|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ภพผูกรัก บทที่ 3/2
 สองวันผ่านไป... รุ้งตะวันในเครื่องแต่งกายทะมัดทะแมงสะพายกระเป๋าเป้ยืนอยู่หน้าประตูรั้วบ้านที่ปิดแม่กุญแจอันใหญ่เรียบร้อยกระทั่งรถซีดานสี่ประตูกลางเก่ากลางใหม่แล่นเข้ามาจอดเทียบ เธอจึงเดินแกมวิ่งอ้อมมาเปิดประตู่ขึ้นนั่งประจำที่ข้างคนขับวางกระเป๋าเป้ตรงกลางหว่างขาแล้วหันไปยิ้มให้เพื่อนรักที่นั่งหน้าตูมรออยู่ “ชักช้าจริงตะวันจะตกดินแล้วนะยายรุ้ง” “จ้า...” “จ้าเจ้ออะไรยะ! ไปเองก็ไม่ได้ต้องใช้เพื่อน” โสภิตาโวย รุ้งตะวันเห็นเพื่อนหงุดหงิดก็หยิกแก้มพอง ๆ หยอกแต่โดนปัดออกก็ถึงกับหน้ามุ่ย กระนั้นโสภิตาก็ยังไม่คลายจากอาการหน้างอคอหัก หญิงสาวจึงหยอกอีก “ก็ละครใกล้จะเล่นแล้ว ฉันก็อยากจะไปดูซ้อม” “อยากไปดูหรืออยากไปหาจารย์กันแน่ เขาไม่ว่างมารับละสิเลยต้องให้ฉันไปเป็นไม้กันหมา” “เธอก็พูดเกินไป” รุ้งตะวันหน้าม้านจึงรีบเฉไฉยกมือลูบผมตัวเองแล้วเอียงคอยื่นหน้าให้เพื่อนดู “ดูนี่ดีกว่า เธอว่าผมทรงใหม่ของฉันสวยปะ” โสภิตาปรายหางตามองก่อนตอบ “ทรงอะไรเนี่ย ประหลาด! ยังกะคนโบราณ” “แล้วสวยไหมล่ะ” “สวยบ้านเธอดิ ทรงเดิมก็ดีอยู่แล้ว นี่นึกอะไรขึ้นมาถึงตัดสั้นขนาดนี้” โสภิตาว่าพลางค้อนปะหลับปะเหลือกเอื้อมมือไปปัดปลายผมเพื่อนรักด้วยความขัดใจ “ก็แค่ผมสั้นธรรมดา ไถข้างนิดนึงเท่านั้นเอง” “ยังกะผู้ชาย ถามจริงนึกไงไปตัดซะสั้นเสมอหูยังกะคนโบราณแบบนี้ นี่ถ้าเคี้ยวหมากปากแดงแจ๋ ฉันว่าใช่เลย” “ดูไม่ดีเหรอ” รุ้งตะวันหน้ามุ่ยจ้องหน้าตัวเองในกระจกงันไป “ฉันไม่รู้ว่าทำไมให้ช่างตัดทรงนี้เหมือนกัน ตอนนั้นคงเพราะอารมณ์พาไป...” จะบอกได้ยังไงว่าจู่ ๆ เมื่อวานเธอก็เดินเข้าร้านตัดผมโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้วก็ออกมาจากร้านด้วยทรงประหลาดเช่นนี้ หญิงก็ไม่ใช่ ชายก็ไม่เชิงเช่นนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ! หญิงสาวใจลอยไปถึงวันก่อนที่เห็นเงาหญิงชายหน้ากระจกในห้องนอนที่ทำให้เธอซาบซึ้งดื่มด่ำกับความรู้สึกแปลกประหลาดของการรอคอยอะไรบางอย่างซึ่งไม่รู้ว่าคืออะไร ครั้นตกอยู่ในห้วงคำนึงเธอก็เผลอคลำสร้อยทองลูกปัดดำที่ห้อยคออย่างลืมตัว วันนี้เธอจงใจใส่มันมาที่บ้านเรือนไทยเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างหากไม่เป็นอย่างที่คิดจะได้คลายใจ “ได้ยินข่าวว่าเมื่อวานมีนักแสดงคนนึงบาดเจ็บต้องหามส่งโรงพยาบาลเลย เธอได้ยินไหม” โสภิตาชวนคุยน้ำเสียงจริงจัง รุ้งตะวันมุ่นคิ้วเหลือบตามองเพื่อนรักก่อนจะกระตือรือร้นถาม “ไม่ได้ยิน ไม่มีใครเล่าให้ฟังเลย เธอได้ยินมาจากไหนยายเพิ้ง” “ก็จากพวกน้อง ๆ ที่เป็นนักแสดงประกอบเล่าว่ามีการเปลี่ยนตัวละครหลักกะทันหันเพราะว่าพระเอกเกิดอุบัติเหตุขณะถ่ายทำ” “แล้วมันจะทันหรือ จะแสดงแล้วด้วย ไม่เห็นจารย์บอกเลย” “ก็คงไม่มีอะไรมากมั้ง” สาวอวบยักไหล่ก่อนจะให้ความสนใจกับถนนตรงหน้าแต่ก็ไม่วายเอ่ยต่อ “เอาเป็นว่าคืนนี้ฉันเลือกโรงแรมใหม่ในเมือง ห้ามขัดใจมาบอกให้ฉันไปนอนที่เรือนไทยด้วยนะ” “ก็ได้” “นี่ถ้าพ่อเธอไม่ขอร้องให้มาเป็นเพื่อนเธอ ฉันก็ไม่มาหรอก” “ขอบใจ” รุ้งตะวันหยิกแก้มอวบเพื่อนรักอีกที “ย่ะ! เห็นแก่พ่อเธอติดเคสนอกสถานที่นะ ชิ” รุ้งตะวันยิ้มแห้ง ๆ ใจร้อนรนแปลก ๆ รู้สึกเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นตั้งแต่ได้ฟังโสภิตาเล่าเรื่องอุบัติเหตุที่บ้านเรือนไทยเมื่อครู่จึงไม่ค่อยได้ใส่ใจฟังนัก เธอมองออกไปนอกหน้าต่างครุ่นคิด ท้องฟ้าวันนี้ปลอดโปร่งไม่มีเมฆแบบนี้ งานแสดงคงราบรื่นไร้ปัญหาเสร็จหลังจากนั้นเธอจะได้คิดว่าจะทำอย่างไรกับเรือนไม้โบราณนี้ต่อไป อาจจะอนุรักษ์ไว้หรือไม่ก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ใช้ชื่ออาศรมคุณปู่แบบที่คลินิก ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงรถญี่ปุ่นของโสภิตาก็แล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านเรือนไทยที่ถูกแผ้วถางทางรถและทางเดินจนเตียนโล่งเห็นท่าน้ำที่จะใช้เป็นฉากสำคัญประกอบละครชัดเจน รุ้งตะวันเปิดประตูเดินลงไปอย่างใจลอยไม่สนเสียงเรียกของโสภิตาที่รีบถอดเข็มขัดนิรภัยเปิดประตูตามลงมาแทบไม่ทันกระทั่งชนกับรุ้งตะวันที่เบรคกะทันหันเมื่อขึ้นบันไดไปบนชานเรือน “โอ๊ย! ยายรุ้งจะเบรคก็ไม่บอกกันมั่ง” โสภิตาคลำจมูกที่เพิ่งเหลามาใหม่ป้อย ๆ ก่อนจะชะเง้อมองจากด้านหลังไปที่กลุ่มคนที่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่ “เกิดไรขึ้นอะยายรุ้ง” “กำลังฟัง เงียบ ๆ ก่อน” รุ้งตะวันดุใส่ “ผมไม่เล่น!” “นายจะไม่เล่นได้ไงวะ! ก็ฉันบอกแล้วว่ามันเป็นฉากสำคัญของเรื่อง” “ไม่เล่นก็ไม่เล่น พี่ไปหาคนอื่นแทนได้เลย” “วะ! ไอ้นี่ กะอีแค่ตรวนเก่าๆ นายก็อย่างอแงดิวะ!” เสียงโหวกเหวกที่ดังฝ่ากระแสความเงียบมาคือถ้อยคำถกเถียงจากคนที่รุ้งตะวันจำได้ว่าคือรุ่นน้องคณะโบราณคดีปีสุดท้ายที่รับหน้าที่เป็นผู้กำกับกับอีกคนที่ไม่ยอมท่าเดียวเธอไม่รู้จัก กระทั่งทินพัฒน์เดินออกมาจากด้านในห้ามทัพ “มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันเถอะ ใกล้แสดงแล้วนะ” “ผมไม่เล่นนะจารย์ ผมกลัว” ผู้กำกับชักสีหน้าทันทีที่อีกฝ่ายตั้งแง่ “จารย์ดูสิครับ ไอ้โอ๊ตมันไม่ยอมเล่นผมจะทำไง” “ก็มันของเก่า แล้วไอ้ชายมันก็เกือบตายป่านนี้ยังไม่ฟื้นเพราะอาถรรพ์ตรวนเนี่ยจะให้ผมใส่ได้ไง” “มันก็แค่ของที่ฉันไปซื้อมาจากร้านรับซื้อของเก่า มันก็ต้องมีในบทเว้ย!” “ไม่รู้ล่ะ ผมไม่เล่น” “ไม่ได้ ไม่มีใครแทนแล้ว” “ถ้าให้ผมเล่นก็ได้ แต่ฉากล่มเรือพี่ต้องหาสแตนด์อินมาแทนไม่งั้นผมเท” “เฮ้ย!” เป็นเสียงของพิชัยผู้กำกับละครเวทีที่ร้องลั่น ขณะเดียวกันทินพัฒน์ถึงกับกุมขมับเพราะเหตุการณ์จวนเจียนเต็มที อาจารย์หนุ่มเดินไปมาเหมือนหนูติดจั่นหันรีหันขวางกระทั่งหยุดยืนตรงหน้าลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นสตาฟในงาน “งั้นคุณแทนก็แล้วกัน” “ทะ... ทำไมเป็นผมล่ะครับจารย์!” “ผมจะปรับไม่ให้มีบทพูดในฉากและก็จะสาดไฟไปด้านหลังไม่ให้โฟกัสหน้า คุณก็แค่แสดงแทนฉากเรือล่มเท่านั้นเอง” “ผมไม่เอานะจารย์! ผมกลัว!” เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงปฏิเสธลูกเดียว “มันแค่การแสดงรึเปล่าวะไอ้ปอด” ผู้กำกับแทรกขึ้น “ฉันให้ค่าตัวแกสองเท่าเลยเอ้า!” “ไม่เอา ผมไม่เล่นเด็ดขาด” เด็กหนุ่มยังคงยืนกรานก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง รุ้งตะวันยืนดูอยู่ก็รู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียดขึ้นยิ่งเห็นทินพัฒน์นั่งลงกุมขมับ เธอยิ่งเป็นห่วง ขนาดซ้อมใหญ่ยังเป็นปัญหาแล้ววันจริงจะแค่ไหน หญิงสาวได้แต่มองไปที่ท่าน้ำครุ่นคิด... “หรือว่าตัดฉากนี้ไปดี” ทินพัฒน์เปรย พิชัยหันขวับมาหาอาจารย์ก่อนโวยลั่นอย่างคนวาจาโผงผางเป็นนิจ “ไม่ได้นะจารย์ ฉากล่มเรือเป็นฉากสำคัญที่จะทำให้พระเอกวาร์ปไปอดีต ถ้าไม่มีจะทำไงล่ะเอาอะไรมาวาร์ปแล้วถึงจารย์จะแก้บททันผมก็กำกับไม่ทัน ฉากก็ไม่ทันด้วยนะครับ” “เออ ก็จริงของคุณ แล้วเราจะทำยังไงกันดีกับเวลาที่กระชั้นขนาดนี้” ทินพัฒน์บ่นพลางเดินไปเดินมาหน้าเครียดคิดหนัก ทันใดนั้นเสียงโครมครามก็ดังขึ้น รุ้งตะวันถึงกับสะดุ้งโหยงตามด้วยเสียงวี้ดว้ายของโสภิตาที่กระโดดผลุงหลบหลังเธอตัวสั่นงันงก รุ้งตะวันตั้งสติมองหาที่มาของเสียงถึงกับตะลึง ภาพเด็กหนุ่มที่ทินพัฒน์หมายมั่นปั้นมือเอามาเป็นสแตนด์อินนอนพังพาบร้องโอดโอยอยู่ที่ตีนบันไดชั้นล่างสุดของเรือนไทยในสภาพศีรษะเปื้อนเลือดใกล้กันเป็นโอ่งมังกรเนื้อหนาที่ใช้เป็นอ่างบัวมีรอยบิ่นแตกบ่งบอกการกระแทกอย่างแรงจากเจ้าของร่างนั้น ทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงัน... กระทั่งทินพัฒน์ตั้งสติได้รีบลงไปประคองทั้งเรียกทีมงานให้พาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล กว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่สภาวะปกติก็ค่ำเต็มที่อีกตามเคย “นี่มันอาถรรพ์อะไรกันวะ เราก็บวงสรวงชุดใหญ่แล้วนี่นา หรือเราจะเลื่อนไปก่อนดีครับจารย์” ผู้กำกับถามขณะล้อมวงกินข้าวเย็นที่สตาฟเตรียมมา ทินพัฒน์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะกวาดตามองทีมงานที่แต่ละคนสีหน้าหมดอาลัยตายอยากบ้างหวาดผวาไปตาม ๆ กันแล้วถึงกับวางช้อนเพราะกินไม่ลง รุ้งตะวันที่นั่งอยู่ในวงกับโสภิตาก็พลอยเครียดไปด้วยจึงเอ่ยถาม “หรือเพราะว่าเราไม่ได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทางด้วยคะอาจารย์” “นั่นสิคะ หนูงี้ขนลุก!” โสภิตาได้ทีเสริม กระนั้นอาจารย์หนุ่มก็ยังยิ้มเนือย ๆ ให้ก่อนตอบ “เราทำทุกอย่างที่ควรจะทำได้แล้วแต่ก็ยังเกิดเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เห็นทีงานนี้คงต้องเลื่อนไปจริง ๆ แต่ตอนนี้ติดที่ว่าเราเชิญแขกระดับวีไอพีทั้งนั้นซึ่งมันเป็นการยากหากต้องมาหยุดลงกลางคันแบบนี้ มันอาจจะมีผลต่อภาพรวมของคณะของเราด้วย” “หรือว่าหาโลเคชั่นใหม่ดี” พิชัยเสนอ “ไม่ได้ เวลาไม่มีไม่พอเราไม่มีทุนสำหรับค่าสถานที่แล้ว” “งั้นหรือว่าเราจะจ้างสตั๊นท์มืออาชีพดีครับ” “เป็นความคิดที่ดี แต่เราจะหาได้ที่ไหนในเวลาแบบนี้” ทินพัฒน์เปรยเสียงเนือย รุ้งตะวันฟังแล้วก็เหนื่อยแทน ครั้นมองไปยังทีมงานที่ต่างก็ตรากตรำกันมาทั้งวันแล้วยิ่งสงสารจับใจ เธอผุดลุกเดินไปไม่สนใจเสียงเรียกของโสภิตาที่ตั้งท่าจะลุกตามแต่พอเห็นว่ารุ้งตะวันไปที่ไหนก็กลัวหงอทรุดตัวลงนั่งตามเดิม “เฮ้อ! จะทำอะไรนะยายรุ้ง” “รุ้งทำอะไรเหรอ...” ทินพัฒน์ถามเห็นทีท่าอ้ำอึ้งของสาวอวบก็มองตามไปจึงเห็นร่างระหงของรุ้งตะวันผลุบหายเข้าไปยังห้องนอนกลางที่ปิดตาย “สงสัยไปขอร้องพี่สุดหล่อมังคะอาจารย์” “หืม... พี่สุดหล่อ?” โสภิตานึกได้ว่าเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเธอกับรุ้งตะวันจึงแก้เก้อ “ก็แบบว่าคงไปขอเจ้าบ้านเจ้าเรือนให้ละครเวทีสำเร็จลุล่วงอะไรทำนองนี้ค่ะ... จารย์” “ไหนว่าห้องนั้นเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้พวกเราเข้าไป” “นะ... นั่น... ก็ใช่ค่ะ” คราวนี้สาวอวบถึงคราวอึกอัก ทินพัฒน์หรี่ตามองอย่างจับสังเกตเห็นแต่สีหน้าซีดเผือดของโสภิตาที่ไม่ให้ความกระจ่างก็ลุกขึ้นทันที “งั้นผมไปดูดีกว่า” “เดี๋ยว ๆ อย่าไปเลยค่ะ” ไม่ทันที่ทินพัฒน์จะเดินไป รุ้งตะวันก็ออกมาจากห้องเดินตรงลิ่วมายังวงข้าวทำให้ทั้งหมดหันมาที่เธอเป็นตาเดียว ทินพัฒน์ตรงเข้าคว้ามือนุ่มนิ่มมากุมไว้ด้วยความเป็นห่วงทันที “คุณเข้าไปทำอะไรในนั้นหรือรุ้ง” รุ้งตะวันรู้ตัวจึงดึงมือออกช้า ๆ แก้เก้อก่อนจะยิ้มให้อาจารย์หนุ่มและทุกคนที่อยู่กลางวงข้าวนอกชานแล้วจึงประกาศชัดถ้อยชัดคำ “ฉากล่มเรือนั้น ให้รุ้งเล่นแทนนะคะอาจารย์”+++++++++++++++++++++++++++ จะล่มเรือกันแล้ว เอาใจช่วยรุ้งด้วยนะคะ ที่จริงเขียนเรื่องนี้ก็เป็นแนวไทยโบราณย้อนยุคเรื่องแรกเหมือนกันค่ะ อยากจะลงหมวดตะพาบแต่ว่านิยายจะไม่ต่อตอนกันไปอยู่หมวดตะพาบแทนก็เลยไม่ได้ลงเลย
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า ^__^
Create Date : 07 กันยายน 2564 |
Last Update : 7 กันยายน 2564 0:20:19 น. |
|
35 comments
|
Counter : 1380 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณRain_sk, คุณเริงฤดีนะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณ**mp5**, คุณThe Kop Civil, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณzungzaa, คุณtuk-tuk@korat, คุณอุ้มสี, คุณkae+aoe, คุณชีริว, คุณดาวริมทะเล, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณSertPhoto, คุณhaiku |
โดย: Sweet_pills วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:0:52:52 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:4:26:18 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:5:22:51 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:6:49:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:7:07:39 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:7:30:53 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:9:27:14 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:13:29:10 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:15:54:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กันยายน 2564 เวลา:20:41:25 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:4:15:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:6:30:41 น. |
|
|
|
โดย: zungzaa วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:15:04:21 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:20:35:53 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:20:39:54 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:23:05:29 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 8 กันยายน 2564 เวลา:23:42:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2564 เวลา:6:13:53 น. |
|
|
|
โดย: zungzaa วันที่: 9 กันยายน 2564 เวลา:9:07:32 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 9 กันยายน 2564 เวลา:9:50:29 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 กันยายน 2564 เวลา:17:36:22 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 11 กันยายน 2564 เวลา:0:34:01 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 11 กันยายน 2564 เวลา:9:22:24 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 11 กันยายน 2564 เวลา:13:04:14 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:10:58:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:19:13:16 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:21:36:01 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:22:11:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กันยายน 2564 เวลา:23:05:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พรุ่งนี้พี่ต๋ามาใหม่ค่ะ