เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (9) เมื่อเหตุกาณ์การชิงตัวนางเทราปตีสงบลง พี่น้องปาณฑพทั้งห้าจึงพากันไปเฝ้าท้าวทรุปัท เมื่อท้าวทรุปัทเห็นเหน้าพี่น้องทั้งหลายก็รู้ว่า พรที่ขอคราวนั้นสัมฤทธิ์ผลแล้วหนึ่งข้อ คือได้อรชุน นักรบที่มายึดแคว้นปัญจาละคราวนั้นมาเป็นลูกเขย พวกพี่นองปาณฑพก็อาศัยอยู่ที่แคว้นปัญจาละด้วยความสุขเรื่อยมา แต่แล้ววันหนึ่งก็มีพราหมณ์เฒ่ากระหืดกระหอบเข้ามาหาอรชุน แล้วบอกว่าแม่โคของตนนั้นถูกคนขโมยไป อรชุนได้ฟังดังนั้นด้วยความร้อนใจที่จะออกไปช่วยพราหมณ์ จึงวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อหยิบอาวุธ แต่ในห้องนั้นก็มีนางเทรปตีและยุธิษฐิระนั่งคุยกันอยู่ อรชุนคว้าอาวุธได้ก็วิ่งออกไปช่วยพราหมณ์ทันที เมื่ออรชุนกลับมาก็รู้สึกตัวว่าตนเองละเมิดข้อตกลงกันไว้ อรชุนจึงต้องเดินทางออกไปพเนจรเป็นเวลา 12 ปี ซึ่งช่วงเวลานี้ อรชุนก็ได้ภรรยาและลูกชายหลายคน แต่คนที่เป็นนักรบที่มีชื่อในสงครามที่สุด ก็คือ อภิมันยุ บุตรของนางสุภัทรา น้องสาวของพระกฤษณะ แห่งแคว้นทวารกานั่นเอง ซึ่งพระนางกุณตีเองก็เป็นน้องสาวของของท้าววาสุเทพ บิดาของพระกฤษณะอีกด้วย (นารายณ์อวตารปางที่ 8 กำเนิดของพระกฤษณะ) หลังจากที่ท้าวธฤตราษฏร์ทราบข่าวว่าเหล่าพี่น้องปาณฑพยังมีชีวิตอยู่ จึงได้ปรึกษาหารือกับภีษมะว่าจะทำอย่างไร เพราะหนึ่งแคว้นย่อมมียุพราชได้เพียงคนเดียว และตอนนี้ก็ตกอยู่กับทุรโยธน์ จะคืนตำแหน่งให้ยุธิษฐิระก็ไม่ได้ ภีษมะจึงตอบว่า ให้แบ่งพื้นที่แคว้นกุรุออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งให้พี่น้องปาณฑพอีกส่วนหนึ่งเป็นของพี่น้องเการพ เมื่อได้ฟังดังนั้น ท้าวธฤตราษฏร์จึงเรียกทุรโยธน์และยุธิษฐิระมาเข้าเฝ้า ทุรโยธน์เลือกส่วนที่เป็นกรุงหัสตินาปุระ อันเป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน ฉนั้นยุธิษฐิระจึงได้พื้นที่ส่วนนอกที่แห้งแล้งไป และแล้วเหล่าพี่น้องปาณฑพก็เดินทางไปยังพื้นที่ ก่อร่างสร้างเมือง ปรับพื้นที่แห้งแล้งให้เขียวชอุ่ม โดยความช่วยเหลือของพระกฤษณะ แล้วจึงให้ชื่อเมืองหลวงของพวกตนว่า กรุงอินทปัฏฐ์ เมื่อทุรโยธน์ ได้เห็นว่าเมืองอินทปัฏฐ์นั้นเจริญก้าวหน้า ประชาชนมั่งคั่ง ทุรโยธน์จึงกริ่งเกรงว่าต่อไปพลเมืองของตนอาจจะย้ายไปอยู่กับพวกปาณฑพจนหมดสิ้น จึงไปปรึกษากับท้าวสกุณิ ผู้เป็นลุงอันเชี่ยวชาญการทอดสกาอย่างหาไม่อาจผู้ใดจะเปรียบได้ เพราะทุรโยธน์รู้ว่ายุธิษฐิระพี่ใหญ่ของพวกปาณฑพนั้น ติดการเล่นสกางอมแงม มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ จึงส่งสาร์นไปเชิญมาเล่นสกาด้วยกันที่กรุงหัสตินาปุระ แม้ว่าพี่น้องทั้งหมดและนางเทราปตีจะห้ามปรามอย่างไร ยุธิษฐิระก็หาฟังไม่ เมื่อต้องเล่นกับเซียนสกาอย่างท้าวสกุณิ ยุธิษฐิระก็กลายเป็นสมันน้อยอย่างไม่ต้องสงสัย ข้าวของทุกสิ่งที่ติดตัวมาหมดไปก็ยังไม่พอ ยังเดิมพันด้วยกรุงอินทปัฏฐ์ ไล่ไปจนถึงพี่น้องของตนเองและนางเทราปตีผุ้เป็นมเหสี สุดท้ายยุธิษฐิระก็พนันกระทั่งตัวเอง เมื่อแพ้พนัน ทุรโยธน์จึงให้กรรณะและพหุสาสันไปนำตัว นางเทราปตีออกมายังท้องพระโรง มิไยที่พระนางจะห้ามปราม แต่กรรณะและพหุสาสันก็ลากนางออกไปจนได้ เมื่อมาถึง ทุรโยธน์ก็เรียกนางไปนั่งที่ตัก นางไม่ทำตามจึงถูกพหุสาสันจิกผมและดึงผ้านุ่งให้หลุดจากตัว แต่เหมือนเทวดาเห็นใจไม่ว่าจะดึงผ้าอย่างไร ก็เหมือนผ้านั้นจะมีความยาวไม่สิ้นสุด เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก เมื่อเรื่องราวเริ่มจะเกินเลยไปมากแล้ว ท้าวธฤตราษฏร์จึงได้เข้ามาไกล่เกลี่ยให้เลิกแล้วต่อกัน ให้การพนันครั้งนั้นเป็นโมฆะ แต่นางเทราปตีนั้นสุดแสนจะแค้นใจ จึงกล่าวคำสาปไว้ว่า ทุรโยชน์นั้นต้องถูกภีมะทุบเข่าจนหัก เพราะบังอาจเรียกนางไปนั่งที่ตัก กรรณะจะต้องถูกอรชุนฆ่าตาย และทุหศาสันผู้ที่กระทำการหยาบช้าที่สุด จะต้องถูก ภีมะแหกอกและดื่มเลือดจนตายจึงจะสมใจนาง ตัวละครเริ่ม เพียบ
![]() โดย: tuk-tuk@korat
![]() ฉันจะสาปให้เธอเสียใจไม่ต่างกับฉัน
ฉันจะสาปให้เธอรับกรรมที่ทำเอาไว้ ให้ความเจ็บมันสอน อย่าได้ไปทำกับใคร เพราะที่ฉันเจ็บ ไม่ว่านานเพียงไร ฉันไม่ให้อภัย วันนี้ตอนอวสานแล้ว....สาปภูษา โดย: VET53
![]() เมื่อคืนก็ดูค่ะ สาปภูษานาน นาน ดูที
อ่านมหาภารตยุทธ์ภาค VET53 อ่านเข้าใจง่ายค่ะ แต่ต้องเปิดกลับไปดู flow chart ที่ทำไว้ตอนอ่านถึงจะจำได้ว่าใครเป็นใครค่ะ ไปเขมรไปเอง 4 คนค่ะ เปิดเน็ตเช่าโรงแรมเองทำ e-visa จากไทยเลย ไปบางกอกแอร์เวย์ลงที่เสียมราฐเลย (แต่เราว่าค่าเครื่องแพงไป ขากลับก่อนขึ้นเครื่องเสียค่าภาษีสนามบินอีก 25 usd ) ไปรถเขาเข้าทางด่านอรัญกันค่ะถ้าถูกหน่อยแต่เสียเวลา ซื้อหนังสือ TRIPS เรื่องนครวัดนครธมไป ที่แรกก็ว่าจะไปจ้างไกด์ภาษาไทยที่โน่น เขาคิดวันละ 35 usd เลยถอย ก็เหมารถตู้ (มีแอร์)วันละ 25-35-45 usd แล้วแต่เส้นทาง ขับอย่างเดียวค่ะพูดไทยไม่ได้ อังกฤษไม่ได้ขอแผนที่จากโรงแรม รถตุ๊ก ๆ ก็มีแต่ร้อนหน่อย ถูกลง แต่เห็นเขาพูดภาษาอังกฤษได้ เคยเห็นเขาบริฟนักท่องเที่ยวก่อนปล่อยเที่ยว เก่งจริง ๆ แต่ไม่ใช่ไกด์คงนำเที่ยวไม่ได้ผิดกฎหมายเขามั้ง พอไปมีแรงก็เก็บภาพลูกเดียวค่ะ บางทีก็เดินตามลูกทัวร์ไกด์อังกฤษ หรือ ภาษาอื่นไม่รู้เรื่องก็เล็งว่าเขาจอดตรงไหนก็แปลว่านี่แหละต้องถ่าย ก่อนถึงที่เที่ยวอยู่ในรถก็จะอ่านทริปคร่าว ๆ ก่อน แต่ที่รู้มากจริงๆก็เอามาลงบล็อกนี่ค่ะต้องอ่านหลาย ๆที่สรุปแล้วเอามาเขียน มาดูรูป เออ ก็เข้าเค้า ถ่ายรูปได้สาระกะเขาเหมือนกันนะเรา ![]() โดย: tuk-tuk@korat
![]() |
บทความทั้งหมด
|