เหตุการณ์ รศ. 112 (11) ![]() สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ ผู้ตัดสินพระทัยขอความคุ้มครองจากฝรั่งเศสและตัดความสัมพันธ์กับกรุงเทพ ม.เดอแวลล์ ได้ยื่นบันทึกทำนองคำขาดเพิ่มเติมให้ไทยยอมรับอีกฉบับหนึ่งความว่า การที่รัฐบาลไทยชักช้าไม่ยอมรับคำเรียกร้องของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ยื่นไปนั้น สมควรที่รัฐบาลฝรั่งเศสจะต้องทวีข้อมัดจำยิ่งขึ้นฝรั่งเศสจะยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้ จนกว่ากองทหารไทยที่ตั้งมั่นอยู่บนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงจะถอนไปสิ้นและเกิดความสงบเรียบร้อย และไม่ให้เกิดความยุ่งยากขึ้นในบริเวณทะเลสาบรัฐบาลไทยจะต้องไม่รวมกำลังทหารใดๆ ไว้ที่เมืองพระตะบองและเสียมราฐ รวมทั้งเขตที่ตั้งอยู่ในระยะรัศมี 24 กิโลเมตรบนฝั่งขวาแม่น้ำโขง นับแต่ดินแดนเขมรขึ้นไป กับห้ามไม่ให้รัฐบาลไทยใช้หรือให้เรือหรือพาหนะทางเรือใด ๆ ที่ติดอาวุธเดินไปมาในทะเลสาบเขมรและในลำน้ำโขง รัฐบาลฝรั่งเศสจะสงวนไว้ซึ่งสิทธิที่จะตั้งกงสุลไว้ที่เมืองนครราชสีมาและเมืองน่าน เมื่อรัฐบาลไทยรับปฏิบัติตามนี้แล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสจะได้เลิกปิดอ่าวทันที 1 สิงหาคม พ.ศ. 2436 พระองค์เจ้าวัฒนานุวงศ์ อัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีสได้แจ้งแก่ ม.เดอแวลล์ว่ารัฐบาลไทยยอมรับคำขาดและบันทึกเพิ่มเติมทุกประการ ม.เดอ แวลล์ จึงได้มีโทรเลขสั่งการไปยัง ม.ปาวี ความว่า รัฐบาลไทยยอมรับข้อรับประกันเพิ่มเติมที่ฝรั่งเศสเรียกร้องไปตามบันทึก กรมหลวงเทวะวงศ์ก็คงจะได้แจ้งแก่ตัวท่านเองว่า รัฐบาลไทยยอมรับแล้ว เมื่อท่านได้แลกเปลี่ยนสาส์นเป็นลายลักษณ์อักษรถึงการยอมรับคำขาด และข้อรับประกันเพิ่มเติมกับกรมหลวงเทวะวงศ์เป็นการถูกต้องแล้ว ให้ท่านแจ้งแก่นายพลเรือฮูมานน์ให้เลิกการปิดอ่าว แต่ให้ยึดปากน้ำและ เมืองจันทบุรีไว้ตามเดิม อนุญาตให้ไปเจ้าหน้าที่ทูตกลับไปประจำที่กรุงเทพได้ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2436 12.๐๐ น. นายพลเรือตรี ฮูมานน์ผู้บัญชาการกองเรือฝรั่งเศสในอ่าวไทย ยกเลิกประกาศการปิดอ่าว 8 สิงหาคม พ.ศ. 2436 ม.ปาวี ได้โดยสารเรือ อาลูแอตต์ เข้าไปสถานฑูตฝรั่งเศส 9 สิงหาคมพ.ศ. 2436 กองเรือฝรั่งเศสทั้งหมดเดินทางกลับไปไซ่ง่อน คงเหลือแต่เรืออาลูแอตต์ ส่วนเรือลูแตงประจำอยู่กับกองทหารฝรั่งเศสที่ยึดจันทบุรี เรือปาแปงไปรับ ม.เลอมีร์ เดอวิเลร์ส ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจในการทำสนธิสัญญากับไทยที่สิงคโปร์ ![]() นครวัดจำลอง อนุสรณ์แห่งความทรงจำว่าที่นี่นั้นเคยเป็นขอบขัณฑสีมาของไทย 3 ตุลาคมพ.ศ. 2436 ได้มีการทำสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสมีรายละเอียดดังนี้ 1.ไทยจะยอมสละกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเหนือดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงรวมทั้งบรรดา เกาะ ทั้งหมดที่อาจมีขึ้นเมื่อน้ำลดหรือในบรรดาที่มีมาก่อนแล้วนั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ของฝรั่งเศส 2.ไทยจะไม่มีเรือรบไปไว้หรือใช้ดินแดนในทะเลสาบหรือลำน้ำที่แยกจากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการกำหนดกันไว้แล้ว 3. ไทยจะต้องไม่มีค่ายทหารในเขต 25 กม. ตลอดแนวแม่น้ำรวมทั้งพระตะบองและเสียมเรียบ 4. การป้องกันเมือง หรือเขตที่กำหนดในข้อ 3 สามารถทำได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น 5. ไทยและฝรั่งเศสจะทำสัญญาการค้าในเวลา 6 เดือนนับจากนี้และไม่เก็บภาษีระหว่างกัน 6. ในการสร้างท่าเรือหรือกิจกรรมต่างๆ ตามลำแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง ถ้าฝรั่งเศสร้องขอความช่วยเหลือ เช่น การใช้พื้นที่ไทยจะไม่ปฏิเสธและจะให้ความช่วยเหลือในทันที 7. ไทยจะให้ความสะดวกแก่คนในบังคับฝรั่งเศสในการเข้าออกไปมาในเขตที่ได้มีการกำหนดในข้อ 3 8. ฝรั่งเศสสามารถตั้งกงศุลได้ตามที่เห็นสมควร 9. ถ้ามีความเห็นหรือความเข้าใจที่ไม่ตรงกันในสัญญาฉบับนี้ ให้ถือเอาภาษาฝรั่งเศสป็นหลัก 10. สัญญานี้ให้มีผลบังคับใช้ใน 4 เดือนนอกจากสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาความว่า 1. กองทหารกองสุดท้ายของไทยบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงจะต้องถอนออกไป อย่างช้าที่สุดในหนึ่งเดือนนับจากวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2436 2. บรรดาป้อมปราการที่อยู่ในเขตที่ระบุไว้ในข้อ 3 แห่งสัญญาที่ได้ลงนามกัน ในวันนี้นั้นจะต้องรื้อถอนให้หมดสิ้น 3.ผู้เป็นตัวการก่อเหตุร้ายที่ทุ่งเชียงคำและที่คำม่วนนั้น เจ้าพนักงานฝ่ายสยาม จะต้องนำตัวมาพิจารณาลงโทษ ผู้แทนรัฐบาลฝรั่งเศสคนหนึ่งจะมาทำการพิจารณาพิพากษาด้วย รัฐบาลฝรั่งเศสคงสงวนไว้ ซึ่งสิทธิที่จะเห็นชอบด้วยถ้าไม่เห็นชอบด้วยแล้ว จะได้ร้องขอให้มีการพิจารณาคดีนั้นโดยศาลผสม ซึ่งฝรั่งเศสเป็นผู้จัดการตั้งตุลาการ 4. รัฐบาลสยามจะต้องส่งมอบบรรดาคนในบังคับฝรั่งเศส คนญวน คนลาวที่อยู่ทางฝั่งซ้าย รวมทั้งคนเขมรที่จับกุมเอาไว้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ตามที่ราชฑูตฝรั่งเศสประจำกรุงเทพ จะได้กำหนด หรือส่งมอบให้แก่เจ้าพนักงานฝรั่งเศสประจำพรมแดน รัฐบาลสยามจะไม่ทำการขัดขวางการเดินทางกลับถิ่นเดิมของผู้คนที่เคยอยู่ทางฝั่งซ้าย 5. ผู้แทนเสนาบดีว่าการต่างประเทศคนใดคนหนึ่ง จะต้องนำบางเบียนแห่งทุ่งเชียงคำ และพรรคพวกพร้อมทั้งเครื่องอาวุธและธงฝรั่งเศส ซึ่งเจ้าพนักงานฝ่ายสยามยึดคร่าไว้นั้น มาส่งมอบให้สถานฑูตฝรั่งเศส 6. รัฐบาลฝรั่งเศสจะคงยึดครองเมืองจันทบุรีไว้จนกว่ารัฐบาลสยามจะได้ปฏิบัติตามนัย แห่งอนุสัญญานี้แล้ว เช่นการถอนทหารกลับมาเสร็จสิ้นแล้ว และมีความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้นแล้ว ทางฝั่งซ้ายและในเขตที่ระบุไว้ในข้อ 3 แห่งสัญญาที่ได้ลงนามกันในวันนี้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการยึดครองเมืองจันทบุรีที่ต่อเนื่องยาวนานไปอีกหลายปี นำไปสู่การสูญเสียดินแดนฝั่งตรงข้ามกับหลวงพระบางและจำปาศักดิ์ ก่อนที่ฝรั่งเศสจะถอนกำลังไปยึดครองเมืองตราด ที่ไทยต้องแลกกลับมาด้วย ดินแดนเขมรส่วนในอันประกอบไปด้วยพระตะบอง เสียมเรียบและศรีโสภณ ทุคคนก็ต้องดิ้นรนที่จะไขว่คว้าหาสิ่งที่คิดว่าดีเสมอ
โดย: tuk-tuk@korat
![]() คำว่าวิหารลายคำ หมายถึงวิหารที่มีการวาดลวดลายโดยใช้ทองคำ ( เปลว )
หอคำ ภาษาล้านนา ไทใหญ่ ไทลื้อ และแถบนี้ทั้งหมดใช้ แปลว่าที่อยู่ของพระเจ้าแผ่นดิน ถ้ามีคำว่าหลวงก็แปลว่ายิ่งใหญ่ หอคำ เหมือนคำว่า คุ้มหลวง คุ้ม น่าจะแปลว่า วัง ... ที่อยู่ของเชื้อพระวงศ์ อ่านดูพบว่าคำว่า พระราชวัง หรือพระบรมมหาราชวังมาจากภาษาเขมร ค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() |
บทความทั้งหมด
|