เหตุการณ์ รศ. 112 (7)


เรือสลุปแองคองสตังค์ระวางขับน้ำ 825 ตัน ปืนใหญ่ขนาด 14 ซม. 3 กระบอก
ปืนใหญ่ขนาด 10 ซม. 1 กระบอก ปืนกล 37 มม. 5กระบอก

เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศของไทยมีโทรเลขถึงพระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์
อัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีสความว่าราชทูตฝรั่งเศสได้มาหาเย็นวานนี้
และมีหนังสือมาถึงหลายฉบับความว่าอังกฤษได้ให้เรือรบเข้ามาป้องกันคนในบังคับอังกฤษ
เหตุนี้ประเทศฝรั่งเศสก็จะทำตามบ้างจะให้เรือรบเข้ามาอีกสองลำในวันที่ 15 กรกฎาคม

ฝ่ายเราอนุญาตไม่ได้ด้วยเรือรบอังกฤษจอดอยู่ในลำน้ำเจ้าพระยาเพียงลำเดียว
และต้องบอกว่าการยอมให้เรือรบเข้ามาในกรุงเทพได้ทำให้เสียความเป็นเอกราชของไทย
ฝ่ายเรามีอำนาจอันชอบธรรมที่จะไม่ยอมให้เรือรบเข้ามาในลำน้ำเพื่อจะแสดงความขู่เข็ญ
ให้อัครราชทูตไทยนำความไปแจ้งแก่เสนาบดีต่างประเทศฝรั่งเศส
และพูดจาว่ากล่าวให้ได้การดีที่สุดแล้วโทรเลขตรงมาให้ทราบ

12 กรกฎาคม พ.ศ.2436 เสนาบดีว่าการต่างประเทศของไทยมีหนังสือถึง ม.ปาวีความว่า
จากการสนทนากันวันนี้ถึงแม้ว่าทาง ม.ปาวีคงจะยืนยันที่จะให้เรือแองดองสตังค์
และเรือโคเมตเข้ามาจอดอยู่เพียงปากน้ำก็ดีถือว่าเป็นหน้าที่จะต้องคัดค้านไม่ยอมเลยเป็นอันขาด
จึงได้มีคำสั่งต่อกรมทหารบก กรมทหารเรือให้จัดการตามนี้โดยกวดขัน

เวลาเช้าพรุ่งนี้กรมทหารเรือจะให้เรือกลไฟลำหนึ่งมาที่สถานฑูตฝรั่งเศส
สำหรับใช้มาที่เรือแองคองสตังค์และเพื่อจะได้ส่งข่าวไปตามที่จะดำริเห็นควร

กองเรือฝรั่งเศสได้มาถึงปากน้ำเจ้าพระยา มีเพียงเวลาตอนเย็นเดียวเท่านั้น
ที่ระดับน้ำสูงพอที่จะให้เรือแองคองสตังค์ ซึ่งกินน้ำลึก 4.2 เมตร ผ่านสันดอนเข้าไปได้
เรือโคแมตเข้าเทียบรับถ่านหิน 20 ตัน เสร็จการขนถ่านแล้วผู้บังคับการเรือทั้งสองลำ
ได้ร่วมกันอ่านโอวาทของผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลใจความว่า

รัฐบาลฝรั่งเศสประสงค์จะบีบบังคับประเทศไทย ในเหตุการณ์ทางชายแดนที่เกิดขึ้น
กองเรือจะต้องเดินทางไปจอดที่สมุทรปราการในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น โดยอาศัยสิทธิ
ตามสนธิสัญญาที่ได้ทำความตกลงกับ ม.ปาวี กองเรือจะเดินทางเข้ากรุงเทพ
ในเย็นวันที่ 14 กรกฎาคมพ.ศ.2436 จะได้ชักธงราวแต่งเรือในวันชาติ

การปรากฏตัวของเรือทั้งสามลำคงจะทำให้พระเจ้าแผ่นดินไทยต้องทรงตรึกตรองด้วยดี
ในเรื่องเกี่ยวกับการปล่อยตัวร้อยเอกโทเรอซ์ การจ่ายเงินค่าทำขวัญ
และการทำอนุสัญญาเพื่อกำหนดเขตแดนของลาว ญวน และเขมร

หากเรือแองคองสตังค์เกยตื้นเข้าไปไม่ได้ เรือโดแมตก็จะเดินทางต่อไปเพียงลำเดียว
ถ้าฝ่ายไทยใช้ปืนป้อมยิงมายังก็ทำการยิงตอบโต้




เรือปืนโคแมตระวางขับน้ำ 495 ตัน ปืนใหญ่ 14 ซม. 2 กระบอก
ปืนใหญ่ 10ซม. 2 กระบอก ปืนกล 37 มม. 2กระบอก

13 กรกฎาคม พ.ศ.2436 เรือรบอังกฤษจากสิงคโปร์มาจอดทอดสมอนอกสันดอนอีก 2 ลำ
นอกจากเรือสวิฟท์ที่จอดทอดสมออยู่หน้าสถานทูตที่บางรักจำนวน 1 ลำตามสนธิสัญญาแล้ว

อัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีสโทรเลขถึงเสนาบดีกระทรวงต่างประเทศความว่า
ได้แจ้งต่อเสนาบดีฝรั่งเศสผู้ว่าการต่างประเทศแล้ว ฝรั่งเศสบอกว่าไม่ได้มุ่งหมาย
จะให้เรือรบเข้าไปในกรุงเทพเพื่อขู่ไทยเลยแต่มีความประสงค์อย่างเดียวกันกับ
รัฐบาลอังกฤษเท่านั้น และจะมีโทรเลขมาถอนคำสั่งเดิมเรื่องเรือรบนี้เสีย

ฝ่ายไทยเตรียมการรับเสด็จอาร์ชดยุคออสเตรียซึ่งกำหนดว่าจะมาถึงปากน้ำเจ้าพระยา
จึงได้จัดส่งเรือมกุฏราชกุมาร เรือนฤเบนทร์บุตรีและเรือหาญหักศัตรูออกไปรับที่ปากน้ำนอกสันดอน

ยามบ่ายพระยาชลยุทธโยธินที่ออกไปพร้อมกับเรือเรือมกุฎราชกุมารได้ข่าวว่าเรือพระที่นั่ง
ของอังกฤษและเยอรมันที่เป็นเรือที่ประทับของอาร์ชดยุคออสเตรียยังเดินทางมาไม่ถึง
จึงสั่งให้เรือที่ไปเฝ้ารับเสด็จกลับเข้ามาประจำที่ พระยาชลยุทธโยธินขึ้นฝั่งมาประจำที่ป้อม

โดยมีเรือนฤเบนทร์บุตรีและเรือทูลกระหม่อมจอดอยู่ถัดไปทางฝั่งเดียวกันตรงแหลมฟ้าผ่า
ทางฝั่งตะวันออกของช่องเดินเรือมีเรือมูรธาวสิตสวัสดิ์กับเรือหาญหักศัตรูจอดอยู่
รวมเรือรบฝ่ายไทยที่คอยต้านทานอยู่ในแนวป้องกัน รวม 5 ลำด้วยกัน

นอกแนวป้องกันออกไปมีสนามทุ่นระเบิดบังคับการยิงจากเรือยิงทุ่นระเบิด
ซึ่งจอดอยู่ทางฝั่งตะวันตกใกล้เรือทุ่นไฟที่แหลมลำพูราย
มีสถานีโทรเลขสำหรับรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้าไปยังกรุงเทพ

16.00 น. หมู่เรือฝรั่งเศสมองเห็นแนวชายฝั่งประเทศไทย
17.00 น. หมู่เรือฝรั่งเศสมาถึงสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาและหยุดเรือโดยไม่ทอดสมอ
อยู่ใกล้ ๆ กับเรือนำร่องกับเรืออรรคราชวรเดชซึ่งมีกัปตันวิล สัญชาติเยอรมันประจำอยู่
กัปตันวิลได้ขึ้นไปบนเรือแองคองสตังต์ห้ามปรามมิให้เรือรบฝรั่งเศสเดินทางเข้าไป

เรือกลไฟไทยเข้าเทียบเรือแองคองสตังต์ โดยมีนายทหารประจำเรือลูแตง
เอาถุงไปรษณีย์มาให้ด้วย
เจ้าพนักงานผู้นั้นมาห้ามมิให้นำเรือเข้าไปและไม่ยอมบอกอัตราน้ำที่สันดอน
ผู้บังคับการเรือพาลลาสได้ส่งนายเรือเอก เอดเวิดส์ นายทหารฝ่ายพลาธิการขึ้นไปบนเรือแองคองสตังต์
เพื่อแจ้งให้ทราบว่าราชทูตฝรั่งเศสให้มีคำสั่งมาให้เรือรบฝรั่งเศสจอดทอดสมออยู่นอกสันดอนก่อน

แต่ผู้บังคับการเรือแองคองสตังต์ไม่ฟังการห้ามปราม ทุกคนที่ขึ้นไปบนเรือจึงล่ากลับ
ม.วิเกล กัปตันเรือบัปติสต์เซย์ เรือสินค้าของบริษัทเมสซาเยอรี พลูวิอัลส์
ซึ่งเป็นเรือเดินประจำระหว่างไซ่ง่อนกับกรุงเทพจึงมีความชำนาญในการนำเรือ
ในร่องน้ำปากอ่าวเจ้าพระยาได้ขึ้นมาที่เรือแองคองสตังต์เพื่อเป็นเจ้าหน้าที่นำร่อง



Create Date : 25 มกราคม 2555
Last Update : 25 มกราคม 2555 15:22:29 น.
Counter : 2552 Pageviews.

4 comments
สรุปวิชาสังคมไทยสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 เรื่องปราชญ์ท้องถิ่น นายแว่นขยันเที่ยว
(10 เม.ย. 2567 03:05:45 น.)
สุริยุปราคา อเมริกา /นิวยอร์ก อินเดียน่า เทกซัส newyorknurse
(9 เม.ย. 2567 04:13:31 น.)
9 แนวคิดที่ทำให้เรามีชีวิตประจำวันที่ดีกว่าเดิม peaceplay
(31 มี.ค. 2567 09:18:27 น.)
เรื่อง ที่เตือนมาจากทนายความ ควรหลีกหนี 20 เรื่องเหล่านี้เพราะ..... newyorknurse
(28 มี.ค. 2567 02:09:48 น.)
  
อ่านแล้วก็ ในหลวงท่านก็หนักอกอยู่นะคะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:14:15:35 น.
  
เราก็เป็นคนเดินเร็วนะคะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 มกราคม 2555 เวลา:16:46:13 น.
  
เคยไปเที่ยวป้อมพระจุล สงสัยว่า ทำไมวันนั้น น่าจะยิงโดนเรือไอ้พวกฝรั่งเศษจมให้หมด และถ้าจมหมดทุกลำที่ล่วงเข้ามา จะเกิดเหตุอะไรต่อ น่าคิด
โดย: NATSKI13 วันที่: 27 มกราคม 2555 เวลา:9:08:48 น.
  
ถ้าว่ากันตามศักยภาพเรือรบที่เรามีอยู่ เปรียบเทียบกัน พอสู้เค้าได้ไหมคะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:17:21:47 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Nontree.BlogGang.com

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]

บทความทั้งหมด