~ ~★ ~ ~★ ~ ~★ ตะลุยกินสามจังหวัด ขนมจีนหล่มเก่า ไม้กลางกรุง และเรือนแพสุพรรณ ~ ~★ ~ ~★ ~ ~★
สวัสดีค่ะ หลังจากรอบที่แล้วพาไปเที่ยวกาดกองต้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้จะพาไปตะลุยกินสามที่ด้วยกันนะคะ ที่แรก ยังคงอยู่ที่ลำปางค่ะ - ขนมจีนหล่มเก่า ที่ที่สอง อยู่สุโขทัย - ไม้กลางกรุง (รอบสอง หุๆ) ที่ที่สาม อยู่สุพรรณบุรี - เรือนแพสุพรรณ ค่ะ หลังจากคืนก่อนหน้านี้อาหารเป็นพิษ (โดยไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะกินไปหลายขนานมาก เหอๆ) วันรุ่งขึ้น ทีมเพื่อนทั้งหลายก็ไปกินที่ร้านขนมจีนหล่มเก่ากัน ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ร.ร.บุญยวาทย์ค่ะ (สะกดถูกมั้ยนี่) ใกล้ร้านดวงกมลด้วย (เห็นป้ายข้างหลังมั้ยคะ?) หน้าร้านค่ะ ซุ้มฝั่งซ้ายคือขนมจีน ฝั่งขวาจะเป็นไก่ย่าง ฝั่งซ้าย ขนมจีน ขนมใส่ไส้ น้ำพริก ขนม+ของฝากอื่นๆ ฝั่งขวาค่ะ ไก่ย่าง แบบว่า..เป็นสิบๆๆ ตัวน่ะ (อยู่ข้างหลังผู้คนทั้งหลายค่ะ แต่ไม่กล้าขอเขาให้แหวกทางให้ถ่าย แหะๆ) ภายในร้านค่ะ ค่อนข้างกว้างขวางใช้ได้เลย มีอะไรน่ากินบ้าง มีเมนูติดที่ป้ายไม้ให้ดูด้วยค่ะ หลังจากนั่งที่โต๊ะ สั่งอาหารเรียบร้อย เค้าเอาน้ำดื่มมาบริการ พร้อมกับเครื่องเคียงพื้นฐาน ดังนี้ค่ะ พริกแห้ง ผักเคียงสำหรับขนมจีน (ผักดอง + ผักสด) สั่งอะไรมาบ้าง ถ่ายให้เห็นภาพรวมทั้งหมดก่อนค่ะ (แต่ขอบอกก่อนว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ลิ้มรสอะไรเลย เพราะอาหารเป็นพิษดังกล่าว แต่เพื่อนๆ ก็มิได้สนใจ สั่งมากินโดยไม่สนใจตรูเลยยยยยยยยย ) นอกจากขนมจีน (ที่ทำมาเป็นก้อนๆ น่าเอ็นดูแล้ว) ก็มีน้ำต่างๆ ของขนมจีนค่ะ อันแรกนี่..น้ำยาป่ามั้งนะ น้ำที่สอง น้ำเงี้ยวค่ะ น้ำที่สาม น้ำพริก น้ำที่สี่ แกงไก่ ถามเพื่อนๆ ชาวตะกละแก๊งค์ที่ได้กิน เขาบอกว่า "ใช้ได้" ค่ะ แต่จานนี้ เพื่อนบอกว่า อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก (จนต้องสั่งมาอีกชุดน่ะ) ไก่ชุ่มฉ่ำ เนื้อนวลเนียน อร่อยมาก (ไม่สงสารตรูเลย (อีกรอบ)) จานนี้ เรียกชื่อไม่ถูกง่ะ แต่เจ้าของร้านมีกระซิบว่า ฝากขายนะคะ ไม่รับประกันว่าอร่อย (กร๊ากกกกกก) ซึ่ง..เอ่อ..แค่ปานกลางจริงๆ ด้วยค่ะ (อันนี้ทุกคนลงความเห็นไปในทางเดียวกัน) ส่วนเรา ได้แต่กินเจ้านี่ค่ะ ราดหน้า (เศร้าจิต ) ซื้อจากร้านข้างๆ ค่ะ จากนั้นก็ขนมหวานค่ะ ขนมใส่ไส้ - ธรรมดาค่ะ ไม่โดดเด่น และ ขนมต้ม - โอเคค่ะ ใช้ได้ รวมอาหารที่สั่งมาทั้งหมดทั้งมวลแล้ว 350 บาท (ไม่รวมราดหน้าของเราค่ะ)พวกเราตกใจกันใหญ่ เพราะสั่งกันกระหน่ำจริงๆ ถูกใช้ได้เลยค่ะ (ไปกินกัน 5 คนค่ะ)ถ้าเดินเข้าไปโซนในๆ จะมีโซนนี้ยกพื้นขึ้นมานิดหนึ่งด้วยค่ะ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ถ้ามากันหลายๆ คนอาจยึดพื้นที่แถวนี้โดยเฉพาะก็ได้ค่ะ และแน่นอน ตามประสาสาวไกด์ ไปร้านอาหารต้องสำรวจห้องน้ำ ถ่ายแต่ด้านนอก ไม่ได้เข้าไปสำรวจข้างในนะคะ เพื่อนตะกละแก๊งค์บอกว่าสะอาดดีค่ะ สรุปสำหรับร้านขนมจีนหล่มเก่า ที่พลาดไม่ได้คือไก่ย่างค่ะ อย่างอื่นถือว่าโอเค สภาพร้านน่านั่ง ใหญ่ รับได้หลายคนค่ะ ระหว่างทางกลับ หลังจาก (คนอื่น) อิ่มอร่อยกับขนมจีนหล่มเก่า แล้ว เราก็ตัดสินใจวิ่งเส้นวังชิ้น สุโขทัยแทนเพื่อจะไปกินยังร้านไม้กลางกรุง ณ สุโขทัย ซึ่งเคยทำรีวิวไว้ก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง ไปรอบนี้ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น รวมทั้งได้เห็นอะไรที่แตกต่างจากเดิมจึงคิดว่าควรเอามาทำรีวิวเพิ่มนะคะ มาเริ่มที่ไม้กลางกรุงก่อนแล้วกัน อันดับแรก แน่นอนค่ะ เป็นอาหารที่เชียร์มากๆ อยู่แล้ว นั่นก็คือ ข้าวเกรียบปากหม้อในน้ำกะทิ คราวนี้เค้าไม่ใส่มาใน "กระทง" ใบตอง แต่เอาใบตองมารองเฉยๆ (กะทิก็เลยแค่ราดมาน่ะ ไม่ขลุกขลิกเหมือนคราวที่แล้ว) แต่รสชาติยังโอเคเหมือนเดิม (แอบชิมไปอันหนึ่ง ก่อนโดนดุว่าท้องไม่ดีแล้วยังจะกินอีก ) จานต่อมา ข้าวผัดอะไรสักอย่าง โอเคค่ะ ใช้ได้ จานต่อไป ผัดไทย คราวนี้อร่อยกว่าคราวที่แล้วแฮะ ของหวานค่ะเป็นไอศครีมรสช็อกโกแลตในช็อกโกแลตปั่น (มั้ง) อันนี้เหมือนๆ แอบชิมไอติมไปนิดหนึ่ง (ที่นี่ขายของเนสท์เล่) อร่อยดี จานนี้ของคุณเพื่อน เส้นเล็กต้มยำแห้ง อร่อยอ้ะ ส่วนเราน่ะเหรอ หึๆ คราวนี้ได้แต่กินอะไรร้อนๆ จืดๆ ก็เลยกลายเป็นกินก๋วยเตี๋ยวต้มจืด (ซึ่งสำหรับคนที่กินอาหารรสจัดเป็นหลักอย่างเรา ไม่อร่อยอ้ะ ) ของเพื่อนอีกคน (ครือ..จำไม่ได้ว่าจานไหนของใครมั่งฟร่ะ แหะๆ) เส้นเล็กต้มยำน้ำ อร่อยเช่นกัน ของคุณแฟน เส้นเล็กเย็นตาโฟ คุณแฟนบอกรสชาติแปลกๆ แหะๆ เลยสั่งต้มยำแห้งมากินแทนอีกชาม อันนี้ ขนมเบื้องญวณ ทำไมมันกลายเป็นหน้าตาอย่างนี้ไปได้หว่า? ไม่อร่อยเท่าเดิมด้วยง่ะ จากนั้นก็เก็บภาพบรรยากาศโดยรวมมาให้เพิ่มเติมค่ะ ภาพเซ็ตนี้เขาตั้งชื่อว่า "ร้อยเรื่องเมืองบางกอก" เขาคือใคร (นักมวยเหรียญโอลิมปิคชาวสุโขทัยอ้ะ) ใครรู้จัก บอกหน่อยค่ะ ตะเกียงรุ่นเก๋า ประดับตรงทางเข้าร้านขายของซึ่งอยู่เป็นส่วนหนึ่งภายในร้าน น่าขโมยเนาะ (อ้าว) มีนิตยสารเก่าๆ ขายด้วย เล่มละ 20 เองด้วยแหละ (ส่วนใหญ่เป็นพลอยแกมเพชรค่ะ) เพิ่งเห็นว่า มีหลักฐานแสดงว่าจุ้ยเคยมากินด้วยค่ะ และภาพที่แสดงว่า ร้านนี้เคยทำก๋วยเตี๋ยวถวายพระเทพฯ ด้วย บอกด้วยว่าท่านเสวยอะไรบ้าง จากนั้น..เนื่องจากคราวที่แล้วไม่ได้สำรวจห้องน้ำโดยละเอียด คราวนี้เอาภาพมาฝากนะคะ อันนี้คือม่านกั้น ก่อนจะเดินไปสู่หน้าห้องน้ำค่ะ อยู่ถัดจากกองนิตยสารขายถูกน่ะแหละ ห้องน้ำที่นี่ยังเป็นแบบนั่งอยู่ (อาจไม่สะดวกนักสำหรับคนแก่ค่ะ) อ้อๆ ค่าเสียหายร้านนี้หมดไป 470 บาทค่ะ ปิดท้ายด้วยภาพรวมของทางร้านค่ะ (ถ่ายมุมนี้แล้วดูรกๆ เนาะ) มาต่อกันที่สุพรรณบุรีบ้างค่ะ สำหรับวิธีการไป วิ่งมาถึงนครสวรรค์แล้ว ก็วิ่งเส้นชัยนาท - สุพรรณบุรี จนมาถึงแยกไฟแดงที่มีสะพานยกระดับ (เอ่อ..จำไม่ได้ว่าเข้าเมืองหรือไงเนี่ยค่ะ) เราก็เบี่ยงซ้ายไปใต้สะพาน แล้วเลี้ยวขวา วิ่งตรงอย่างเดียว ประมาณ 3 กิโลค่ะ) ซึ่งร้านนี้ไปโดยโทร.ถามเพื่อนคนสุพรรณค่ะ แต่ไปตอนมืดแล้ว แหะๆ (ถ้ามาตอนยังมีแสงสว่าง น่าจะดีกว่านี้ เพราะจะได้เห็นวิวแม่น้ำด้วยง่ะ) ทางเข้าประดับด้วยโคมอย่างนี้ค่ะ การตกแต่งโดยรอบของร้าน เข้าไปด้านซ้ายนี่เป็นเคาน์เตอร์และห้องครัวค่ะ ตกแต่งด้วยหม้อ ไหที่ทำจากดินเผา ชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มไปหมดเลย ตรงทางเดินลงแพ มีไทรย้อย (เรียกถูกมั้ย) กับโคมด้วย ทางเดินลงแพที่ทานอาหาร เป็นสะพานไม้เล็กๆ ถ้าคนน้ำหนักมากๆ ก็น่าจะยวบเลยทีเดียวเวลาเดิน เพิ่งนึกออก ที่จริงเรียกไทรบาหลีหรือเปล่าคะ? แหะๆ นี่คือแพแรกที่เรานั่งกินค่ะ จำชื่อแพไม่ได้แล้ว แต่มีทั้งหมดสามแพจะเป็นชื่อตัวละครเอกในขุนช้าง-ขุนแผนแหละค่ะ ส่วนนี่คือแพข้างๆ มีห้องน้ำอยู่สุดปลายของแพนี้ค่ะ เมนูของทางร้านเรือนแพครัวสุพรรณค่ะ ทำจากไม้นะคะ มีรูปประกอบด้วย จานแรกสั่งมาเพื่อเรา (จืดๆ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อท้อง) กุ้งผัดน้ำมันหอยกับเห็ดอะไรสักอย่าง รสชาติธรรมดาค่ะ ปลาเก๋าราดพริกสามรสค่ะ เพื่อนๆ ติงว่าหวานไป แต่..คนกินหวานอย่างเรา..ชอบ ต้มยำปลาม้า รสจัดมากกกกกกกกกกกก ถูกใจคนทั้งโต๊ะ อร่อยมากมายค่ะ เปรี้ยวได้ใจ เป็น dish ที่ทุกคนลงความเห็นว่าเด็ดสุดแล้วในมื้อนี้ น้ำมะนาวของเพื่อน (ใครสั่งง่ะ จำบ่ได้) ค่ะ มีแอบทำเก๋ด้วยการเสียบดอกลั่นทมมาด้วย กุ้งแม่น้ำฉู่ฉี่ค่ะรสชาติ..ปานกลาง (ที่จริงเราอยากจะสั่งเผา แต่เพื่อนอยากกินฉู่ฉี่อ้ะ) แต่เนื้อกุ้งสดดีนะคะ สำหรับจานข้างบน ปิดท้ายด้วยจานนี้ เป็นผักอะไรหลายๆ อย่างทอดกรอบพร้อมน้ำยำ ซึ่งกว่าจะมานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก จนอิ่มกันหมดแล้วน่ะ เหอๆ พอได้กินก็อร่อยนะคะ แต่เนื่องจากทิ้งระยะนานเกิน เลยกินกันไม่ได้แล้วน่ะเสียดายเหมือนกันรวมแล้วหมดกับร้านนี้ไป 1155 บาท สรุปแล้วสำหรับสองร้านนี้ ไม้กลางกรุงก็ยังมีที่อร่อยและปานกลางค่ะ แล้วแต่คนชอบนะคะ เชียร์สุดก็ยังเป็นข้าวเกรียบปากหม้อในน้ำกะทิ ส่วนเรือนแพครัวสุพรรณ ต้มยำนี่พลาดไม่ได้เด็ดๆ ตัวผักทอดพร้อมน้ำยำก็โอเค นอกนั้นธรรมดาค่ะ ถ้าฤดูเทศกาล ถ้าใครหนีมาทางเส้นทางนี้ (เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดจากเส้นอยุธยา - อ่างทอง -สิงห์บุรี) ก็ลองแวะๆ ไปทานกันดูนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ 273739/3726/300
Create Date : 04 ธันวาคม 2551
Last Update : 4 ธันวาคม 2551 9:44:18 น.
49 comments
Counter : 32034 Pageviews.
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:10:03:48 น.
โดย: nLatte วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:10:30:34 น.
โดย: The White Rider IP: 203.131.222.155 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:12:26:42 น.
โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:12:30:39 น.
โดย: vanilla_ole วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:12:53:56 น.
โดย: JewNid วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:15:54:06 น.
โดย: sawkitty วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:16:46:50 น.
โดย: OFFBASS วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:18:32:10 น.
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:19:15:00 น.
โดย: แม่ไก่ วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:20:33:12 น.
โดย: จอมยุทธเฮง วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:20:38:51 น.
โดย: McMurphy วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:22:21:18 น.
โดย: :D keigo :D วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:22:29:22 น.
โดย: bying วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:23:18:41 น.
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:23:32:30 น.
โดย: แฟนผมฯ IP: 124.157.140.93 วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:0:40:53 น.
โดย: kirofsky วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:8:44:17 น.
โดย: sawkitty วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:13:14:30 น.
โดย: McMurphy วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:17:20:39 น.
โดย: bying วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:17:52:17 น.
โดย: BeCoffee วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:18:29:39 น.
โดย: พริกหวาน (nawapat ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:18:37:06 น.
โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:20:10:03 น.
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:21:23:37 น.
โดย: ทินา วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:23:42:30 น.
โดย: nohnbook วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:11:35:06 น.
โดย: Jujastar วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:20:05:26 น.
โดย: คนขับช้า วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:10:21:33 น.
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:12:21:33 น.
โดย: ดวงตาสวรรค์ วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:17:36:05 น.
โดย: prncess วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:18:49 น.
โดย: นายวุ้นกะทิ วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:6:11:51 น.
โดย: arcoiris วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:9:05:59 น.
โดย: iclassicugg IP: 58.22.79.224 วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:16:06:15 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [? ]
ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com หรือ https://www.facebook.com/saoguide
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
แต่ดูรูปแล้วอปอช.ถูกใจข้าวผัดที่สุดเยย เค้าชอยข้าวผัด
เคยกินแต่ข้าวเกรียบปากหม้อธรรมดา ไม่เคยเห็นแบบใส่น้ำกะทิเลยค่ะพี่...เอิ๊ก น่าลองที่ซู้ดดด
รู้สึกว่าวันนั้นไปกันไม่กี่คนนี่นา...ทำไมอาหารเยอะอย่างนี้
ชอบร้านขนมจีนร้านแรกจัง บรรยากาศดี ข้างในดูสะอาดสะอ้าน แถมท่าทางคงโปร่งเย็นสบาย อยากให้ข้าวซอยเสมอใจ ลำดวน etc. ที่เชียงใหม่จัดร้านใหม่ด่วน ร้อนมากก บรรยากาศดูไม่ค่อยน่ากิน (แต่รู้สึกว่าคนบ่นและนักท่องเที่ยวส่วนมากก็ยังไปกินอยู่เรื่อยๆ)