ชื่อของอาร์เอสเป็นที่คุ้นหูและเป็นที่รู้จักกันดี โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านช่วงวัยรุ่นในยุค 90 มาก่อนเนื่องจากในยุคนั้นเป็นยุคที่อาร์เอสได้สร้างศิลปินและผลงานเพลงดัง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งใน 2 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในวงการ แต่ในปัจจุบัน อาร์เอสไม่ได้เป็นเพียงแค่ค่ายเพลงอีกต่อไป แต่ได้เติบโตกลายเป็น RS Group มีธุรกิจในเครือหลากหลายรูปแบบและเป็นธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้นกว่าในอดีตหลายเท่าตัว RS Group กลับมาเป็นข่าวในหน้าธุรกิจอีกครั้ง และเนื้อหาข่าวที่ปรากฏนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เนื่องจากการบริหารงานของผู้บริหารชุดล่าสุด ที่นำพาให้ RS Group มีรายได้มากถึง 985 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184% เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 แล้ว ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์และส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัท RS นั้นดีดตัวสูงขึ้นไปจากเดิมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว กลยุทธ์สำคัญที่ผู้บริหารของอาร์เอสกำลังขับเคลื่อนก็คือ entertainmerce หรือการผนึกกำลังรวมกันระหว่างคำว่า entertainment และ commerce นั่นเอง สำหรับด้านบันเทิงนั้นเชื่อมือ RS Group ได้อย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย เนื่องจากว่าอาร์เอสได้มีการสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานหลายสิบปี ทำให้มีฐานผู้ฟังที่เหนียวแน่นเป็นจำนวนมาก ต่อมาในระยะหลังเมื่อได้ก้าวเข้ามาจับธุรกิจสื่อทีวีดิจิทัล RS ก็สามารถสร้างฐานผู้ชมได้เหนียวแน่นได้ไม่แพ้กัน ส่งผลให้สินค้าของ RS Group ที่ขายในเครือสื่อของตนขายดีตามไปด้วยหรือจะเรียกว่า เป็นการสร้างฐานผู้ชมและฐานผู้ฟังให้กลายมาเป็นลูกค้าธุรกิจ commerce ก็น่าจะได้ แต่นอกจากจะเป็นลูกค้าเดิม ๆ แล้ว อาร์เอสก็ยังคงมีความสามารถในการหาฐานลูกค้าเพิ่มได้อีกด้วยความชำนาญในการทำสื่อและการทำคอนเทนต์นั่นเอง อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนก็อาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า กว่าจะมาถึงจุด ๆ นี้ RS ได้สั่งสมประสบการณ์เกี่ยวกับอะไรมาบ้าง และผ่านธุรกิจในรูปแบบไหนมาก่อนบ้าง ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาทุกคนย้อนกลับไปสู่ปี 2519 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ RS อย่างแท้จริง ในปี 2519 RS ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจตู้เพลงและอัดเพลงจากแผ่นเสียงลงเทป ตัวย่อ RS ในปัจจุบัน น่าจะมาจากคำว่า Rose Sound ที่เป็นชื่อบริษัทของธุรกิจแรกนี่เอง ในปี 2525 ได้เริ่มก้าวเข้าสู่วงการเพลงเรื่อยมาจนถึงปี 2535 ก็ได้เริ่มขยายธุรกิจจากเพลงออกไปสู่การผลิตภาพยนตร์ ละคร รายการทีวี รายการวิทยุ โดยประกาศตัวว่าเป็น “บริษัทบันเทิงครบวงจร” เมื่อปี 2546 RS ได้เข้าตลาดหุ้นครั้งแรก โดยในขณะนั้น RS มีธุรกิจหลักอยู่ 3 อย่าง ได้แก่ ธุรกิจเพลง ธุรกิจสื่อ (โทรทัศน์ วิทยุและสิ่งพิมพ์)และธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ละคร ในปี 2552 RS เริ่มเป็นเจ้าของสื่อทีวีโดยเริ่มจากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัลในปี 2556 ปี 2557 RS เริ่มต่อยอดธุรกิจสื่อในมือด้วยธุรกิจสุขภาพและความงามซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงกว่าแสนล้านบาทในขณะนั้นและมีอัตราการเติบโตที่ดี ปี 2562 ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติให้ย้ายให้ RS ออกจากหมวดธุรกิจสื่อมาอยู่ในหมวดธุรกิจพาณิชย์เพื่อขับเคลื่อนโมเดล entertainmerce ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เดือน พ.ค. ปี 2563 ผู้บริหารของ RS เผยว่าในไตรมาสแรกสามารถทำรายได้รวมและผลกำไรได้อย่างมหาศาล สูงสุดเป็นประวัติการณ์และถูกจับตามองจากกลุ่มนักลงทุนว่ามีความเป็นไปได้ที่ธุรกิจจะเติบโตมากขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป จากประสบการณ์อันยาวนานและความเชี่ยวชาญทางด้านความบันเทิง การผลิตคอนเทนต์ และการเป็นเจ้าของสื่อ ทำให้โมเดล entertainmerce ได้ถูกสร้างขึ้นและได้รับการขับเคลื่อนอย่างแข็งแกร่ง จนทำให้ธุรกิจของ RS มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากและมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถสวนกระแสโควิด - 19 ได้อย่างสวยงาม หากใครอยากทราบว่าธุรกิจ entertainmerce เป็นอย่างไร คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://www.rs.co.th/th/เฮียฮ้อ-ยืนยัน-entertainmerce-แข็งแ/
Create Date : 03 สิงหาคม 2563 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2563 21:42:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1090 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|