Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.
But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011
วัดสุวรรณาราม : ภูริทัต
เป็นเรื่องที่กล่าวว่าความโลภนั้นเป็นสิ่งชั่วร้ายเช่นเดียวกับการเนรคุณ แต่ความอดทนย่อมประเสริฐยิ่งนักแล้ว อีกหนึ่งในอีกเรื่องยาวเช่นกันภูริทัตต์พระราชโอรสของท้าวธตรฐ นาคราชาแห่งเมืองบาดาลเป็นผู้มีปัญญา เฉลียวฉลาดได้ช่วยพระบิดาแก้ไขปัญหาต่างๆอยู่เป็นประจำภูริทัตต์ได้เคยไปเห็นเทวโลก ว่าเป็นที่น่ารื่นรมย์จึงตั้งใจว่า จะรักษาอุโบสถศีลเพื่อจะได้ไปเกิดในเทวโลก จึงทูลขออนุญาตพระบิดา โดยมีข้อแม้ว่ามิให้ออกไปนอกเขตเมืองนาค เพราะอาจเป็นอันตราย ครั้นเมื่อรักษาศีลอยู่ในเมืองนาค ก็รำคาญว่าพวกฝูงนาคบริวารได้ห้อมล้อม ภูริทัตต์จึงหนีไปรักษาอุโบสถศีลอยู่ที่จอมปลวก ริมแม่น้ำยมุนา และตั้งจิตอธิษฐานว่า แม้ผู้ใดจะต้องการหนัง เอ็น กระดูก เลือดเนื้อของตน ก็จะบริจาคให้ ขอเพียงให้ได้รักษาศีลให้บริสุทธิ์ มีนายพรานชื่อ เนสาท ออกเที่ยวล่าสัตว์เผอิญได้พบภูริทัตต์เข้า สอบถามรู้ว่าเป็นโอรสของราชาแห่งนาค ภูริทัตต์เห็นว่าเนสาทเป็นพรานใจบาปหยาบช้า อาจเป็นอันตรายแก่ตน จึงบอกว่าเราจะพาท่านกับลูกชาย ไปอยู่เมืองนาคของเรา พรานเนสาทลงไปอยู่เมืองนาคได้ไม่นาน เกิดคิดถึงเมืองมนุษย์จึงบอกกับภูริทัตต์ว่า ข้าพเจ้าอยากจะกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องแล้วจะออกบวชรักษาศีลอย่างท่านบ้าง ภูริทัตต์รู้ด้วยปัญญาว่าพรานจะเป็นอันตรายแก่ตน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงต้องพาทั้งสองกลับไปเมืองมนุษย์ พรานพ่อลูกก็ออกล่าสัตว์ต่อไปตามเดิม ภาพเริ่มต้นจากมุมซ้ายบนมีพญาครุฑตนหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นงิ้ว วันหนึ่งขณะออกไปจับนาคมากิน นาคเอาหางพันกิ่งไทรที่อยู่ท้ายศาลาของฤาษี จนต้นไทรถอนรากติดมาด้วย ครั้นครุฑ ฉีกท้องนาคกิน แล้วทิ้งร่างนาคลงไป เห็นว่ามีต้นไทรติดมาด้วย ครุฑรู้สึกว่าได้ทำผิดที่ถอนเอาต้นไทรที่ให้ร่มเงาศาลา ครุฑจึงแปลงกายเป็นหนุ่มน้อยไปถามพระฤาษีว่า เมื่อต้นไทรถูกถอนเช่นนี้ กรรมจะตกอยู่กับใคร พระฤาษีตอบว่า ทั้งครุฑและนาคต่างก็ไม่มีเจตนาจะถอนต้นไทรนั้น กรรมจึงไม่มีแก่ผู้ใดทั้งสิ้น เมื่อพระฤาษีช่วยให้สบายใจก็จะสอนมนต์ชื่อ อาลัมพายน์ อันเป็นมนต์สำหรับครุฑใช้จับนาคแก่ฤาษี อยู่มาวันหนึ่ง มีพราหมณ์ซึ่งเป็นหนี้มากมายจนคิดฆ่าตัวตาย จึงเข้าไปในป่าเผอิญได้พบฤาษีจึงเปลี่ยนใจ อยู่ปรนนิบัติพระฤาษีจนพระฤาษีพอใจ ฤาษีจึงสอนมนต์อาลัมพายน์ ให้แก่พราหมณ์นั้น พราหมณ์เห็นทางจะเลี้ยงตนได้ จึงลาพระฤาษี แล้วเดินสาธยายมนต์ นาคที่ขึ้นมาเล่นน้ำได้ยินมนต์ก็ตกใจ จนลืมดวงแก้วสารพัดนึกไว้บนฝั่ง พราหมณ์จึงหยิบดวงแก้วนั้นไป ภาพต่อมาอยู่มุมขวาบนกล่าวถึงพรานเนสาทก็เที่ยวล่าสัตว์อยู่ เห็นพราหมณ์เดินถือดวงแก้วจำได้ว่าเหมือนดวงแก้วที่ภูริทัตต์เคยให้ดูจึงออกปากขอ พราหมณ์บอกว่าต้องการรู้ที่อยู่ของนาค เพราะตนมีมนต์จับนาค พรานเนสาทจึงพา ไปบริเวณที่ภูริทัตต์เคยรักษาศีลอยู่ เพราะอยากได้ดวงแก้ว ภูริทัตต์ลืมตาขึ้นดูก็รู้ว่า พราหมณ์คิดทำร้ายตน แต่หากจะตอบโต้ จนพราหมณ์เป็นอันตราย ศีลของตนก็จะขาด ภูริทัตต์จึงหลับตาเสีย ขดกายแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหว พราหมณ์ก็ร่ายมนต์อาลัมพายน์ จับภูริทัตต์ใส่ย่ามตาข่าย แล้วนำไปออกแสดงเพื่อหาเงิน จนมาถึงเมืองพาราณสีที่ปรากฏอยู่ที่มุมขวาล่างของภาพ พรามหณ์จึงกราบทูล พระราชาว่าจะให้นาคแสดงฤทธิ์ถวายให้ทอดพระเนตร เมื่อล้วงออกมาทำให้พราราช มเหสี สนมกำนัลแตกตื่นผ้าผ่อนหลุดลุ่ยขณะนั้นสมุทรชา พระมารดาผิดสังเกตที่ภูริทัตต์หายไปจึงให้ออกตามหาเมื่อถึงเมืองพาราณสี สุทัศนะก็ได้ข่าวว่ามีนาคถูกจับมาแสดงจึงตามไปจนถึงบริเวณที่แสดง ภูริทัตต์เห็นพี่ชายจึงเลื้อยเข้าไปหาซบหัวร้องไห้อยู่ที่เท้าแล้วเลื้อยกลับไปเข้าที่ขังของตนตามเดิมสุทํศนะกล่าวว่าพราหมณ์นั้นหลอกพระราชาโดยนำเอานาคไม่มีพิษมาแสดง จึงเกิดการเดิมพันกันขึ้น สุทัศนะได้รับชัยชนะจึงสามารถปล่อยภูริทัตต์ออกมาได้ส่วนพราหมณ์นั้นระหว่างการประลองโดนพิษนาคเข้าไปจนกลายเป็นโรคเรื้อนเรื่องราวยังคงยืดยาวต่อมา แต่ในที่สุดก็จบลงที่ภูริทัตต์ก็พาพี่น้องและนางสมุทรชาผู้เป็นมารดากลับไปเมืองมนุษย์ เพื่อไปเฝ้าพระบิดา พระเชษฐาที่เมืองมิถิลา หลังจากนั้นภูริทัตต์ขออยู่ที่ศาลากับท้าวธตรฐบำเพ็ญเพียรรักษาอุโบสถศีลด้วยความสงบ ดังที่ได้เคยตั้งปณิธานไว้ว่า
ปล. ได้ร่วมทริปกับชมรมครั้งที่สองแล้วค่ะ อยากไปอีกหลายทริปแต่ไม่สะดวกวันเสาร์-อาิทิตย์เท่าไหร่ค่ะ