เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์ (1)
หากถามว่าไปเที่ยวที่ไหนแล้วประทับใจที่สุด
ก็คงบอกว่า ที่ๆไปแล้วกลับมาเขียนบลอกได้มากที่สุดนั่นเอง
สองปีก่อนไปกัมพูชา กลับมาเขียนไปเกือบยี่สิบบลอก
ซึ่งเรื่องราวนั้นจบลงที่หน้าปราสาทนครวัด
เพราะเมื่อสิ้นสุดทางเดินสะพานนาค ก็จะถึงระเบียงคดชั้นที่หนึ่ง
ที่ได้รับการยกย่องจาก Guinness world record
ว่าเป็นกำแพงที่มีภาพสลักยาวที่สุดในโลก
เมื่อคุณเงยหน้ามองภาพสลักความสูงสองเมตรที่อยู่ตรงหน้า คงเข้าใจได้ว่า
ทำไมนครวัดจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง
เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้า มันคือสุดยอดแห่งมหากาพย์ของชมพูทวีป
ด้านซ้ายคือรามายาณะ ด้านขวาคือมหาภารตะ
สองภาคแห่งการอวตารที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุด
แล้วเราจะเดินไปทางไหนก่อนดีล่ะ ????
ไกด์จะพาเดินวนทวนเข็มนาฬิกา
เหมือนย้อนเวลา กลับไปวันที่สุริยวรมันที่สองสิ้นพระชนม์ลง
การเดินวนที่เหมือนกับการเดินรอบเมรุเผาศพ หนึ่งพันปีผ่านไป ...
ทุกคนก็ยังคงต้องแสดงความเคารพต่อพระองค์เช่นนั้น
พระบรมศพที่สถิตย์อยู่ ณ ใจกลางแห่งบรมวิษณุโลก : สุสานแห่งสุริยะวรมันที่สอง
ปราสาทขอมเพียงปราสาทเดียวที่หันหน้าสู่ทิศตะวันตก : ทิศแห่งความตาย
ปราสาทขอมเพียงปราสาทเดียวที่สร้างเพื่อบูชา : พระนารายณ์ผู้เป็นเจ้า
ไกด์จะอธิบายรูปแรกให้ฟังว่า
นี่คือภาพสงครามแห่งทุ่งกุรุเกษตร
สงครามระหว่างฝ่ายเการพและปาณฑพ
ตรงนี้คือ ภาพที่ท้าวภีษมะนอนตายบนเตียงลูกศร
ตรงนี้คือภาพของพระกฤษณะ ที่มีสี่พระกร สารถีของอรชุน
นั่นคือทั้งหมดที่ไกด์พูดให้ฟัง แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมพึงพอใจ
พี่น้องเการพและปาณฑพคือใคร เค้ารบกันเพื่ออะไร
ทำไมพระกฤษณะ นารายอวตารจึงต้องกลายมาเป็นเพียงคนขับรถศึก
ใครคือภีษมะ ผู้ที่ถูกยิงจนไม่มีที่ให้ศรปัก แต่กลับไม่ตาย ??
ล้วนแต่มีคำถามมากมาย แค่ภาพแกะสลักเพียงแผ่นเดียว
ก็ทำเอาผมต้องหยุดเขียนเรื่องนี้ไปสองปี
เพื่อที่จะทำความเข้าใจภาพสลักแผ่นนี้
ผมกลับมาแล้ว กับซีรี่ย์ที่ยืดยาว
มนตราแห่งศิลาทราย
ตอน เรื่องเล่าแห่งมหาภารตะยุทธิ์