|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เช่าบ้านที่จีน
วันนี้จะพูดเรื่องการเช่าบ้านที่ประเทศจีน นักศึกษาต่างชาติเมื่อไปศึกษาที่ประเทศจีนเรื่องที่อยู่ก็จัดได้ว่าสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ถ้าตัดสินใจอยู่หอพักของนักศึกษาต่างชาติ มันก็สะดวกดี ไม่ต้องหาบ้านเอง แต่ราคาแพง และที่สำคัญเครื่องอำนวยนความสะดวกไม่ครบตามที่เราต้องการ ดังนั้นหลายๆ คนจึงนิยมออกไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก
สำหรับนักศึกษาต่างชาติ วิธีหาบ้านเช่าง่ายๆ มีหลายวิธี เช่น ถามเอาจากเพื่อนๆ อาจารย์ หรือถ้าเป็นคนไทยก็ลองไปร้านอาหารไทยดู บางแห่งจะมีบอร์ดโฆษณา หรือลองไปดูตามบอร์ดประชาสัมพันธ์ของแผนกนักศึกษา บางครั้งก็จะมีคนเอาโฆษณาไปติดว่ามีบ้านให้เช่า และวิธีสุดท้ายหาบ้านผ่านนายหน้า
ขอทำความเข้าใจก่อนว่า คำว่า "บ้าน" ในบทความนี้ หมายถึง ห้องชุด และขออธิบายว่า ห้องชุดแต่ละห้องในตึกหลังหนึ่งมีเจ้าของคนแยกเป็นเอกเทศ ไม่ใช่ว่าห้องชุดทุกห้องในตึกนั้นมีเจ้าของคนเดียวกัน เคลียร์ตรงจุดนี้นะครับ
วิธีที่คนส่วนใหญ่ปรารถนาคือ มีคนแนะนำ เพราะถ้าไม่ดีก็คงไม่มีการแนะนำกัน แต่คนส่วนใหญ่มักไม่สมปรารถนา ผมมีประสบการณ์จากหลายๆ กรณีที่กล่าวมา ก็อ่านไว้เป็นกรณีศึกษาละกันครับ
กล่าวโดยสรุปวิธีหาบ้านแบบง่ายๆ มี 3 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันไป
1. สอบถามจากคนรู้จัก ข้อดี โอกาสโดนหลอกลวงต่ำ และเราจะทราบถึงภูมิหลังของเจ้าของบ้านว่าเป็นคนอย่างไร ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกที่จะเช่าบ้าน ที่สำคัญไม่ต้องเสียค่านายหน้า ข้อเสีย ต่อราคาได้ยาก แต่ต่อลองเรื่องอื่นๆ ทำได้ง่าย ประสบการณ์จากการใช้วิธีนี้ ผมชอบวิธีนี้ เนื่องจากเรารู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นอย่างไรจากคนที่อยู่ก่อนหน้าเรา (เพื่อนเราหรือคนที่แนะนำ) ทำให้ไม่เกิดปัญหาอะไรเลย บ้านมีปัญหาผมก็โทรศัพท์ตามตัวเจ้าของบ้าน ถ้าเจ้าของมาไม่ได้เค้าก็ส่งภรรยามาช่วยแก้ปัญหาแทน
2. หาจากบอร์ดประชาสัมพันธ์ตามสถานที่ต่างๆ ข้อดี ไม่ต้องเสียค่านายหน้า การต่อราคาทำได้ง่าย ข้อเสีย เราไม่รู้จักคนที่เราติดต่อ อาจโดนหลอกลวงได้ เวลาทำสัญญาต้องละเอียดนิดนึง และถ้าเจ้าของไม่ดีจะตามตัวได้ยาก ประสบการณ์จากการใช้วิธีนี้ วิธีนี้ผมใช้เมื่อถึงคุนหมิงเป็นครั้งแรก ต้องอาศัยการพูดคุยกัน มีทั้งคุยกันถูกคอ และอยากจะกลับตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอหน้า กว่าจะหาบ้านที่ถูกใจได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน
"租房 เจอร้านแบบนี้ก็รู้ไว้เลยว่าเป็นนายหน้าจัดหาบ้าน"
3. อาศัยนายหน้าจัดหาบ้าน ข้อดี ค่อนข้างปลอดภัยในเรื่องสัญญา เพราะเค้ามีแบบฟอร์มให้กรอกเลย จึงไม่ต้องห่วงเรื่องสัญญามากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรประมาท ควรดูให้ชัดเจนในเรื่องระยะเวลาอยู่อาศัย ข้อเสีย ต่อราคาไม่ได้มากนัก ต้องเสียค่านายหน้า 1 เดือน การติดต่อเจ้าของบ้านทำได้ยาก ต้องติดต่อผ่านนายหน้าอย่างเดียว เพราะเค้าไม่ให้เบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของบ้านแก่เรา ประสบการณ์จากการใช้วิธีนี้ เคยใช้วิธีนี้หาบ้านให้เพื่อน เจอประสบการณ์คล้ายๆ หาตามบอร์ดประชาสัมพันธ์ บางครั้งก็เจอเจ้าของบ้านที่คุยแล้วไม่ถูกคอ จนทำให้อยากกลับตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอก็มี อาจจะอคติไปเองก็ได้ ผมรู้สึกว่าวิธีนี้ดูด้อยเมื่อเทียบกับสองวิธีข้างบน
อะไรคือค่านายหน้า 1 เดือน ก็คือค่าเช่าที่ต้องเสียเพิ่มจากค่าเช่าปกติหนึ่งเดือน สมมติว่า ค่าเช่า 900.- หยวน/เดือน เราเช่า 6 เดือน ต้องเสียเงินทั้งหมด ค่าเช่าบ้าน 5,400.- หยวน + ค่านายหน้า 900.- รวมเป็นเงิน 6,300.- หยวน (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ)
หลักการเลือกบ้าน
ต้องดูความต้องการของเราก่อนว่าเราต้องการสเปคห้องขนาดไหน อย่างผมต้องการ เครื่องทำน้ำร้อน ครัวสำหรับทำกับข้าว ตู้เย็น โทรทัศน์ เตียงนอน โต๊ะเขียนหนังสือ ห้องที่แยกเป็นสัดส่วน และอยู่ไม่ใกล้จากมหาวิทยาลัยมากนัก ก็เลยได้บ้านตาม Blog บ้านของผม ซึ่งผมค่อนข้างพอใจ
หลังจากกำหนดความต้องการของเราแล้ว ก็ถึงเวลาติดต่อเช่าบ้าน ก่อนอื่นก็ต้องไปดูห้องว่า สภาพเป็นอย่างไร ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่ ถ้าตอนที่เราติดต่อเจอหน้ากันแล้วคุยกันไม่ถูกคอ รู้สึกได้ว่าเค้าไม่ค่อยใส่ใจ หรือมีท่าทีตุกติก ก็อย่าไปเช่า ต่อให้ห้องดีแค่ไหน หรือราคาถูกขนาดไหนก็ตาม ผมถือเรื่องนี้มาก เพราะถ้าวันแรกที่เจอกันยังแสดงพฤติกรรมให้เราไม่ไว้ใจ เราไปเช่าเค้าอยู่มันต้องมีปัญหาแน่นอน ถ้าคุยกันถูกคอก็ไปดูเรื่องสัญญาได้เลย
บางคนบอกข้าหน้าตี๋ไม่มีใครรู้ คนจีนรู้ครับ ต่อให้คุณพูดเก่งขนาดไหนก็ตามเค้าก็รู้ อย่างน้อยๆ เค้าก็รู้ว่าไม่ใช่คนท้องถิ่น (ผมยังเคยโดนทักเป็นคนกว่างตงเลย) สำหรับสัญญาถ้าคุณไม่แน่ใจ เอาไปให้อาจารย์ที่แผนกนักศึกษาต่างชาติช่วยดูได้ครับ ถ้าฝ่ายเจ้าของถามเป็นเชิงว่า "ไม่เชื่อใจเหรอ" ก็ตอบเลี่ยงๆ อะไรก็ได้ เป็นต้นว่า "ผมเป็นคนต่างชาติขอเอาไปดูให้ละเอียดหน่อย จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย" ประมาณนั้นก็ได้ แล้วแต่เรา
บางครั้งสเปคห้องอาจไม่ตรงตามที่เราต้องการ แต่เราอยากได้ ตรงนี้ก็แล้วแต่ฝีมือคุณล่ะ จะต่อราคาให้เค้าลดราคา หรือจะให้เค้าหาของมาเพิ่มให้ก็ตามแต่สะดวก แต่ที่สำคัญถ้าเค้าถามว่าชอบหรือไม่ห้ามตอบว่าชอบ ไม่งั้นหมดสิทธิ์ต่อราคา
ผมอยากให้ข้อคิดอีกนิดในการเลือกบ้าน บ้านที่อยู่ชั้นล่างๆ คนจะเดินผ่านบ่อยเสียงดังไม่สงบ แต่สะดวกตรงที่ไม่ต้องขึ้นบันได บ้านที่อยู่ชั้นสูงๆ ต้องขึ้นบันได แต่คนไม่ค่อยเดินผ่านมากนัก ทำให้สงบ เสียงไม่ดัง ชอบแบบไหนก็เลือกกันตามความชอบนะครับ
ในการทำสัญญา โดยปกติการจ่ายเงินจะทำกันในวันที่ทำสัญญา และจะต้องจ่ายเป็นเงินก้อนเดียวทั้งหมด ผมไม่เคยเจอกรณีจ่ายเป็นเดือนๆ เลย ดังนั้นวันที่ทำสัญญาหาเพื่อนไปด้วยก็ดี เนื่องจากเราพกเงินสดเยอะ มีเพื่อนไปด้วยอุ่นใจกว่า
ในสัญญาเช่าควรประกอบด้วยอะไรบ้าง 1. ค่าเช่าต่อเดือน เป็นจำนวนเงินกี่หยวนต่อเดือน 2. วันที่ย้ายเข้า ออก วันเดือนปี ถึง วันเดือนปี 3. ระยะเวลาที่อยู่ กี่ปีก็ว่าไป 4. ข้อตกลงเรื่องน้ำ ไฟ แก๊ส 5. เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน มีอะไรบ้าง 6. ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เช่น ค่าขยะ เคเบิ้ลทีวี
ตัวอย่างสัญญาเช่า
ตัวเลขที่เป็นตัวหนังสือในสัญญาควรเป็นตัวอักษรที่เค้าเรียกว่า 大写 หมายถึงตัวเลขแบบตัวใหญ่ ดูรายละเอียดได้ที่ Blog นับเลขกับตัวเขียนใหญ่ 大写数字 เพื่อป้องกันการเขียนแก้
หลังจากทำสัญญาจ่ายเงินเสร็จเราต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องถิ่น ถ้าจะให้ดีให้เจ้าของบ้านพาไปเลย เผื่อมีปัญหาจะได้ฉะกันได้เลยที่สถานีตำรวจนี่แหละ (คนจีนกลัวตำรวจ) ย้ำนะครับ ควรตรวจสอบสัญญาให้ละเอียด จะแก้ตรงไหนก็ทำกันก่อนเซ็นชื่อ อย่าคิดแต่ว่าเซ็นๆ ไปก่อน เดี๋ยวค่อยแก้ทีหลัง ระวังจะเดือดร้อนเพราะความชุ่ย แล้วจะหาว่าไม่เตือน
เหมือนจะดูยุ่งยากไปหน่อย แต่จริงๆ ไม่ยากหรอก ผมเขียนจนอาจดูน่ากลัวไปนิด แต่วัตถุประสงค์ที่เขียนแบบนี้ ก็เพื่อให้ท่านตั้งอยู่ในความไม่ประมาท หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ ขอให้หาบ้านได้ตรงตามความต้องการนะครับ
Create Date : 28 พฤศจิกายน 2553 |
|
34 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2560 23:16:08 น. |
Counter : 6022 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: YUCCA 28 พฤศจิกายน 2553 4:04:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 พฤศจิกายน 2553 6:30:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) 28 พฤศจิกายน 2553 20:07:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 28 พฤศจิกายน 2553 20:47:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 28 พฤศจิกายน 2553 22:05:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 29 พฤศจิกายน 2553 0:33:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2553 5:40:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2553 12:00:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องผิง 29 พฤศจิกายน 2553 13:29:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤศจิกายน 2553 16:21:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤศจิกายน 2553 6:40:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าโซ 30 พฤศจิกายน 2553 7:23:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 30 พฤศจิกายน 2553 9:59:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤศจิกายน 2553 13:19:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยังวัน 1 ธันวาคม 2553 6:20:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 1 ธันวาคม 2553 10:18:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ter_pt 1 ธันวาคม 2553 11:51:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) 1 ธันวาคม 2553 15:35:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 1 ธันวาคม 2553 18:19:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 1 ธันวาคม 2553 20:03:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 1 ธันวาคม 2553 21:00:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 2 ธันวาคม 2553 10:26:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องสัญญาตอนเข้าจะลักษณะคล้ายกันกับประเทศอื่น
เเต่ถ้าเป็นนักศึกษาเมื่อเเยกตัวออกจากหอ มาพักช้างนอก จะง่ายมากกว่าสำเร็จการศึกษา
ซึงต้องใช้หลักฐานธนาคาร
ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากๆสำหรับการการหาที่พักในเมืองจีนค่ะ