BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : เที่ยวเชียงใหม่ 2558 : เวียงเจ็ดลิน

เที่ยวเชียงใหม่ 2558 : เวียงเจ็ดลิน

วัดกู่ดินขาว โบราณสถานหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของเวียงเจ็ดลิน
อันเป็นพื้นที่เดิมก่อนที่จะกลายมาเป็นสวนสัตว์เชียงใหม่ในปัจจุบัน
เป็นเมืองโบราณทรงกลมมีคูน้ำและกำแพงดิน 2 ชั้น
เพื่อการชลประทานและป้องกันข้าศึก

ดังปรากฏในรัชกาลของพระเจ้าสามฝั่งแกนว่า ที่นี่ถูกใช้เป็นเป็นค่าย
ของพญาไสลือไทที่ยกกำลังมาจากสุโขทัยเพื่อจะมาชิงเมืองเชียงใหม่
ที่นี่คงเป็นชุมชนสำคัญ จนกระทั่งพญามังรายสถาปนาเมืองเชียงใหม่
หลังจากนั้นคงถูกใช้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยตั้งอยู่ติดกับดอยสุเทพ

วัดกู่ดินขาวประกอบไปด้วยเจดีย์ประธาน วิหารและเจดีย์ราย 8 เหลี่ยม
ความน่าสนใจคืออิฐที่ใช้ในการก่อสร้างมีขนาดใหญ่กว่าที่อื่น (25*50*15 ซม)
และถูกเผาจนเนื้อแกร่ง

เจดีย์ประธานเป็นทรงมณฑปแบบเก่า ไม่ปรากฏส่วนมณฑปและเครื่องยอด
แต่จากชั้นเขียงที่หลงเหลือที่มีความกว้างตอนบน ชั้นหน้ากระดานสูง
และเรือนธาตุที่เป็นสี่เหลี่ยมน่าจะเป็นเจดีย์ก่อนสมัยล้านนา

ตรงกับฐานเจดีย์กู่กุด วัดจามเทวีของลำพูน และเจดีย์วัดสันกู่ร้าง
บนดอยสุเทพ ประมาณอายุก่อนสมัยพุทธศตวรรษที่ 19
สอดคล้องกับพระดินเผาแบบหริภุญไชยที่ขุดพบ

วิหารด้านหน้าเป็นอาคารทรงโถง ฐานสี่เหลี่ยมยกพื้นสูง
หลังคาเป็นแบบหน้าจั่วพบหลักฐานการซ่อมหลายครั้ง

เจดีย์ราย 8 เหลี่ยมที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำฐานปัทม์แบบท้องไม้
ลูกแก้วอกไก่คู่ โดยไม่มีฐานเขียงหน้ากระดาน รวมทั้งชั้นปัทม์ย่อเก็จ
ซึ่งไมใช่รูปแบบของศิลปะล้านนา แต่ตรงกับเจดีย์ 8 เหลี่ยมองค์หนึ่ง
ที่วัดสะตือเมือง และเจดีย์ของวัดร้างหลายแห่งในเวียงกุมกาม
ประมาณอายุต้นพุทธศตวรรษที่ 19

หลักฐานชิ้นสำคัญคือ อิฐก้อนใหญ่ที่มีรูปผู้ชายวงหน้าสี่เหลี่ยม
หวีผมแสกกลางสวมตุ้มหูห่วงกลม ไว้หนวด น่าจะเป็นลักษณะของผู้ชายในสมัยนั้น
มีตัวอักษรฝักขามกำกับไว้ว่า นายดน จึงเป็นหลักฐานสำคัญว่า
มีการซ่อมแซมตลอดเวลาจนกระทั่งอย่างน้อยก็ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 21

ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ลักษณะทางกายภาพของเวียงเจ็ดลินนั้นอยู่เชิงดอยสุเทพ
มีสายน้ำหลายสายไหลจากตะวันตกสู่ตะวันออก มีน้ำผุดอยูในบริเวณนั้น
จึงแหล่งที่อยู่อาศัยและเก็บของป่าล่าสัตว์ของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์

จากการขุดตรวจเวียงเจ็ดลินของหน่วยศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่
บริเวณใกล้บ้านพักปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ พบเครื่องมือหินกระเทาะ
ทั้งเครื่องมือแกนหินและสะเก็ดหิน สันนิษฐานว่าน่าะมีอายุอย่างนี้อย่างน้อย
10000 ปีขึ้นไป น่าจะตรงกับสมัยไพลสโตซีน

นอกจากนี้ยังพบหลักฐานยุคหินใหม่ ในบริเวณเพิงผาใกล้ถ้ำฤษี
โดยพบกำไลหินขัด ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบ
และชิ้นส่วนชองภาชนะดินเผาแบบตกแต่งสีสันที่ส่วนไหล่ของภาชนะ

ยุคตำนานถึงสมัยหริกุญไชย

เวียงเจ็ดลินปรากฎชื่ออยู่ในตำนานถึง 5 ฉบับ อ่านได้จากบล็อกของคุณตุ๊ก
เวียงเจ็ดลิน ... ตามหาตาน้ำกลางเวียงเจ็ดลิน

ใจความสำคํญคือประวัติความเป็นมาของชื่อเมืองว่า

“มิคคสังคะ- บุรีรัฏฐา ใส่ชื่อนามมา แต่เดิมว่าอั้น
อยู่ริมตีนดอย สุเทพที่หั้น กลายเปนเจ็ดลินเมื่อซ้อย”

เป็นเมืองร่วมสมัยกับหริภุญไชยหรือลำพูนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
ที่น่าจะเชื่อมโยงไปถึงเวียงท่ากาน และเมืองโบราณแถบจอมทอง
ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองต่างๆ มีความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน
โดยมีศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมทวารวดีสายเถรวาทที่หริภุญไชย

พุทธศตวรรษที่ 18 หรือห้าร้อยปีหลังตั้งเมืองหริภุญไชย

มหาอำนาจที่เคยขนาบอยู่ทั้งสองข้างของดินแดนเกิดการเปลี่ยนแปลง
อาณาจักรพุกามต้องล่มสลายภายใต้การรุกรานในเงื้อมมือของมงโกล
อาณาจักรพระนครที่เคยแผ่อำนาจขึ้นไปถึงเมืองสุโขทัยก็อ่อนแอลง

พ.ศ. 1782 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมืองตั้งรัฐสุโขทัย
พ.ศ. 1801 พญางำเมืองขึ้นครองราชย์ที่เมืองพะเยา
พ.ศ. 1804 พญามังรายขึ้นครองราชย์ที่หิรัญนครเงินยาง
พ.ศ. 1805 พญามังรายขยายอิทธิพลลงมาทางใต้ ตั้งเมืองเชียงราย
พ.ศ. 1822 พ่อขุนรามคำแหงขึ้นครองราชย์ที่เมืองสุโขทัย

พญามังรายใช้เวลา 7 ปีทำสงครามกับเมืองเขลางค์และหริภุญไชย
พ.ศ. 1832 ได้เมืองหริภุญไชยอันมั่งคั่งไปด้วยการค้าและวัฒนธรรม
เพียงสองปีพระองค์ก็เสด็จออกจากหริภุญไชยไปสร้างเวียงกุมกาม
มีการสร้างความเป็นพันธมิตระหว่างพญามังราย พระร่วง และพระยางำเมือง

พ.ศ.1939 พญามังรายทิ้งเวียงกุมกามเพื่อสถาปนาเมืองเชียงใหม่
ในการสร้างบ้านแปลงเมืองนั้น คนถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด
ราษฏรในเเวียงเจ็ดลินคงโดนกวาดต้อนให้ย้ายมาอยู่ที่ราชธานีใหม่
เวียงเก่าคงรกร้างเสื่อมสภาพกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่านอกตัวเมือง

พงศาวดารโยนกกล่าวถึงการเปลี่ยนเมืองร้างกลายมาเป็นเวียงเจ็ดลินว่า

ฝ่ายเจ้าพ่อท้าวยี่กุมกามซึ่งครองเมืองเชียงรายนั้น
ครั้นทราบว่าเจ้าสามฝั่งแกนอนุชา ได้ราชาภิเศกเปนพระมหาราชเจ้านครพิงค์
จึงยกรี้พลชาวเชียงรายมา จะชิงราชสมบัติเมืองนครพิงค์เชียงใหม่
ชาวพระนครออกป้องกันเมืองเปนสามารถเข้าตีเอามิได้ ก็พ่ายหนีไปพึ่งพระยาไสลือไทย

พระยาไสลือไทยก็แต่งกองทัพยกมาช่วยค้ำชูเจ้าพ่อท้าวยี่กุมกาม
ตีเมืองนครพิงค์เชียงใหม่ อยู่ได้ 7 วัน พระยาไสลือถอยทัพไปตั้งอยู่ดอยเจ็ดสิน
แล้วขึ้นไปสรงน้ำดำเศียรยังดอยยาลาดหลวง แล้วก็เลิกทัพกลับไป

ฝ่ายเจ้าสามฝั่งแกนพระเจ้าเชียงใหม่เอานิมิตรที่พระยาไสลือไปตั้งอยู่เชิงดอยเจ็ดสิน
แล้วขึ้นไปสรงเกษณะดอยผาลาดหลวง มีใจครั่นคร้ามชาวเชียงใหม่
เลิกทัพกลับไปนั้น จึงให้ฐาปนาที่นั้นเปนเวียงได้นามว่าเวียงเจ็ดสินโดยเหตุนั้น

Create Date : 08 เมษายน 2559

Last Update : 18 เมษายน 2559 12:41:38 น.

6 comments

Counter : 2322 Pageviews.

เคยเดินจาก มช. รอบคันดินอ่างแก้ว เรื่อยไปจนใน ม.ราชมงคล วนไปถึงสวนสัตว์ จะไปวัดกู้ขาว ต้องซื้อตั๋ว ด้วยความงก เลยยังไม่ได้ไปค่ะ อิอิ
ขอบคุณค่ะ
+

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 8 เมษายน 2559 เวลา:14:27:51 น.

นึกถึงสมัยเด็ก ๆ เวลาอ่านประวัติศาสตร์ จะเอาเป็นเอาตายกับการจำ ปี พ.ศ. เหตุการณ์มากค่ะ ผ่านมาจนถึงวันนี้ ยังเหมือนเดิม พยายามจำเหตุการณ์ ปี พ.ศ. (ไม่รู้จะจำไปทำไม) แต่ความจำถดถอยมากเลยค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
สวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ Food Blog ดู Blog
mambymam Food Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
อุ้มสี Art Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 8 เมษายน 2559 เวลา:15:49:48 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Art Blog ดู Blog
Max Bulliboo Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
mambymam Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ตอนนี้ออกจากสวนสัตว์แล้วนี่คะ หัวข้อยังเขียนเป็นสวนสัตว์อยุ่เลย แซวๆ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 8 เมษายน 2559 เวลา:16:09:24 น.

เอ่ออออออ ที่ห้อยท้ายบล็อกนี่คือ...สวนสัตว์เหรอคะ?

แหม้...

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 8 เมษายน 2559 เวลา:17:11:39 น.

เคยเดินผ่านทางถนนห้วยแก้วอ่ะครับ ทางเข้าหลักอยู่ทางไหนเหรอครับ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 9 เมษายน 2559 เวลา:17:46:15 น.

มาเที่ยวโคราชใหม่ก็ได้ค่ะ ใกล้แค่นี้เอง

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 10 เมษายน 2559 เวลา:21:01:44 น.