พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (3)
การศึกษาและการปกครอง
- ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวง (วชิราวุธวิทยาลัย)
- ยกฐานะโรงเรียนมหาดเล็ก เป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ต่อมาคือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ให้เปลี่ยนมาใช้พุทธศักราช (พ.ศ.) ในราชการแทนรัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.)
- ตราพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ ฉบับแรก
- ตั้งเนติบัณฑิตยสภา
- แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติการเกณฑ์ทหาร
- ประกาศให้ วันที่ ๖ เมษายนเป็นวันจักรี และให้ถือว่าเป็นวันชาติในยุคสมบูรณาญาสิทธิราช
- พิมพ์คัมภีร์อรรถกถาแห่งพระไตรปิฎกและอรรถกถาชาดก และคัมภีร์อื่น ๆ
- ทรงนิพนธ์หนังสือแสดงหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา เช่น เทศนาเสือป่า
พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
- ตราพระราชบัญญัติประถมศึกษา ฉบับแรก
- แปรสภาพกระทรวงนครบาลเป็น มณฑลกรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วย พระนคร ธนบุรี
นนทบุรี สมุทรสาคร พระประแดง และ สมุทรปราการ
- สถาปนากรมตำรวจ
- ตราพระราชบัญญัติว่าด้วยสมุด เอกสารและหนังสือพิมพ์
- ตรากฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันติวงศ์
- ประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์
มกราคม พ.ศ. 2465 เกิดการก่อความไม่สงบที่มณฑลปัตตานี
เนื่องด้วยปัญหาการเก็บเงินค่าศึกษาพลีเพื่อสร้างโรงเรียนประชาบาล
และซื้อตำราเรียนและอุปกรณ์การศึกษา คนละ 1 บาทต่อปี
นอกเหนือจากรัชชูปการ ที่เก็บคนละ 6 บาทต่อปี ทำให้เกิดการลุกฮือขึ้น
ทางราชการต้องนำกองทหารรักษาวังจากนครศรีธรรมราช
มาแก้ไขสถานการณ์ ภายหลังจึงกำหนดให้
เงินค่าศึกษาพลีในมณฑลปัตตานี
ต้องนำไปใช้ส่งเสริมโรงเรียนสอนศาสนาด้วย
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 มีพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับมณฑลปัตตานี ใจความดังนี้
1.ระเบียบหรือวิธีปฏิบัติอย่างใดเป็นทางให้พลเมืองรู้สึกหรือเห็นไปว่าเป็นการเบียดเบียน
กดขี่ศาสนาอิสลามต้องยกเลิกหรือแก้ไขเสียทันที
การใดจะจัดขึ้นใหม่ก็อย่าให้ขัดกับลัทธินิยมของอิสลาม
หรือยิ่งทำให้เห็นเป็นการอุดหนุนศาสดามูฮัมหมัดได้ยิ่งดี
2.การกะเกณฑ์อย่างใดๆ ก็ดี การเก็บภาษีอากรหรือพลีอย่างใดๆ ก็ดี
เมื่อพิจารณาโดยส่วนรวมเทียบกัน ต้องอย่าให้ยิ่งกว่าพลเมืองในแว่นแคว้น
ของประเทศราชของอังกฤษซึ่งอยู่ใกล้เคียงติดต่อกันนั้นต้องเกณฑ์ต้องเสียอยู่เป็นธรรมดา
เมื่อพิจารณาเทียบกันแต่เฉพาะอย่างต้องอย่าให้ยิ่งหย่อนกว่ากัน
จนถึงเป็นเหตุเสียหายในการปกครองได้
3.การกดขี่บีบคั้นแต่เจ้าพนักงานของรัฐบาลเนื่องแต่การใช้อำนาจในทางที่ผิดไม่เป็นธรรมก็ดี
เนื่องแต่การหมิ่นลู่ดูแคลนพลเมืองชาติแขกโดยฐานที่เป็นคนต่างชาติก็ดี
เนื่องแต่การหน่วงเหนี่ยวชักช้าในกิจการตามหน้าที่เป็นเหตุให้ราษฎร
เสียความสะดวกในทางหาเลี้ยงชีพก็ดี พึงต้องแก้ไขระมัดระวังมิให้มีขึ้น
เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องให้ผู้ทำผิดต้องรับผลตามความผิดโดยยุติธรรม
ไม่ใช่สักแต่ว่าจัดการกลบเกลื่อนให้เงียบไปเสียเพื่อจะไว้หน้าสงวนศักดิ์ของข้าราชการ
4.กิจการใดทั้งหมดอันเจ้าพนักงานจะต้องบังคับแก่ราษฎร
ต้องระวังอย่าให้ราษฎรต้องขัดข้องเสียเวลาเสียการในทางหาเลี้ยงชีพ
ของเขาเกินสมควร แม้จะเป็นการจำเป็นโดยระเบียบการก็ดี
เจ้าหน้าที่พึงสอดส่องแก้ไขอยู่เสมอเท่าที่สุดจะทำได้
5.ข้าราชการที่จะแต่งตั้งออกไปประจำตำแหน่งในมณฑลปัตตานี
พึงเลือกเฟ้นแต่คนที่มีนิสัยซื่อสัตย์ สุจริตสงบเสงี่ยมเยือกเย็น
ไม่ใช่สักแต่ว่าส่งไปบรรจุให้เต็มตำแหน่งหรือส่งไปเป็นการลงโทษเพราะเลว
เมื่อจะส่งไปต้องสั่งสอนชี้แจงให้รู้ลักษณะทางการอันพึงประพฤติระมัดระวัง
โดยหลักที่ได้กล่าวในข้อ 1 ข้อ 3 และข้อ 4 ข้างบนนั้นแล้ว
ผู้ใหญ่ในท้องที่พึงสอดส่องฝึกฝนอบรมกันต่อๆ ไปในคุณธรรมเหล่านั้นเนืองๆ
ไม่ใช่แต่คอยให้พลาดพลั้งลงไปก่อนแล้วจึงว่ากล่าวลงโทษ
6.เจ้ากระทรวงทั้งหลายจะจัดการวางระเบียบการอย่างใดขึ้นใหม่
หรือบังคับการอย่างใดในมณฑลปัตตานี อันจะเป็นทางพากพานถึงสุขทุกข์ราษฎร
ก็ควรพิจารณาเหตุผลแก้ไขหรือยับยั้ง ถ้าไม่เห็นด้วยว่ามีมูลขัดข้องก็ควรหารือกับกระทรวงมหาดไทย
แม้ยังไม่ตกลงกันได้ระหว่างกระทรวง ก็พึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลทราบ
ฝ่าละอองธุลีพระบาทขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย