-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
เมืองจีนกับวัฒนธรรมนอนกลางวัน

สิ่งที่ทุกคนอาจรู้สึกแปลกใจก็คือ วัฒนธรรมการนอนกลางวันของคนจีน คนจีนมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จากการสอบถามได้ความว่า ช่วงเช้าเรียน/ทำงานมาแล้ว ควรพักผ่อนบ้าง แม้จะแค่ครึ่งชั่วโมงก็ยังดี เพราะมีการพักผ่อนช่วงบ่ายคุณจะไม่รู้สึกง่วงเลย พร้อมทั้งมีการชักชวนให้เราลองนอนกลางวันบ้าง

โดยทั่วไปช่วงเวลานอนกลางวันก็คือช่วงเวลา 12.00 น. -14.30 น. รวมเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณว่ากินข้าวเร็วแค่ไหน กินเร็วก็มีเวลาพักผ่อนมากหน่อย


"ขี้เกียจกลับหอ เล่นนอนมันตรงนี้เลย ง่ายดี"


นักศึกษาจีนเมื่อทานข้าวกลางวันเสร็จก็มักจะกลับไปนอนพักผ่อนที่หอพักของตน แต่บางคนก็นอนมันตรงนี้เลย สงสัยเมื่อคืนหนักไปหน่อย

ทำไมต้องพูดเรื่องนี้ล่ะ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนไทยอย่างเรา ผิดแล้ว เกี่ยวข้องอย่างมาก สถานที่หลายๆ แห่ง หากเป็นช่วงเวลา 12.00 น. -14.30 น. (บางที่อาจเริ่มตั้งแต่ 11.30 น.) จะปิดทำการ แม้แต่โรงพยาบาลที่นักศึกษาต่างชาติไปตรวจสุขภาพก็ยังทำแบบนี้ ดังนั้นถ้าจะติดต่อธุระอะไรควรคำนึงถึงเรื่องเวลาด้วยเลี่ยงได้ก็เลี่ยงช่วงเวลานอนกลางวัน ไม่อย่างนั้นอาจต้องเสียเวลาเปล่าหลายชั่วโมง

แม้ว่าปัจจุบันแนวคิดเรื่องการนอนกลางวันของประเทศจีนจะเป็นทีถกเถียงกันอยู่ว่า สมควรยกเลิกแนวคิดนี้หรือไม่ เนื่องจากสภาพสังคมที่แตกต่างจากอดีต สมัยก่อนคนจีนจะกลับไปกินข้าวที่บ้านแล้วนอนกลางวัน จากนั้นค่อยมาทำงานใหม่ แต่ปัจจุบันจากการที่เมืองขยายตัวปัญหาที่ตามมาคือ การจราจรติดขัด ทำให้ผู้คนบางส่วนมักเลือกที่จะไม่กลับบ้าน คนจีนกินข้าวเร็ว ดังนั้นจึงเหลือเวลาอีกมาก แต่ก็มักจะไม่นอน บ้างก็คุยเล่นกัน เล่นเนต เล่นหมากรุก ซึ่งเป็นการใช้เวลาผิดวัตถุประสงค์เดิมที่เค้ากำหนดเอาไว้ ทำให้มีการถกเถียงกันว่า ยังสมควรที่จะมีช่วงเวลานอนกลางวันอีกหรือไม่

ผมชอบวัฒนธรรมในจุดนี้ แม้จะนอนแค่ 1 ชั่วโมง แต่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นมาก แต่ถ้ามาทำอย่างนี้ที่เมืองไทยล่ะก็ มีหวังโดนด่าหาว่าเป็นไอ้ตัวขี้เกียจแน่นอน


Create Date : 14 ธันวาคม 2553
Last Update : 3 ธันวาคม 2560 23:45:18 น. 36 comments
Counter : 6570 Pageviews.

 
ด้วยความยินดีค่ะ
ชอบเป็น "พี่นาถ" กว่า "ย่านาถ" ซะอีกค่ะ
ฮ่าๆๆๆ


เมืองจีน กำลังเปลี่ยนแปลงทุกลมหายใจเข้าออก
ต่อไป ภาษาจีน จะเป็นภาษาโลก นอกจากภาษาอังกฤษค่ะ

คนจีนมากมายมหาศาล ยิ่งกว่ามดปลวก
หากไม่ถีบตนเองขึ้นแล้ว ก็จมอยู่กับปลัก
การแข่งขันสูง ทำให้จีน มีอะไรที่เยี่ยมยอดมากๆทุกอย่างที่โลกนี้มีค่ะ

นักวิทยาศาสตร์ชั้นหัวกะทิในโครงการนาซ่า ๓๖ คน เป็นคนจีน ๒๐ กว่าคน

และทุกคนกำลังทยอยกลับจีน เพื่อพัฒนาด้านนิวเคลียร์
และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ เสด็จจีนแล้ว ๓๖ ครั้ง
มันต้องมีอะไรดีๆมากมาย พระองค์ท่านซึ่งยุ่งมาก ยังเสด็จไปค่ะ


บล็อก sirivinit มีเกี่ยวกับจีนที่บล็อก ๘๙ มหาชาติวัฒนาจีนแผ่นดินใหญ่
ขอเชิญไปเลือกอ่านดูนะคะ


นอนนานเกินไปตอนกลางวัน ไม่สู้ดีค่ะ
แค่งีบน้อยๆ พอให้คลายเครียดก็พอค่ะ

หากอยู่ที่ทำงาน หลังรับประทานอาหาร เดินย่อยสักหน่อย
แล้วงีบสัก ๑๕ นาที หากไม่หลับ ก็หลับตาเฉยๆ
จะดีขึ้นกับงานในช่วงบ่ายค่ะ

ไปคุยกันอีกนะคะ พี่นาถชอบคุยกับเด็กฉลาด
ชาติเจริญค่ะ



โดย: พี่นาถค่ะ (sirivinit ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:11:38:32 น.  

 
พี่ก๋าก็ชอบแอบงีบกลางวันนะครับ
ส่วนใหญ่ทำได้
เพราะเอาหมิงหมิงหลับครับ 555
เป็นข้ออ้างได้ หุหุุหุ

หมิหงมิงหลับประมาณ 1 ชั่วโมง
แต่พี่ก๋างีบสัก 10- 30 นาทีก็สดชื่นแล้วล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:12:24:16 น.  

 
มาแล้ววว..

ชอบเหมือนกันค่ะ เคยได้อ่านมาเรื่องการงีบกลางวัน การพักสักนิดหน่อยไม่น่าเชื่อว่าจะมีผลกับความสดชื่นของร่างกาย เหมือนชาร์จแบตฯให้เรามีแรงใจแรงกาย พลังความคิดทำงานต่อในช่วงบ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แปลกใจนะคะว่าจีนเค้าก็มียังงี้ด้วย เพราะรู้สึกว่าเค้าน่าจะวิ่งเต้นติดต่อธุรกิจกันมากกว่า

สมัยป้าโซยังทำงานอยู่ที่เมืองไทย ช่วงหลังทานข้าวกลางวันเสร็จก็จะงีบเหมือนกัน ถึงจะหลับไม่ลึกเพราะบางครั้งได้ยินเสียงจุ๊กๆจิ๊กๆ คนเดินผ่านหรือเอาเอกสารมาวางที่โต๊ะก็ตาม พอตื่นขึ้นมาหัวจะโปร่ง ตบด้วยกาแฟซักแก้วทีนี้ถึงไหนถึงกัน จะดึกซักแค่ไหนก็บ่ยั่น..


โดย: ป้าโซ วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:12:40:53 น.  

 
สวัสดีครับพี่ครับ

ผมล่ะชอบวัฒนธรรมแบบนี้มากๆครับ

เค้าว่านอนซักไม่เกินสิบห้านาที กำลังดี

ถ้าเกินนั้น สมองจะเฉื่อย


ผมแอบงีบประจำแหละ

ฮ่าๆ

ก็หมอเขาบอกมา


โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:13:34:02 น.  

 
ผมว่านะ เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่่กระแดะมากกว่า เราก็เคยดูถูกคนฝรั่งเศส คนลาว ฯลฯ ว่าขี้เกียจเพราะนอนกลางวัน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนไทยส่วนใหญ่นี่โคดขี้เกียจยิ่งกว่าซะอีก


โดย: The Queenslander วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:15:54:22 น.  

 
ชอบนอนกลางวันเหมือนกันค่ะ แต่บางทีก็นอนทั้งวัน ก๊ากกกกก


โดย: army_wifey วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:16:13:11 น.  

 
คือหมื่นสามพันล้านนี่

แย่นะครับ

เงินใครล่ะนั่น?

ยิ่งส่วนของ ส.ส. ทั้งหลาย ยังไม่มีงบรองรับด้วย


หดหู่ที่สุด

เฮ้อๆ


โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:16:47:37 น.  

 
ชอบวัฒนธรรมนี้อ่ะ
ยังบ่นๆ อยู่เลยว่า
ที่บริษัทน่าจะเอาธรรมเนียมนี้มาใช้ได้


โดย: chenyuye วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:16:50:32 น.  

 
หวัดดีจ้ะต่อ...

น้าตั้งท่าจะแวะเวียนทักทายตั้งแต่เย็น โน่นนี่นั่น ยังไม่หยุดเลย...

มาช้าดีกว่าไม่มาเนาะ...

เห็นด้วยกับประโยคสุดท้ายจ้ะ...สุ่มเสี่ยงเป็นตัวขี้เกียจมาก แม้จะรู้ว่า ซักงีบ..แต่ถ้าหลับลึก..ตื่นขึ้นมา จะรู้สึกสดชื่นมาก...


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:19:40:07 น.  

 
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ update blog เลยค่ะ

เพราะติดเกมส์ ใน face book 5555++++

(เมื่อก่อนเคยแอบงีบตอนกลางวัน
แต่เดี๋ยวนี้ งานเย๊อะ เยอะ
ถ้าแอบงีบ จะทำงานไม่เสร็จอ่ะค่ะ)



โดย: ชอบสีฟ้า วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:19:48:40 น.  

 
ผมชอบนอนกลางวันอ่ะคับ


โดย: endless man วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:21:46:16 น.  

 
อยากย้ายไปอยู่ที่จีนมั่งอ่ะ

แต่เพิ่งจะรู้นะเนี่ยะว่าได้งีบแล้วทำให้ไม่ง่วงตอนบ่าย เดี๋ยวต้องลองทำมั่ง ลองทำวันนี้เลยดีกว่า หุหุ โหมดขี้เกียจเริ่มทำงาน


โดย: Sugar lip วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:1:06:45 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:6:58:52 น.  

 
สวัสดีครับ คุณต่อ
เห็นด้วยกับการพักผ่อนช่วงกลางวันนะครับ
แต่เแค่เป็นการนอนพักสายตา สัก 10-15 นาที ก็น่าจะพอนะครับ
ยิ่งคนที่ทำงานกับหน้าจอคอมด้วยแล้ว
แต่ถ้าถึงกับลงไปนอนบนสนามหญ้าเลย คงดูใม่งามซะเท่าไรนะครับ อิอิ

มีความสุขมากๆนะครับ


โดย: ter_pt วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:9:35:05 น.  

 
พี่นาถ - ประเทศจีนยังมีมุมมืดอีกมากที่ไม่ได้รับการเปิดเผย ผมเปิดเผยไปบ้างแล้ว มีโอกาสจะเปิดเผยเพิ่ม แต่ก็ต้องยอมรับว่าประเทศจีนก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก

ความจริงเรื่องฉลาดไม่ฉลาดผมมองว่าไม่สำคัญ สำคัญที่การใช้ตรรกะมากกว่าครับ

พี่ก๋า - คนจีนก็งีบประมาณ 1 ชั่วโมงครับ เค้าบอกว่าถ้างีบนานกว่านั้นตื่นขึ้นมาจะรู้สึกเพลียกว่าเดิม

ป้าโซ - คนจีนเค้าว่ามีผลต่อร่างกายทำให้สดชื่น ซึ่งจากการทดลองผมเห็นด้วยกับเค้าครับ สดชื่นขึ้นจริงๆ

เป็ดสวรรค์ - ดีจังงีบได้ไม่มีใครว่าด้วย เรื่องข่าวมันน่าหดหู่จริงๆ คงได้แต่ทำใจ

The Queenslander - อาจเป็นค่านิยมของคนไทยด้วยมั้งครับ ทั้งที่มันไม่เกี่ยวกันเลย ช่วงเวลาพักจะทำอะไรมันก็เรื่องของเค้า ผมมองว่ามันสำคัญที่เวลาทำงานทำได้มีประสิทธิภาพรึเปล่า จะนอนหรือทำอะไรไม่เห็นเกี่ยวเลย นี่อาจเป็นข้อเสียของคนไทยก็ได้

army_wifey - อย่างนั้นตอนกลางคืนจะนอนไม่หลับนะครับ

chenyuye - ผมมองว่าถ้าเอามาใช้แล้วมันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ก็น่าเอามาใช้ ดีกว่าทำตัวซึนเดเระไม่ใช้ แล้วประสิทธิภาพการทำงานไม่ดีเป็นไหนๆ

สายหมอกและก้อนเมฆ - ความจริงถ้าหลับลึก ขอแค่ 10 นาทีก็พอ ตื่นขึ้นมาแล้วไปล้างหน้าสดชื่นกว่าเป็นไหนๆ แต่ที่นี่เมืองไทยขืนทำโดนด่าเป็นตัวขี้เกียจแน่นอน

ชอบสีฟ้า - ^^

endless man - ดีจังนอนกลางวันได้ ไม่โดนด่าเป็นไอ้ตัวขี้เกียจด้วย

Sugar lip - ควรใช้คำว่าทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากกว่า

ter_pt - ทุกอย่างมันก็ต้องมีความพอดีในตัวมัน แต่ผมเห็นภาพแล้วผมรู้สึกประทับใจนะ เค้ากล้าดี


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:10:01:52 น.  

 
จริง ๆ เลยค่ะ คุณต่อ
แฟนเรียนจบแล้วก็ทำงานที่เมืองไทยมาโดยตลอด แล้วก็ย้ายกลับมาอยู่ ปักกิ่ง ด้วยบริษัทฯ ไทยส่งมา การพักเที่ยงก็เหมือนที่เมืองไทย...ตอนนี้เพิ่งเปลี่ยนที่ทำงานใหม่เป็นบริษัทฯ ของคนจีนค่ะ บริษัทฯ ค่อนข้างใหญ่(3,000 คน) พักเที่ยงตอน 12:00-14:30 แฟนไม่รู้ทำอะไรเลยค่ะ เพราะไม่เคยนอนกลางวัน เห็นว่าเขามีห้องพักผ่อนที่บริษัทฯ เตรียมให้ แต่ตอนนี้ใช้บริการแต่สวยที่จัดไว้ให้พักผ่อนค่ะ บอกว่าสวยและอนุรักษ์ธรรมชาติมาก ๆ ห้ามสูบบุหรี่ ทิ้งขยะเรี่ยราดอีกต่างหาก

พอเจอบริษัทฯ ใหม่ เขายังรู้สึกแปลก ๆ เลยค่ะ แต่เห็นว่าอีกหน่อยสงสัยต้องลองใช้ บริการห้องพัก(งีบ) บ้าง ตื่นมาทำงานช่วงบ่าย สมองจะได้ ปลอดโปร่ง


โดย: Li Shana วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:11:09:41 น.  

 
พี่ก๋าอายุ 37
ตอนที่พี่ก๋าเริ่มอ่านการ์ตูน
ดาร์กอนบอลยังไม่ดังเลยครับ
ยุคนั้นอ่านโดราเอมอนครับน้องต่อ
สนพ.ที่ดังก็เป็นมิตรไมตรีกับวิบูลย์กิจนี่ล่ะครับ

ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิยังไม่มีเลยนะครับ
ยังกินข้าวเกรียบกุ้งบีบีอยู่เลยครับ 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:11:30:27 น.  

 
ที่แน่ ๆ ตอนนี้ผมง่วงมากครับ...แต่หลับไม่ได้

(เลยต้องหลบมาเล่น blog ไง )


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:14:34:08 น.  

 
เห็นคอมเมนท์คุณก๋า...ก็นึกบ้างสมัยนั้นเราอ่านการ์ตูนเรื่องอะไรน้า...

น่าจะเป็นแคนดี้จอมแก่น คำสาปฟาห์โรห์ ฯลฯ อีกเยอะ ต้องค่อยๆ นึกจ้ะ

ไม่มีอะไร...ชวนคุยเฉยๆ

หลังๆ มาได้ดูโดเรม่อนกับลูกบ้าง รู้สึกโนบิตะไม่ง๊องแง๊งเหมือนแต่ก่อนเท่าไหร่...หรือน้าคิดไปเองก็ไม่รู้...คือจะบอกว่าเค้าฉลาดขึ้น ไม่ได้พึ่งโดเรม่อนมากเหมือนแต่ก่อน


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:15:49:05 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายครับ

นั่นสิครับ ถ้ามานอนบ้านเรามีหวังโดนไล่ออกแหง๋ๆ


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:16:13:30 น.  

 
ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องสำหรับตัวเอง
เลยนะค่ะเพราะก็เพิ่งจะรู้ว่าที่โน่นเค้าหลับกัน
เป็นล่ำเป็นสันอย่างนี้ ขนาดว่าหยุดทำงาน
กันไปเป็นพักๆ เพราะว่าต้องนอน .. อื้อ แปลกดีค่ะ
เอ แต่ว่าถ้าไปเล่าเรื่องบ้านเราทำงานพักเที่ยง 1 ชม.
แต่ว่าบางคนกว่าจะเข้าทำงานได้เกือบบ่าย 2 โมง
ทางเมืองจีนก็อาจจะว่าแปลกเหมือนกันก็ได้นะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:17:44:30 น.  

 
มาอ่านเรื่องนอนกลางวันด้วยคนค่ะ
เคยได้ยินเหมือนกันเรื่องวัฒนธรรมนี้
อิตาลีทางภาคใต้ก็เป็นค่ะ ใต้สุดๆๆ เกาซิซิลี นอนยาวช่วงบ่าย
ทางเหนือทำไม่ได้ เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรม ธุรกิจ
แต่จริงๆ งีบสักชั่วโมงตอนบ่าย ได้พลังงานกลับคืนมาดีนะคะ


โดย: เอิง (diamondsky ) วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:19:11:10 น.  

 
ที่ทางใต้ของสเปนก็มีนอนพักกลางวันหลังอาหารเที่ยงค่า ร้านรวง ปิด หมดค่า ไปทานข้าวแล้วพักสักงีบไง ช่วง 14.00 - 17.00 เป็นช่วงพักค่า (ที่โน่นทานอาหารเที่ยงสายค่า น่าจะพูดว่าบ่ายเนอะ) แต่ในความเป็นจริงแล้วคนจะงีบซะหน่อยก็เฉพาะหน้าร้อน ในฤดูอื่น ๆ เค้าก็คุยกัน ทำกิจกรรมเล็ก ๆน้อย ๆ ด้วยกัน เด็ก ๆ ก้ทำการบ้าน เล่น


โดย: นัท (Komvorn ) วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:21:25:43 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:6:34:21 น.  

 
ถ้าจำไม่ผิดเคยดูทีวีว่าที่สเปนก็มีการนอนกลางวันเหมือนกัน แล้วก็มีการวิจัยว่าการได้งีบแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ มีการวิจัยอีกด้วยว่าเมื่อแบ่งนักเรียนออกเป็นสองกลุ่มทำข้อสอบ กลุ่มที่ได้นอนงีบแล้วตื่นมาทำข้อสอบจะได้คะแนนดีกว่า

แต่ผมนี่ไม่ชอบนอนกลางวันเลยครับ พอนอนไปแล้วตื่นขึ้นมาตอนเย็นๆจะรู้สึกเหมือนจุกอก ถ้าง่วงช่วงบ่ายๆจะไปหาอะไรมาดื่มเย็นๆเอาอ่ะครับ


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:9:16:59 น.  

 
หาอะไรเย็นๆมาดื่มเอาแทนครับ (ข้างบนเขียนแล้วอ่านงงๆนะครับ เรียงคำผิด )


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:9:18:47 น.  

 
หนูนอนกลางวันไม่ค่อยหลับอะพี่ ถ้ามีหนูคงหนีไปช็อปมากกว่า ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:10:49:48 น.  

 
พี่ก๋าชอบอ่านเม้นท์น้องต่อนะครับ
อ่านแล้วก็ขอชื่นชมในความช่างคิด

บางคนอาจจะว่าเม้นท์ของน้องต่อรุนแรง
แต่พี่ก๋ามองข้ามความแรงของภาษาไป
แล้วดูเจตนาและข้อสงสัยที่น้องต่อมี


คนเรามีศานสนาไปทำไม ?
มีเพราะเรามีความกลัว
ศาสนาช่วยแก้ปัญหาเรื่องความกลัวได้บ้าง
แต่แก้ได้ไม่หมดหรอกครับ

ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
ถ้าย้อนกลับเข้าไปดูเนื้อหาสาระจริงๆของคำสอน
ก็มีแต่บอกให้เรา

แก้ไขปัญหา ความกลัวด้วยปัญญา
ปัญญาของใคร ?
ก็ของตัวเรานี่แหละ


ศาสดาเป็นเพียงแรงบันดาลใจให้เราเดินตามรอยท่าน
แต่ไม่ได้บยอกว่าเราจะต้องเกิดมาเหมือนท่าน
ถึงจะนิพพานได้


พี่ก๋าอาจจะตีความคลาดเคลื่อนก็ได้นะครับ

แต่พี่ก๋ามองว่า
พระท่านก็มาจากคนธรรมดาเหมือนเราที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย
แต่เมื่อท่านได้ใช้ปัญญาสูงสุดเท่าที่มนุษย์คนนึงมีอยู่
ท่านก็เข้าถึงธรรมสูงสุด
นั่นคือ เข้าใจหลักความเป็นจริงของชีวิต

เมื่อรู้หลัก
ก็เดินไปตามความเชื่อที่ตัวเองค้นพบ
แล้วก็ทุกข์น้อยลงๆๆๆๆๆๆไปเรื่อย

จนในที่สุด
ก็ไม่ทุกข์กับการเกิด การตายอีกต่อไป

ศาสนาของพี่ก๋าจึงมีรายละเอียดเพียงเท่านี้
โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือพึ่งพิงอิทธิปาฏิหาริย์ใดใดเลย
ไม่ต้องมีเครื่องราง ไม่ต้องมีพิธีกรรม

พระสงฆ์ พระธรรมคำสอน พระพุทธรูปก็เป็นสิ่งที่เตือนสิตให้เราได้ระลึกอยู่เสมอว่า

ปัญญามีอยู่แล้วในตัวเรา
ธรรมมีอยู่แล้วในตัวเรา

ถ้าเราถึงซึ่งปัญญา พลัง และความบริสุทธิ์ในความคิด
เราก็เป็นพระแล้วด้วยตัวเราเอง





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:14:19:44 น.  

 
น้าเองก็ชอบที่คุณก๋ามาตอบ

เพราะต่อถาม...เลยได้รู้ไปด้วย



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:15:03:42 น.  

 
Li Shana - ลองๆ ดูก็แล้วกันครับ เข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตาม^^

พี่ก๋า - ยุคนั้นต้องเคนชิโร่เท่านั้นสินะ

ทุเรียนกวน ป่วนรัก -

สายหมอกและก้อนเมฆ - ชื่อคุ้นมากครับ แต่ไม่เคยอ่านซักเรื่องเลย

ดอกหญ้า บนทางดิน - ผมก็ว่าอย่างนั้น

JewNid - แต่ละเมืองก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป เรารู้สึกว่าของเค้าแปลก เค้าก็อาจจะรู้สึกว่าของเราแปลก

คุณเอิง - ความจริงเมืองไทยน่าจะมีอย่างนี้บ้าง แต่ไม่ต้องพักยาวเหมือนทางจีน เอาแค่เวลาเที่ยงถึงบ่ายโมงอยากจะทำอะไรก็ทำ ผมว่าประยุกต์มใช้แบบนี้จะดีกว่า

คุณนัท - ผมว่าทางนั้นพักนานไปหน่อยครับ

พี่ตี๋ - แต่ละคนก็ชอบแตกต่างกันไป แต่โดยสรุปแล้ว ผมอยากให้เมืองไทยเปิดกว้างบ้าง ช่วงเวลาพัก 1 ชั่วโมงอยากจะทำอะไรก็ทำ แบบนี้จะดีกว่า (คนละครึ่งทาง)

น้องผิง - ^^

กะว่าก๋า - ชอบที่พี่ก๋าตอบครับ แล้วก็ขอชมพี่ก๋าว่าแก้ปัญหาได้ดีในกรณีที่ดูเหมือนจะเกิดความขัดแย้ง

สายหมอกและก้อนเมฆ - ^^


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:16:09:35 น.  

 
พี่ก๋าไม่ค่อยมีปัญหากับบุคคลหรือองค์กรนะครับ
อย่างบางวัดหรือหลวงพ่อบางคนที่มีปัญหาส่วนตัว

แต่พี่ก๋าก็ยังอ่านหนังสือหรือแนวคิดของท่านได้ครับ
ขอให้เป็นแนวคิดที่เราเห็นด้วย

กับพระบางรูปที่ท่านมอบคำสอนดีดีให้กับสังคมมากๆ
บางครั้งกับบางความคิดเห็นของท่าน
พี่ก๋าก็ไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด

การเมืองก็เช่นกัน
พี่ก๋าก็พยายามศึกษาทั้งสองสีสองฝั่ง
แล้วชั่งน้ำหนักในใจเอง
ว่าเราชอบและเชื่อการเมืองแบบไหน



พี่ก๋าเคยพูดด้วยซ้ำพว่า
สิ่งแรกที่เราต้องครุ่นคิดถึงคำสอนในกาลามสูตร
ก็คือ อย่าเชื่อกาลามสูตรครับ
แต่ให้ไปลองพิจารณาและปฏิบัติดูว่า
ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าอย่าเชื่อใน 10 ประการนั้น
"จริง" หรือ "ไม่จริง"
ถ้า "ไม่จริง" ต้องตอบตัวเองได้ว่า เพราะอะไร ?


ถ้าเราเข้าหาศาสนาด้วยปัญญา
โอกาสที่จะงมงายจะมีน้อยมาก
แล้วคำสอนอันเปี่ยมปัญญาเหล่านั้น
จะเป็นเข็มทิศที่ทำให้เราเดินไปในหนทางที่ถูกต้องอย่างแท้จริง


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:19:18:29 น.  

 
เป็นวัฒนธรรมที่แปลกมาก สำหรับพี่คงขอบายแน่ๆ
เพราะพี่หลับยากนะ ให้เวลาแค่ 30 นาทีพี่ยังไม่หลับหรอก
หรือ 1 ก็น้อยไป แถมถ้าได้นอนแล้ว ขี้เกียจตื่นด้วย
ปกติพี่ไม่ค่อยนอนตอนกลางวันนะ ไม่งั้นกลางคืนก็ไม่หลับอีก
ดีนะ ที่รุ้ไว้ก่อนไปจีน เผื่อไปเจอว่าเค้าปิดทำการตอนกลางวัน จะได้ไม่แปลกใจ


โดย: apple juice วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:20:50:50 น.  

 
ถ้าคนไทยนอนกลางวัน

อาจจะนอนมากกว่าหนึ่งชั่วโมงอะนะ

แบบว่าหลับเพลินไปถึงเย็น

ตายแระ มองโลกในแง่ร้ายไปมั้ยเนี่ย


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:22:18:05 น.  

 
นอนกลางวันแถบยุโรปหน้าร้อนก็เป็นค่ะคุณต่อ
ร้านรวงเลยพลอยปิดไปด้วยเลย
ร้านอาหาร ละช้อปๆๆ เลยต้องรอเวลาไปด้วยค่ะ
……บล็อกกลับมาแล้ว ที่พิมพ์เมนต์ไว้อันเก่าหายไปด้วยเลย…..
มีเม้นหายหรือค่ะคุณต่อ




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:7:17:36 น.  

 
หวัดดียามเช้าครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:7:47:23 น.  

 
พี่ก๋า - แนวคิดที่พี่ก๋าว่ามา คงจะตรงกับที่ท่านพุทธทาสกล่าวที่ว่า ให้มองในสิ่งดีของเขา เรื่องศาสนาพุทธ หลักที่ผมยึดมีอยู่อันเดียวคือ "สติ" ทำอะไรขอให้มีสติ เท่านั้นพอ

เรื่องการเมืองสมัยหนึ่งมีเหตุการณ์ที่ว่า ใครไม่เชื่อฝ่ายข้า =โง่ ไม่รักชาติ ขายชาติ ถึงขั้นจะฆ่ากันก็มีมาแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีคำว่าเสื้อแดงครับ เป็นสมัยก่อนปฏิวัติ

มันน่ากลัวที่ทราบว่าคนไทยในปัจจุบันแตกต่างจากคนไทยในอดีตที่ผมรู้จักเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เดี๋ยวนี้คนใจร้อนขึ้นกว่าช่วงนั้นมาก มากจนน่าตกใจ

apple juice - คงต้องดูด้วยครับ เพราะไม่ใช่ว่าทุกที่จะปิดหมด พวกธรรมเนียมพวกนี้หลายๆ คนอาจมองว่าไม่สำคัญ แต่ผมกลับมองว่ามันสำคัญมาก ถ้าเป็นประเทศมุสลิมเค้าก็จะมีช่วงเวลาทำละหมาด ช่วงเวลานั้นร้านค้าก็จะปิดเช่นเดียวกัน

พี่อัยย์ - ผมเห็นคนจีนทำได้นะ เค้าก็ตื่นตามเวลาได้ คนไทยก็น่าจะทำได้ เพียงแต่จะมีให้ทำหรือไม่เท่านั้นเอง

Sweety-around-the-world - ทางยุโรปที่ผมได้ยินบ่อยๆ คือประเทศฝรั่งเศส มีธรรมเนียมแบบนี้ครับ คิดถูกที่เขียนบล็อกนี้ขึ้นมา ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกเยอะ

กะว่าก๋า - สวัสดีครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:9:47:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
28 เม.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้วววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 350 "คำมั่นสัญญา"
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
ดื่มเหล้า เมาสุรา
[Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Itsuki-Y0701.jpegMatikanetannhauser-Y0702.jpeg
Komichi-Y0603.jpegKancolle-Y0602.jpeg
Shiori-Y0601.jpegBorn-Y0502.jpeg
Miku-chin-Y0501.jpegKobayashi-Y0401.jpeg
Miyo-Y301.jpegMiku-Magic-Y0201.jpeg








New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.