ปริศนาบนศิลาที่หลับใหล : การค้นพบใหม่ที่เมืองพระนคร ![]() https://www.nara.accu.or.jp/img/dissemination/15th.pdf พ.ศ. 2559 มีข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ไทยถึงเรื่องการทวงคืนเทวรูปสำริด จากอำเภอประโคนชัย ในห้วงเวลาเดียวกัมพูชาก็ได้รับมอบเทวรูปคืน จากพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดได้มาจากปราสาทเจิน ปราสาทที่ถูกทิ้งร้าง แต่กลับมีประติมากรรมหินทรายอันน่าสนใจยิ่ง กัมพูชาจัดพิธีสมโภชฉลองการได้เทวรูปโบราณ 3 องค์ ที่ถูกโจรกรรมไปจากประเทศเมื่อกว่า 40 ปีก่อนกลับมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมทั้งองค์หนึ่งที่ได้มาหลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานในสหรัฐ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เทวรูปศิลปะหินทรายยุคศตวรรษที่ 10 ถูกโจรกรรมไป จากวัดเกาะแกร์ใกล้นครวัดอันเลื่องชื่อของกัมพูชาในช่วงทศวรรษที่ 1970 เทวรูปหินทรายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเทวรูปสลักนักรบทุรยุทธานา และ ภีมะจำนวน 9 องค์ถูกส่งคืนจากสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ และได้รับการพิจารณาว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของประชาชนกัมพูชา และเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมของกัมพูชา นายโสก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวระหว่างพิธีสมโภชเทวรูปว่า ในการเดินทางที่ยาวไกล 40 ปี รอดพ้นจากสงครามกลางเมือง การโจรกรรมการลักลอบไปขาย และการเดินทางรอบโลก ขณะนี้ เทวรูปทั้ง 3 องค์นี้ ได้รับอิสรภาพแล้ว อย่างไรก็ตาม กัมพูชาจะยังคงตามหาเทวรูปอีก 3 องค์จากเกาะแกร์ที่ยังคงสูญหายอยู่ต่อไป ทั้งนี้ เทวรูปทุรยุทธานาถูกขโมยไปจากปราสาทเจนวัดเกาะแกร์ ในปี 2515 และถูกนำออกประมูลครั้งแรกในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษในปี 2518 ต่อมารูปสลักหินโบราณชิ้นนี้ถูกนำกลับมาประมูลที่โซเธอบีส์ในนิวยอร์ก เมื่อเดือน มี.ค.2554 แต่การประมูลครั้งนี้ต้องหยุดลงหลังทางการกัมพูชา ยื่นเรื่องผ่านองค์การยูเนสโก เราจะย้อนเรื่องราวกลับไปที่ปราสาทหลังนี้อีกครั้ง ผ่านสารคดีของ ARTE France ที่มีชื่อภาษาไทยว่า การค้นพบใหม่ที่เมืองพระนคร ![]() พ.ศ. 2550 นักโบราณคดีเยอรมันใน GCAP team ได้สำรวจปราสาทเจิน แล้วพบส่วนฐานของเทวรูปตกอยู่ที่โคปุระตะวันตก เมื่อไปเปิดหนังสือภาพที่รวมไว้โดย Bunker และ Latchford ในปี 2004 เชื่อว่าฐานนี้น่าจะเข้ากันได้พอดีกับเทวรูปภีมะของพิพิธภัณฑ์ Norton Simon ตั้งอยู่ที่เมือง Pasadena ซึ่งรับซื้อรูปปั้นนี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2523 เค้าจึงส่งจดหมายแจ้งไปยังองค์การยูเนสโก เรื่องนี้ได้เงียบหายไป พ.ศ. 2552 Bourdonneau นักโบราณคดีฝรั่งเศสแห่งสำนักปลายบูรพทิศ มาสำรวจปราสาทเจินเช่นกัน และก็ได้เห็นฐานหินชิ้นเดียวกับชาวเยอรมัน ที่ตอนนี้นักโนราณคดีเชื่อว่า เป็นชิ้นส่วนของเทวรูปภีมะที่พิพิธภัณฑ์ไซม่อน นอกจากนี้ยังมีอีกชิ้นที่ตกอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นชิ้นส่วนฐานของรูปสลักใด ปี 2553 Bourdonneau ได้ไปนำเสนองานวิชาการที่พิพิธภัณฑ์กีเม่ต์ เรื่องฐานหินปริศนาที่เค้ายังไม่ทราบว่าเป็นของรูปสลักใด ผู้เข้าร่วมประชุมได้นำรูปสลักทุรโยชน์มาให้ดูว่าน่าจะต่อเข้าด้วยกันได้ ซึ่งในตอนนั้นอยู่ในการครอบครองของสถาบัน Sortheby’s มีนาคม 2554 สถาบัน Sortheby’s เมือง New York กำลังนำรูปสลักทุรโยชน์ออกมาประมูล ใน Asia week catalogue ผู้สะสมคนหนึ่งได้บอกกับ Bourdonneau ว่า มันเป็นรูปสลักในศิลปะเกาะแกร์ เค้ารีบทำบันทึกถึงยูเนสโกที่กรุงพนมเปญ รัฐบาลกัมพูชาได้ทำหนังสือขอให้สถาบันดังกล่าวส่งรูปสลักคืน ทำให้การประมูลต้องยุติไป ศาลประจำรัฐนิวยอร์กได้ส่งเจ้าหน้าที่ มาเพื่อสอบหาหลักฐานถึงที่มา 13 ธ.ค. 2556 ศาลได้ตัดสินให้สถาบันประมูล คืนรูปสลักทุรโยชน์ให้กัมพูชา ![]() https://www.nara.accu.or.jp/img/dissemination/15th.pdf แต่ในโคปุระทิศตะวันตกที่ปราสาทเจินยังพบชิ้นส่วนฐานอีก 3 ชิ้น ที่เข้ากันได้กับเทวรูปพี่น้องปาณฑพ (Pandava) 2 คน ที่จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art เมืองนิวยอร์ก และรูปสลักพลราม (Balarama) ของสถาบันประมูล Christie’s มีนาคม 2556 การฟ้องร้องต่อศาล ทำให้ MET ส่งคืน รูปสลัก 2 พี่น้องปาณฑพ ให้รัฐบาลกัมพูชา พฤษภาคม 2557 สถาบันคริสตี้ได้ส่งรูปสลักพลรามคืนอย่างสมัครใจ 1 ตุลาคม 2557 รูปสลักทั้งหมดถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์กรุงพนมเปญ 11 พ.ค. 2558 Cleveland Museaum of Art รัฐ Ohio ได้ส่งคืนรูปสลักหนุมานคืนแก่กัมพูชาโดยสมัครใจ โดยสถาบันได้ซื้อชิ้นส่วนที่แตกหักจากประเทศไทยในปี 2511 และ 2515 28 มี.ค. 2559 Denver Art museum ได้ส่งส่วนลำตัวของของพระราม ซึ่งพิพิธภัณฑ์ได้มาเมื่อ พ.ศ. 2529 คืนให้รัฐบาลกัมพูชาโดยสมัครใจ สรุปถึงตรงนี้ รัฐบาลกัมพูชาได้รูปสลักคืนมาแล้ว 7 ชิ้น แบ่งเป็นของที่เคยตั้งอยู่ที่โคปุระทิศตะวันออกจากเรื่องรามายณะ 2 ชิ้น ได้แก่พระรามและหนุมาน และของที่เคยตั้งอยู่ที่โคปุระทิศตะวันตก จากเรื่องมหาภารตะ 5 ชิ้น ได้แก่ ภีมะ ทุรโยชน์ พลราม สองพี่น้องฝาแฝด คำถามสำคัญคือ เคยมีรูปสลักกี่ชิ้นที่เคยตั้งอยู่ที่ปราสาทเจินแห่งนี้ ![]() Bourdonneau แห่งสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบูรพาทิศ EFEO ได้พบหน้าบัน จากปราสาทบันทายศรีที่สลักเรื่องเดียวกันนี้เก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงพนมเปญ ภาพทุรโยชน์กำลังโจมตีภีมะ โดยมีพี่น้องปาณฑพสี่คนเผ้ามอง บวกกับร่องรอยของชิ้นส่วนรูปสลักที่ยังคงตั้งอยู่ที่ปราสาทเจิน 9 ชิ้น ทำให้ได้ภาพสันนิษฐานออกมาเป็น 3D ดังรูป ดังนั้นภาพสลักที่น่าจะเคยมีอยู่จากซ้ายบนคือ เทวรูปสี่กรคือพระกฤษณะ เทวรูปนั่งเอามือวางที่ตักคือพลราม รูปสลักสุดท้ายน่าจะเป็นยุธิษฐิระ เพราะมีท่านั่งเหมือนกับพี่น้องปาณฑฑตรงกลางลานคือภีมะและทุรโยชน์ ฝั่งขวาเป็นเทวรูปนั่งเอามือกอดไหล่ควรเป็นพี่น้องปาณฑพที่เหลือ 3 คน อรชุน และฝาแผด นกุล สหเทพ ทำให้เทวรูปฝั่งซ้ายควรเป็นฝ่ายเการพ การดวลครั้งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 18 อันเป็นวันสุดท้ายในสงคราม แม่ทัพที่สำคัญคือ ท้าวภีษมะและกรรณะได้จบชีวิตลงไปก่อนหน้านี้แล้ว คนที่เหลือรอดของฝ่ายเการพคืออัศวถามา ซึ่งจะถูกพระกฤษณะสาปให้ต้องเดินเป็นคนเร่ร่อนไปอีก 3000 ปี ดูแล้วน่าอัศจรรย์ใจมากที่ปราสาทหลังเล็กขนาดไม่เกิน 20*20 ม. นี้ จะมีรูปสลักที่ถอดมาจากเรื่องมหาภารตะและรามยณะเคยตั้งบูชาอยู่ ส่วนรายชื่อทั้งสี่ที่เป็นสีแดงคือ รูปสลักที่ยังคงหายไป ![]() ---------------------------- 7/8/2560 ไปเจอบทความหนึ่งซึ่งเล่าเกี่ยวกับ เรื่องราวมหากาพย์มหาภารตะ ทำให้ทราบว่า รูปปั้นนี้มีที่มาอย่างไร ผมขอนำมาลงไว้เป็นความรู้ตรงนี้ เมื่อสงครามกำลังก่อตัว ฝ่ายเการพและปาณฑพต่างประสงค์ตัวพระกฤษณะ ให้มาร่วมช่วยเหลือกองทัพฝ่ายตน จึงส่งตัวแทนไปเข้าเฝ้าพระกฤษณะ ปาณฑพส่งอรชุนไป ส่วนฝ่ายเการพทุรโยธน์ไปถึงกรุงทวารกาก่อนแล้ว เมื่อไปถึงปรากฏว่าพระกฤษณะบรรทมหลับอยู่ ทุรโยธน์จึงเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ ใกล้แท่นบรรทมตรงเหนือหัวพระกฤษณะ อรชุนนั่งลงพื้นตรงใกล้ปลายเท้า เมื่อพระกฤษณทราบว่าการมาของทั้งสองคนว่าต่างประสงค์ในสิ่งเดียวกัน เพื่อความเป็นธรรมกฤษณะให้ทั้งสองฝ่ายองค์เลือกระหว่าง ตัวพระกฤษณะเอง แต่มีข้อแม้ว่าจะไม่จับอาวุธ กับ องทัพของพระองค์อันเกรียงไกรที่ชื่อ นารายัน โดยให้สิทธิ์ฝ่ายปาณพพเลือกก่อน เพราะพระองค์ลืมตาขึ้นมาเห็นจึงเห็นอรชุนก่อน อรชุนเลือกพระกฤษณะที่ไม่จับอาวุธ ทุรโยธน์จึงได้กองทัพของกรุงทวารกาไป ช่วงปลายสงครามฝ่ายเการพเพลี่ยงพล้ำจนเกือบพ่ายแพ้ ทุรโยธน์หนีไป พี่น้องฝ่ายปาณฑพตามเจอว่าแอบใต้กอบัวในสระน้ำไทวปายน จึงได้ขอท้าทุรโยธน์มาสู้ตัวต่อตัว ทุรโยธน์จึงขอสู้กับภีมะด้วยคทา มีพลรามและกฤษณะมาชมการต่อสู้ในครั้งนี้ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ทุรโยธน์นั้นเหนือกว่าภีมะมากและภีมะกำลังจะพ่ายแพ้แก่ทุรโยธน์ พระกฤษณะจึงทำเป็นคุยเสียงดังกับอรชุน ถึงคราวที่ฝ่ายปาณฑพเล่นสกาแพ้ เพื่อที่จะกระตุ้นให้ภีมะนึกถึงสิ่งที่ฝ่ายเการพทำกับฝ่ายปาณฑพรวม ให้นึกถึงความอับอายของเทราปตีมเหสีของเหล่าพี่น้องปาณฑพ พร้อมบอกว่าการที่จะต่อสู้แบบยุติธรรมไม่สามารถเอาชนะทุรโยธน์ได้ อรชุนจึงทำท่าลูบหรือตีไปที่หน้าขาของตนส่งสัญญาณให้ภีมะรู้ ทันใดนั้น ภีมะก็ใช้คทาฟาดไปที่หน้าขาของทุรโยธน์ จนกระดูกแตกละเอียดล้มฟุบลงกับพื้นไม่สามารถขยับได้อีก การกระทำเช่นนี้ถือว่าผิดกฎ ที่ห้ามใช้คฑาโจมตีบริเวณที่ต่ำกว่าเอว และได้สร้างความโกรธแค้นแก่พลรามในฐานะของอาจารย์ผู้สอนทั้งสองคน พลรามหยิบคันไถที่ใช้เป็นอาวุธตรงเข้าไปหมายจะสังหารภีมะ พระกฤษณะจึงเข้าขวาง และชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของฝ่ายปาณฑพ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ช่างเขมรเข้าใจในเนื้อเรื่องของมหาภารตะเป็นอย่างดี ถึงได้จับตอนที่สำคัญนี้มาแสดงเป็นรูปศิลาอันงดงามประดับปราสาทนั่นเอง วันก่อนอ่านเจอเทวรูปมีหนวด เป็นของปราสาทที่ อ.โนนสูงโคราชค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ตั้งใจพิมพ์ไม้ยมกเป็นตัวคิวป่าวคะ?
มาอ่านเอาความรู้ต่อ นั่นสินะคะ ทำไมไม่พูดถึงเลยน้อ บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Eat Lek Lek Review Food Blog ดู Blog mambymam Music Blog ดู Blog เกศสุริยง Education Blog ดู Blog กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog จารุพิชญ์ Music Blog ดู Blog ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog kae+aoe Parenting Blog ดู Blog tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog อุ้มสี Diarist ดู Blog ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() เห็นข่าวทวงคืนเทวรูปสำริดประโคนชัยเหมือนกัน แต่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดเลยครับ
พวกที่ไปโผล่ต่างประเทศนี่คนในขโมยไปขายเขาเองทั้งนั้น น่าจะตามจับโจรให้ได้ด้วย พิพิธภัณฑ์หรืองานประมูลก็ไม่น่ารับซื้อของโจรเลย โดย: ชีริว
![]() ![]() สวัสดีอกีรอบค่าา
ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ ไม่ชอบบุฟเฟต์เหรอคะ เราอ้ะชอบมาก ถึงจะกินไม่ได้เยอะก็เหอะ แหะๆ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() อ่านช้า ๆ และอ่านทวนอยู่หลายรอบเลยค่ะ
![]() *** งานหนังสือยังเหลืออีกหลายวันค่ะ ถ้าจะไปเอาเล่มเดียว เหมือนจะไม่คุ้มในการดั้นด้นไปเนาะคะ คุ้น ๆ ว่า จะมีบรรยายเรื่องเศียรพระพุทธรูป วัดพระศรีสรรเพชญ์ วันอาทิตย์ที่ 9 นี้ จะหา link มาแปะ หาไม่เจอค่ะ ทราบข่าวหรือยังคะ โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต toor36 Cartoon Blog ดู Blog We Are FroM BeLGiUM Klaibann Blog ดู Blog กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog เกศสุริยง Education Blog ดู Blog auau_py Review Food Blog ดู Blog ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog ตามมาหาความรู้ค่ะ โดย: อุ้มสี
![]() ![]() เมืองแกนเป็นเมืองที่มีมาตั้งแต่สมัยพญามังรายหรือก่อนนั้นค่ะ
เช่นพญาสามฝั่งแกน บางท่านก็ว่าเพราะท่านประสูติที่ริมฝั่งแม่น้ำแกน เมื่อคราวพญาแสนเมืองมาเสด็จกลับจากสิบสองปันนา เป็นเมืองที่อยู่ใกล้แม่น้ำปิง แม่น้าแกน แม่น้ำงัด มีการค้นพบเตาเผาโบราณเป็นเครื่องเคลือบศิลาดล มีร่องรอยของกำแพงเมืองเก่าเขาว่างั้น แต่เรายังไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหน เป็นทีราบระหว่างภูเขาที่กว้างใหญ่ ขนาดว่าถ้าเดินทางข้ามทุ่งเอาเนื้อตากไว้จะแห้งเลย มีแม่น้ำ อุดมสมบูรณ์ ส่วนตัวนะคะ ดูในกูเกิลแมป เหมือนเป็นเมืองโบราณที่มีขอบเขตเป็นวงรีค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหลืออะไรละนอกจาก เตาเผาอินทขิล ... อินทขิลก็เป็นชื่อของหลักเมืองด้วย แต่ยังหาไม่เจอว่ามีความเป็นมาอย่างไรค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ปล. เป็นวัดใหญ่เพราะคนศรัทธาครูบาเทือง เท่านั้นจริง ๆ ค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() เป็นเรื่องราวน่าสนใจมากค่ะ แต่คนชราต้องค่อยๆอ่าน
วันนี้แวะมาปูพื้น ขอแอดไปก่อน และฝากกำลังใจไว้ด้วยค่ะ แล้วค่อยมาใหม่ รู้ทางแล้วนี่นา พลอยได้อ่านคอมเม้นต์ดีๆของผู้สนใจด้านนี้ด้วย ขอบคุณนะคะ สุขสันต์สงกรานต์ด้วยค่ะ ![]() ![]() ![]() โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า
![]() ![]() สวัสดีอีกรอบค่าา
ข้าวแช่อรอ่ยน้าา แต่หาผู้ชายชอบยากมากๆ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() สวัสดีอีกรอบค่ะ
ส่วนใหญ่ยังไงก็ติดใจหิมะค่ะ แหะๆ แต่เราไม่ค่อยชอบอากาศหนาวๆ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() คงไม่เก่าหรอกค่ะ เพราะเมืองและวัดสร้างตอนสมัย ร.3- ร.4 เองค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() สวัสดีอีกรอบค่ะ
เราก็อยากไปดูนกกระเรียนค่ะ แต่โปรแกรมนี้ไม่มีหละ แหะๆ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() แต่ละจุดแลนด์มาร์คในกรุงเทพฯ จำง่ายอยู่เนาะคะ
ต่างจังหวัดบางเขา บางดอย บางวัด ถ่ายรูปมาวางรวม ๆ แบบนี้ จะดูยากนิดนึงค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() ภาพพระพุทธบาทเขาใส่กรอบกระจกไว้ค่ะ
มิสามารถถ่ายภาพออกมาชัด ๆ ได้เลย มุมกล้องไม่ได้เลย เงาสะท้อนตลอด มองยังมองไม่ชัดเลยค่ะ อิอิ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ปล. ที่นครสวรรค์อยู่บนเขาค่ะ
วัดเขากบ ... วัดวรนาถบรรพต อ.เมือง นครสวรรค์ Read more: https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tuk-tukatkorat&month=09-07-2015&group=26&gblog=96 โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() เอารูปเก่ามาฝากค่ะ
ภาพถ่ายในอดีต ... บนเส้นทางทางที่หนุ่มๆ ขับรถขึ้นมาทัศนศึกษาเชียงใหม่ Read more: https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tuk-tukatkorat&month=04-05-2017&group=31&gblog=55#ixzz4g5pheuSU โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() สวัสดีอีกรอบค่าาา
กร๊ากกก ฮอกไกโดก็มีบึงบังค่า แต่คงอยู่ได้เฉพาะหน้าร้อน หน้าหนาวน่าจะไม่ไหวกันค่ะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() มีรูปเก่าเขาพระวิหารค่ะ
ทั้งในบล็อกแก้งและพันทิปนะคะ แล้วแต่สะดวกค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() มาขอบคุณสำหรับโหวตค่าาา
มิน่าหละ หายไปเลย หายยุ่งแล้วมาอัพบล็อกนะคะ รอๆ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() เพิ่มเติมข้อมูลเที่ยวบินตอนแรกแล้วค่ะ ตี 3 กว่า ... ลืมบวกไปอีก 2 ชม. เวลาบ้านเค้า แก้แล้วอีกเหมือนกันค่ะ
ตอนที่ 2 ชื่อไดเมียว ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวค่อยไปเพิ่มข้อมูล ปราสาทฮิโรซากิ อ่านประวัติผ่าน ๆ เห็นว่าเคยไฟไหม้ไปครั้งนึงค่ะ https://www.talonjapan.com/hirosaki-castle/ ตอนนี้เค้าย้ายตัวปราสาทออกเพื่อซ่อมฐานตรงป้อม เลยย้ายมาวางอีกจุดนึง เห็นเค้าว่าจุดที่ยกมาวาง (ได้ขึ้นไปดูด้านในปราสาทด้วยค่ะ) ดูดีกว่าที่เดิมอีกค่ะ //www.jnto.or.th/newsletter/hirosaki/ ขอบคุณโหวตค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() กำลังจะไปเที่ยววัดเก่าแพรค่ะ เดี๋ยวหาภาพมาฝาก ไม่ค่อยกล้าไปแวะชวนมาบล็อกเพราะเกรงใจ เดี๋ยวจะไปกวนเรื่อย ๆ ละค่ะว่าไปไหนมาจะอวด
โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() เป็ด - เพิ่มเติมข้อมูลแล้วค่ะ
ดีจังค่ะ จะได้เก็บไว้อ่านด้วย ขอบคุณมากค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() บวชช้างในน้ำยมที่หาดเสี้ยวค่ะ
คือตัวอำเภอศรีสัชนาลัย ... บ้านเพื่อนเราเอง อิอิ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ยังยุ่งอยู่เหรอคะ?
ก็ไปสองรอบสิคะ หน้าหนาวกับหน้าร้อนนี่จุดเด่นมันคนละอย่างน้าา โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() พรุ่งนี้ (วันศุกร์) จะลงตอน 3 ค่ะ แต่ตอนนี้ยังทำไม่เสร็จ อาจจะมีเติมรูปอีก แต่พรุ่งนี้ออนแอร์แน่ ๆ ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() เคยไปสองรอบแล้วค่ะ จะชวนคนขับไปอีกเขาก็ดูไม่อยากไป
โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() เดี๋ยวไปเขาอิวากินั่นด้วยค่ะ มองเห็นระยะใกล้ ๆ เสียดายไม่ได้นั่งกระเช้าขึ้นไปด้านบน วันนั้นเค้าปิดไม่ให้ขึ้นค่ะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() เรื่องไม่ควรถ่ายรูปเด็ก... น้องที่ไปด้วยเตือนไว้เหมือนกันค่ะ
![]() วันนั้นขึ้นรถไปแล้ว ก็สอบถามคนขับอีกรอบ (กันพลาด) ค่ะ apple park ? แล้วก็ถามพี่ผู้โดยสารด้วยกัน ตอนลง พี่ ๆ เค้าช่วยบอกว่า ถึงแล้ว ๆ ค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() แต่เดิมอยู่ที่วัดสะดือเมือง (หรือวัดอินทขิล)
ที่หอประชุมติโลกราชข้างศาลากลางหลังเก่า ในสมัยพระเจ้ากาวิละ ครองเมืองเชียงใหม่ ให้ย้ายเสาอินทขิลมาไว้ที่วัดเจดีย์หลวง และได้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ พร้อมทั้งสร้างวิหารครอบไว้เมือปี พ.ศ.2343 ต่อมา วิหารอินทขิลได้ชำรุดทรุดโทรม ปี พ.ศ.2496 ครูบาขาวปี ... ครูบาท่านเป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัย ทางการคือคณะสงฆ์จากส่วนกลางไม่รับให้ท่านบวช ท่านจึงห่มผ้าขาวแทนผ้าเหลือง จึงเรียกครูบาขาวปี๋ ... ได้สร้าง วิหารอินทขิลขึ้นใหม่ ในแบบปัจจุบัน ต่อมาปี พ.ศ.2514 นางสุรางค์ เจริญบุญ ได้บริจาคทรัพย์ 100,000 บาท ทำการซ่อมแซมวิหารอินทขิลอีกครั้ง จำภาพตอนเด็ก ๆ ไม่ได้ค่ะ พยายามหาภาพเก่าก็ไม่มีใครถ่ายเอาไว้ น่าจะ มีมาแต่ครูบาขาวปี๋สร้างน่ะค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ![]() พระพือ พบที่ถ้ำใต้น้ำที่แก่งสะพือ ปัจจุบันอยู่ในอุโบสถ วัดสระแก้ง พิบูลมังสาหาร ว่าจะไปสักวันค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() ดูโยเดียก่อนค่ะ แล้วมาดูชุดนี้ต่อ ถามทีมงานเค้าว่าใช่ทีมเดียวกันหรือเปล่า น้องเค้าบอกไม่ใช่ค่ะ
ชอบภาพ ชอบการดำเนินเรื่อง ชอบบทสัมภาษณ์ ส่วนมากดูย้อนหลังในยูทูปเอาค่ะ ![]() โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ
![]() ![]() เด็นดูการ์ตูนมาค่ะ รู้หมดเลยสัตว์ตัวไหนชื่ออะไร
![]() โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|