เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (3)
ย้อนกลับมาที่โลกมนุษย์ ท้าวศานตนุ
เมื่อได้เป็นพระราชาผู้ครองกรุงหัสตินาปุระ แห่งแคว้นกุรุ
วันหนึ่งได้ไปประพาสที่ริมแม่น้ำได้พบสาวงามผู้หนึ่ง
นั่นคือพระแม่คงคาแปลงกายลงมานั่นเอง ท้าวเธอก็ถูกใจนางเป็นอันมาก
จึงอ้อนวอนขอให้นางมาเป็นมเหสี เจ้าแม่คงคาก็ตอบตกลง
แต่มีข้อแม้ว่า ในอนาคต ไม่ว่านางจะทำอะไร
ห้ามไม่ให้พระองค์ตั้งคำถาม หรือขัดขวางเป็นอันขาด
ท้าวศานตนุก็รับปาก
เจ้าแม่คงคาจึงมาอยู่กินกับท้าวศานตนุ
ไม่นานพระแม่คงคาก็ทรงครรภ์และคลอดพระโอรสออกมาหนึ่งพระองค์
ท้าวศานตนุดีใจมาก แต่เมื่อเสด็จไปหาพระแม่คงคา
ก็ปรากฏว่าพระนางกลับเดินไปที่ริมแม่น้ำ กล่าวว่าแม่รักลูกนะ
แล้วก็ทิ้งพระโอรสลงไปในน้ำ ท้าวศานตนุนั้นเสียใจ
แต่ก็ไม่ได้ถามคำถามใดๆ เพราะได้สัญญากับพระแม่คงคาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
หลังจากนั้นพระแม่คงคาก็ได้ตั้งครรภ์อีก แต่เหตุการณ์ก็เป็นเช่นเดิมอีก
รวมทั้งสิ้นเจ็ดครั้งเจ็ดครา เมื่อพระแม่คงคาได้ให้ประสูติพระโอรสองค์ที่แปด
ท้าวศานตนุก็ทนไม่ไหวและซักถามพระแม่คงคาว่า เหตุใดนางจึงฆ่าลูกของเราเสียสิ้น
พระแม่คงคาจึงกล่าวว่า ท้าวศานตนุได้ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้
จึงต้องจากไปและจะนำพระโอรสองค์ที่ 8 ไปเลี้ยงดูเอง
หลังจากนั้น 16 ปีพระแม่คงคาก็ได้นำพระโอรสองค์ที่ 8
มาคืนกับท้าวศานตนุ และกล่าวว่าเด็กคนนี้ชื่อว่า ภีษมะ
ท้าวศานตนุดีใจมากและตั้งให้เป็นยุพราชของแคว้นกุรุ
เพื่อจะได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป
ที่เมืองแห่งหนึ่ง มีพระราชาองค์หนึ่งเสด็จไปประพาสในป่า
ในคืนหนึ่งพระองค์เกิดความกำหนัดจนสำเร็จกิจ น้ำกามตกอยู่บนยอดหญ้า
เมื่อรุ่งอรุณพระองค์จึงรับสั่งให้ทหารรีบนำน้ำกามนั้นส่งกลับไปให้พระมเหสีที่เมือง
เพื่อความรวดเร็วในการเดินทางทหารจึงได้ผูกไว้กับขานกอินทรีแล้วปล่อยไป
ระหว่างทางนกอินทรีได้ต่อสู้กับนกตัวอื่นจนทำให้น้ำกามนั้นตกลงสู่แม่น้ำ
ในน้ำนั้นมีปลาใหญ่ตัวหนึ่งผ่านมาเผอิญกินน้ำกามเข้าไปจึงตั้งท้อง
ชาวประมงทอดแหได้ปลาตัวนั้นและผ่าท้องออกเพื่อทำเป็นอาหาร
กลับพบว่าในท้องปลามีทารกน้อยแพศหญิงคนหนึ่ง
จึงได้เลี้ยงดูไว้เป็นบุตร ให้ชื่อว่า สัตยวดี
เมื่อเธอเจริญวัยก็หาได้มีคู่ครองไม่ เนื่องจากแม้เธอจะใบหน้าที่งดงามเพียงใด
แต่ร่างกายเธอนั้นกลับมีกลิ่นคาวปลาอย่างรุนแรง ทำให้ไม่มีชายใดมาสู่ขอ
เธอจึงมีความทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะนั้นเองมีฤษีชื่อว่า ปราศร ผ่านมา
จึงยื่นข้อเสนอว่า หากนางยอมมีเพศสัมพันธ์กับตน
กลิ่นกายที่เหม็นคาวนั้นจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นหอม
นางสัตยวดี ใคร่ครวญแล้วห็นว่าไม่มีทางเลือกใดที่ดีไปกว่านี้ จึงตอบตกลง
หลังจากนั้นเธอก็ได้ตั้งท้องและคลอดบุตรออกมาชื่อว่า ฤษี วยาส
บุคคลที่รจนาเรื่อง มหาภารตะ นั่นเอง
วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:15:21:42 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [