หักเหลี่ยมร้ายซ่อนลายรัก บทที่ 4 / 1
อาหยาง แม่มีเรื่องไหว้วานเจ้า ตามหาคนชื่อหยวนเฉินไปเอาของสิ่งหนึ่งให้แม่ ของหรือขอรับ? เป็นผ้าโบราณชนิดหนึ่งแม่ได้ข่าวว่าคนผู้นั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงเก็บศพไร้ญาติทางหุบผาตะวันตกของฉางอัน หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงข้าต้องทำให้สำเร็จให้จงได้ เช่นนั้นแม่ก็เบาใจรอเจ้ากลับมา เขารับปากมารดาโดยไม่คิดว่าแท้จริงแล้วหยวนเฉินนั้นเร้นกายจากยุทธภพนานเพียงใดไม่ว่าจะหาเบาะแสจากไหนก็ราวไร้ตัวตน เขาเทียวหาแล้วหาเล่าแต่ไม่เคยขึ้นมาถึงป่าสนแห่งนี้สักครั้งครานี้นับว่าเขากับหลิวเสียะมีวาสนาต่อกันจึงดั้นด้นมาเพื่อของชนิดเดียวกัน ไม่รู้หรอกว่ามันสำคัญต่อมารดาเพียงใด... ทั้งที่รู้ว่าคุณชายน้อยแห่งหลิวซือซือหมายปองผ้าโบราณนี้เช่นกันแต่หยวนเฉินเลือกที่จะมอบให้เขาเก็บมันไว้ตามคำร้องขอโดยให้ปกปิดเป็นความลับ นำมันติดตัวไปนะขอรับ ข้าขอมอบให้ด้วยความเต็มใจ เหตุใดจึงให้ข้า... เจ้าก็รู้ว่าเพื่อนข้าก็ต้องการมัน หยวนเฉินคุกเข่ายื่นม้วนผ้าหยาบที่ห่อหุ้มผ้าทอโบราณส่งให้เขารับมาด้วยความสงสัยใคร่รู้แต่ตาเฒ่าหาได้แถลงไขนอกจากย้ำคำหนักแน่น มันเป็นของท่าน ข้าหยวนเฉินทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้วจากนี้ข้าคงนอนตายตาหลับมิมีสิ่งใดติดค้างในใจอีกแล้ว เจ้าบอกว่าผ้าผืนนี้เป็นของอดีตพระสนมมิใช่รึ อดีตขุนนางหนุ่มถามทวนคำ ขอรับ แล้วเหตุใดจึงมอบของของนางให้ข้า ชายชราพยักหน้าหงึกหงักก่อนเอ่ยย้ำอีกครั้งถึงเวลาท่านจะรู้เอง ถึงเวลาจะรู้เองงั้นรึ... หยางซุนหยางเหยียดยิ้มก่อนจะนึกถึงดวงหน้ามารดาคำพูดของหยวนเฉินทำให้เขาแทบอดรนทนไม่ไหว อยากจะถามนางให้รู้เรื่องซึ่งคงมิใช่ดั่งที่ตาเฒ่าชราเข้าใจ... พระสนมฟางหลิงผู้นั้นกับหยางฟางหลิงมารดาของเขา...อาจเพียงชื่อพ้องเท่านั้น หยวนเฉินต้องวิปลาสไปแล้วจึงได้แต่งเรื่องเช่นนี้ขึ้น... หยางฟางหลิง... มารดาของเขาเป็นหญิงอายุล่วงกลางคนแต่กระนั้นยังกระฉับกระเฉงอยู่มากผิวที่เคยเนียนราวหยกเนื้อดีเริ่มมีริ้วรอยแห่งวัยดวงหน้านวลแม้เสี้ยวหนึ่งมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่แต่มิอาจทำลายเค้าความงดงามที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ขาดหายไปและมิอาจเรียกกลับคืนมา... ชีวิตของเขามีเพียงมารดาที่เป็นช่างฝีมือทอผ้าต่วนแพรความเป็นอยู่อัตคัดขัดสนอดอิ่ม แต่ยังดีมีบ้านให้พักพิงเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้มารดามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแต่วันนั้นกลับไม่เคยมาถึง เพราะเพียงบอกว่าจะรับราชการนางกลับเป็นเดือดเป็นร้อนหนักถึงขนาดทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเพราะเรื่องนี้ เจ้าว่าอย่างไรนะ อาหยาง ข้าบอกว่าข้าได้เป็นขุนนางวังหลวงแล้วขอรับท่านแม่ หยางซุนหยางวัยหนุ่มบอกเล่าน้ำเสียงดีใจปิดไม่มิดอีกหน่อยท่านแม่ไม่ต้องลำบากทำงานงก ๆ ส่งข้าร่ำเรียนแล้วนะขอรับ มารดาชะงักสับกี่ทอผ้าเสียงดังก่อนจะลุกยืนแล้วแบมือมาตรงหน้าอะไรรึขอรับ เอาจดหมายมาให้แม่ ท่านแม่จะเอาไปทำไมขอรับ เดี๋ยวนี้แม่บอกอะไรเจ้ามิสนใจแล้วรึ เอาไปท่านแม่ก็อ่านมิได้อยู่ดี ร่างสูงใหญ่บ่นพลางจ้องมารดาด้วยความสงสัยแต่นางกลับยังแบมือเช่นเดิมแทนคำตอบ ขอรับท่านแม่ เพียงกระดาษแผ่นบางถึงมือนางกลับขยำเป็นก้อนกลมไม่ต่างจากขยะแล้วเอ่ยเสียงเย็นเยียบ ใครใช้ให้เจ้าไปสมัคร แม่บอกเจ้าเหตุใดมิเคยจำ ว่าที่ขุนนางหนุ่มถึงกับสะดุ้งเขาไม่เคยเห็นสีหน้ามารดาเคร่งเครียดเช่นนี้มาก่อนร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าหาเพียงสองมือแตะต้นแขนนางกลับสะบัดแล้วเบี่ยงตัวออกห่างก่อนจะตวาดลั่น แม่ถาม!ไยเจ้าไม่ตอบแม่ ข้าเรียนจบแล้ว อีกอย่างใต้เท้าต่งเสนอชื่อข้าในฐานะลูกกตัญญูเข้ารับราชการทหารตามบัญชาฮ่องเต้ที่ต้องการรับสมัครทหารจากหัวเมืองต่างๆ แทนการฝากฝังเช่นเคยขอรับ แต่แม่ไม่ให้เจ้าเป็นเจ้าจะเป็นอะไรก็ได้ยกเว้นเป็นสุนัขรับใช้วังหลวง ท่านแม่! ไปลาออกเสียพรุ่งนี้เลย แต่ข้ารายงานตัวกับท่านเจ้ากรมไปแล้วข้ามิอาจทำตามท่านแม่บอกได้ เจ้าไม่อาจขัดคำคนอื่นได้แต่เจ้ากล้าขัดคำสั่งแม่ นางย้ำเสียงเจ็บปวด มือเรียวขาวซีดปาก้อนกลมที่เคยเป็นหนังสือทางการใส่หน้าลูกชายอย่างแรงตามด้วยฝ่ามือเรียวบางที่ฟาดลงมาไม่ยั้งบนหน้าอกผึ่งผาย แม่เลี้ยงเจ้าได้แต่ตัวปกป้องเจ้ามิได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเล่า ท่านแม่ขอรับฟังข้าก่อน! เหตุใดทำเช่นนี้!ฟ้าดินลงโทษข้าเท่าใดจึงจะพอใจ! นางคร่ำครวญหลังจากทุบตีจนพอใจก็ทรุดนั่งคุกเข่ากลางพื้นบ้านแล้วทุบอกตัวเองน้ำตาไหลพราก ท่านแม่! เจ้ากำลังจะทำให้แม่อกแตกตาย งานข้าไม่อันตรายหรอกท่านแม่ไว้ใจได้ทหารชั้นปลายแถวนอกเมืองเช่นนี้ไม่มีเรื่องหนักหนาหรอกขอรับ ผู้เป็นลูกทรุดนั่งคุกเข่าตรงข้ามลูบแขนมารดาเกลี้ยกล่อมท่านแม่ก็รู้ว่าข้าไม่มีวันพ่ายแพ้ต่อใครหน้าไหนหรอกขอรับ แม่รู้ว่าเจ้าเก่งแต่ตัวเจ้าเองอาจพ่ายแพ้ต่อโชคชะตา ท่านแม่ข้า... ซุนหยางนิ่งงันอับจนคำพูด นางถอนหายใจหันหลังให้ตัวสั่นเทิ้มจนว่าที่ขุนนางหนุ่มตกใจเข้าไปกอดไว้จากด้านหลังแล้วเอ่ยเสียงเบา ข้าขอโทษ เก็บคำขอโทษของเจ้าแล้วไปทำบางสิ่งให้แม่ อะไรหรือขอรับ ครานั้นมารดาน้ำเสียงหนักแน่นจนเขาอยากรู้แต่ไม่เคยคาดคิดว่าภารกิจที่สั่งให้ทำจะเป็นเรื่องตามหาผ้าโบราณในตำนานและตอนนี้มันมาอยู่ในมือเขาแล้วหลังจากผ่านไปนานถึงหกปี... นี่เจ้า... เจ้า! อดีตขุนนางหนุ่มถึงกับสะดุ้งสุดตัวความทรงจำในอดีตหวนเก็บคืนสู่ห้วงคำนึง ดวงตาเรียวหรี่ทอดมองหาเสียงเรียกพลันถอนใจเมื่อมือเล็กๆ ของอีกฝ่ายพาดไหล่ก่อนจะนั่งลงเคียงข้างด้วยสีหน้าแช่มชื่นราวกับไม่มีทุกข์ร้อนใด อ้ะ...เอาไป อะไรของเจ้าอดีตขุนนางหนุ่มเบี่ยงตัวแต่ไม่พ้นจึงรับบางสิ่งมาด้วยสีหน้างุนงง เอามือเจ้าออกไปจากไหล่ข้า เจ้านี่เล่นตัวไปได้แตะนิดแตะหน่อยทำเป็นมากเรื่อง คุณชายน้อยแห่งหลิวซือซือหลุดหัวเราะสู้กับท่านตาจนสมองเสื่อมแล้วใช่หรือไม่ เอาผลท้อมาให้ข้า แล้วเจ้าเล่า หยางซุนหยางเหลือบมองดวงหน้านวลแย้มยิ้มให้แล้วถอนหายใจนางไม่รู้ว่าเขารู้ว่านางเป็นสตรีแถมยังโฉมสะคราญราวกับนางในภาพวาดที่ได้มาจากหยวนเฉินถ้าหากนางรู้คงไม่ทำ อดีตขุนนางหนุ่มถอนใจเบา ๆกระชับม้วนผ้าที่เหน็บซ่อนไว้ในกางเกงมิดชิดราวกลัวคนข้างกายจะล่วงรู้ หากนางรู้ว่าตอนนี้ผ้าโบราณที่ตามหาอยู่ที่เขาจะเกิดอะไรขึ้นนางจะผิดหวังหรือไม่หรืออันที่จริงนางไม่ได้คิดจริงจังกับมัน ก็แบ่งคนละครึ่งกับเจ้านางยักคิ้วก่อนจะใช้เล็บจิกแบ่งผลท้อออกเป็นสองซีกก่อนจะกัดผลท้ออีกครึ่งเคี้ยวท่าทางเอร็ดอร่อยราวกับมันคืออาหารอันโอชะรีบกินเข้าสิ ยังดีที่ท่านตาเอาผลไม้คืนข้านะมิเช่นนั้นเราสองคนคงหิวแย่ ข้าอุตส่าห์หาแทบตาย แล้วเจ้าทำเช่นไรจึงโดนหยวน...เอ่อ ท่านตาของเจ้าจับทำโทษที่ขโมยผลไม้ได้ ซุนหยางหยั่งเชิง คุณชายน้อยกัดผลท้อเข้าปากเคี้ยวคำสุดท้ายก่อนจะหันมาจ้องเขาเต็มตาหยางซุนหยางกลืนน้ำลายลงคอมองริมฝีปากอิ่มสีเหมือนผลท้อด้วยใจสั่นรัว ริมฝีปากนี้ที่เคยช่วยชีวิตเขาตอนจมน้ำความจำเขาไม่ได้เลือนจนไม่รู้ว่านางช่วยเขาเช่นไร... สัมผัสอบอุ่นจากริมฝีปากนางช่วยคืนชีพให้เขาเช่นนั้นต่อให้ขึ้นสวรรค์ลงนรกหรือบุกน้ำลุยทะเลเพลิง เขาทำได้เพื่อนาง... ข้าต้องขอบใจเจ้าที่เข้าไปช่วยทีแรกนึกว่าข้าคงตายในถ้ำนั่นเสียแล้ว ท่านตาวรยุทธลึกล้ำจนข้าต้านทานมิได้แค่ไม่กี่กระบวนท่าข้าก็เสียทีแถมดาบข้ายังหักไปแล้วด้วยตอนนี้มีเพียงมีดสั้นเล่มเดียวช่างน่าละอายยิ่งนัก เจ้ายังอ่อนต่อโลกนักอาเสียะ หยางซุนหยางว่าพลางหัวเราะ ยังต้องฝึกวรยุทธอีกมากหากเจ้าอยากเป็นเจ้าสำนักการค้าที่ใหญ่โตที่สุดเช่นหลิวซือซือ ข้าแค่ครูพักลักจำไม่เคยร่ำเรียนวรยุทธเช่นเจ้า นางเอ่ยเสียงเศร้า ไม่รู้จะหาครูบาอาจารย์จากที่ใด ซุนหยางหันขวับมามองสีหน้าเรียบเฉยก่อนถาม เหตุใดต้องร่ำเรียน อีกหน่อยเป็นเจ้าสำนัก ข้าต้องคุมขบวนสินค้าไปทำการค้าขายต่างเมืองหากป้องกันตัวเองมิได้ใครจะมาปกป้องข้าเล่า เจ้านี่ก็ช่างไม่รู้เรื่องเลย เช่นนั้นให้ข้าเป็นมือขวาเจ้าดีหรือไม่ ลำพังคนจรเช่นข้ามีชีวิตอยู่มิรู้เพื่อสิ่งใด เจ้าแน่ใจรึ นางเอ่ยถามสีหน้าประหลาดใจเช่นนั้นข้าจะจำคำพูดเจ้าไว้นะ หยางซุนหยางพยักหน้าพลางกระตุกยิ้มกว้างร่างอรชรขยับออกห่างเล็กน้อยเมื่อเห็นดวงตาระยิบระยับจากอีกฝ่ายส่งมา ไม่รู้ว่าสิ่งใดจริงหรือสิ่งใดคือเรื่องเล่นหัวของหนุ่มพเนจรตรงหน้ายิ่งนึกถึงคำของเฒ่าชรา สีหน้าสดใสเมื่อครู่ก็หมองลง แต่ข้าก็ทำให้ท่านพ่อผิดหวัง ผ้าโบราณเป็นแค่คำร่ำลือหาได้มีอยู่จริงตามที่ได้ยินมา
+++++++++++++++++++++++
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ^__^
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2561 16:03:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 533 Pageviews. |
|
|