-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
แค้นฝังหุ่น ชาตินี้ชาติหน้าก็ไม่ลืม

คำเตือน Blog นี้ เกี่ยวข้องกับการเมือง และค่อนข้างรุนแรงกับความรู้สึก

"สิบปีแก้แค้นไม่สาย" น่าจะเคยได้ยินมาบ้างใช่มั้ยครับ เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย แค้นจากรุ่นสู่รุ่น

ประเด็นที่จะหยิบยกมาพูดในวันนี้เริ่มมาจากข้อความว่า "หมากับคนญี่ปุ่นห้ามเข้าใกล้" ในประเทศจีนซึ่งเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น โดยป้ายที่ว่านี้ติดอยู่ข้างใต้ทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ คนญี่ปุ่นเป็นคนหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดทำให้เกิดประเด็นถกเถียงกันขึ้นมา

ผมขอไม่เอาป้ายที่กล่าวไว้ข้างต้นมาติด แต่ถ้าใครอยากเห็นหลังไมค์มา เดี๋ยวส่งภาพไปให้ดู

ในเรื่องนี้อาจารย์คนจีนที่สอนผม ท่านเล่าถึงสาเหตุของเรื่องนี้ว่า มันเป็นความแค้นที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้บุกยึดจีน และมีการสังหารหมู่ชาวจีนจำนวนมาก ผู้ชายจับไปฆ่า ให้นั่งเรียงแถวแล้วยิงทิ้ง ผู้หญิงจับไปข่มขืน แล้วฆ่าทิ้ง หากท่านได้ชมภาพยนตร์เรื่อง "นานกิง โศกนาฏกรรมสงครามมนุษย์" ท่านจะเห็นถึงความโหดร้ายของมนุษย์ ดูแล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ

ผมมีโอกาสได้รับชมเบื้องหลังการถ่ายทำ และบทสัมภาษณ์ผู้กำกับเรื่องนี้ ฟังแล้วก็ชวนให้รู้สึกหดหู่กับการกระทำที่ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ มีฉากทีทำให้สะเทือนใจมากมายในภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าเรื่องดีกว่าก่อนที่จะกลายเป็นคุยเรื่องภาพยนตร์ไป อาจารย์ท่านให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า นี่คือการปลุกกระแสชาตินิยมแบบผิดๆ แน่นอนว่าความแค้นที่มีมาในอดีตเราไม่ควรลืม แต่การที่ผลิตภาพยนตร์แบบนี้ออกมา มีแต่จะทำให้คนทั้งสองชาติเข้ากันไม่ได้ และกลายเป็นแผลลึกลงไปยากแกการเยียวยา เราควรคิดแบบทางตะวันตกคือ I Can Forgive, But Not Forget. คือ ให้อภัยแต่ไม่ลืม เราควรจะรู้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของคนรุ่นก่อนไม่ใช่รุ่นเรา เราจะมาโกรธแค้นคนที่ไม่รู้เรื่อง มันสมควรแล้วหรือ?

ประเด็นนี้ถกเถียงกันแบบไม่มีการเตรียมข้อมูลล่วงหน้า ผมจับประเด็นที่น่าสนใจได้หลายประเด็น เช่น รัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีการขอโทษ และยอมรับผิดเรื่องจึงไม่จบ จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่ตรงกัน ภาพความโหดร้ายที่ทั้งสองฝ่ายอ้างไม่ตรงกัน การชดใช้ค่าเสียหายจากสงคราม จากนั้นก็วิเคราะห์ในฐานะคนกลาง (กลางความขัดแย้ง)


"ป้ายแสดงการต่อต้าน และไม่พอใจ"


ภาพที่เห็นด้านบนเป็นภาพจากมณฑลเหอหนาน ป้ายขับไล่คนญี่ปุ่น ร้านนี้เป็นร้านขายอุปกรณ์ทหารครับ พวกเสื้อทหาร ของตำรวจก็มีบ้าง ก็มีป้ายขับไล่ชาวญี่ปุ่น สำหรับเมืองคุนหมิงไม่แรงเท่าเมืองอื่น เมืองที่แรงสุดๆ คงเป็นเมืองนานกิง (หนานจิง) ที่นานกิงของเค้าแรงจริงๆ เพราะเป็นเมืองที่มีการสังหารหมู่ชาวจีนอย่างที่เล่าไปข้างต้น อาจโดนฆ่าตายได้ทีเดียว

มันเป็นเรื่องน่าสมเพช ตอนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นคนญี่ปุ่นก็พูดกันดี พอรู้ว่าเป็นคนญี่ปุ่นท่าทีก็เปลี่ยนไป พูดจาแย่ลงทันทีอย่างเห็นได้ชัด มันแสดงให้เห็นถึงความใจแคบ เหมือนเด็กไม่รู้จักโต อาจารย์ท่านด่า

ถ้าเกลียดกันขนาดนั้นก็ควรจะตัดความสัมพันธ์ไปเลยจะดีกว่า ไล่คนญี่ปุ่นกลับให้หมด ปิดสถานฑูต ยกเลิกการผลิตสินค้าทุกชนิดที่ทางญี่ปุ่นสั่ง งดที่บริโภคของญี่ปุ่นไปทุกอย่าง หากใครบริโภคจะต้องได้รับโทษโทษประหารชีวิต หรือใครมีแนวคิดที่ชื่นชมญี่ปุ่นให้ถือว่าเป็นพวกขายชาติ?

กรณีแบบนี้มีให้เห็นบ่อยที่ประเทศจีน การคลั่งชาติแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่นานมานี้ก็มีการต่อต้านญี่ปุ่นที่เมืองฉงชิ่ง โดยมีความพยายามทำลายห้าง หรือแม้แต่ทำลายร้านค้า สถานประกอบการของคนญี่ปุ่น จนไปถึงการเผาทำลายรถญี่ปุ่น แล้วก็มาร้องไชโยทั้งที่รถที่ถูกเผาก็รถของคนจีน?


ประเด็นนี้ผมโดนลากเข้าไปเกี่ยวด้วยในฐานะตัวแทนจากประเทศไทย ประเทศที่โดนญี่ปุ่นเล่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งที่เราก็ไม่อยากจะไปอยู่ตรงกลางความขัดแย้ง ผมให้ความเห็นโดยต้องถามทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อรวบรวมข้อมูล ได้ความว่า

รัฐบาลญี่ปุ่นสมัยโคะอิซุมิ จุนอิจิโร ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คนจีนเกลียดคนญี่ปุ่นมากขึ้น ผมจำได้ว่าเคยมีข่าวนายกคนนี้ไปคาราวะศพสุสานทหารญี่ปุ่นที่ประเทศจีน เรื่องนี้คนจีนถือเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงตามที่ผมมีข้อมูล หลายคนอาจคิดว่าเรื่องแค่นี้เอง แต่มันสะเทือนจิตใจคนจีนมาก

จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่ตรงกัน ภาพความโหดร้ายที่ทั้งสองฝ่ายอ้างไม่ตรงกัน ข้อมูลของทั้งสองฝ่ายต่างกันแบบฟ้ากับเหวยากที่จะวิเคราะห์ว่าข้อไหนข้อมูลถูกต้อง อีกทั้งเรื่องมันก็ผ่านมานานทำให้ยากที่จะพิสูจน์ความจริง จะว่าไปประเทศไทยก็กำลังเดินตามรอยในจุดนี้เหมือนกัน หลายๆ เรื่องก็ปล่อยให้มันผ่านๆ ไป เมื่อเวลาผ่านไปนานข้อมูลของทั้งสองฝ่ายก็เริ่มที่จะแตกต่างกันมากขึ้น

แน่นอนว่าผมไม่มีวันลืมประวัติศาสตร์ที่ญี่ปุ่นเลยบุกประเทศไทย แต่สิ่งที่เรียกว่าพฤติกรรมคลั่งชาติของคนจีนผมไม่เห็นด้วย ใครผิดก็ว่าไปตามผิดไม่ใช่เหมาว่าทุกคนผิด อีกทั้งหากคิดว่ามันเป็นปัญหา ก็ควรตั้งโต๊ะเคลียร์ปัญหาแล้วให้มันยุติไปเลยดีกว่า ดีกว่าปล่อยให้มันค้างคา

ล่าสุดมีประเด็นหมู่เกาะที่มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า เตียวหยูเต่า หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เซ็นโกกุ ปัญหาเรื่องนี้ก็มีความพยายามปลุกกระแสชาตินิยมแบบโง่ๆ ให้ลุกขึ้นมาต่อต้านญี่ปุ่น และเรื่องก็เริ่มเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ถึงขั้นทางการจีนเชิญฑูตญี่ปุ่นมาเตือนเลยทีเดียว ผมมองว่าความขัดแย้งไม่ว่าจะเรื่องอะไร มันจบได้ด้วยโต๊ะเจรจา หากใช้กำลังก็หมายถึงจะต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ และสุดท้ายชัยชนะที่ได้มาก็จะกลายเป็นความพ่ายแพ้ หรือที่เรียกว่าแพ้ทั้งสองฝ่าย ซึ่งต่างจากการเจรจาแบบนั้นชนะทั้งสองฝ่าย



ผมนึกถึงเหตุการณ์ในประเทศไทยที่มีคนไปซื้อหมู่ย่าง แล้วเจ้าของร้านบอกคนที่มาซื้อว่า "ไม่ขายให้ ขายให้ไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่สั่งไว้ ว่าห้ามขายให้" มันทำให้ผมรู้สึกสมเพชในการกระทำของคนในชาติเดียวกัน คนไทยมันเป็นอะไรกันไปหมดแล้ว? ขายให้ไม่ได้เพราะนายสั่ง? นายเค้าใหญ่ขนาดไหนกัน ใหญ่กว่าโลงมั้งอะ?

ผมไม่อยากจะนึกเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ประเทศที่อ้างว่าเป็นเมืองพุทธ ผู้คนมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ใจกว้าง มันเหมือนเด็กเล่นขายของที่นึกจะไม่ขายก็ไม่ขาย โดยอ้างเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นว่า ผู้ใหญ่สั่ง ท่านไม่ใช่พวกเดียวกับเรา

มาวันนี้ประเทศไทยกำลังเดินตามโมเดลของประเทศจีนในเรื่องความขัดแย้ง และการสร้างกระแสคลั่งชาติ ถ้ายังมีการปลุกกระแสคลั่งชาติ คลั่ง

Censor Censor Censor Censor Censor Censor Censor Censor

แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนไทยต้องลุกขึ้นมาฆ่ากันเองแน่นอน และถ้าถึงวันนั้นก็ตัวใครตัวมันล่ะ คำถามก็คือว่า "เราจะเดินตามโมเดลความขัดแย้งแบบของประเทศจีนหรือ?" "ต่อไปนี้เราจะสร้างวัฒนธรรมที่คนทำตามกติกาต้องยอมแพ้ให้อำนาจเถื่อน? แล้วปล่อยให้คนไทยแค้นฝังหุ่น เราจะเอาอย่างนั้นมั้ยล่ะ?"


"สถานที่เกิดเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"


ปัจจุบันสถานที่เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวจีน เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมืองนานกิง เป็นที่ที่เอาไว้ระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอันโหดร้าย น่าจะเปรียบกับสะพานข้ามแม่น้ําแควบ้านเราได้ แต่ของเค้ายิ่งใหญ่กว่าเยอะ มีโอกาสจะเขียนแนะนำแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ครับ


Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 3 ธันวาคม 2560 23:23:21 น. 35 comments
Counter : 3848 Pageviews.

 
ประมาณเดียวกับที่เกาหลีครับ ทุกวันนี้คนเกาหลีก็ไม่ชอบคนญี่ปุ่น


โดย: The Queenslander วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:14:55 น.  

 
เพื่อนคนจีนรอบๆตัวก็ไม่ค่อยเท่าไหร่กับญี่ปุ่นค่ะ จะเป็นกับคนอายุ30ขึ้นไปซะส่วนใหญ่ แต่เห็นด่าปาวๆว่าเกลียดๆ ร้านซูชิก็ยังเกลื่อนเมือง เหอๆๆ


โดย: JinHanNa วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:55:47 น.  

 
ขอคารวะอาจารย์คนจีนของคุณต่อสักสิบไห

คุณต่อเป็นเรื่องเป็นราวออกอย่างนี้ ไม่เข้าใจว่าไปอ่านบล็อกไร้สาระของป้าโซได้ยังไง?

ชอบนะคะ กับความคิดความอ่านของคนรุ่นใหม่ คิดแบบมีเหตุมีผล ประมวลวิเคราะห์อย่างเป็นกลางจริงๆ ไม่กลางแบบเอียงไปข้างหนึ่งจนอ่านแล้วรู้ได้ชัด ป้าโซชอบอ่านแบบนี้..

ป้าโซอยากเขียนได้อย่างคุณต่อบ้าง แต่ใจไม่ถึงพอ.. รออ่านจากหนุ่มๆรุ่นใหม่อย่างนี้ดีกว่า

เรื่องข้าวต้มนั่นเป็นความภูมิใจของเขาจริงๆค่ะ น่าสงสารน้องแห้ว อาจประมาณเป็นการค้นพบของเขาที่ไม่มีที่ไหนทำมังคะ ซึ่งจริงๆแล้วน้ำสุดท้ายของหม้อไฟนั่นมันก็อร่อยจริงๆจากสารอาหารทุกอย่างที่ตกค้างอยู่นั่นแหละ คุณต่อลองทำในน้ำสุกี้บ้านเรามั่งสิ อร่อยไม่แพ้กันค่ะ.. แต่ต้องตักน้ำออกบ้างนะ ให้เหลือขลุกขลิกพอเหมาะกับข้าว


โดย: ป้าโซ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:01:15 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคนจีนเค้ามีอดีตฝั่งใจกับคนญี่ปุ่นด้วยเรื่องสังหารหมู่นี่เอง เห็นด้วยค่ะกับประโยคที่ว่า Can Forgive, But Not Forget. คือ ให้อภัยแต่ไม่ลืม ดีกว่าการที่แค้นกันไปชั่วลูกชั่วหลาน ไม่มีเป็นผลดีกับใครเลย


โดย: PePe_kotori วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:23:46 น.  

 
ผมอ่านหนังสือ " หลั่งเลือดที่นานกิง " ก็ทำให้มองคนญี่ปุ่นเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ

แต่ยังไง ผมก็ยังชอบน้องมิยาบิครับ

แฮ่ๆ


โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:41:01 น.  

 
แม้แต่คนไทยเรา....ก็มีอดีต ที่ไม่ค่อยดีกับญี่ปุ่น

แต่สงสัยคนไทยจะลืมง่าย หรือว่าเป็นเพราะคน

ไทยเรารู้จักให้อภัยน่ะค่ะ เลยทำให้ตอนนี้

ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น หรืออาหารสไตส์ญีุ่ปุ่น คนไทย

ชอบ ๆ


โดย: Li Shana วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:42:58 น.  

 
พิมพ์คอมเมนท์ไปแล้ว...ลบออกไม่เอาดีกว่า...

อยากให้เด็กรุ่นลูกๆ รู้จักรักชาติในแบบที่ถูกที่ควร ซึ่งคงต้องถกเถียงกันอีกว่า แบบไหนถูกควร พอดี...

จากบล็อก...วัดสวนแก้วไม่มีตอน 2 จ้ะ เรื่องที่ดินที่ว่า เหมือนจะเงียบๆ ไป พระพยอมท่านคงเจ็บช้ำน้ำใจพอสมควร...

จากท่าเรือคลองสาน ไปศาลเจ้าพ่อกวนอูไม่ไกลกันจ้ะ ท่าเรือศาลเจ้าพ่อกวนอู เป็นอีกที่หนึ่งที่ถ้าใครไปเที่ยวไหว้พระทางน้ำมักจะแวะที่นี่ด้วย แต่วันนั้นน้าไปทางรถ อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นะ แต่อย่าเดินนะ จากคลองสานมาไกลเอาเรื่องเหมือนกัน...

เอาแผนที่มาแปะให้แล้ว ไม่แน่ใจว่าพอมองออกมั้ย...


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:59:40 น.  

 
The Queenslander - คนเกาหลีไม่ชอบคนญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเพราะเรื่องอาณาเขตทางทะเล เท่าที่ได้ยินมา คนญี่ปุ่นเรียกทะเลส่วนนั้นว่า "ทะเลญี่ปุ่น" คนเกาหลีเรียกอีกชื่อ แล้วคนจีนล่ะ คนจีนเรียกทะเลญี่ปุ่น มีค้อนกันให้เห็นบ้างเมื่อพูดถึงเรื่องนี้

JinHanNa - นั่นสิครับ แถมขายดีด้วย เข้าทำนองเกลียดปลาไหลกินน้ำแกงมั้ง แต่ของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับมณฑลด้วย

ป้าโซ - บล็อกของป้าโซไม่ไร้สาระหรอก มันเป็นรูปแบบการเขียนของแต่ละคนมากกว่า แต่ละคนก็มีรูปแบบการเขียนที่แตกต่างกันออกไป

ความจริงอาจารย์ท่านก็ไม่ค่อยพอใจคนญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก แต่ท่านแยกแยะได้ ท่านว่าเรื่องพวกนี้ต้องแยกแยะ ไม่ใช่เหมารวม คิดไปแล้วถ้าอาจารย์ในเมืองไทยคิดได้แบบนี้บ้างการศึกษาไทยคงจะก้าวกระโดดไปมากเลยทีเดียว

ในความคิดผม คนเราไม่มีคำว่าเป็นกลางครับ มีแต่เอนมากเอนน้อย ถ้าเอนน้อยก็คุยกันรู้เรื่อง ถ้าเอนมาก + หัวรุนแรง ไม่ต้องคุยกันเลย

PePe_kotori - ความจริงแนวคิดทางตะวันตก ผมว่ามันก็ออกไปในทางรุนแรงเหมือนกัน ไม่ค่อยต่างจากไม่ให้อภัย แต่พฤติกรรมคลั่งชาตินี่สิ อันนี้น่ากลัวยิ่งกว่า

เป็ดสวรรค์ - ที่นานกิงคนจะค่อนข้างฝั่งใจกับเรื่องนี้มากครับ ชอบแต่น้องมิยาบิเหรอครับ แล้วคนอื่นล่ะ


Li Shana - ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตอบว่าใช่ แต่ปัจจุบัน ผมมองว่าคนไทยกำลังเดินตามโมเดลความขัดแย้งของจีน

สายหมอกและก้อนเมฆ - อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า เกี่ยวข้องกับการเมือง และค่อนข้างรุนแรง ก็เอาเป็นว่ารักชาติ แต่อย่าให้ถึงกับคลั่งชาติ คงไม่มีใครอยากเห็นเมืองไทยเจริญรอยในเรื่องความขัดแย้ง แบบฝังรากเหมือนประเทศจีน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:09:23 น.  

 
โดยส่วนตัวเเล้ว เป็นคนบ้าหนังบ้าละคร..
จำได้ว่า เด็กๆเคยดูละคร ที่เค้าสร้างขึ้นโดย
มีญี่ปุ่นมารุกรานเมืองไทย..
เรื่องอะไรก้อจำไม่ได้..แต่เราคงอินกับละครมาก..
ถึงขั้น คิดจิงจังไปเลยว่า..ไม่ชอบคนญี่ปุ่นเลย..
แต่ มา ณ. ปัจจุบัน ไม่ชอบอะไรมักได้อย่างนั้น..
แต่โดยความคิดส่วนตัวแล้ว..
เรื่องอะไรที่ผ่านไปแล้ว คงต้องผ่านไป..แก้ไขอดีตไม่ได้..แต่เราทำดีๆซึ่งกันและกันต่อไปได้นี่นา..

แต่การสูญเสีย ที่ยิ่งใหญ่ คงยากแก่การลืมจิงๆ



โดย: natto (natto-kita ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:17:38 น.  

 
เข้ามาบล็อกนี้ไม่เคยผิดหวังเลยค่ะ คุณต่อเขียนได้เก่งจริงๆอ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลยค่ะชอบมากๆ


โดย: Flowerfun วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:36:50 น.  

 
ไม่ถึงขนาดนั้นจ้ะ

น้าจะพูดกับต่อบ่อยๆ ว่า "คิดดัง" ดี ไม่แรงหรอกน้ารับได้...

บางคนคิดแต่ไม่กล้าพูด เพราะไม่รู้ว่าพูดไปแล้วผลที่ตามมาจะเป็นยังไง...

คนก็คิดต่างกันเนาะ คิดเหมือนกัน ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยสิ ใช่มั้ย...

น้าไม่ซีเรียสหรอก สมัยวัยรุ่น น้าแรงกว่าต่ออีกมั้ง

แต่ชอบเด็กรุ่นใหม่ๆ คิดแบบนี้ มีแบบนี้บ้างก็ดี ไม่ใช่ตามน้ำกันไปหมด...


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:59:55 น.  

 
แวะมาทักทายนะครับ


โดย: boyalonejang วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:16:56 น.  

 
อิอิ ครับๆ


ฝันดีๆครับ


โดย: boyalonejang วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:25:26 น.  

 
พี่ก๋าได้เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์นานกิง
ยอมรับเลยว่า
เศร้าใจ หดหู่ สะเทือนใจ
ในนั้นมีรูปเยอะมากครับ
ที่แ่สดงถึงความโหดร้าย

ยอมรับด้วยว่าเดินดูไม่ทั่วครับ
พี่ก๋าหลบออกมานั่งเงียบๆคนเดียวตั้งนาน


ถามว่าเมืองไทยเราจะเป็นอย่างนั้นมั้ย

มีแนวโน้มครับ
ถ้าเรายังแบ่งสี แบ่งข้างแบบนี้ไปเรื่อยๆ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:4:30:52 น.  

 
คงไม่ใช่แค่จีนมั้งพี่

ทุกวันนี้คนยุโรปก็ยังไม่ชอบคนเยอรมัน ยังขยันสร้างหนัง ละคร เกมส์ เกี่ยวกับนาซีในทางร้ายมากมาย

หนูเคยเปิดหนังสือเกี่ยวกับเรื่องที่นานกิงผ่านๆ ไม่กล้าอ่านอะหดหู่ไม่แพ้เขมรแดงเลย



โดย: น้องผิง วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:53:57 น.  

 
natto - ผมมองว่าเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น ควรแยกมองเป็นกรณีไป ไม่ใช่เหมารวม

Flowerfun - เรื่องความแค้นของทั้งสองชาตินี้เป็นที่รู้กันครับ มีหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง เพียงแต่ผมนำเสนอในมุมมองของการสัมนาในห้องเรียนในฐานะคนกลาง (ความขัดแย้ง)

สายหมอกและก้อนเมฆ - เป็นคำเตือนที่ดีครับ ในเรื่อง "ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง" ผมมองว่าไม่ว่าผมจะพิมพ์ข้อความอะไรลงไปมันก็ยอมมีผลกระทบกับทุกคนที่เข้ามาอ่านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพิมพ์เรื่องอะไรก็ตาม มันสำคัญที่บทความเรา ต้องไม่กระทบต่อกฎหมาย และศีลธรรมอันดีของสังคม

ผมมองว่าคนไทยไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นด้วยกระมั้ง ถึงจะเคยได้ยินมาบ้างว่า บทความในอินเทอร์เนตบางคนอ่านแล้วคลั่ง ล่าแม่มดกันก็มี เล่นเอาคนๆ นั้นไม่มีที่ยืนในสังคมทีเดียว (逼死不可) ถ้านั่นคือสภาพของประเทศไทยแล้วล่ะก็ ผมก็ไม่อาลัยอาวรณ์หรอก

boyalonejang - สวัสดีครับ

พี่ก๋า - ที่ประเทศจีนพี่ก๋าไปเที่ยวเยอะเหมือนกันนี่ครับ จากยูนนานไปถึงนานกิงเลย มันก็น่าหดหู่จริงๆ ใจไม่แข็งพออาจจิตตกได้เลยทีเดียว

น้องผิง - Winner take all. โลกเราก็เป็นอย่างนี้แหละ ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:48:52 น.  

 
ฉัตรไม่เคยดูหนังเรือ่งนี้ค่ะ
แต่ได้เข้าไปอ่านเจอในหนังสือที่รวบรวมการฆ่าแห่งประวัติศาสตร์เล่มนึง มีการฆ่าที่ติดอันดับช็อคโลกหลายๆ เหตุการณ์ ซึ่งแน่นอนว่ามีของชาวยิวด้วย แต่เรื่องของนานกิงนี่ไม่เคยรู้จักเลย
คุณต่อเชื่อมั้ยว่า ฉัตรอ่านเรือ่งรา่วของการหลั่งเลือดที่นานกิงนี่นานที่สุด และอ่านละเอียดที่สุด พออ่านจบก็ไม่อ่านเรื่องอื่นอีกเลย....การกระทำที่โหดเหี้ยมที่สุด เห็นจะเป็นการกระทำต่อสตรีโดยเฉพาะสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ T^T มันช่างทารุณอย่างที่นาซีก็ยังไม่ทำอย่างนี้เลย

ยอมรับเหมือนคุณเป็ดว่า...มองคนญี่ปุ่นเปลี่ยนไปเลยเหมือนกันค่ะ แต่ว่าไม่ได้ฝังใจอะไรรุนแรง เพราะคนละยุคสมัย แต่ก็ไม่ลืมเลยแหละ...

แง่มๆๆ แซวอีกแร๊ววววว...คุณต่ออ่ะ ^ ^'
งั้น เอ็นทรี่หน้า จะอัพเรื่องเกมส์ก้อได้ค่ะ แหะๆ
ที่ยังไม่ลงเกมส์สะที ก็เพราะยังปะติดปะต่อไม่ถูก แต่ลงไปแบบคร่าวๆ พอกล้อมแกล้มก้อพอโน๊ะๆ เอิ๊กๆๆๆๆ



โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:04:49 น.  

 
เป็นบทความที่ดีมากครับ

ผมคงไม่เขียนอะไรเพิ่มเติมนะครับ เรื่องแบบนี้ให้ความเห็นสั้น ๆ ไม่ได้
และผมก็ไม่ชอบเขียนอะไรยาว ๆ ซะด้วยสิ ^^"


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:36:08 น.  

 
พี่ก๋าไปมาสิบเมืองได้มั้งครับน้องต่อ
เมืองจีนนี่ให้ไปอีกก็ไปครับ
ไม่เคยเบื่อเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:49:01 น.  

 
ฮ่าๆๆๆๆ


ไม่เป็นไรครับ
เรียกก๋าบ้าง พี่ก๋าบ้างก็ได้ครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:49:48 น.  

 
การเมืองถ้าเพียงแต่เริ่มคุยก็จบเรื่องลงค่อนข้างยาก
หวังไว้สำหรับเมืองไทยถ้าคนไทยยังมีจุดรวมใจอยู่ที่เดียวกัน
คงไม่ต้องจบลงอย่างหลายๆ ประเทศค่ะ





โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:07:53 น.  

 
(เข้ามาตอบครับ)


ที่ผมโดนถึงแม้เป็นเรื่องเข้าใจผิด...แต่มันก็ผิดจริง ๆ ครับ แฮ่ ๆ ^_^"
ข้อหาโพสต์ข้อความส่อในทางซื้อขายสินค้า (หนังสือการ์ตูนนั่นแหละ)
โดนระงับทั้งสิทธิ์ pantip และยึด bloggang แบบไม่บอกกำหนดเวลาด้วย
ลงโทษยึดล็อกอินแบบฉกรรจ์เลยล่ะ เอื๊อก~

ตอนแรกผมส่งเมลไปแล้ว คอยหลายวันก็ไม่มีการตอบกลับมา
ก็เลยโทรหา จนท. โดยตรง และชี้แจงว่าผมไม่ได้มีเจตนาซื้อขายจริง ๆ
เป็นแค่หยอกกับ จขกท. (ซึ่งเป็นคนคุ้นเคยกันกับผม) จนท. เขาก็เข้าใจ
แล้วก็ให้ผมเมลไปชี้แจงกับ จนท. อีกคน วันเดียวก็ได้คืนแล้วครับ

ไม่รู้เป็นเพราะ จนท. คนนั้นเป็นคนใจดีด้วยหรือเปล่านะครับ ^_^"


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:14:53 น.  

 
มาเชิญไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง มรดกโลกด้วยกันครับ....

ใครยังไม่เคยไปควรจะรีบหาโอกาสไป ก่อนที่อะไรต่อมิอะไรจะถูกการท่องเที่ยวทำลายไปมากกว่านี้ครับ....




โดย: ลุงแว่น วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:24:39 น.  

 
แต่ละชาติในอดีต มีความโหดพอๆกัน

แล้วแต่ว่าจะไปทำกับชาติไหนได้

ของไทยเอง ก็เคยรังแกประเทศเล็กๆในแถบอินโดจีน

ญี่ปุ่น จากชาติโหดร้าย เดี๋ยวนี้กลับเป็นชาติที่ผู้คนนิสัยดี

ไปทัวร์ที่ไหน ชาตินั้นยินดีต้อนรับ

อดีตแต่ละชาติก็ไม่ไว้รำลึก แต่ไม่ควรแค้นฝังหุ่นกันเนอะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:23:36 น.  

 
หวัดดีครับน้องต่อ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:50:41 น.  

 
ณ ปลายฉัตร - ค่อยๆ เขียนก็ได้จ้า แซวนิดหน่อยเอง

ทุเรียนกวน ป่วนรัก - ให้ความเห็นยาวๆ ก็ได้ครับ แล้วก็ขอบคุณที่เข้ามาตอบเกี่ยวกับการโดนยึดอมยิ้มเดี๋ยวต้องลองโทรทัศน์ไปคุยบ้าง

กะว่าก๋า - ไปเที่ยวเยอะดีนะครับ

Sweety-around-the-world - ที่เมนต์ไว้ก็น่าคิดเหมือนกัน มันทำให้ผมได้มุมมองใหม่ๆ ก็ได้แต่หวังว่าเราจะไม่มีจุดจบเหมือนหลายๆ ประเทศ

ลุงแว่น - ตามไปดูแล้วครับ

พี่อัยย์ - ถ้าดูตามประวัติศาสตร์สมัยก่อนประเทศสยามก็เป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาคนี้พอสมควรเหมือนกัน ในสายตาประเทศอื่นเราอาจแย่สุดๆ เลยก็ได้ เรื่องแค้นฝังหุ่นตราบใดที่ปัญหาต่างๆ ยังไม่มีการเคลียร์กันเรื่องก็คงจบยาก ก็ยังคงแค้นฝังหุ่นกันต่อไป สิ่งที่น่ากลัวคือ ประเทศไทยกำลังเดินตามรอยประเทศจีน ซึ่งผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลย

พี่ก๋า - สวัสดีครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:45:24 น.  

 
ภาพในบล้อก
เป็นชาจีนใส่น้ำแข็งครับ อิอิอิ
พี่ก๋าไม่ดื่มเลยมานาน 20 กว่าปีแล้วครับ


ทำไมเปลี่ยนรัฐบาลแล้วเน็ตจะดีขึ้น
รัฐบาลที่เก่งและมีประสิทธิ์ภาพ
จะเล็งเห็นความสำคัญของการเข้าถึงความรู้
ด้วยระบบเน็ตเวิร์คที่สะดวก ถูก และมีคุณภาพ
ดังประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย
ที่บริการด้านอินเตอร์เน็ต
ถือเป็นการทำให้ประชาชนเข้าถึงความรู้ได้เร็วและสะดวกขึ้น

เขาไม่กลัวประชาชนโง่ครับ
ยิ่งประชาชนฉลาด ยิ่งกล้าตรวจสอบ
ยิ่งทำให้รัฐบาลทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ



แต่เวลานี้
ใครมาเป็นนายกก็ไม่เห็นว่าจะต่าง
หรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้
เพราะคนที่มีอำนาจในการบริการและปกครองที่แท้จริง
ไม่ใช่นายก.....


พี่ก๋าทำธุรกิจท่องเที่ยว
ถ้ามัวแต่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดนี้
มีหวังตายหยังเขียด
เพราะทีมงานด้านการท่องเที่ยวและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีความสามารถด้านการทำงานเชิงรุกเลย

ที่เอกชนอยู่กันได้
ก็เพราะสู้เอง ช่วยเหลือตัวเองครับน้องต่อ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:28:58 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อ
แวะมาทักทายพอประทะประทังการลงเกมส์อ่าค่ะ

เอิ๊กๆๆๆๆๆ

แง่มๆๆๆๆ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:21:09 น.  

 
แวะมาทักทายยามเย็นครับ ไว้ว่างๆ จะเข้ามาอ่านเนื้อหาใหม่นะครับ อิอิ


โดย: ter_pt วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:26:36 น.  

 
กำลังดูคลิปเก่าๆของลิ้มอยู่เลยครับ

ฮี่ๆ

หมอนี่มันพูดเก่งนะ


โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:33:52 น.  

 
ฮ่าๆๆๆๆ


พี่ก๋าตกหลุมพรางน้องต่อแล้วเหรอเนี่ย 555
ไม่รู้ตัวเลยครับ

รู้แต่ว่าเห็นการบริหารงานแล้ว
รู้สึกเลยว่าประเทศถดถอยไปมากจริงๆ

ด้านการท่องเที่ยวเป็นด้านที่พี่ก๋าให้ความสำคัญมากที่สุด
น้องท่านบรรหาร
ท่านไม่มีความรู้ความเข้าใจและความสามารถใดใดใเลยนะครับ
ในเรื่องการท่องเที่ยว

ก็คงเหมือนการแต่วตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีหลายๆตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ล่ะครับ
ที่ตั้งคนแบบไม่ได้ดูความสามารถอะไรเลย
จับยัดไปเรื่อยเปื่อย
แล้วประเทศจะก้าวไปข้างหน้าได้ยังไง




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:48:38 น.  

 
รักชาติแต่อย่าคลั่งชาติ เห็นด้วยจ๊ะ
ด้วยบางทีเรื่องเล่า ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าจริงหรือไม่จริง

จนบางครั้ง ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เรารับรู้เป็นเรื่องจริงหรือบิดเบือน

อยากให้สังคมไทยเป็นสังคมที่น่าอยู่

........ ..
... ...


โดย: SongPee วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:54:14 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


หลับฝันดีจ้านายต่อ



โดย: หอมกร วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:12:32 น.  

 
เพิ่งรู้ว่าคนจีนต่อต้านคนญี่ปุ่นรุนแรงขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจว่าทำไมคนจีนถึงยังแค้นไม่เลิก เหตุการณ์ที่นานกิงเป็นเรื่องที่น่าหดหู่มาก น่าเศร้าที่คนเราจะทำเรื่องเลวร้ายต่อกันได้ขนาดนั้น แต่ไม่ค่อยชอบใจที่ญี่ปุ่นถึงไม่ค่อยจะยอมรับความจริง พยายามบิดเบือนถึงขนาดเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ ที่จริง อย่างน้อยก็น่าจะเอ่ยคำขอโทษ อาจจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศดีขึ้นก็ได้


โดย: haiku วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:12:33 น.  

 
พี่ก๋า - พี่ก๋าจ๋าอย่าเครียดไป ถ้าข้าน้อยเป็น ศอฉ. พี่ก๋าอาจแย่ไปแล้วนะจ๊ะ

ณ ปลายฉัตร - ไม่ต้องรีบก็ได้จ้า

ter_pt - ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

เป็ดสวรรค์ - ผมก็อยากพูดเก่งได้อย่างเค้าจัง แต่ไม่ขอขี้ฮกแบบเค้านะ

SongPee - ใช่ครับ รักแต่อย่าคลั่ง เดี๋ยวจะเหมือนจีนนะเออ

หอมกร - หลับฝันดีเช่นกันครับคุณหอมกร

haiku - ประเด็นนี้สำคัญครับ เพราะฝ่ายญี่ปุ่นก็ยอมรับในเรื่องนี้ว่าไม่มีการขอโทษ ซึ่งถ้าขอโทษก็เท่ากับยอมรับผิด จะต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามมากขึ้น มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์ด้วย

ถ้าคนจีนอ่านเจอที่ผมเขียน มีหวังด่าอาจารย์ที่สอนผมคนนี้เป็นพวกขายชาติแน่ แต่เอาเถอะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความคลั่งชาติได้เป็นอย่างดี


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:1:25:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
28 เม.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้วววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 350 "คำมั่นสัญญา"
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
ดื่มเหล้า เมาสุรา
[Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Itsuki-Y0701.jpegMatikanetannhauser-Y0702.jpeg
Komichi-Y0603.jpegKancolle-Y0602.jpeg
Shiori-Y0601.jpegBorn-Y0502.jpeg
Miku-chin-Y0501.jpegKobayashi-Y0401.jpeg
Miyo-Y301.jpegMiku-Magic-Y0201.jpeg








New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.