-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
ใกล้เคียงโรงเรียนในฝัน

จากการที่ได้ไปเป็นนักศึกษาต่างชาติที่เรียนภาษาจีน ในประเทศจีนเมืองคุนหมิงทำให้ได้เรียนรู้ในระบบการเรียนการสอนของหลักสูตรนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งผู้เขียนเห็นว่า มันใกล้เคียง "โรงเรียนมัธยมในฝัน" มาก และถึงแม้ว่าจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัย แต่ความรู้สึกของผู้เขียนนั้นไม่ได้ต่างจากไปเรียนในชั้นมัธยมปลายมากนัก เราไปดูในส่วนดีเป็นข้อๆ กันดีกว่าว่ามันมีดีตรงไหนแล้วทำไมผู้เขียนถึงชอบ


จำนวนนักเรียนในห้อง
สำหรับจำนวนนักเรียนในห้องไม่เกิน 30 คน ทำให้ครูสามารถถ่ายทอดวิชาได้เต็มที่ ทุกคนมีโอกาสถูกเรียกให้ตอบคำถามพอๆ กัน ถึงแม้ว่าหลายคนอาจมองว่าเป็นข้อเสีย เพราะเราจะต้องเตรียมบทเรียนก่อนไปเรียนมากขึ้น แต่ถ้ามองอีกด้าน มันเป็นข้อดีต่างหาก ที่ทำให้เราต้องอ่านหนังสือมาก่อนที่จะเข้าเรียน และจากการที่ได้อ่านหนังสือมาก่อน หากมีเนื้อหาส่วนใดไม่เข้าใจก็จะสามารถถามได้ทันที


ห้องเรียน
การมีห้องเรียนตายตัวส่งผลดีหลายอย่าง เป็นต้นว่าความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ เป็นห้องที่เราใช้ทุกวัน ทำให้ไม่อยากจะทำลาย หรือทำให้ของในห้องเสียหาย อีกทั้งการที่ครูผู้สอนหรือเพื่อนจะตามตัวก็สามารถทำได้ง่าย


ระบบการศึกษา
ผู้เขียนไม่ค่อยคิดมากเรื่องระบบเท่าไหร่ จะท่องจำ หรืออะไรก็ช่าง เพราะที่ผู้เขียนเจอมากับตัวมีทั้งแบบให้ท่องจำ และเป็นในลักษณะกิจกรรม บ้างก็สัมมนา ไม่ว่าจะรูปแบบไหน มันมีข้อดีและข้อเสีย แต่ถ้าจำนวนคนไม่มากเกินไปจะทำกิจกรรมหรือทำอะไรก็ทำได้ง่าย ที่สำคัญครูและนักเรียนเป็นผู้ที่เรียนรู้ตลอดเวลาไม่ใช่ว่ามีแต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเรียนรู้ ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

อย่างที่เคยเขียนไว้ในคราวก่อน หลักสูตรนักศึกษาต่างชาติที่เรียนภาษา เรียนแค่ครึ่งวัน อีกครึ่งวันที่เหลือคือ กิจกรรม จะเข้าไม่เข้าก็ได้ ในจุดนี้ถ้าโรงเรียนของไทยจะเอาอย่างผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะกิจกรรมของเราไม่ค่อยได้เรื่องและน่าเบื่อ ที่สำคัญวิชาการอาจได้ไม่เต็มที่ ถ้าถึงบ่ายสองโมงที่เหลือเป็นกิจกรรมยังพอไหว แต่ก็อย่างที่พูดไว้ของไทยกิจกรรมไม่ได้เรื่อง


ครูผู้สอน
ครูแต่ละท่านมีวิธีการสอนที่แตกต่างกัน ในจุดนี้ไม่ขอวิจารณ์ แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ท่านลงมือตรวจการบ้านให้เราด้วยตนเอง (ไม่ใช่เฉลยแล้วให้ตรวจเอง) จากการที่ครูตรวจการบ้านเองแบบนี้ มีข้อดีที่ครูสามารถประเมินความสามารถของตนเองเพื่อพัฒนาการสอนได้ง่าย เช่น นักเรียนทำผิดข้อ 4 เสียส่วนใหญ่ ก็พอจะตีความได้ว่าไม่เข้าใจโจทย์ลักษณะนี้ ครูจะสามารถเพิ่มเติมในส่วนนี้ให้นักเรียนได้ ด้วยการอธิบายเพิ่มเติมหรืออะไรก็ว่าไป อย่าได้ดูถูกไป ถ้าเราเขียนบทความหรือไดอารี่ไปให้ท่านตรวจ ท่านก็ตรวจให้นะเออ

ด้วยจำนวนนักเรียนในห้องไม่มาก ส่งผลให้ครูจำชื่อเด็กได้ทุกคน ที่สำคัญจำได้ด้วยว่านักเรียนเป็นคนสัญชาติไหน เมื่อเป็นเช่นนั้นความสัมพันธ์ของครูกับนักเรียนจึงเป็นกันเอง สามารถคุยได้ทุกเรื่อง ครูบางคนจดเบอร์นักเรียนไว้แล้วถ้าขาดเรียนเกิน 2 วันมีโทรศัพท์ตามตัวเลยทีเดียว

ครูบางคนอายุน้อยกว่านักเรียน เราเคารพในอาชีพครูไม่ใช่อายุ แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถคุยเล่นกันได้อย่างสบายใจ เพราะวัยรุ่นมันคุยภาษาเดียวกัน บางครั้งก็มีการรับประทานอาหารร่วมกัน ถึงจะแค่ที่โรงอาหารก็ตาม แต่มันทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายดีขึ้น ซึ่งแตกต่างจากของไทยที่ครูรับประทานอาหารในห้องอาหารครู หรือทำผิดกฎเสียเองโดยการนำอาหารออกนอกโรงอาหาร


กิจกรรม
สำหรับกิจกรรมที่นี่จัดได้ว่าอิสระ อยากร่วมก็ร่วมไม่อยากร่วมก็ไม่ต้องร่วม เพราะกิจกรรมบางอย่างก็น่าเบื่อ ถึงแม้จะมีการแนะนำกับทางมหาวิทยาลัยว่า น่าจะเปิดกิจกรรมไพ่นกกระจอก เนื่องจากนักศึกษาต่างชาติให้ความสนใจกันมาก แต่ทางมหาวิทยาลัยตอบกลับมาว่า เขาเข้าใจความต้องการของเรา แต่ไพ่นกจอก มันติดปัญหาในเรื่องของการพนัน (ภาพลักษณ์มันติดลบ) เราเข้าใจที่เขาบอก แต่ก็มีครูที่เล่นเป็นมาช่วยสอนให้ โดยถือว่าเป็นการเล่นกันเองของนักศึกษา ไม่ใช่กิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย หลายครั้งครูก็มักจะมาแจมเหมือนกัน

ในขณะที่ของไทยต้องมองที่ประโยชน์ของกิจกรรมเป็นหลักไม่ได้มองในเรื่องของความต้องการ ตัวอย่างเช่น เมื่อเราพูดถึงการ์ตูน = ไร้สาระทันที น่าแปลกใจมากที่การเขียนการ์ตูนในรูปแบบโดจิชิ กลับไปอยู่ในกิจกรรมหมวดภาษาอังกฤษ แทนที่จะอยู่ในหมวดศิลปะ เพราะเขาใช้ภาษาอังกฤษบังหน้าในการเขียนการ์ตูนโดยใส่คำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ (แปลกดีครับประเทศไทย) มันเหมือนเอาภาษามาบังหน้าเท่านั้น

ที่ประเทศไทยกิจกรรมที่นักเรียนคิดไม่ได้รับความสนใจ และถูกมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ขึ้นชื่อว่ากิจกรรมขอแค่ให้มันใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ก็พอจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะอ่านหนังสือนิยายแปล เขียนบล็อก วิเคราะห์หุ้น หรือแม้แต่การเย็บผ้าทำชุดคอสเพลย์ ทุกอย่างมีประโยชน์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับมุมมอง ถ้ามองในแง่ร้ายผมก็พูดได้ว่า การเขียนบล็อกไร้สาระ ถึงแม้มันจะมีประโยชน์ก็ตาม


การลงโทษ
ที่นี่กฎธรรมดาทั่วไป ถ้าคุณไม่ใช่คนเลวโดยสันดานก็แทบไม่มีอะไรเลย เข้าเรียนสาย มาสาย ก็อาจมีบ้างที่จะโดนตัดคะแนน หรือโดนว่า จบ โตๆ กันแล้วไม่ต้องพูดมาก ถ้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทแล้วเคลียร์กันไม่ได้ ส่งตำรวจ จบ ง่ายจะตาย


เครื่องแบบนักเรียน กระเป๋า
ที่นี่แต่งตัวยังไงก็ได้ บางคนที่อยู่หอพักนักศึกษาต่างชาติตื่นสายก็มาทั้งชุดนอนเลย เพียงแต่ใส่เสื้อกันหนาวมาแค่นั้นเอง แต่เห็นแบบนี้แล้วกลับทำให้เรารู้สึกอยากใส่เครื่องแบบชะมัดไม่รู้ทำไม มันง่ายดีมั้งไม่ต้องมานั่งเตรียมเสื้อผ้า



เท่าที่เจอมาก็ประมาณนี้ล่ะ เอามาเปรียบเทียบกับของไทยแบบพอหอมปากหอมคอ ไม่อยากเปรียบเทียบมาก เดี๋ยวของไทยจะเละ ถ้าประเทศไทยมีการปรับปรุงในเรื่องการศึกษา เอาง่ายๆ แค่เรื่องเดียว จำนวนนักเรียนในห้อง แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็สามารถพัฒนาการศึกษาไทยมากแล้ว จริงอยู่ปัจจัยหลายอย่างมันไม่อำนวย แต่ถ้าเรายังใช้แต่เหตุผลนี้เป็นข้ออ้าง ก็ไม่ต้องพัฒนาอะไรอีกแล้ว


Create Date : 05 มกราคม 2555
Last Update : 5 มกราคม 2555 8:51:03 น. 51 comments
Counter : 1745 Pageviews.

 



อรุณสวัสดิ์เช้าวันพฤหัสบดีค่ะ คุณต่อ มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ


โดย: KeRiDa วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:9:03:14 น.  

 
นักการศึกษาควงรได้อ่านบล็อกนี้ของน้องต่อ
แล้วนำไปพัฒนาปรับปรุง รร.ของตนเองครับ

เชื่อแน่ว่าจะได้ประโยชน์แบบเต็มๆกับผู้เรียน




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:9:20:48 น.  

 
บุ๊งว่าการที่ครูเรียกให้ตอบคำถามทำให้เราต้องเตรียมตัวมาก่อนเป็นเรื่องดีมากๆ ค่ะ
เด็กควรจะขวนขวายศึกษาก่อนไปเรียน เพื่อที่ว่าจะได้ถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ มากกว่าไปนั่งให้ครูป้อนบทเรียนให้ค่ะคุณต่อ


โดย: Close To Heaven วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:12:16:12 น.  

 
ตามมาอ่านโรงเรียนในฝันค่ะคุณต่อ
เห็นจำนวนนักเรียนไม่เยอะมาก อันนี้มีผลดีทั้งคุณครูและนักเรียนจริงๆ
รร. รัฐบาลในประเทศไทย ชั้นมัธยม อัดกันไปห้าสิบคนก็มี
(คุณพ่อเคยเป็นข้าราชการครู เจอปัญหานี้เหมือนกัน
นักเรียนเยอะเกินไป ครูสอนไม่ทั่วถึง ดีที่คุณพ่อสอนเฉพาะ ม.ปลาย
เด็กโต รับผิดชอบได้ ถ้า ม.ต้น นี่วุ่นวายมากค่ะ)

อยากให้มีการปรับปรุง รร. ไทย เน้นคุณภาพเยอะนะคะ
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ

จะกดโหวต (หาปุ่มไม่เจอ 55+ ปุ่มหายหลังปีใหม่)

ปล. เอา polenta กับไส้กรอกมาฝากค่ะ




โดย: diamondsky วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:17:11:03 น.  

 
สวัสดีจ้ะน้องต่อ

บีจีน่ารักอ้ะ ภาพตรงกรอบคอมเม้นท์ก็น่าฮัก ทำไมวันนี้อะไร ๆ ก็น่ารักน้า อารมณ์เหมือนคนกำลังอินเลิฟ 555 (เลิฟด๋อยเน็นดอร์ย)

โรงเรียนในฝันเหรอ

จำนวนนักเรียนในห้อง พี่ก็เห็นด้วยนะ 30 ก็เยอะละนะ ถ้าเป็นไปได้ซัก 25 ก็ดี

เรื่องห้องเรียนพี่ว่าจะเรียนห้องเดิม หรือเดินเรียน(แบบย้ายห้องเรียน) ยังงัยมันก็เป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มีโต๊ะ เก้าอี้ ไวน์บอร์ด โปเจ็กเตอร์ พัดลมหรือไม่ก็แอร์ อยู่ดีอ่ะ

ระบบการศึกษา มันก็เป็นแค่ระบบอ่ะเนอะ ไม่มีชีวิตจิตใจอะไร แล้วแต่ว่าใครจะเขียนมันขึ้นมาก็เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็ปล่อย ๆ มันไปเถอะ

ครูผู้สอน อันนี้พี่เห็นด้วยกับน้องต่อพันเปอร์เซ็นต์ ถ้าครูขยัน เป็นกันเอง เอาใจใส่ บรรยากาศในห้องเรียนมันจะดีขึ้นเยอะเลย พี่ว่านะคงต้องปลูกจิตสำนึกของครู แห่งการเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละก่อนหล่ะมั้งน้องต่อ เพราะส่วนมากคนเป็นครูมักนึกถึงขั้น จำพวกซี คิดแต่ทำผลงานมากกว่าสอนหนังสือ

ทั้งนี้ทั้งนั้นครูที่ดีก็มีแต่ส่วนน้อย ก็เลยทำให้ชื่อเสียงครูในปัจจุบันมิสู้ดี เรียกว่าปลาเน่าตัวนึงเหม็นไปทั้งข้อง

กิจกรรม พี่ก็ว่านะแค่ให้เด็กใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และอยู่ในสายตาของครูก็พอแล้วมั้ง ไม่เห็นต้องคิดมากให้มากความ ดีกว่าปล่อยให้กลับบ้านก่อนเวลาแล้วไปเตร่อยู่ที่อื่น

การลงโทษ บางทีก็เกินไปเนอะ แต่บางทีก็น้อยไป ไม่ค่อยมีความพอดีเอาซะเลย

เครื่องแบบ สำหรับที่อื่นพี่ไม่รู้อ่ะ แต่ถ้าเป็นเมืองไทยแล้วไม่มีเครื่องแบบ รับรองพ่อแม่จนตายหรือไม่ก็กระเป๋าฉีก เพื่อให้ลูกเทียมหน้าเทียมตาเพื่อนฝูง ที่สำคัญเด็กสมัยนี้ก็ใช่ย่อย ใช้เงินเก่ง เรียกร้องเก่ง แต่งตัวเก่งอีกต่างหาก ไม่ต้องมากตอนเรียนป.โท ไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ โหแต่งกันกระจุยกระจาย อย่างกะไปเดินแคทวอร์กมากกว่าไปเรียน

พูดเยอะไปแล้วอ่ะ คอแห้งจัง หนีไปดื่มน้ำเย็นดับกระหายก่อนดีกว่า


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:22:01:41 น.  

 
KeRiDa - ครับผม

พี่ก๋า - นักศึกษานำไปปรับปรุงคงยากครับ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต่อให้ได้มาอ่านก็คงจะไม่คิดจะนำไปปรับปรุง เพราะมันไม่ได้เงินเข้ากระเป๋า

เราจะส่งครูไปดูงานทำไม สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน ต้องนี่สิ จัดสัมนานักเรียนไทยที่เคยไปศึกษาต่อต่างประเทศแล้วให้ค่ารถหน่อยก็พอ แค่นี้ก็น่าจะได้ขอมูลอย่างเยอะเลยทีเดียว แต่อย่างว่า การดูงานต่างประเทศคือ "ค่าตอบแทนก่อนเกษียณอายุราชการ"

Close To Heaven - แต่ในจุดนี้ก็มีจุดอ่อนเหมือนกันคือ ครูต้องไม่ดูถูกนักเรียนในเวลาที่ตอบคำถามไม่ได้ด้วย ไม่อย่างงั้น วิชานั้นจะเป็นวิชาแห่งความหวาดกลัว และน่าเบื่อไปเลย

diamondsky - เรื่องจำนวนนักเรียนมันกระทบไปถึงหลายๆ ส่วนเลยครับ ผมมักจะเน้นเป็นอย่างมากเวลาพูดคุยเรื่องระบบการศึกษาของไทย ถ้าแก้ปัญหาเรื่องจำนวนนักเรียนใน 1 ห้องได้ ปัญหาอื่นจะบรรเทาลง

oa - ที่เขียนเป็นแค่ "ใกล้เคียง" ครับ ความจริงปัญหาแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะคุยกันแค่คนสองคน มันเป็นปัญหาที่หลายภาคส่วนต้องมาคุยกัน

ของประเทศไทยห้องเรียนไม่พอ พูดง่ายๆ ไม่มีห้องเรียนประจำ อย่าว่าแต่ห้องเรียนไม่พอเลย บางครั้งโต๊ะเก้าอี้ไม่พอก็มี มันเสียในหลายๆ อย่างครับ (เรื่องนี้ยาว)

ครูของประเทศทางยุโรปเป็นบุคลากรที่ได้รับการยกย่อง เพราะถือว่าสอนคนให้มีความรู้ เงินเดือนสูงในขณะที่ของไทย เป็นหนี้กันเป็นแถบๆ งานก็หนักเงินก็น้อย ปัญหามันวนไปที่เก่าครับ จำนวนนักเรียนต่อห้องเรียนหนึ่งห้องเยอะเกินไป

ผมยังคงเห็นด้วยในเรื่องเครื่องแบบนักเรียนเพื่อความประหยัดของผู้ปกครองครับ เรื่องลงโทษกฎระเบียบของไทยมักมีไว้ลงโทษนักเรียนที่ทำถูกต้องมากกว่านักเรียนที่ทำผิด (เรื่องนี้ยาว ไว้ต้องหาโอกาสจัดให้หนักๆ)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:22:28:21 น.  

 
แล้วโรงเรียนในฝันคุณต่อมี TABLET ให้ด้วยมั้ยยย...โด่ววว


โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:23:00:41 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณต่อเท่าที่คุณต่อบอกมาเนี่ย

สมัยรินเรียนมหาลัย ก็เป็นอย่างนี้เป็นบางช่วงๆค่ะ
อย่างเช่นรับนักศึกษามารอบแรกห้องละ 45 คน พอปีสองสามเรือ่ยๆ ก็เหลือแค่ 30 คน

ประมาณนี้เพราะภูกไหร์เองบ้้าง
หรือเปลี่ยนเอกบ้าง

แม้กระทั่งการแต่งตัว สบายอย่างมาก
บางคนก็ใส่ชุดนอนมาเลยก็มีจริงๆค่ะ

แบบว่าใส่เสื้อยาวทับมาเลยเท่านั้นเอง
แต่รินมองดูว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับสถาบันค่ะอย่างนี้
ก็เลยมองดูว่า เห้อ นี่เหรอ นักเรียน

แต่เวลานี้กลับไม่อย่างนั้น

คนที่ใช่ชุดนึกศึกษาเข้ารูปสวยๆ เหมือนมีดีกรีอย่างมากซะงั้น เหมือนกับว่า หาเงินได้เยอะ
ใช้ของแบรนด์เนมซะด้วย
ก็เข้าใจว่า พ่อแม่รวยแล้วกัน อิอิ



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:23:07:44 น.  

 
อ่านดูแล้วระบบค่อนข้างจะเหมือนที่อเมริกานะคะ ที่เห็นได้อย่างชัดๆ ก็เรื่องจำนวนนักเรียนนี่เลยค่ะ การเรียนที่นี่ไม่มีตีทำโทษเหมือนที่เมืองไทยอีกด้วย ไม่อยากเปรียบเทียบมากเหมือนกัน แฮ่ๆ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:0:04:32 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
-----------------------------
คงไม่สายไปนะคะที่จะมาสวัสดีปีใหม่ ตั้งแต่วันที่๒๙ธันวาคมของปีที่แล้วแทบจะไม่ได้จับคอมเลยงานยุ่งมากจริงๆ วันนี้เข้ามาที่บ้านพบกับข้อความมากมาย ปลื้มใจที่สุดเลย ขอบคุณจริงๆค่ะ และขอให้ปีใหม่นี้จงเป็นปีมงคลมีแต่ความโชคดีนะคะคุณต่อ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:1:59:06 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ

อ่านเม้นท์น้องต่อที่บ้านพี่โอ๋
พยักหน้าเห็นด้วยเลยครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:6:37:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณต่อ

ขอให้คุณมีความสุข สดชื่น แจ่มใส
อยู่ภายใต้ดวงวันอันแสนจะอบอุ่นกัน นะคะ




โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:7:16:19 น.  

 


โดย: KeRiDa วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:8:14:52 น.  

 
น้องต่อฮับ เราน่าจะคุยเรื่องนี้กันได้เป็นปีเลยนะ ความฝันของพี่คือทุบโรงงานทิ้ง สร้างโรงเรียน แต่มันติดอยู่ตรงที่ หาบุคลากรที่นอกจากจะจบสายอาชีพครูโดยตรงแล้ว ต้องมีสัญชาตญาณความเป็นครูและเป็นคนเกินร้อย ที่สำคัญรักในงานที่ทำ

พี่ลองคุยกับ ผอ.โรงเรียนเอกชนหลายแห่ง บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ครูเดี๋ยวนี้หายาก หามาได้แป๊บเดียวก็ลาออก ก็เข้าใจอ่ะนะว่าเดี๋ยวนี้ค่าครองชีพมันสูง ใคร ๆ ก็อยากทำงานที่ได้เงินเยอะ ๆ งานน้อย ๆ (พี่ว่างานสบายคงเป็นเมียน้อยเสี่ยนั่นหล่ะ)

ขออภัยหากผู้ใดเป็นครูแล้วมาอ่านเจอ จะเกิดอาการควันออกหูก็มิแปลก เพราะตัวข้าพเจ้าก็ผิดเองที่ด่าแบบองค์รวม แทนที่จะเอ่ยเป็นรายตัว

อ่านคอมเม้นที่ที่บ้านตัวเอง แล้วชอบใจการยกตัวอย่างของน้องต่อ เพราะพี่ก็ได้เห็นมุมมองที่โดนซ่อนอยู่มานาน โดยที่พี่ไม่ทันได้นึกถึง

น้องชายพี่มีปัญหากับครูประจำเรื่องผมยาว เชื่อมะว่าเก็บกดเหลือขนาด จบม.ปลาย เข้ามหาวิทยาลัยได้ไว้ผมยาวกว่าพี่ซะอีก พ่อกะแม่บ่นกระบุงโกยไม่ใช่อะไร หน้าเค้าหวาน กลัวใครไม่รู้คิดว่าลูกเป็นตุ๊ด 555 ส่วนพี่หน่ะชอบผู้ชายผมยาว เค้าจะไว้ยาวแค่ไหนก็ปล่อยไป

อ่านไปอ่านมาได้แต่พยักหน้าหงึกหงักจนคอจะหัก

งั้นถ้าน้องต่อมีแรงเขียนบล็อกแนวนี้อีก แวะไปเคาะประตูบ้านพี่หน่อยเน้อ อยากอ่านแบบจัดหนัก คริ คริ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:11:37:50 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ 2555 ย้อนหลังนะครับ
ขอให้มีความสุข สมหวัง สุขแข็งแรง ร่ำรวย นะครับ




โดย: ter_pt วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:12:07:21 น.  

 

สำหรับโรงเรียนมัธยม ห้องนึงไม่เกิน 30 คนนี่ จัดว่าดีเลยนะ

บ้านเราถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาลห้องหนึ่งๆ ปาเข้าไปเกือบ 50 คน ทำใจแล้วจ้ะ

นิยายของลูกพี่ไม่ค่อยได้เปิดดู แต่หนังสือการ์ตูนที่เป็นเล่มๆ ต่อเนื่อง (เค้าเรียกซีรีส์ใช่มั้ย) ได้เห็นบ้าง ถ้านับจำนวนแบบการ์ตูนจะเยอะกว่า เคยถามเค้าว่า เคยลองคิดเป็นเงินเล่นๆ มั้ยลูก ปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว (หมอกเก็บเงินซื้อเอง นอกจากวาระพิเศษ แม่จะซื้อให้บ้าง) นอกจากซื้ออ่านแล้ว ยังอ่านตามเว็บด้วยนะ Enter book หรืออะไรนี่แหละ ตอนนี้เค้าหัดวาดภาพการ์ตูน กับเขียนเรื่องอยู่ เอากับเค้าสิ จากคนที่ว่าดไม่เป็นเลย...เป็นเอามาก พยายามจะเรียนรู้โฟโต้ช็อบเพื่อจะลงสีเองด้วยนะ


สวัสดีวันศุกร์จ้ะต่อ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:12:53:57 น.  

 
โจนบ้ากับป้าแก่ๆ - TABLET ผมมองว่าไม่จำเป็น ถ้าตอนนี้ผมเป็นครู ผมจะสั่งให้เด็กทำรายงานโดยใช้มือเขียนให้หมดเลย ฝึกลายมือไปในตัวด้วย ที่สำคัญมันฝึกเรื่องการใช้ภาษาได้เป็นอย่างดี

Rinsa Yoyolive - พูดยากเหมือนกันเรื่องให้เกียรติกับสถาบัน โดยส่วนตัวผมยังชอบให้เครื่องแบบครับ

วิสกี้โซดา - ความจริงเราสามารถเอาระบบพวกนี้มาปรับใช้ได้ครับ จะลอกมาหมดคงไม่ดีเท่าไหร่ เปรียบเทียบมากประเทศเราเละครับ

เกศสุริยง - สวัสดีปีใหม่ครับ

พี่ก๋า - มันเป็นปัญหาที่น่าคิดจริงๆ ครับ

พิรุณร่ำ - ^^

KeRiDa - ^^

oa - มีโอกาสต้องจัดหนักครับ เรื่องผมยาว ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ผมเห็นแต่ละคนอย่างกับออกมาจากป่า ไว้ผมยาวแบบเด็กเก็บกดจริงๆ ถ้าเขียนแฉเกี่ยวกับการศึกษาไทย เละแน่นอนในทุกภาคส่วน

ter_pt - สวัสดีปีใหม่ 2555 ครับ

สายหมอกและก้อนเมฆ - จำนวน 30 คน ผมมองว่ากำลังดี ความจริงอยากได้ไม่เกิน 25 คน แต่เมืองไทยทำได้ยาก (อย่างที่เขียนไว้ "ใกล้เคียง" นี่นะ) แต่ถ้าทำได้ก็วิเศษไปเลย

ที่จีนก็ไม่ต่างกันครับ ทำได้ยาก คนมันเยอะ ที่เขียนก็แค่แสดงทัศนะในมุมมองว่ามันใกล้เคียง "โรงเรียนในฝัน" ประเทศไทยเห็นปฏิรูปการศึกษาไม่รู้กี่ครั้ง ไม่ต้องปฏิรูปหรอก แค่จำกัดจำนวนนักเรียนใน 1 ห้องเรียนก็เพียงพอแล้ว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:18:08:37 น.  

 
ภาพสุดท้ายไม่สมจริงครับ (ขาดกางเกงใน)

.

.







เล่มหน้าพี่ก๋าจะเขียนให้นะครับ 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:19:29:42 น.  

 
เม้นท์ไปทีแล้ว โดนกินไปซะงั้น
เค้าบอกว่า "กรุณาระบุบล็อกด้วยค่ะ"
55 มีต่างๆนาๆ อ่ะนะ พอทน

แค่บอกว่า โรงเรียนในฝันก็มีแต่ในฝัน
น่ะครับ แค่ใกล้เคียงเนี่นดีแล้ว จะได้มี
ในความเป็นจริงได้

ยังชอบให้โรงเรียนมีกฏระเบียบมากๆ
หน่อยครับ ยังงัยก็ฝึกคนให้มีระเบียบได้
มากกว่าตามสบาย



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:22:52:10 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณต่อ .. ผ่านมาหลายวันแล้ว
เพิ่งแวะมาสวัสดีกัน .. แต่ว่ายังไม่พ้นเดือน
มค.เน๊าะ ยังไม่เชยนะค่ะ

อ่านแล้วถูกใจกับการเปรียบเทียบเลยล่ะค่ะ
เพราะว่าเข้าใจเลย และก็คิดตรงกันเรื่องห้องเรียน
กับ จน. ของนักเรียนในห้อง เรียกว่าบ้านเรา
น่าจะปรับปรุงได้แล้ว เพราะว่าในห้องนักเรียนเยอะมาก
ครูคนเดียวดูแลไม่ครบจริงหรอกค่ะ เรียกว่าเผินๆ พอได้
แตว่าให้รู้และดูแลจริงๆ ก็หนักหนาเลยล่ะค่ะ ...




โดย: JewNid วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:22:52:18 น.  

 
ชาลีคิดว่าปริมาณนักเรียน/ห้อง/หนึ่งครูผู้สอน
นับว่ามีผลต่อการเรียนรู้เหมือนกันนะคะ
ตอนชาลีไปฝึกสอนเคยสอน 5 ห้อง
แต่ละห้องจำนวนนักเรียนไม่เท่ากัน
เค้าจัดนักเรียนตามลำดับความเก่งน่ะค่ะ
อย่างเด็กเก่งจะอยู่ห้อง 1 ไล่ไปจนถึง 14
(รร.ที่ไปฝึกสอนมี 14 ห้องในแต่ละชั้นการเรียนค่ะ)
ต้องทำแผนการสอนวิชาเดียวกันถึง 5 แผนเลยค่ะ
แผนเดียวกันใช้เหมือนกันไม่ได้ทุกห้องค่ะ
ความสนใจของนักเรียนก็ไม่เท่ากันด้วยค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปชมเมนู 3F นะคะ
ชาลีนำภาพบาร์บิคิวมาฝากด้วยนะคะ



โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:22:59:29 น.  

 
จังหวะใจคิดถึงตรงกันพอดีเลยวิ่งสวนทางมาเยือนบล็อก
ได้จังหวะเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมายค่ะ

ตะพาบจะเริ่มในอีก 3 วัน เอ หรือว่าสองวันดี
เพราะว่านี่ก็กำลังจะหมดวันแล้ว ยังเลยค่ะคุณต่อ
ยังคิดไม่ออกเลยล่ะค่ะว่าจะเขียนอะไรดี ..
ต้องรอฝันอีกสักรอบคืนนี้ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ไอเดีย
ก็ได้ค่ะ (อ้างไปเรื่อยเปื่อยค่ะ)

แล้วคุณต่อล่ะค่ะถึงไหนแล้วเอ่ย ?


โดย: JewNid วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:23:35:30 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะคุณต่อ

เพิ่งมารู้เมื่อคืนว่า

วันจันทร์มีตะพาบ
ยังไม่ได้คิดเลยค่ะว่าจะออกหัวก้อย

บนล่าง แนวไหน อิอิ

โจทย์ยากมากคิดไม่ออกกันเลยคราวนี้



ไว้ลุ้นๆ ในนาทีสุดท้ายนะคะ


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:23:58:02 น.  

 
การศึกษาบ้านเรา

พูดแล้วก็ให้ห่อเหี่ยวครับ



โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:0:45:45 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะคุณต่อ

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ



โดย: pantawan วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:1:07:09 น.  

 
เลยได้ทำความรู้จักระบบการศึกษาของจีนเลยค่ะ
แต่ละที่ ก็ต่างก็คล้ายกันไปเนาะ
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆนะคะ

เลโก้รุ่นใหม่ สีสันมาก่อนจริงๆค่ะ เห็นแล้วต้องตาติดใจกับเด็กๆ
คนอายุมากแบบเรา บางทีก็ยังอดตื่นเต้นอยากต่อเล่นด้วยไม่ได้เลย


โดย: anigia วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:2:03:12 น.  

 
ขากบล็อกจริงอย่างคุณต่อว่า
ปี 2012 มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง
โลกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซ่อนเร้นอยู่จ้า


โดย: หอมกร วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:3:14:50 น.  

 
จากบล็อกสะกดอย่างงี้เสียหน่อยเนอะ 555


โดย: หอมกร วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:3:16:26 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:6:00:51 น.  

 
พี่ก๋า - ทำจริงยอดขายอาจตกนะครับ

พี่หนูหล่อ - กฎระเบียบเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคงจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่รักษากฎระเบียบมากกว่า หลายเรื่องคงต้องพูดกันยาวเหมือนกันถึงข้อดีข้อเสีย

JewNid - จำนวนห้องเรียนที่ไม่พอ และจำนวนนักเรียน/ห้อง เป็นปัญหาใหญ่ที่ฝังรากมานาน แก้แค่จุดนี้ได้ก็ช่วยในเรื่องการพัฒนาได้เยอะแล้วล่ะครับ

สวนทางกันพอดี ตอนนี้รออัพแล้วครับ

sierra whiskey charlie - แยกเด็กแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน เด็กที่เรียนรู้เร็วใช้วิธีสอนแบบนึง เรียนรู้ช้าอีกแบบ แต่บางคนก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีแบบนี้เท่าไหร่

Rinsa Yoyolive - ยังมีเวลาครับ ไม่ต้องรีบร้อน

เป็ดสวรรค์ - ปวดตับปวดไตด้วย

pantawan - รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

anigia - เอามาเปรียบเทียบแบบพอหอมปากหอมคอครับ

หอมกร - ฟังดูแล้วน่ากลัวจริงๆ

กะว่าก๋า - สวัสดีครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:9:47:36 น.  

 
ฝันต่อไปครับ


โดย: The Queenslander วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:9:54:55 น.  

 
สวัสดีจ้ะน้องต่อ

วันนี้แวะมาคุยเรื่องหนังจีนชนโรงกันหน่อยเนอะ ที่จะคุยเรื่องนี้เพราะ

เพลงในบล็อกน้องต่อนี่หล่ะ ทำให้พี่อยากดูหนังจีน แต่เดี๋ยวนี้หาดูได้ยากเหลือเกิน มีแต่หนังเกาหลี ไม่ได้แอนตี้ เพียงแต่รู้สึกไม่ถูกจริต (555 ไม่ค่อยชอบพล็อตเรื่องซักเท่าไหร่ จริง ๆ เค้าก็แทรก ๆ อะไรไว้เหมือนกัน เพียงแต่โดยรวมดูแล้วมันงั้น ๆ หน่ะ)

สมัยก่อน ย้อนนานจริงวุ้ย จะเป็นหนังฮ่องกงซะส่วนมาก เพลงก็เป็นภาษากวางตุ้ง แต่คนไทยเอาทำนองมาใส่เนื้อร้องไทยเพราะไปอีกแบบ

หนังจีนก็มีนะ แต่พี่ไม่ทัน ต้องรุ่นพ่อ เค้าชอบดูหนังของ ชอร์บาร์เดอร์ (อันนี้ของจีนหรือฮ่องกงพี่ก็ไม่แน่ใจนะ)

พี่ก็เลยถือโอกาสเข้าไปดูในยูทุป มีเพลงให้ฟัง มีหนังให้ดู เก่าโค ตะ ระ โชคดีมีคนเอามาลงไว้แต่ก็กระท่อนกระแท่น ครบบ้างไม่ครบบ้าง

ชักแม่น้ำทั้ง 5 ยังไม่เจอคำว่าหนังชนโรงเลยนิน้องต่อ 555

พี่เห็นโฆษณาหนังโรง หนังกำลังภายใน แต่ไม่อยากดูอ้ะ เพราะสมัยนี้ นักแสดงไม่ต้องออกแรงมากเลย ใช้คอมฯทำกราฟฟิคสบายบรื๋อ มันก็ดูตื่นตาตื่นใจ สนุกดีนะ แต่มันขาดอรรถรสบางอย่างไป พี่ก็บอกไม่ถูก

ปล.เมื่อคืนดูแผ่นทรานฟอร์เมอร์3 ทำไมดูไม่รู้เรื่องเลยนะ โอยวันนี้ปวดหัวตื้บ ไม่สนุกเลยให้ตายเถอะ แล้วชั้นจะอดหลับอดนอนดูทำไมเนี่ย - -"





โดย: oa (rosebay ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:12:28:48 น.  

 
แวะมาดู battle call แต่ว่าอยากคุยก่อนอ่ะ

เอ่อ เมื่อสองสามวันก่อนยังโวยวายอยู่เลย ว่าโจทย์ยากอย่างโน้น อย่างนี้

พอตกบ่ายวันนี้ คิดขึ้นได้ ด้นสดเสร็จ ก็.... อัพแย้วววว เจ้ยแหกกฎ จะโดนคุณเป็ดบ๊องหัวมั๊ยเนี่ย แบบว่าวันนี้ว่างจริง ๆ นานทีปีหนจะมีวันว่างทั้งที่เป็นวันทำงาน

สงสัยวันนี้โดนกดดันหนักไปหน่อย ก็ใคร ๆ บอกว่าเขียนเสร็จแล้วนิ สมองเลยแล่นฉิวววว

เอ่อ ไปอ่าน battle call ดีกว่า ก่อนที่จะโดนน้องต่อซัดคว่ำ เพราะดันทำตัวแหกคอก - -"


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:14:38:37 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ คุณต่อ
เรื่องจำนวนนักเรียนต่อห้อง
ผมก็แปลกใจว่า
โรงเรียนในเมือง โรงเรียนต่างอำเภอ
ความเก่งของอาจารย์ ทำให้นักเรียนแห่เข้ามาเรียนในอ.เมือง จนห้องแน่นไปหมด
แต่ อ.บ้านนอก นักเรียนเหลือห้องไม่ถึง 20 คน
แต่ก็เหลือแต่คนที่สมองปานกลางครับ
อำเภอที่ผมอยู่
ห้องคิง(วิทย์เข้ม) รับเด็กแค่ 30 คนครับ
ส่วนห้องอื่นๆ 40 คนขึ้นไปครับ สูงสุด 50 กว่าคน

ความจริงเราน่าจะมีโรงเรียนติวเตอร์อาจารย์ให้เก่งเท่าๆกันทุกอำเภอ ทั่วประเทศ



โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:17:24:56 น.  

 
สาวว่าก็ดีนะคะคุณต่อ ดูเหมือนว่าเค้าคิดว่านักเรียนโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ


โดย: sawkitty วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:17:35:40 น.  

 
ปิดท้ายวันนี้ ว่างเป็นหย่อม ๆ ถ้าหนึ่งวันเข้ามาแบบกระท่อนกระแท่นแบบนี้แสดงว่า "นั่นหล่ะเวลาที่ว่างเอามานั่งเล่นเน็ต 555"

บังเอิญแวะไปอ่าน ดูภาพ ฟังเสียงที่ battle call

แล้วมันเจ็บจี้ด ๆ ในหัวใจ ออกตัวก่อน เดี๋ยวหาว่าหัวเอียงซ้ายอีก

พี่เกลียดฝรั่ง แต่ก่อนไม่หนักเท่านี้ นับวันยิ่งหนักข้อ จริง ๆ ฝรั่งก็อยู่ของเค้าดี ๆ ไม่รู้จะไปจงเกลียดจงชังอะไรเค้านักหนา

แต่บังเอิญว่าฝรั่งส่วนมาก ชอบดูถูกผู้อื่น และยกตนข่มท่านว่าตนนั้นเก่ง ดีกว่าผู้อื่น เหนือกว่าผู้อื่น

ดูถูกคนเอเซียสารพัด หาว่าเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนบ้างหล่ะ หาว่าเป็นประเทศโลกที่ 3 ด้อยพัฒนาบ้างหล่ะ หาว่าไร้วัฒนธรรมบ้างหล่ะ หาว่าไม่มีความเจริญ

ถ้าสิ่งที่พวกคุณมอง ในเรื่องอาคาร ตึกรามบ้านช่อง โทรทัศน์ โทรศัพท์ 3G แท็ปเล็ท รถสปร์ต บ้านราคาร้อยล้าน บลา บลา บลา.....

หรือการไม่ใส่เสื้อ นุ่งแต่ผ้าขาวม้าผืนเดียว โทษทีเถอะนะ บ้านตรูร้อนจะตาย"หอ อา หา ไม้ เอก" จะให้ใส่สูทผูกไท หาสวรรค์วิมานชั้นไหนไม่ทราบ

ใครไม่ชอบเปรม แต่พี่ว่าท่านแต่งกายเข้ากับบ้านเมือง ผ้าไทย คอจีน ติดกระดุม เข้ากับกางเกงขายาว แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว น่าจะเข้าไปนั่งประชุมในสภาได้นะ

ถ้าฝรั่งมันใช้แต่ตาแล จนลืมมองหลักความจริงในแง่ภูมิประเทศ วัฒนธรรมสังคม รากเหง้าของเอเซียแล้วหล่ะก็ ปล่อยให้มันใจตาต่อไป

พี่ไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาการแต่งกาย การกิน การอยู่ ก็แค่ให้พอเหมาะพอควร ไม่เห็นต้องตามก้นฝรั่งไปซะทุกอย่าง

แล้วก็นะ ไอ้สายตาฝรั่งใช้แลมาหน่ะ มันบอกเลยเน้อว่ารู้สึกอย่างไร ขอโทษทีไม่ได้กินหญ้านะเฟ้ย ถึงจะฟังเอ็งนินทาออกบ้างไม่ออกบ้างก็เถอะนะ

หาว่าเราเป็นลิงเหลืองงี้ หาว่าเราเป็นจิ้งจกงี้ โอ้ย พ่อลิงเผือก 555 ก็เทือกเถาเหล่ากอตระกูลลิงเหมือนกันหล่ะว้า

ปล. ขออภัยยิ่งพูดของยิ่งขึ้น ถ้อยคำเลยดูรุนแรงไปเยอะเลย แต่อันที่จริงฝรั่งดี ๆ ก็มีอยู่แถวออสเตรเลีย นิวซีแลนด์โน่นหล่ะ (เพราะโดนดูถูกเหมือนกัน เลยพอจะเข้าใจหัวจิตหัวใจเราบ้าง)


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:18:00:16 น.  

 
The Queenslander - ถ้าเป็นในไทยคงจะเป็นอย่างนั้นครับ แต่ในจีน (แผนกนักศึกษาต่างชาติ) ผมว่าใกล้เคียงที่สุดละ

oa - เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้ตามหนังโรงเท่าไหร่ส่วนหนึ่งเพราะต้องการซื้อเป็น DVD หรือไม่ก็ดูจากทางทรูมากกว่า

เศษเสี้ยว - ยังถือว่าเยอะครับสำหรับสายอื่นๆ ที่ไม่ใช่สายวิทย์ 30 นิดๆ ยังพออภัย แต่ปัจจัยหลายๆ อย่างในประเทศไทยมันก็ไม่อำนวยด้วย พูดยากเหมือนกันเรื่องนี้

sawkitty - เพราะเป็นแผนกนักศึกษาต่างชาติด้วยกระมัง คนที่เรียนส่วนมากก็ระดับมหาวิทยาลัย หรือไม่ก็ 20 อัพทั้งนั้น


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:22:00:56 น.  

 
rosebay - สำหรับผู้คนในยุโรป ผมมองในมุมเหมือนคนไทยมองประเทศในแถบแอฟริกา ที่เรามองว่าล้าหลังและไม่เจริญ ป่าเถื่อน ซึ่งความจริงก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ ความไม่รู้เป็นบ่อเกิดแห่งความเขลา ตรงนี้ผมอยากให้ย้อนกลับไปมองในมุมที่ว่าประเทศที่ได้ชื่อว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว สามารถเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ตได้มากกว่าประเทศอย่างเราๆ ถ้าไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลว่าประเทศเราเป็นอย่างไร ก็ต้องถามกลับว่า "ประเทศท่านล้าหลังหรือไม่ในเรื่องการให้องค์ความรู้กับคนในชาติ" ถ้าท่านบอกว่าล้อเล่น เราก็คงต้องบอกว่า "เสียมารยาท"

ถ้าเราลองเอาคำใว่า Thailand ไปค้นหาใน Google ภาพที่ออกมาจะเป็นธรรมชาติ และโบราณสถาน ไม่แปลกใจที่ชาวยุโรปจะไม่ทราบ แต่อย่างที่ได้เรียนไปข้างต้น ประเทศของท่านๆ สื่อพัฒนากว่าประเทศเรา ถ้าข้อมูลสภาพบ้านเมืองท่านยังหาข้อมูลเพื่อศึกษาไม่ได้แสดงว่าการศึกษาท่านมีปัญหา

ผมจำไม่ได้แล้วว่าจากหนังสือเล่มไหน ในหลวงท่านเคยไปกล่าวสุนทรพจน์ที่ประเทศออสเตรเลีย ท่านถูกโห่ ท่านก็วางเฉย และขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ตามปกติ โดยกล่าวขอบคุณที่ผู้คนที่มาฟัง และขอบคุณในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองด้วยความสุภาพ รวมไปถึงมารยาทอันดีงามที่กระทำต่อแขกบ้านแขกเมือง (ไอ้พวกโห่หน้าแหกเป็นแถวๆ)

เรื่องเครื่องแต่งกายปฏิเสธได้ยากในสังคมปัจจุบัน (เกลียดเนคไท ร้อน) ถามว่าถ้าใส่ชุดไทยเต็มยศกับใส่สูทเดินเข้าโรงแรม ใครจะได้รับการบริการดีกว่ากัน น่าสนุกสำหรับคำถามนี้ เชื่อหรือไม่ว่าชุดไทยราคาแพงกว่าสูท

อาหารการกินยังไงอาหารไทยก็ดีที่สุดในหลายความหมาย จากวิถีการกินอยู่อย่างสมัยก่อนโรคร้ายไม่ค่อยมีเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันที่คนเจ็บป่วยได้ง่าย เพราะวิถีชีวิตและการกินที่เปลี่ยนไป

ในหนังบรู๊ซ ลีกล่าวไว้ว่า "ก็เพราะคนจีนมัวแต่มาตีกันเองฆ่ากันเอง พวกฝรั่งมันถึงได้ดูถูกเรา จากนี้ไปขอให้พวกเราชาวจีนที่อยู่ในต่างแดน ขอให้อย่าได้ตีกันเอง ฆ่ากันเองอีก" ในอีกมุมคนไทยก็มีนิสัยแบบนั้นเช่นกัน เหยียดหยามกันเอง ฆ่ากันเอง คนไทยไม่ได้รับโอกาส แต่พอได้รับโอกาสจากต่างประเทศ กลายเป็นคนๆ นั้นเป็นพวกไม่รักชาติ แล้วตอนแรกทำไมพวกเอ็งไม่ให้โอกาสเขาล่ะ

เดาว่าพี่โอ๋เดือดอาจเพราะไปอ่านเจอคำว่า "ไอ้เด็กผิวเหลือง" พอดีในหนังเขาเรียกแบบนี้น่ะ แปลมาตรงๆ เลย (คนจีนเป็นคนเรียก)

ผมไม่รู้สึกโกรธที่ชาวยุโรป/อเมริกันบางคนเหยียดหยาม หรือมองเราด้อย แต่กลับรู้สึกสงสาร ใน "ความเขลา" ของเขามากกว่าทั้งที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ดีกว่าเราแต่กลับไม่รู้อะไรเลย หรือแม้แต่ความคิดที่ว่า ประเทศเราโง่ที่พูดภาษาเขาไม่ค่อยได้ เราพูดภาษาท่านได้ แต่ท่านพูดภาษาเราไม่ได้เลย น่าคิดนะครับ แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่าคนเอเชียมองคนเอเชียในสายตาที่เหยีบหยามกันเองหรอก


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:22:06:21 น.  

 
ไปโหวตโครงการกัน คุณต่ออออออ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:0:59:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต่อ
ขอบคุณที่แวะมาชิมนะคะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:1:42:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:6:19:26 น.  

 
เปรียบเทียบได้เห็นภาพมากๆค่ะ


โดย: coji วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:10:36:04 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ยกมือให้ทั้ง 10 นิ้วเลย เรื่องจำนวนนักเรียน
ในห้องเรียน โรงเรียนดังแค่ในเชียงใหม่
บางห้องเคยมีถึง 60 คน คิดดู กว่าจะเดินตรวจทุกคน หมดเวลาพอดี

พอมาสอนมหาวิทยา วิชาบังคับเลือก บางห้อง120คน (แฮ่ะๆๆๆ เรื่องจริง)เช็คชื่อก็หมดเวลา แค่หาวิธีเช็คชื่อก็เปลืองสมองแล้ว

แต่ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะนี่คือประเทศไทย
ยังไง้ยังไงก็รัก คิดเสียว่าเป็นสีสันอีกแบบหนึ่งในวงการศึกษา

คิดถึงถิ่นเก่าครั้งใดกลับมาอ่านไม่ผิดหวัง
คุณต่อเขียนได้ชัดเจนเหมือนวันวานเพิ่งผ่านไปแต่ตอนที่ไปเรียนน่ะ พักกลางวัน 2 ช.ม.(นอนหลับด้วย) เลิก 5 โมงเย็นค่ะ
ไปหาข้าวกินเดินเที่ยวต่อ
คิดถึงนะเป็นชีวิตที่สนุก


โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:11:52:23 น.  

 
เป็นเพราะเราเป็นนักเรียนต่างชาติแล้วไปเรียน
เหมือนกับเด็กฝรั่งเรียน inter ในไทยอะเปล่า

ถ้า รร จีนที่สอนคนจีนจริงๆอาจจะไม่ดีขนาดนี้ก็ได้มั้ง


โดย: น้องผิง วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:12:59:49 น.  

 
นิมิตตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา
ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี

เป็นคนดี มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:13:51:03 น.  

 
พี่ก๋าอ่านประวัติเกจิ แต่ไม่ค่อยอ่านเพื่อหาปาฏิหาริย์
พี่ก๋าชอบอ่านว่าท่านปฏิบัติอย่างไร คิดอย่างไร
เชื่อมั่นอย่างไรในแนวทางนั้นมากกว่าครับ

อย่างคำทำนายต่างๆ
พี่ก๋าก็ไม่เคยอ่านเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:14:35:15 น.  

 
เห็นด้วยกับหลายๆอย่างเลยค่ะคุณต่อ ระบบการศึกษาบ้านเราเมืองเรายังต้องพัฒนาอีกเยอะ

น้องสาวไปดูงานที่โรงเรียนในประเทศจีนเขาเล่าว่า เด็กนักเรียนมีพักให้กลับไปนอนถึงเวลาก็มาเรียนต่อ ยังคุยเล่นๆกันเลยค่ะว่า ลองเป็นบ้านเราสิให้กลับไปพักนอนแบบนั้น ไม่กลับมาเรียนหรอก ...


โดย: ปางหวัน วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:21:22:48 น.  

 
เป็ดสวรรค์ - เหมือนเดิมดีแล้วครับ

Close To Heaven - ^^

พี่ก๋า - สวัสดีครับ

coji - คงต้องพัฒนากันต่อไปครับ

หมุยจุ๋ย - เป็นช่วงเวลาที่สนุกจริงๆ ครับ ไม่มีวันไหนที่ไม่อยากไปเรียนเลย ตั้งหน้าตั้งตาตลอด

น้องผิง - อารมณ์นั้นแหละ ถ้าเอากันจริงๆ เท่าที่พี่ถามคนจีน ถามอาจารย์ 1 ห้องของเขาคนเยอะกว่าของเราอีก

กะว่าก๋า - คำทำนายเยอะครับ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจริงแท้แค่ไหน แอบอ้างก็เยอะครับ

ปางหวัน - นี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าแปลกสำหรับประเทศนี้ที่กล้าปล่อยให้เด็กกลับไปทานข้าวแล้วค่อยมาเรียนต่อ ซึ่งเด็กก็กลับมาเรียนตามปกติ ของไทยมีสิทธิ์ไม่กลับมาอีกสูงครับ

-


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:21:45:57 น.  

 

บล็อกนี้เป็นกรณีศึกษา
ที่หน่วยงานภาคการศึกษาของรัฐ
น่าจะได้อะไรมากๆ เลยเน๊าะน้อง
แหล่มจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:22:46:22 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับคุณต่อ

ขอให้มีความสุขตลอดปี สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจนะคร้าบบบ

อ่านดูแล้วผมเห็นด้วยกับเรื่องกิจกรรมครับผมว่ามันช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์หากได้ทำในสิ่งที่สนใจ แล้วช่วงเวลาที่เรียนแค่ครึ่งวันก็กำลังสบายๆ ไม่ต้องเรียนจนหัวแทบแตกถึงเย็นๆ ต่อด้วยติวเรียนพิเศษ กลับบ้านมีการบ้านให้ทำอีก

หวังว่าคนรุ่นใหม่ๆ(ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอายุน้อยๆนะครับ)จะได้ช่วยเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาให้บ้านเมืองเราสักที


โดย: เงามืดในประวัติศาสตร์ วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:22:50:45 น.  

 
อุ้มสี - ถ้าหน่อยงานภาครัฐเอาใจใส่เรื่องนี้อย่างจริงจัง ผมว่าประเทศเราพัฒนาได้เยอะกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุับนี้มาก

เงามืดในประวัติศาสตร์ - ความจริงครึ่งวันผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ผมกลับมองว่าสักบ่ายสองเลิกเรียนกำลังดีครับ แล้วจะต่อด้วยกิจกรรมหรืออะไรก็ว่ากันไป


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:0:01:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 80 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
28 เม.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้วววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 350 "คำมั่นสัญญา"
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
ดื่มเหล้า เมาสุรา
[Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Itsuki-Y0701.jpegMatikanetannhauser-Y0702.jpeg
Komichi-Y0603.jpegKancolle-Y0602.jpeg
Shiori-Y0601.jpegBorn-Y0502.jpeg
Miku-chin-Y0501.jpegKobayashi-Y0401.jpeg
Miyo-Y301.jpegMiku-Magic-Y0201.jpeg








New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.