หักเหลี่ยมร้ายซ่อนลายรัก บทที่ 3 / 3
เจ้าร้อนตัว ข้ารึร้อนตัวเจ้าปากพล่อยหลิวเสียะตวาด หน้าง้ำงอ หยางซุนหยางยื่นหน้ามาใกล้จนริมฝีปากแทบชิดพวงแก้มระเรื่อนางถึงกับผงะแทบหลบไม่ทัน ดวงหน้านวลเห่อร้อนขึ้นอีกครานึกถึงเมื่อครู่ใหญ่ที่ช่วยชีวิตชายหนุ่มเอาไว้ด้วยการเป่าปาก เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสรสชาติของบุรุษแบบใกล้ชิดขนาดนี้... ร่างอรชรรู้สึกวูบวาบด้วยธรรมชาติเลือดในกายสูบฉีดจนแทบทนไม่ได้ ไหนจะโดนตามตอแยไม่ห่างอีกทำให้ต้องเดินหนีแต่ปากยังพร่ำบ่น ข้าน่าจะปล่อยเจ้าจมน้ำตายเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราวจะได้มิต้องพูดมากเช่นนี้ ข้าบอกแล้วว่ายังตายมิได้หากชาตินี้ยังไม่มีภรรยาซุนหยางต่อปากต่อคำพลางเดินตามติดแล้วพูดกรอกหูต่อ แต่ถ้ามีแล้วจะให้ข้าตายวันตายพรุ่งข้าหรือจะหวั่น ปากดีเช่นนั้นเจ้าควรตายเสียแต่วันนี้จะได้ไม่มีผีเจาะปากมาพูด งั้นข้าคงต้องมีภรรยาเสียเดี๋ยวนี้จะได้นอนตายตาหลับหรือเจ้าว่าอย่างไร จะว่าอย่างไรได้เล่าข้าไปหาผลไม้ป่าดีกว่า เชิญเจ้าเพ้อเจ้อไปคนเดียวเถิด พูดจบนางก็ผละออกไปทันทีมิใยที่อีกฝ่ายจะทัดทาน หยางซุนหยางหัวเราะลั่นป่าด้วยความพึงใจที่ได้สั่นคลอนหัวใจโฉมสะคราญในคราบบุรุษได้ เขาจะบั่นทอนนางทีละนิด... พออารมณ์ดีร่างกายก็เหมือนจะมีแรงขึ้นมาเดินไปหยิบผ้าที่ตากไว้ริมธารน้ำตกมาสวมใส่อย่างอารมณ์ดี กลิ่นนางยังคงติดอยู่ในเนื้อผ้าบุรุษหนุ่มนึกครึ้มขึ้นมาอย่างประหลาดถึงขนาดผิวปากเป็นลำนำแต่ยังไม่ทันแต่งตัวเรียบร้อยเขาก็ได้ยินเสียงสวบสาบใบไม้ไหวราวกับมีสิ่งมีชีวิตอื่นใดอีกนอกจากเขาและคุณชายหน้าหวาน ทางนั้นมิใช่ทางที่นางเดินจากไปเมื่อครู่... หรือว่า...นอกจากหญิงสติวิปลาสแล้ว หมียักษ์อีกหนึ่งจะมีสิ่งใดให้พบเจอในป่าสนอมตะแห่งนี้อีกกัน... อาเสียะ!อาเสียะ ซุนหยางแสร้งป้องปากตะโกนลั่น ข้าหิว! เจ้าหาผลไม้ป่าไปถึงไหนแล้ว เงียบ...ไม่มีเสียงตอบ... ยังดีที่แม้ไม่มีดาบติดตัวแต่ยังมีมีดพกเหลืออีกเล่มหยางซุนหยางล้วงหยิบมีดขึ้นมากระชับมั่น สองเท้าก้าวเดินอย่างระมัดระวังด้วยรู้สึกถึงภัยอันตรายเข้าใกล้ตัวมากจนนึกระแวง เหมือนมีคนจ้องมองความรู้สึกส่วนลึกบ่งบอกว่าอันตราย ใจห่วงคุณชายน้อยขึ้นมาทันใดถึงนางอยู่ในคราบชายและดูเหมือนจะมีห้าวหาญไม่แพ้ผู้ใด แต่สตรีก็คือสตรี... นางหรือจะสู้แรงหากมีผู้ใดนอกจากเขาอยู่ในป่าแห่งนี้... อดีตขุนนางหนุ่มเกิดความวิตกทันทีรีบออกตามหานางในดวงใจแต่ไม่พบแม้เงา เขาออกเดินหาไปรอบบริเวณก่อนจะพบเศษผ้าแพรต่วนติดคากิ่งไม้แทบไม่ต้องคิดว่าจะเป็นของผู้ใดเพราะผ้าเนื้อดีเช่นนี้มิใช่ของชาวบ้านธรรมดาเป็นแน่ อาเสียะ! อาเสียะเจ้าอยู่ไหน อาเสียะ! หยางซุนหยางป้องปากตะโกนเสียงดังสนั่นป่าฝูงนกกาแตกตื่นโบยบินทั่วบริเวณ เขาเดินหาจนทั่วแต่ไม่พบพลันสายตาเหลือบไปเห็นโพรงใต้แนวน้ำตกคล้ายปากถ้ำจึงฉุกคิดก่อนจะค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ แล้วชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงคำรามเยี่ยงสัตว์แต่หาใช่เดรัจฉานตัวใดไม่เพราะคำที่เปล่งออกมากลับเป็นเสียงห้วนจัดราวโกรธเกรี้ยวหนัก เจ้าเป็นใคร! เหตุใดจึงกล้าบุกรุกเข้ามาในที่ของข้า...ออกไป! ตาเฒ่าหลังงองุ้มหนวดเทายาวเกือบถึงแนวอกผมสีเดียวกับเคราขมวดรุ่ยร่ายเหนือศีรษะก้าวขึ้นมายืนจังก้าหน้าปากถ้ำดวงตาเรียวแข็งกร้าวหรี่มองจับผิดในมือถือกระบี่ที่มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าคืออาวุธคู่ใจของเขา เหตุใดจึงไปอยู่ในมืออีกฝ่าย... หยางซุนหยางลอบกลืนน้ำลายนึกในใจว่าอันตรายมือจับมั่นมีดสั้น ระแวงภัยตลอดเวลา ท่านลุง ข้ามาดี ข้ากับเพื่อนมาหาของป่าแล้วพลัดหลงกันท่านเห็นเพื่อนข้าบ้างหรือไม่ เพื่อนของเจ้ารึ หยางซุนหยางพยักหน้ารับพลางกวาดตามองหาเป้าหมายแล้วถามต่อ เพื่อนข้าเป็นชายหนุ่มร่างเล็กสติมิค่อยสมประกอบ สูงราวห้าฉื่อผิวขาว ตัวผอม เหมือนคนขาดสารอาหารมิแข็งแรงบึกบึนเช่นข้า ท่านเห็นบ้างหรือไม่ ชายใดพลัดหลงเข้ามาในที่ของข้าแล้วมิอาจมีชีวิตรอดกลับไปได้ตาเฒ่าตอบพลางเหยียดยิ้ม เช่นนั้นถ้าเจ้าไม่อยากตายก็จงออกไปอย่าให้ต้องใช้กำลัง ไม่เคยมีผู้ใดสั่งข้าได้... อดีตขุนนางหนุ่มกล่าวพลางเหยียดยิ้ม พลันเสียงราวของหนักตกลงพื้นอย่างแรงเล็ดลอดออกมาจากภายในถ้ำบุรุษหนุ่มถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องราวเจ็บปวดอยู่ด้านใน เสียงนั่น! ใช่เพื่อนข้าหรือไม่ จำเป็นต้องบอกเจ้าด้วยรึ! ข้าอยากรู้ ไม่ทันขาดคำเพียงก้าวเท้าล่วงล้ำเข้าไปไม่กี่ก้าวหยางซุนหยางถึงกับผงะเมื่อถูกกระบี่ยาวคมกริบของตนจ่อชิดลำคอเพียงตวัดแม้แต่ปลายหลอดลมอาจขาดได้ดวงตาอดีตขุนนางหนุ่มแข็งกร้าวด้วยความโกรธเมื่อเสียงขลุกขลักยังคงดังอยู่ภายในครั้นจะก้าวเข้าไปก็โดนกักไว้พร้อมปลายดาบตวัดเข้าให้ที่หัวไหล่จนเลือดซิบ อยากเข้าไปก็ต้องสู้กันหน่อยล่ะเจ้าหนู ได้!อย่าหาว่าข้ารังแกก็แล้วกัน หยางซุนหยางคำรามลั่นชักมีดสั้นออกจากปลายแขนเสื้อตั้งท่าระแวงระวังตาเฒ่าเหยียดยิ้มตวัดปลายกระบี่พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายหงายหลบวูบก่อนจะม้วนตัวเข้าหาฟาดปลายดาบสั้นคมกริบพาดผ่านบั้นเอวอีกฝ่ายจนเลือดซิบก่อนจะถอยออกมารักษาระยะห่างอีกครั้ง ตาเฒ่าเฝ้าถ้ำกระชับกระบี่ในมือแน่นอีกมือกุมแผลเลือดซิบแล้วเหยียดยิ้มอีกครารับกระบี่ข้าได้ฝีมือไม่เบา ข้าประมาทเจ้าเกินไป คราวนี้จะไม่ออมแรง ร่างงองุ้มสืบเท้าเข้าใกล้อดีตขุนนางหนุ่มถอยหลังสองสามก้าวโดยไม่ทันตั้งตัวร่างเล็กกว่าแต่พละกำลังมหาศาลพุ่งปลายดาบเข้ามาร่างกำยำเสียเปรียบที่มีดดาบสั้นกว่ารับเพลงดาบเฒ่าชราไว้ด้วยสองมือก่อนกระบี่ยาวจะกดย้ำลงมาคล้ายหนักหน่วงแต่พลิ้วไหวราวลมพัด เพียงสู้กันไม่กี่กระบวนท่ากระบี่ยาวก็หลุดจากปลายมือตาเฒ่า มีดสั้นจากอดีตขุนนางหนุ่มพุ่งตรงสู่คอหอยเพียงพริบตาเดียวก็อาจสะกิดหลอดลมอีกฝ่ายให้ขาดวิ่นได้ หยางซุนหยางยั้งมือไว้ ดวงตาวาวโรจน์ที่จ้องมองมีแววเอาจริงทั้งตะคอกใส่อีกฝ่ายเสียงดังลั่น บอกแล้วว่าข้าไม่อยากรังแกเจ้าข้ามาที่นี่เพราะได้รับคำขอร้องจากคนคนหนึ่งเพื่อมาตามหาคนชื่อหยวนเฉินมิได้คิดฆ่าแกงใคร! หยวนเฉินรึ ตาเฒ่าทวนคำแต่ดวงตาเรียวหรี่ราวหวาดระแวงพอเห็นอีกฝ่ายเผลอเพราะเสียงที่อยู่ในถ้ำจึงอาศัยทีเผลอพุ่งพรวดเดียวกระโจนเข้าคร่อมหนุ่มพเนจรไว้ทั้งร่างแรงกระแทกทำให้มีดสั้นในมือตกลงพื้นกระเด็นไปมือเหี่ยวย่นกำหมัดแน่นก่อนจะฟาดลงปลายคาง หยางซุนหยางปัดป้องไม่ทันโดนเข้าเต็มแรงอีกฝ่ายได้ทีจึงเอื้อมหยิบมีดสั้นที่ตกใกล้ตัวเงื้อขึ้นหมายปักลงตัดขั้วหัวใจ เจ้าจะหาหยวนเฉินด้วยเรื่องใดบอกข้า! ข้าไม่จำเป็นต้องบอกเจ้า ถามดีๆ ไม่ตอบ เช่นนั้นตายเสีย! พลันร่างงองุ้มถึงกับผงะดวงตาเหลือกลานราวเห็นบางสิ่งทั้งน่าหวาดหวั่นทั้งน่าเกรงขามมือที่แข็งแรงด้วยพละกำลังกลับอ่อนยวบโยนมีดสั้นทิ้งไปทันทีที่เห็นสิ่งหนึ่งโผล่พ้นอกเสื้อหนุ่มพเนจรออกมา ตาเฒ่ายื่นมืออันสั่นเทาจับสิ่งนั้นพลิกหงายคว่ำดูพลันหงายหลังก้นจ้ำเบ้าก่อนจะทรุดลงคุกเข่าก้มศีรษะโขกพื้นแรงๆ มือกำแน่นที่สองเท้าของฝ่ายตรงข้ามราวให้ความเคารพสิ่งสูงค่า หยางซุนหยางถึงกับตะลึงสิ่งที่ตาเฒ่าแสดงออกพยายามชักเท้าออกแต่ไม่สามารถทำได้ ข้าน้อยผิดไปแล้วข้าน้อยผิดไปแล้ว! เจ้าพูดเรื่องอันใดกัน อดีตขุนนางหนุ่มหายเมาหมัดเป็นปลิดทิ้งหยัดกายมอมแมมคลุกฝุ่นขึ้นนั่งหายใจหอบแต่ไม่ได้รับคำตอบ ตาเฒ่าส่ายหน้าตาเหลือกทันทีที่อีกฝ่ายก้มลงดึงแขนร่างงองุ้มผงะลนลานก้มหน้าลงแนบเท้าพร่ำรำพันไม่หยุด ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่ ขอประทานอภัย อภัยรึ? หนุ่มพเนจรถามย้ำ ข้าไม่เคยรู้จักเจ้าแม้ชื่อเสียงเรียงนามจะให้อภัยด้วยเรื่องอันใด ดวงตาหวาดหวั่นที่มองมาของเฒ่าชราทำให้อดีตขุนนางหนุ่มรู้สึกถึงความผิดปกติแต่เขาไม่รู้ว่าเรื่องใดที่ทำให้กิริยาตาเฒ่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจนเมื่ออีกฝ่ายแถลงไข ข้าเอง ข้าคือคนที่เจ้า... เอ่อ คนที่ท่านตามหา เจ้าคือหยวนเฉินรึ ซุนหยางทวนคำแล้วยิ่งงงกว่าเก่าเอ่ยถามกลับอย่ามาแกล้งออกอุบายหลอกข้า เจ้าแค่กลัวตายใช่หรือไม่ ข้ามิเคยกลัวตาย ชีวิตนี้หากจะตายด้วยมือท่านข้าก็ยอม หยวนเฉินเอ่ยชัดถ้อยคำทั้งยังเงยหน้าจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าลังเลเสียงแผ่วเบานอบน้อมเปลี่ยนจากที่พบคราแรกเป็นคนละคนทำให้หยางซุนหยางแปลกใจร่างงองุ้มลุกนั่งคุกเข่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ย ถ้าเป้าประสงค์ของท่านคือมาตามหาข้านั่นแสดงว่าท่านมาเพื่อผ้าโบราณผืนนั้น เหตุใดเจ้ารู้ว่าข้ามาที่นี่เพราะประสงค์อื่นอีก เพราะมีคนเพียงคนเดียวที่รู้ว่าผ้าผืนนั้นอยู่ที่ข้าก็คือเจ้าของผ้าซึ่งก็มิใช่ใครนางคือสตรีที่ทอผ้าได้งดงามที่สุดหาผู้ใดเทียบมิได้คืออดีตพระสนมฟางหลิง พระสนมฟางหลิงงั้นรึซุนหยางทวนคำ ขอรับ แล้วชื่อแซ่ของนางเล่าอดีตขุนนางหนุ่มนึกหวั่นใจจึงถามต่อ คงมิใช่แซ่หยางใช่หรือไม่ ข้ามิบังอาจถามแต่นางผู้ที่ฝากข้าย่อมรู้ว่าผ้าผืนนั้นคือผ้าที่ห่อหุ้มร่างทารกน้อยแรกเกิดผู้หนึ่ง หยางซุนหยางถึงกับไปต่อไม่ถูก เพียงชื่อนางพ้องกับชื่อมารดาของเขาอาจจะโดยบังเอิญอดีตขุนนางหนุ่มถึงกับรำพึงแผ่วเบา เหตุใดจึงชื่อคล้ายแม่ข้านัก
++++++++++++++++++++++++++++
ขอฝากติดตามนิยายด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่า ^__^
Create Date : 09 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2561 21:19:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 515 Pageviews. |
|
|