เที่ยวทิพย์ : การกลับบ้านของทับหลังปราสาทเขาโล้น (3) ![]() จารึกบ่ออีกา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ศรีจานาศะ เป็นอาณาจักรลึกลับที่เราพบจารึกที่กล่าวถึงการมีอยู่เพียง 2 ที่เท่านั้น จารึกบ่ออีกา (K.400) พบที่เมืองเสมา ทำให้เชื่อว่าอาณาจักรศรีจานาศะนั้นอยู่ที่นี่ มีการกล่าวถึงการพบโดย ศ. เซเดส ที่ด้านทิศใต้ของเมืองนครราชสีมาเก่า โดยไม่ปรากฏปีที่ค้นพบ ปัจจุบันเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ด้านที่ 1 ไม่มีศักราช กล่าวถึงพระราชาแห่งศรีจนาศะได้ถวายสัตว์เลี้ยงและข้าทาสไว้ แด่พระภิกษุสงฆ์เพื่อทรงมุ่งหวังพระสัมมาสัมโพธิญาณ ด้านที่ 2 กำหนดศักราช พ.ศ. 1411 ตรงกับรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 3 ผู้เป็นโอรสในพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ที่เมืองหริหราลัย กล่าวถึงบุคคลชื่อ อังศเทพ ผู้ได้รับดินแดนอันถูกทอดทิ้งนอกกัมพุชเทศ และเรื่องการสร้างศิวลึงค์ทองคำ จารึกนี้ให้เบาะแสว่า ศรีจานาศะเป็นเมืองที่มีการนับถือทั้งพุทธและพราหมณ์ และเมืองนี้ถือว่าไม่อยู่ในขอบเขตของอำนาจของเมืองพระนครหรือกัมพุช จารึกหลักที่ 2 พบเมื่อ พ.ศ. 2482 ในสถานที่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ นั่นคือ สะพานป่าถ่าน พระนครศรีอยุธยา โดยมีเรื่องเล่าว่า มีนักขุดสมบัติจากเมืองเสมาได้พระพุทธรูปและเทวรูป ไปขายที่นั่น แต่ไม่มีใครสนใจจะซื้อจารึกหินที่ไร้ค่า โจรจึงนำไปทิ้งไว้ใกล้กับโบราณสถาน จารึกหลักที่ 117 ปัจจุบันเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ![]() จารึกศรีจานาศะ https://board.postjung.com/1133643 จารึกศรีจานาศะ อักษรเขมร กำหนดศักราช พ.ศ. 1480 ตรงกับสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 ที่เมืองเกาะแกร์ กล่าวถึง การสร้างประติมาที่เป็นเทวี เพื่อเป็นตัวแทนพระราชชนนี โดยมงคลวรมัน น้องชายของศรีนรปติสิงหวรมัน ผู้เป็นอธิบดีแห่งศรีจานาศะ มีจารึกอีกหนึ่งหลักที่ไม่ได้กล่าวถึง ศรีจานาศะ แต่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้คือ จารึกเมืองเสมา เป็นจารึกที่มีความยาว และกล่าวเป็นบทกวีอันสวยงาม ด้านที่ 1 กล่าวถึงการสรรเสริญ ประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ด้านที่ 2 กล่าวถึงพราหมณ์ยัชวราหะ ได้สั่งให้คนไปสร้างรูปพระศิวะ พระพรหมและพระวิษณุ และกล่าวย้อนไปปี พ.ศ. 1468 ตรงกับสมัยพระเจ้าอีศานวรมันที่ 2 โอรสของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ผู้สร้างเมืองพระนคร โดยกล่าวถึงพราหมณ์ชื่อ ศิขรสวามี ได้สร้างประติมาพระศิวะ พระเทวี และพระพุทธรูปในที่ที่แห่งนั้น พ.ศ. 1484 ตรงกับปลายรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 ต่อกับต้นรัชกาลของ พระเจ้าหรรษาวรมันที่ 4 แห่งเกาะแกร์ ศิวะสวามี ได้สร้างศิวลึงค์ขนาดใหญ่ พ.ศ. 1514 ตรงกับสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 สเตงอัญพระครูได้ให้โขลญวิสัยหรือเจ้าเมือง ชื่อศรีทฤฒภักดีสิงหวรมัน ทำพิธีเบิกเนตร พระกมรเตงอัญปรเมศวร ผู้เป็นราชา (เทวรูป) เราไม่สามารถกล่าวได้ว่า เรื่องพราหมณ์ที่มีชื่อก่อนหน้าได้สร้างเทวรูปเพื่อบูชานั้น เป็นช่วงเวลาที่เมืองเสมาเป็นอิสระหรือไม่ จารึกนี้บอกได้เพียงว่า จารึกหลักนี้ต้องเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 และเวลานั้นมีเจ้าเมืองปกครอง ที่ยอมรับอำนาจในพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 และพราหมณ์ยัชวราหะ จากเมืองพระนคร ![]() จารึกศาลสูง ภาษาเขมร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 1 ครองราชย์สั้นๆ เพียง 1 ปี ระหว่าง พ.ศ. 1544-1545 เป็นไปได้มากว่าพระองค์ถูกรัฐประหาร พระเจ้าชัยวีรวรมันได้ครองราชย์ที่เมืองพระนคร พระองค์มีจารึก 12 ที่กระจายอยู่ทั่วกัมพูชา และมีเพียงหนึ่งหลักที่พบนอกเมืองพระนคร หลักที่สำคัญคือ จารึก K. 598 พบที่เมืองพระตะบอง กล่าวถึงการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ในปี พ.ศ. 1545 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับ จารึกกรอบประตูพระราชวังหลวงที่กล่าวย้อนว่า พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ได้ทำพิธีราชาภิเษกเช่นเดียวกัน จารึก K.989 พบที่เมืองพระตะบอง ด้านที่ 1 กล่าวถึงพระนามของพระเจ้าชัยวีรรมัน ด้านที่ 2 ระบุปี พ.ศ. 1551 กล่าวถึงพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 แสดงว่าจารึกหลักนี้ แต่ละด้านเขียนต่างช่วงเวลากัน และปี พ.ศ. 1551 นั้นพระเจ้าชัยวีรวรมันสิ้นอำนาจ จากเขตเมืองพระนครมาอยู่ที่ภาคอีสาน และสั่งให้จารึกเรื่องถวายที่ดินปราสาทพิมาย แต่ต้องถึง พ.ศ. 1553 ที่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 จะได้รับชัยชนะเด็ดขาด มีบางคนให้ความเห็นว่า พระเจ้าชัยวีรวรมันอาจจะมาจากกลุ่มอำนาจมหิธรปุระ เพราะการขาดหลักฐาน ทำให้ต้องมีการคาดเดา แต่ผมคิดว่าไม่ ด้วยหลายเหตุผลว่า พ.ศ. 1560 พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 สร้างปราสาทเขาพระวิหาร จารึกปราสาทเขาพระวิหารกล่าวถึงความซื่อสัตย์ของขุนนางผู้ดูแลกุรุเกษตร ซึ่งสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นปราสาทสระกำแพงใหญ่ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มอำนาจในอีสานใต้ น่าจะเป็นคนที่ช่วยเหลือพระองค์มากกว่าผู้ต่อต้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขุนนางในกลุ่มมหิธรปุระที่ครองอำนาจแถบเขาพนมรุ้ง ![]() ปราสาทพนมรุ้ง คนกลุ่มนี้อาจจะเริ่มมีบทบาท เริ่มจากในรัชกาลนี้ก็ได้ เห็นได้จากการสร้าง ปราสาทพนมรุ้งบนยอดเขาสูงซึ่งควรจะเป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์สร้างมากกว่า การที่มอบสิทธิ์นี้ให้ขุนนางแสดงถึงการให้รางวัลที่ยิ่งใหญ่รวมถึงปราสาทเมืองต่ำ ทั้งสองแห่งนั้นล้วนมีทับหลังที่สอดคล้องกับรัชกาลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ถ้ากลุ่มอำนาจนี้ไม่ได้รับอำนาจตอบแทนเป็นรางวัล ในอีกร้อยปีต่อมานั้น คงยากที่จะเข้าไปช่วงชิงอำนาจในเมืองพระนครในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ได้ ในทางตรงข้ามจารึกกล่าวถึงเมืองละโว้ว่า ถูกทำลายล้างอย่างหนัก จนสัตว์ป่าเสือช้างมาเดินเล่นอยู่ในเมือง แสดงถึงบทลงโทษในฐานะผู้แพ้ และที่สำคัญคือเรื่องของการนับถือศาสนาที่เป็นชนวนนำไปสู่การล้มราชบัลลังก์ จารึกกรอบประตูปราสาทโดนตวล ระบุ พ.ศ. 1445 หรือปีแรกในรัชกาลของ พระเจ้าชัยวีรวรมัน เนื้อความประกาศให้จับทาสนั้น ใช้คำว่าประกาศของบรมบพิตร ในขณะที่จารึกตวลปราสาท (K.158) พบที่กำปงธม กล่าวถึงการตัดสินคดีพิพาท ในที่ดินของสวาหะเทวะ ก็ได้กล่าวถึง คำประกาศของพระบรมบพิตร เช่นกัน เมื่อสิ่งที่เคยเชื่อกันว่า กำตวน ในพระนามของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 หมายถึงมาจากมลายู เชื่อมโยงว่าพระองค์นับถือพุทธมหายาน และได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักฝ่ายสตรี ที่เริ่มฝักใฝ่ในพุทธมหายานตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 นำไปสู่การโค่นราชบัลลังค์ได้นั้น ที่จริงแล้วแล้วเกิดจากการศึกษาจารึกช่วงแรกนั้น ข้อมูลที่ได้มีน้อยจนเกิดความสับสน ![]() https://thai.tourismthailand.org/Attraction/ปราสาทโดนตวล โดยคิดว่าพระเจ้าชัยวีรวรมันคือบุคคลเดียวกับพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ที่เข้ามาชิงอำนาจ โดยเฉพาะจารึกหลักสด๊อกกอกธม ที่ถือว่ามีรายนามพระมหากษัตริย์ที่น่าเชื่อถือที่สุด ในการศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์เมืองพระนครที่ย้อนไปได้ถึงช่วงการก่อตั้งก็ไม่ปรากฏพระนาม ของพระเจ้าชัยวีรวรมัน ซึ่งก็รับฟังได้เพราะผู้จารึกนี้คือโอรสของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ดังนั้นที่เคยคาดกันว่าพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 นับถือพุทธมหายานนั้นอาจเป็นสิ่งตรงข้าม เพราะไม่ปรากฏว่า พระองค์สร้างปราสาทในศาสนาพุทธเลย มีแต่การบูชาพระศิวลึงค์ กษัตริย์ที่นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายานนั้นหมายถึง พระเจ้าชัยวีรวรมัน นั่นเอง เมืองที่เป็นพุทธมหายานที่อยู่ใต้สุดของภาคอีสานในตอนนั้นคือเมืองฝ้าย บุรีรัมย์ ซึ่งมีการพบพระพุทธรูปและเทวรูปพระโพธิสัตว์ที่คล้ายกับกลุ่มศิลปะประโคนชัย ที่เทวรูปกลุ่มนี้นั้น ต่อมาจะถูกนำไปฝังที่ปราสาทปลายบัตไว้อย่างมิดชิด ซึ่งเมื่อมีการตีพิมพ์ภาพเทวรูปกลุ่มประโคนชัยนี้ใน พ.ศ. 2508 ศ. ฌอง บัวเซอลีเยร์ ได้เขียนบทความใน พ.ศ. 2510 โดยกล่าวถึงว่า เทวรูปกลุ่มนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับเมืองศรีจานาศะในจารึกก็เป็นไปได้ หากพระเจ้าชัยวีรวรมันเป็นพุทธมหายาน และมีกำลังพอจะเข้ายึดอำนาจได้ก็คงต้องมีกำลังจากเมืองใหญ่ คือ ละโว้ เสมา และศรีเทพ ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐเครือญาติทีมีชื่อในจารึกว่า ศรีจานาศะหรือไม่ แม้เมืองเสมาจะถูกรุกรานในสมัยชัยวรมันที่ 5 แต่ก็ยังมีเมืองละโว้และศรีเทพที่ยังคงอยู่ และอาจจะกลับมาผนึกกำลังกันอีกครั้ง เพื่อชิงอำนาจจากกษัตริย์เมืองพระนคร แต่ๆๆๆ หลักฐานเดียวที่ยังเหนี่ยวรั้งเรื่องนี้ไว้ได้ ก็คือพระนามของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 หลังการเสด็จสวรรคตซึ่งจะเกี่ยวพันกับความเชื่อของกษัตริย์พระองค์นั้น มีว่า นิวฺวานบท แปลว่า ผู้ถึงแล้วซึ่งนิพพาน เป็นคำที่ไม่น่าสัมพันธ์กับศาสนาพราหมณ์เท่าไหร่ แม้นิพพานเอง จะมาจากแนวคิดเรื่องโมกษะในศาสนาพราหมณ์ แต่ก็เป็นเป็นแนวคิดของทางพุทธมากกว่า ![]() พระโพธิสัตว์ 4 กร พบที่ บ้านฝ้าย จ. บุรัรัมย์ เพราะที่ผ่านมาพระมหากษัตริย์เมืองพระนคร ก็ ต้องการกลับไปรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระศิวะทั้งนั้น จารึกโอเสม็ด Ka. 18 ปี พ.ศ. 1557 กล่าวถึงแม่ทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ได้รุกราน ชาวมอญที่เมืองละโว้ ทำลายพระพุทธรูปจนหมดสิ้น แล้วสถาปนาศิวลึงค์ทองคำ ไม่กี่ปีหลังจากนั้นจารึกศาลสูง พ.ศ. 1565 กล่าวถึงคำสั่งของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ว่า ไม่ให้คนทั่วไปรบกวนการทำตบะของภิกษุมหายานก็ดี สถวีระก็ดี และให้นักบวชเหล่านั้นถวายตบะแก่พระองค์ โดยไม่มีการกล่าวถึงพวกพราหมณ์ที่พระองค์ควรจะทำนุบำรุงเป็นศาสนาหลัก แม้โดยรอบปราสาทพิมาย จะมีทับหลังสลักเรื่องราวเกี่ยวกับรามายาณะ แต่ทับหลังด้านในปราสาทประธานก็มีแต่เรื่องราวในพุทธศาสนาทั้งสิ้น ดังปรากฏในจารึกปราสาทพิมาย 2 (K.953) ด้านที่ 1 กำหนดศักราช พ.ศ. 1579 เนื้อความถึงการสรรเสริญพระพุทธเจ้า ด้านที่ 2 กำหนดศักราช พ.ศ. 1589 กล่าวถึงพระนาม ศรีสุริยวรมัน แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 แม้จะทรงนับถือพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย แต่ก็ทรงยอมรับปราสาทพิมายให้เป็นศูนย์กลางพุทธสถานในแถบพื้นที่นี้ หรือว่าในช่วงปลายรัชกาล พระองค์จะมีการเปลี่ยนแปลงความเชื่อ เรายังไม่มีคำตอบเรื่องนี้
เห็นหลักศิลาตจารึกแล้วนึกถึงละครอมฤตาลัยเลยครับ ไม่รู้ทำไม อิอิอิ
โดย: ทนายอ้วน
![]() ![]() สวัสดีครับ
รายละเอียดประวัติศาสตร์เยอะมากๆ เลย จารึก หลักที่2 ที่ จขบ. บรรยายไว้ ที่รอดสายตาโจรมาได้ คงเพราะของต้องการผู้ที่เก็บรักษาอย่างที่แท้จริงนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยนะครับ โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา
![]() |
บทความทั้งหมด
|