Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 

Cuộc đời không như là mơ : ชีวิตไม่เหมือนความฝัน - บ่าเยี่ยนแห่งบ้านนาจอก ตอนที่1

 

ฝากไฟล์      

ชีวิตบ่าเยี่ยน ( Diện) เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2471 บนที่ดินผืนเล็ก ๆ กลางหมู่บ้านนาจอก มีพี่สาวฝาแฝด 1 พี่ชาย 1 รวม 3 พี่น้อง พี่ชายเสียชีวิตในวัยฉกรรจ์ด้วยลูกระเบิดในช่วงกวาดล้างชาวเวียดนามอพยพ  เมื่อเติบโตขึ้นในวัยสาวพี่สาวแต่งงานย้ายถิ่นฐานไปหากแต่ครอบครัวพี่สาวก็แตกแยกจนต้องหอบลูก 3 คนร่อนเร่ไปเรื่อยจนลงหลักปักฐานได้ที่กรุงเทพเมืองฟ้าอมร  ส่วนพ่อแม่ทยอยเสียชีวิตไปในวัยที่ไม่ถึง 40 ด้วยโรคระบาด  บ้านไม้ยกพื้นสูงบนที่ดินแปลงสวยอันเป็นมรดกชิ้นเดียวและชิ้นสุดท้ายจึงถูกขายไปเพื่อยังชีวิตรอด ชีวิตอันไม่เหมือนฝันที่ต้องต่อสู้ลำพังของบ่าเยี่ยนจึงเริ่มต้นขึ้นนับจากนั้น…

บ่าเยี่ยนไปขออาศัยใบบุญของผู้มีศักดิ์เป็นป้า (ลูกพี่ลูกน้องของแม่) ที่แต่งเข้าตระกูลใหญ่พอจะมีฐานะมั่นคง ตระกูลสามีของป้าใจกว้างแบ่งที่ให้สร้างบ้านส่วนหนึ่ง  ซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกับบ้านใหญ่ของตระกูล ที่ส่วนนั้นอยู่ตรงข้ามกับนาเขียวชะอุ่ม รายล้อมไปด้วยป่าไฝ่หวานที่รกครึ้มร่มรื่น แสงแดดกลางวันแทบจะส่องไม่ถึงพื้นดิน  บ้านไม้ใต้ถุนสูงขนาด 2 ห้องพอที่จะอาศัยอยู่ได้อย่างสุขสบายจึงถูกสร้างขึ้น ที่นี่จึงเป็นความทรงจำและฉากชีวิตส่วนใหญ่ของแก

ตระกูลสามีของป้ายังแบ่งที่นาให้ส่วนหนึ่งพอให้บ่าเยี่ยนได้ ปลูกหอม ปลูกกระเทียม ปลูกผักตามฤดูกาลเพื่อเก็บเกี่ยวเป็นรายได้พอได้เลี้ยงตัวได้สืบมา   บ่าเยี่ยนครองตัวเป็นสาวโสดอาศัยใบบุญของผู้ป้าอยู่นับสิบ ๆ ปี จนถึงราวปี 2532 ป้าผู้ชราอันเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรเดียวของแกได้จากไปในวัยเฉียด 90 ส่วนตัวแกเองนั้นความร่วงโรยของสังขารก็เริ่มส่งสัญญานเตือนเช่นกัน

ตระกูลใหญ่แต่คนน้อยมาถึงวาระที่สะใภ้รุ่นที่ 3 ของตระกูลเป็นผู้เข้ามาดูแลที่ดินและที่นาผืนใหญ่ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเหมือนตอนที่ป้าผู้ชรายังอยู่ ความสัมพันธ์ของหญิงทั้งสองจึงเป็นไปด้วยดีถ้อยที่ถ้อยอาศัยกันไปอยู่อีกนานปี ชีวิตช่วงนี้จึงนับเป็นช่วงปกติสุขที่สุดของบ่าเยี่ยน

ราวปี พ.ศ. 2538 บ่าเยี่ยนเริ่มวิตกกับอายุที่เริ่มมากขึ้นจึงเริ่มหาทางวางแผนกับชีวิตโสดยามชราโดยการตัดสินใจขายบ้านไม้ 2 ห้องของตนท่ามกลางเสียงคัดค้านของสะใภ้รุ่นที่ 3 ของตระกูลใหญ่ แกรวบรวมเงินเก็บคิดฝันว่าการนำเงินและชีวิตไปฝากชีวิตไว้กับครอบครัวพี่สาวที่กรุงเทพฯ น่าจะเป็นตอนจบของฉากชีวิตแก

วันที่รื้อบ้านสิ่งของถูกยกย้ายไปฝากไว้กับเพื่อนบ้านพร้อมกับอาการสับสนวุ่นวาย และน้ำตาที่ไหลอาบแก้มขณะก้มลงจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางของพรให้ความฝันของแกเป็นจริงสักครั้ง  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แกจากบ้านนาจอก แกออกไปพร้อมกับรถกระบะรับจ้างคันหนึ่งที่บรรทุกสิ่งของเต็มพิกัดอัตรา หากแต่แกหารู้ไม่ว่าสิ่งของที่แกเฝ้าสะสมมาทั้งชีวิตมันกลับกลายเป็นขยะที่ครอบครัวพี่สาวไม่ต้องการเลยจนนิดเดียว

ข่าวแกเงียบหายไปหลังจากการเดินทางวันนั้น ฤดูฝนผ่านไปหลายฝน กระทั่งหญ้ารกเรื้อขยายอาณาเขตค่อย ๆ ปกคลุมที่ดินที่เคยปลูกบ้านหลังน้อยของแกจนไม่เห็นร่องรอยว่าเคยมีบ้านคน และนานพอที่ที่ส่วนนี้จะถูกขอตัดเวนคืนไปเพื่อขยายถนน ป่าไผ่ร่มรื่นอันเป็นฉากชีวิตใหญ่ของแกถูกทำลายทุกทิศพร้อมกับที่ดินผืนงามของตระกูลใหญ่ถูกเฉือนไป 1 ใน 4

เกือบ 2 ปีให้หลัง บ่าเยี่ยนกลับปรากฎกายขึ้นอีกครั้งพร้อมเรื่องราวมากมายที่พรั่งพรูมากพอพอกับน้ำตาที่ไหลแทบจะเป็นสายเลือด ดูท่าการไปฝากชีวิตกับครอบครัวพี่สาวคงจะเป็นฝันร้ายที่ยาวนานของชีวิตแก

สะใภ้รุ่นที่ 3 ของตระกูลใหญ่ยินดีให้บ่าเยี่ยนสร้างบ้านหลังเล็กขึ้นในที่ที่เหลืออยู่อีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่น่าจะเรียกว่าบ้านเพราะสภาพของมันช่างแตกต่างกับบ้านหลังแรกของแกอย่างเทียบไม่ได้คนผ่านไปมาแถวนั้นคงพอจะเดาเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับแกจากสภาพบ้านหลังนี้ได้ไม่ยากนัก

ความสุขช่วงสุดท้ายของหญิงชรา 2 คนที่ต่างอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านคนละหลังเหมือนกันดูจะไม่ยาวนานนักเมื่อสะใภ้รุ่นที่ 3 ของตระกูลใหญ่เจ็บป่วยลงลูกหลานจึงนำไปดูแลรักษาที่อื่นบ้านหลังใหญ่ของตระกูลจึงต้องปิดร้างลง   คราวนี้นอกจากบ้านที่ต้องอยู่คนเดียว ที่ดินผืนใหญ่นี้ก็เหลือเพียงแกอาศัยอยู่ลำพังผู้เดียว ปีนั้นฝนตกหนัก พายุแรงจนพัดพาเอาหลังคาบ้านแกเปิดเปิงเสียหาย สิ่งของพังทลายเปียกฝนจนหมด นี่เป็นครั้งแรกสำหรับบ้านหลังนี้ แต่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับแก เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำสองความกลัวในการอยู่คนเดียวจึงเข้าแทรกซึมชีวิตหญิงชราทุกขณะจิต  จากนั้นทุกค่ำคืนหนาวเหน็บ ฝนตกฟ้าร้องคะนองมา แกจะถือไฟฉายวิ่งหนีออกจากบ้านมาหลบอยู่ใต้ถุนบ้านหลังใหญ่ที่ปิดร้างเงียบงันวังเวงเสมอ ไม่มีใครตอบได้ว่าเสียงร้องไห้กับเสียงฟ้าร้องสิ่งไหนจะดังกว่ากัน ....

ตราบจนถึงปี 2545 สะใภ้ของตระกูลใหญ่ก็จากไปในวัยเฉียด 80 ทิ้งบ้านหลังใหญ่บนที่ผืนงามให้ปิดร้างเงียบเหงาอย่างถาวร พอได้สติจากการสูญเสียครั้งนั้น บ่าเยี่ยนก็มีพบว่าตนเข้าสู่เขตชราภาพด้วยวัย 70 เศษแล้วเช่นกัน การเดินตามความฝันด้วยการไปฝากชีวิตไว้กับครอบครัวพี่สาวจึงเริ่มขึ้นอีกครั้งโดยภาพเหตุการณ์แรกถูกลบหายไปจากความกลัวเพราะหากเทียบกับชีวิตโสดยามชราที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้แล้วมันเป็นความกลัวที่มากมายกว่าหลายเท่านัก  

 (อ่านต่อตอน 2)




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2556
8 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2557 10:45:28 น.
Counter : 1543 Pageviews.

 

เขียนดีมากครับ สู้ชีวิตโดยแท้ รอตอน 2 อยู่นะครับ

 

โดย: ภราดา ภูเบศรพีรวัส IP: 27.66.170.98 27 สิงหาคม 2556 16:01:37 น.  

 

เรื่องราวสะท้อนชีวิตคนโสดได้ดีมากเลย...อ่านแล้วสะเทือนใจ..เห็นถึงจิตใจของคนที่เป็นญาติที่ไร้น้ำใจอย่างรุนแรง..รอภาคจบคับ..mong linh hon cua Ba Dien..duoc an nghi..ve voi to tien..ฝากพีร์นิดหนึ่งคับ..ชื่อเวียตนามของบ่าเยี่ยน..ไม่มีขีดที่ตัว d นะคับ..มีขีดแปลว่าไฟฟ้า..คับผมแก้ด้วย..

 

โดย: อรรถพล เรืองสิริโชค.. IP: 223.205.233.211 27 สิงหาคม 2556 16:36:40 น.  

 

แก้ไขแล้วขอบคุณพี่อรรถพลครับ

 

โดย: peeradol33189 28 สิงหาคม 2556 7:06:47 น.  

 

น่าติดตามต่อค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 29 สิงหาคม 2556 16:15:09 น.  

 

สวัสดีครับพี่พีร์


ที่เฟซผมก็ยังอัพทุกวันครับพี่
บล็อกก็ยังได้อัพวันละบล็อกครับ






 

โดย: กะว่าก๋า 30 สิงหาคม 2556 11:52:36 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่





 

โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2556 6:39:40 น.  

 

จริงนะครับพี่
พู่กันเดียวนี่
ยิ่งตั้งใจเขียน ภาพยิ่งไม่สวยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 31 สิงหาคม 2556 20:06:31 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่







 

โดย: กะว่าก๋า 1 กันยายน 2556 7:01:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Gia Huy - Peeradol
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




Air SurOundinG mE liKe mY besT frIendS !
แจกฟรีแบ๊คกราว
Friends' blogs
[Add Gia Huy - Peeradol's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.