ทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ประกันภัยแต่ละประเภททำหน้าที่ให้ความคุ้มครองแตกต่างกันไปในแบบของตน ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะน่าสนใจ และเป็นประกันภัยอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงระยะหลังมานี้ ก่อนเริ่มทำความรู้จักกับ ประกันชีวิตผู้สูงอายุ เราควรทราบข้อมูลเกี่ยวกับประกันประเภทต่าง ๆ ดังนี้ -
ประกันชีวิต โดยทั่วไปจะจ่ายเงินชดเชยในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร แต่สำหรับ ประกันชีวิตออมทรัพย์ หรือที่เราเรียกกันว่า ประกันออมทรัพย์ นั้นอาจมีทั้งการจ่ายเงินระหว่างงวดและจ่ายเงินก้อนเมื่อมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา นั่นหมายความว่าประกันชีวิตประเภทออมทรัพย์นี้ให้ทั้งความคุ้มครองและผลตอบแทนด้านการออมในเวลาเดียวกัน -
ประกันสุขภาพ ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ ชดเชยค่ารักษาพยาบาลเมื่อยามเจ็บป่วย แต่ต้องไม่มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ มีให้เลือกทั้งแบบคุ้มครองผู้ป่วยนอก-ใน และแบบคุ้มครองในกรณีเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น สามารถเป็นแผนประกันเสริมเพิ่มเติมจากประกันชีวิตในข้อแรกได้ เช่น ซื้อ ประกันชีวิตออมทรัพย์ แบบจ่าย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี และซื้อแผนประกันสุขภาพเพิ่มเติมแบบจ่ายเป็นรายปีด้วย เพื่อรับสิทธิประโยชน์ด้านค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล -
ประกันอุบัติเหตุ ชดเชยค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและจ่ายเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่นเดียวกับประกันสุขภาพ เราสามารถซื้อ ประกันอุบัติเหตุ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า ประกันPA แบบเดี่ยว ๆ หรือซื้อเสริมเพิ่มเติมจากประกันชีวิตและประกันสุขภาพได้ด้วย เพื่อเพิ่มความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามประกันภัย 3 ประเภทใหญ่ ๆ นี้ มักให้ความคุ้มครองกับผู้มีอายุไม่เกิน 50 - 60 ปี เท่านั้น เนื่องจากความเสี่ยงด้านชีวิต สุขภาพ และอุบัติเหตุ จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่ออายุเกินกว่า 60 - 65 ปี ดังนั้น ประกันออมทรัพย์ จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนวัย 60 - 75 ปี ซึ่งอาจได้รับความคุ้มครองยาวไปถึง 90 ปี แล้วแต่เงื่อนไขความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ สำหรับผู้สูงอายุมีข้อดีอย่างไร ผู้สูงวัยที่มีอายุ 50 - 70 ปี (หรือ 75 ปี ในเงื่อนไขของบริษัทประกันบางแห่ง) สามารถทำประกันนี้ได้โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพและไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ความคุ้มครองอาจยาวนานถึงอายุ 90 ปี หรือมากกว่านั้นในบางแผน ให้ความคุ้มครองด้วยการจ่ายเงินชดเชยเมื่อเสียชีวิตตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ เช่น เสียชีวิตในช่วงระยะเวลา 2 ปีแรกของกรมธรรม์ จะได้รับเงินเท่ากับเบี้ยที่ชำระแล้ว + เงินเพิ่ม 2% แต่หากเสียชีวิตตั้งแต่ปีที่ 3 ของกรมธรรม์เป็นต้นไปจะได้รับเงินชดเชยตามที่กำหนดไว้เต็ม 100% ในกรณีที่มีอายุครบตามกำหนดสัญญาผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินก้อนตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญากลับคืน เช่น เงื่อนไขกรมธรรม์กำหนดไว้ว่าเมื่ออายุครบ 90 ปี ความคุ้มครองจะสิ้นสุด พร้อมมอบเงินก้อนคืนให้กับผู้เอาประกับภัยเป็นจำนวน 100,000 บาท ยิ่งไปกว่านั้นเรายังสามารถซื้อความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ และ ประกันPA เพิ่มเติมจากประกันหลักซึ่งเป็นประกันชีวิตได้อีกด้วย อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะได้คำตอบชัดเจนแล้วว่าประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุนั้นมีข้อดีอย่างไร การทำประกันภัยในส่วนนี้ไว้ไม่มีสูญเปล่า หากไม่ได้รับกลับมาในรูปแบบเงินชดเชยก็จะได้รับกลับมาในรูปแบบเงินออมอยู่ดีซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นที่น่าสนใจ ทั้งยังสามารถซื้อความคุ้มครองด้านสุขภาพ อุบัติเหตุและโรคร้ายแรงเพิ่มเติมจากบริษัทประกันบางแห่งที่เตรียมแผนความคุ้มครองไว้เสนอได้อีกด้วย เหมาะกับการทำไว้ให้กับผู้อาวุโสในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสะสมทรัพย์ ที่ https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance/detail/558 หรือประกันชีวิตออมทรัพย์ ที่ https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance/detail/558
Create Date : 24 มีนาคม 2566 |
Last Update : 24 มีนาคม 2566 0:05:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 397 Pageviews. |
 |
|