป ให้จับเข็มฉีดยาตัวจริงๆ แบบแกะออกจากซอง อย่าลืมฝึกหายใจด้วย ผมนั่งหลับตาฟังหมอ เข็มฉีดยาเปลือยๆ งั้นเหรอ ในหัวผมมีเข็มฉีดยาเป็นร้อยๆ อันพุ่งเข้ามาหาผมยังกับห่ากระสุน ผมกำมือตัวเองแน่น จนรู้สึกว่ามีมือมาจับไหล่ มาแตะแก้ม เสียงเข็มเรียกให้ผมลืมตา หายใจให้ช้าลง ส่วนหมอก็พูดกับผมว่า แค่บอกผู้ช่วยคุณไว้เฉยๆ นะครับ ไม่ได้เร่งรัด ได้เท่าไหนก็เท่านั้น ค่อยเป็นค่อยไป ผมพยักหน้ารับ นึกในใจว่า ขอให้เข็มเชื่อที่หมอพูดด้วยเถิด ออกจากโรงพยาบาล เข็มบอกว่าจะพาผมไปหาอะไรกิน แต่พอไปถึง มันเป็นงานแฟร์ขายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและสวน ผมถามเข็มว่าอยากมาดูอะไร เข็มมาจับมือผม เดินไปด้วยพูดไปด้วยว่า ผมพามาเพราะคุณ คราวที่แล้ว ผมถามว่าอยากได้บ้านแบบไหน คุณยังไม่ตอบผมเลย ผมก็เลยพามาดู เผื่อคุณจะนึกออก ผมมองเข็มด้วยความรู้สึกเต็มตื่นอย่างประหลาด แค่คิดว่าเขาอยากมีผมอยู่เป็นครอบครัวของเขา ในบ้านที่เป็นของเรา ผมก็มีความสุขจนบอกไม่ถูกแล้ว ผมไม่รู้ว่าเข็มรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า เพราะเขาเอาแต่ดูมือถือที่เขาเพิ่งสแกนคิวอาร์โค้ดหน้างานเพื่อดูแผนผัง ถามผมว่าอยากไปดูอะไรก่อน ผมตอบว่า ไม่รู้สิ เข็มบอกว่า งั้นไปดูโซนบริษัทรับสร้างบ้านนะ ไปดูแบบบ้าน ผมดึงมือเข็มไว้ บอกว่า ไปดูอย่างอื่นดีกว่า บ้านคุณก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่อยากได้บ้านใหม่ เข็มหันมาถามว่า ดียังไง ผมตอบเข็มเรื่อยๆ ว่า ผมชอบบ้านที่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ถ้าผมมีลูก ผมก็อยากให้ลูกได้อยู่ใกล้ๆ ปู่ย่าตายาย อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ที่คอยดูแลกัน น่าจะอบอุ่นดี สายตาเข็มหวานไม่ไหวอีกแล้ว เขาพูดว่า แฟนผมน่ารักจัง ผมถามงงๆ ว่า อะไรของคุณ เข็มตอบยิ้มๆ ว่า ก็ผมเห็นแต่เขาอยากแยกบ้าน อยากเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวาย อยู่ในรั้วเดียวกัน ยังต้องอยู่คนละหลังเลย แต่ผมไม่อยากให้ป๊าม๊าแก่ไปด้วยกันแค่ 2 คน ถ้าคุณไม่ชอบบ้านผม แล้วอยากไปอยู่ที่อื่น ผมก็คงลำบากใจ แต่ถ้าจะมีคนมาอยู่เพิ่ม ผมก็อยากแต่งห้องใหม่นะ ไปเดินดูกัน เผื่อมีอะไรน่าสนใจ เราเดินข้างๆ กันไปเรื่อยๆ โชคดีจังที่ได้อยู่ข้างเขา ที่เราคิดเหมือนกัน เข้าใจกัน แม่เคยบอกว่า คนเราจะอยู่กันยาวๆ ได้ ศีลมันต้องเสมอกัน ทั้งทางดีทางร้าย ผมอยากให้เรามีศีลเสมอกันทุกเรื่องอย่างที่แม่ว่า เพราะผมอยากอยู่ข้างเขาแบบนี้ไปทั้งชีวิต เราเดินกันมาจนถึงโซนขายที่นอน ร้านที่เข็มแวะดู ขายที่นอนหลังเดียว ราคาเท่ากับที่ผมใช้อยู่ 10 หลัง พนักงานขายพรีเซนต์ให้ฟังว่า ทำจากวัสดุอย่างดี ไม่ยุบไม่ยวบง่าย มีนวัตกรรมช่วยดูดซับแรง ทำให้เวลาพลิกตัว ก็จะไม่รบกวนการนอนของคนข้างๆ เข็มถามผมว่า ชอบมั้ย ผมส่ายหน้าเบาๆ ตอบเข็มว่า คุณพลิกตัวบ่อยก็ตอนที่คุณไม่สบายตัว ไม่สบายใจ จะให้ผมนอนสบาย ไ ม่รู้สึกว่าคุณกำลังเป็นอะไร คงไม่ดีมั้ง แล้วถ้าคุณคิดว่าผมนอนพลิกไปพลิกมา มันรบกวนคุณ คุณก็แค่ นอนคนเดียว ไม่ต้องให้ผมนอนด้วย คนขายแค่อมยิ้ม แต่เข็มหัวเราะลั่น แล้วมากระซิบข้างหูผมว่า ไม่ได้หรอก ผมให้คุณรบกวนผมได้คนเดียว ไม่ให้ไปรบกวนใครทั้งนั้น ของผม ผมหวง เข็มจะพูดหวานๆ กับผมแบบนี้ไปจนแก่มั้ยนะ ผมอยากรู้จัง พี่คิมส่งไลน์มาถามตั้งแต่บ่ายว่า พรุ่งนี้จะไปกี่โมง ผมมัวแต่เดินเล่นกับเข็มจนไม่ได้สนใจ มาเห็นตอนมาเปิดดูระหว่างรอผัดไทย ผมรีบตอบว่า ผมไปได้ตอนบ่ายโมง พี่คิมจะมารับ แต่ผมบอกว่า ผมอยากขับรถไปเองมากกว่า ถ้าต้องไปอีก จะได้จำทางได้ พี่คิมตอบกลับมาว่า งั้น พี่เอารถไปจอดที่ร้านจอม แล้วค่อยไปรถจอมก็ได้ เข็มถามว่า คุยกับใคร ผมตอบเข็มไปด้วย ตอบไลน์ไปด้วยว่า พี่คิม เข็มทำเสียงดุใส่ผมว่า คุณแก้วเจ้าจอม คุณกำลังคุยกับผู้ชายอื่นต่อหน้าแฟนคุณนะครับ ผมเงยหน้ามองเข็ม ถามเฉยๆ ว่า แล้วจะให้คุยลับหลังคุณหรือไง ผมส่งโทรศัพท์ให้เข็มอ่าน เขาขมวดคิ้วถามว่า ทำไมต้องมาพาไป ทำไมคุณไม่ไปเอง ผมตอบเข็มว่า ผมไม่รู้จัก พี่คิมบอกว่า เป็นร้านเล็กๆ อยู่ในซอยเล็กๆ ไม่มีในแผนที่ ผมหาดูแล้วก็ไม่มีจริงๆ เข็มยังทำหน้ายุ่ง ถามว่า ไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่าง ร้านนั่นมีจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ คุณสนิทกับเขาแค่ไหน ถึงไปไว้ใจเขา ผมนึกถึงดีกรีความสนิทของผมกับพี่คิมตอนอยู่มหาลัย มันก็สนิทจนผมหลงคิดเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ ผมตอบเข็มว่า ผมอยู่ชมรมเดียวกับพี่คิมตั้ง 2 ปี ทำกิจกรรมด้วยกันตลอด เขาไม่หลอกผมหรอกน่ะ ผัดไทยมาเสิร์ฟแล้ว ผมถามเข็มว่า บีบมะนาวมั้ย เข็มมองผมแบบไม่แน่ใจ ตั้งแต่คบกันมา เรายังไม่เคยกินผัดไทยด้วยกันเลย วันนี้เป็นเมนูตามใจผม ดูท่าเข็มจะไม่ค่อยได้กิน ผมถามเข็มว่า ปกติคุณปรุงยังไง เข็มตอบว่า มายังไงก็กินยังงั้นแหละ ไม่เคยมานั่งกินที่ร้านแบบนี้ด้วย ผมเลยบอกเข็มว่า อย่าเพิ่งกัน แล้วก็จัดการบีบมะนาว เติมพริกป่น เติมถั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกจานนั้นให้เข็ม แล้วสลับเอาจานตรงหน้าเขามา เข็มตักเข้าปากแล้วพยักหน้าหลายครั้ง เขาเลิกสนใจเรื่องพี่คิม กวาดผัดไทยจานนั้นหมดเกลี้ยง พี่คิมมาถึงร้านผมตรงเวลาเป๊ะ แต่ไหนแต่ไร พี่คิมก็เป็นคนตรงเวลาแบบนี้ ผมถมพี่คิมว่า จอดรถไว้ไหน ผมจะให้ไปจอดแทนที่รถผมตรงที่รับฝากรถ แต่พี่คิมบอกว่า นั่งแท็กซี่มา พี่คิมบอกทางผมคร่าวๆ แล้วก็นั่งรถเงียบๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะถามว่า ไปหาหมอทำไม ผมตอบว่า ไปรักษาโรคกลัวเข็มฉีดยา พี่คิมถามต่อว่า จอมก็เป็นมาตั้งนานแล้วนี่ ทำไมเพิ่งอยากรักษา ผมหันไปมองพี่คิม ก็เห็นเขากำลังมองผมจริงจัง ผมจำได้ว่า เคยบอกพี่คิม แล้วพี่คิมบอกให้ผมไปหาหมอ แต่ผมไม่ได้ไป ผมตอบพี่คิมว่า เข็มเขาอยากมีลูก เขาก็เลยให้ผมไปรักษา ไม่งั้นผมจะมีปัญหาตอนผ่าคลอด พี่คิมพยักหน้าเหมือนจะบอกว่า เข้าใจ แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องตัวเองให้ผมฟัง ตั้งแต่พี่คิมปฏิเสธผม เรียนจบ ไปมีครอบครัว ผมก็ตัดการรับรู้เรื่องพี่คิมทุกอย่าง หลายครั้งที่พี่คิมเริ่มต้นประโยคว่า จอมรู้แล้วใช่มั้ยว่าพี่... แล้วผมตอบว่า เหรอครับ จนพี่คิมถามว่า จอมเลิกสนใจเรื่องพี่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเหลือบมองพี่คิมนิดหนึ่ง แต่ไม่ได้ตอบ เพราะผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าผมเลิกสนใจพี่คิมตอนไหน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ผมเคยรู้สึกว่า การที่ในใจมีแต่คำถาม และคำตอบคือความดำมืด มันทรมานเหลือแสน และวันนี้ ผมก็แปลกใจตัวเองยิ่งกว่า ที่คำตอบมาอยู่ตรงหน้า แต่ผมกลับไม่อยากถาม ไม่อยากรู้อะไรอีกแล้ว พี่คิมถามผมเรื่องเข็มด้วย ผมเล่าให้ฟังแบบสบายอารมณ์ว่า ผมเพิ่งเจอเข็มได้ปีเดียว แต่เขาดีกับชีวิตผมมาก พี่คิมฟังด้วยท่าทางนิ่งๆ พูดกับผมว่า เขาเป็นอัลฟา จะไว้ใจได้แค่ไหน ผมหัวเราะออกมาดังๆ พูดกับพี่คืมว่า เมื่อวานเข็มก็ถามผมแบบนี้ ผมดูเหมือนหลอกง่ายหรือไง พี่คิมหัวเราะตามผม พูดกับผมว่า พี่แค่เป็นห่วง เขาดีกับจอมก็ดีแล้ว พี่ดีใจด้วย ร้านขนมร้านนั้น ถ้าพี่คิมไม่พามา ผมคงไม่มีวันหาเจอ ขนมหน้าตาธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลย เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ผมบอกขอบคุณที่พี่คิมอาสาพาผมมา ถ้าลูกค้าตกลง เดี๋ยวผมพาไปเลี้ยงมื้อใหญ่ พี่คิมตอบยิ้มๆ ว่า อย่าลืมก็แล้วกัน ผมเพิ่งรู้ว่า บ้านพี่คิมอยู่ใกล้ร้านขนมมาก แค่เลี้ยวไปอีกซอยก็ถึงแล้ว บ้านเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่ พี่คิมบอกว่า พี่คิมอยู่บ้านนี้กับแม่ แล้วก็ลูกสาว พ่ออยู่บ้านอีกหลัง แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน พี่คิมชวนผมเข้าบ้าน ผมกำลังจะตามเข้าไป จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่เข็มเล่าว่าธันวาทำอะไรเขา หลังจากชวนเขาไปหาที่บ้าน ผมเปลี่ยนใจ บอกพี่คิมว่า ผมต้องกลับไปทำงานแล้ว ยังไงวันนี้ก็ขอบคุณมากนะครับ ผมไม่ได้คิดว่า พี่คิมไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้น ผมแค่ไม่อยากกลับไปทำตัวสนิทกับพี่คิมเหมือนเดิมอีก พี่คิมไม่เหมือนเดิม ผมก็เหมือนกัน ผมรวบรวมข้อมูลที่ผมไปหามาใหม่ เตรียมเอาไปเสนอคุณสินี ผมรู้สึกว่าเข็มมองแล้วมองอีก แล้วเขาก็ถามว่า เมื่อไหร่จะเสร็จ ผมยังก้มหน้าก้มตาอยู่กับคอมพ์ ตอบเข็มว่า สักพักนะ ผมอยากให้คุณสินีเห็นหลายๆ แบบ อาม่าบอกว่า ถ้างานนี้ผ่าน ผมน่าจะได้อีกหลายงาน เข็มพูดเหมือนงอนผมว่า ทำไมไม่บอกก่อน ผมจะได้กลับบ้าน ตั้งแต่ผมมา เรายังไม่ได้คุยกันเลยนะ ผมเริ่มรู้สึกว่าเข็มงอนจริงจังแล้ว ปกติเข็มก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ ผมเลยตัดสินใจลุกจากหน้าคอมพ์มานั่งข้างเขา บอกเขาว่า ผมคุยกับคุณก่อนก็ได้ 20 นาทีนะ เข็มรับคำเบาๆ แล้วก็ถามว่า ร้านที่พี่คิมพาไปอยู่แถวไหน คราวหน้าคุณไปเองถูกแล้วใช่มั้ย ผมเอ็นดูเด็กชายขี้หวงจนต้องยิ้มออกมา บอกเข็มว่า ไปถูกแล้ว อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แค่ทางไปมันสลับซับซ้อน ผมจะเล่าต่อว่าอยู่ใกล้บ้านพี่คิม แต่คิดอีกที เล่าไปเข็มน่าจะยิ่งหงุดหงิดมากกว่า ก็เลยข้ามไปเอารูปร้านที่ผมถ่ายไว้มาให้เข็มดู บอกเข็มว่า แถวนั้นยังมีห้องแถวไม้เก่าแก่แบบที่เห็นในละครพีเรียดอีกหลายหลัง วันไหนว่างๆ เราขับรถไปดูกันดีมั้ย เผื่อคุณอยากถ่ายรูป เข็มยิ้มออกแล้ว เขาดูรูปพวกนั้นอย่างพินิจพิจารณา เหมือนเขาจะรออยู่ เพราะพอผมถามว่า ที่คลินิกเป็นไงบ้าง เขาก็เล่ามายาวเหยียด ทั้งเรื่องแม่บ้านใหม่ เรื่องคนเช่าตึกฝั่งตรงข้ามกับคลินิก ทำเศษปูนตกใส่รถลูกค้า เรื่องแมวที่มีคนเอามารักษาแล้วไม่มารับกลับ แล้วก็ยังมีคนเก็บลูกนกตกจากรัง จะมาฝากให้ช่วยเลี้ยง พอเข็มไม่รับก็โวยวายว่าเข็มไม่มีมนุษยธรรม ผมนั่งฟังเงียบๆ รอจนเขาเล่าจบหมดทุกเรื่องแล้ว ขยับเข้าไปหา จูบหน้าผาก จูบแก้มซ้าย แก้มขวา เลื่อนมาจูบปาก แล้วถามว่า โอเคแล้วใช่มั้ย เข็มจูบผมกลับแล้วตอบว่า ก็นิดนึง ผมเอื้อมไปหยิบฟ้าน้อยมาส่งให้ บอกเขาว่า คุยกับฟ้าน้อยไปก่อนนะ ผมจะรีบทำงานให้เสร็จ แต่ถ้าคุณง่วง หลับก่อนเลยก็ได้นะ ผมใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้ และเข็มก็หลับไปก่อนแล้ว ผมลูบแก้มเขา ปัดผมเขา แต่ก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่น วันนี้เขาเจอมาหลายเรื่อง แล้วยังมาเจอผมไม่มีเวลาให้อีก แค่นี้คุณหนูก็งอแง สงสารก็สงสาร ขำก็ขำ ถ้ามีลูกขึ้นมาจริงๆ พ่อกับลูก ใครจะงอแงหนักกว่ากัน ผมจูบหน้าผากเขาอีกที กระซิบบอกเขาว่า ฝันดีนะครับ ที่รักของจอม ออกจากบ้านคุณสินีแล้ว ผมรีบโทร.หาเข็ม บอกเขาว่า คุณสินีตกลงวางมัดจำแล้ว แล้วผมก็ได้อีกงานเพิ่มมาด้วย คนที่เพื่อนคุณสินีว่าจ้าง ขอยกเลิกงานกะทันหัน คุณสินีเลยแนะนำผมให้ เขาต้องการด่วนมาก เพราะอีก 3 วันก็จะถึงวันงานแล้ว เข็มถามผมว่า ตื่นเต้นขนาดนี้ จะเลี้ยงมื้อเย็นผมหรือเปล่า ผมหัวเราะ ตอบเข็มว่า ผมไม่เคยได้ 2 งานพร้อมกันนี่ ไม่เคยได้ค่างานมากขนาดนี้ด้วย เข็มหัวเราะ บอกผมว่า อย่าตื่นเต้นมาก ตั้งใจหน่อย ขับรถดีๆ ผมเกรงใจพีท แต่ก็ต้องไปซื้อของที่ต้องใช้ในงาน แล้วก็ไปติดต่อร้านขนม ไม่งั้นจะเตรียมงานไม่ทัน เป็นอันว่าวันนี้ ผมก็ไม่ได้อยู่ร้านทั้งวัน ถ้าไม่มีโจมาช่วยก็คงลำบาก ตอนเข็มมาหา ถามผมเรื่องรายได้ว่าแบ่งกันยังไง ผมก็ตอบง่ายๆ ว่า ก็หาร 2 เหมือนรายได้ในร้าน เข็มมองผมนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แล้วถามว่า คุณไม่คิดว่าคุณเสียเปรียบพีทเหรอ งานนี้พีทไม่ได้ทำอะไรเลยนะ คุณรับงานเอง ติดต่อเอง จัดการเองหมด ผมตอบเข็มจริงจังว่า รายได้ที่ร้านตอนที่ผมไม่อยู่ พีทก็หาร 2 ให้ผมเหมือนกัน แล้วอีกอย่าง ถ้าไม่ได้พีท ผมก็คงทำร้านมาไม่ได้ถึงตอนนี้หรอก เข็มพูดปนหัวเราะว่า ใจดีตลอด เมื่อไหร่จะรวย ผมหัวเราะตอบเข้มว่า ผมไม่ได้อยากรวยนี่ แค่อยากมีเพื่อน อยากมีความสุข เข็มเอาเข็มฉีดยาในซองมาแกว่งไปมาในอากาศ ยังกับมันเป็นไม้กายสิทธิ์ วนมาแตะกระหม่อมผม แล้วก็พูดว่า เจ้าจะได้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ รวมทั้งความรวยด้วย แต่เจ้าต้องจูบชายคนนี้ก่อน ผมไม่คุ้นกับโหมดนี้ของเข็มเลย ผมงงจนลืมไปแล้วว่ามีเข็มฉีดยาแตะตัวอยู่ เข็มเลื่อนมือลงมาส่งเข็มฉีดยาให้ผม พูดเล่นต่อว่า สิ่งนี้เป็นของเจ้า จงรับไว้ จูบข้า แล้วเจ้าจะได้ทุกอย่าง ผมรับมาถือไว้ หัวใจผมเต้นโครมคราม จนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังสั่น ผมบอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะ เข็มฉีดยา หรือ เข็มขาว เราจูบกันไปเรื่อยๆ เข็มฉีดยายังอยู่ในมือผม เข็มเริ่มหายใจแรง ผมดันให้เขาเอนตัวลง จะถอดเสื้อตัวเอง แต่ผมไม่ถนัด ถามเข็มว่า ผมวางเข็มฉีดยาได้รึยัง เข็มลุกมาถอดเสื้อให้ผม ดึงเข็มฉีดยาไปจากมือผม แล้วก็พูดว่า มือคุณว่างแล้ว ถ้าเข็มตั้งใจใช้วิธีนี้บำบัดการกลัวเข็มฉีดยาของผม ผมว่า มันก็ได้ผลไม่เลวเลย งานด่วนงานนั้น เป็นงานของหวานถวายพระ ของว่างตอนเช้าสำหรับงานหมั้น แขกประมาณ 80 คน ที่จริงถ้าจัดเป็น Snack Box ผมมาทำคนเดียวได้ แต่งานนี้ต้องวางไลน์บุฟเฟต์ ผมเลยต้องเอาพีมาช่วย ขนมอย่างอื่นวางเรียงลงถาดได้เลย ยกเว้นทองหยอดกับเม็ดขนุน แล้วก็ลูกชุบ ต้องจัดลงถ้วยเล็กแล้วค่อยไปเรียง เพื่อป้องกันความเละเทะ พีกำลังช่วยผมจัดของ แต่จู่ๆ เขาก็หยุดมือไปเฉยๆ ผมเงยหน้าขึ้นดูว่าพีเป็นอะไร ก็เห็นเขากำลังมองโจที่กำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างสนิทสนม ดูจากการแต่งตัว 2 คนนั้นคงมาเป็นแขก โจไม่ได้เข้ามาทักเรา ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเข็มเคยบอกแล้วว่าโจเป็นคนอินดี้ แต่กับพี เขาไม่น่าทำแบบนี้ ผมถามพีว่า คนนั้นใคร พีตอบด้วยท่าทางมึนๆ ว่า สถานะไหนก็ไม่รู้ พี่โจเคยบอกว่าเขาน่าสนใจดี ผมถามพีด้วยความตกใจว่า อะไรนะ แล้วที่พีกับโจจูบกัน พีตอบโดยไม่มองหน้าผมว่า พี่โจบอกว่าเขาไม่ได้ชอบผมขนาดนั้น แต่ถ้าผมอยากจูบเขาก็ได้ เขาไม่ติด ผมมองพีที มองโจที ผมว่าผมก็ยังไม่แก่เท่าไหร่ แต่ตรรกะของโจ กับการกระทำของพี มันอยู่นอกเหนือความเข้าใจของผมจริงๆ แต่ยังไงผมก็ต้องขอบใจพี ที่เขายังดูแลสติตัวเองให้ทำงานได้เรียบร้อย เจ้าของงานก็ขอบคุณผมที่มารับงานแบบฉุกเฉิน แต่ก็จัดได้ครบถ้วนตามที่เขาต้องการ แล้วยังให้ทิปเพิ่มมาด้วย ผมแบ่งเงินให้พี แล้วพาเขาไปกินข้าว ผมถามพีอีกทีเรื่องโจ พีตอบเรื่อยๆ เหมือนยอมรับได้อยู่แล้วว่า โจก็แค่ตรงไปตรงมา ดีซะอีกที่โจไม่หลอกเขา เขาแค่อยากมีความสุขไปวันๆ เขาพอใจแค่นั้น โจก็เหมือนกัน ผมเลยไม่รู้จะพูดอะไร พีอาจจะรู้สึกแย่นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เขาเห็น พีรู้ว่าโจไม่ได้มีใจ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะตัดใจ พีบอกว่า โจไม่ชอบเขา แต่โจก็ไม่มีใคร เขาก็แค่รอ วันไหนโจมีตัวจริง ค่อยไปเสียใจตอนนั้น สองคนนั้นทำให้ผมต้องมองเขาใหม่จริงๆ เพราะตอนบ่ายที่กลับไปทำงาน พีก็ยิ้มให้โจ โจก็ยิ้มให้พี แล้วยังบอกผมด้วยว่า ได้ยินหลายคนชมว่า ขนมอร่อย จัดไลน์บุฟเฟต์สวยดี แล้วพูดกับพีต่อว่า วันหลังพกผ้าเช็ดหน้าไปด้วย อย่าปล่อยให้เหงื่อออกเต็มหน้าผากแบบนั้น มันดูไม่สะอาด แล้วก็ล้วงผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกงส่งให้พี แล้วสองคนนั้นก็พากันเดินไปหลังร้าน ผมอยากรู้จังว่า ถ้าเข็มกับแม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของโจกับพีเป็นแบบนี้ 2 คนนั้นจะว่ายังไง *** วิธีการรักษาอาการกลัวเข็มฉีดยา เป็นจินตนาการของผู้เขียน ผสมกับความรู้น้อยนิดที่พอหาได้ ไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Create Date : 23 ธันวาคม 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 23 ธันวาคม 2567 10:58:52 น. |
Counter : 244 Pageviews. |
|
 |
|