Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
29 พฤษภาคม 2551

เพชรบุรี : วัดใหญ่สุวรรณาราม



จากวัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม ก็เข้าเมืองไปวัดที่สำคัญวัดหนึ่งในเมืองเพชร
หลังจากวนหาทางเข้าอยู่หนึ่งรอบก็สามารถเข้าไปจอดรถได้
ถนนในเมืองค่อนข้างเล็ก แถมเจอวันเวย์หลายสาย
วันนั้นในวัด มีนักเรียนมาเข้าค่าย เห็นรองเท้าถอดวางอยู่หลายคู่
แต่น่าเสียดายที่ ถ้าเราจะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เราคงต้องมาทบทวนกันไหมว่า
ควรที่จะมีหมาจรจัด มาทำความสกปรก และก็ทำให้นักท่องเที่ยวกลัว อย่างนี้ไหม



ที่นี่มีของสำคัญหลายอย่างให้เราดู อย่างแรกคือ
ศาลาการเปรียญไม้ ขนาด ๑๐ ห้อง กว้าง ๕ วา ยาว ๑๕ วา ที่เคยเป็นท้องพระโรง
ตามคำบอกเล่า คือ พระเจ้าเสือ พระราชทานให้สังฆราช สมเด็จแตงโม
แต่ผมก็สงสัยว่า ทำไมต้องพระราชทาน ของที่เสมอด้วย พระเจ้าแผ่นดิน
ในเมื่อ ไม้และช่าง ในสมัยนั้น คงมีมากมาย จะสร้างสักเท่าไหร่ก็ได้

ก็เลยลองค้นดู มีเรื่องที่น่าสนใจคือ ความคิดเห็นของมรว คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่กล่าวไว้
ตอนที่มาปาฐกถาที่วิทยาลัยเพชรบุรี ไว้ว่า ดูจากรูปแบบที่มีช่อฟ้า ใบระกา เขียนลายทองแล้ว
คนที่เคยอยู่ในศาลาหลังนี้ มิน่าจะใช่คนธรรมดา แต่ต้องเป็นระดับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ดังนั้น ศาลาการเปรียญวัดใหญ่ฯ จึงน่าจะเป็นตำหนักของ เจ้าพระขวัญ ราชโอรสของพระเพทราชา
ที่ถูกพระเจ้าเสือลวงไปฆ่าขณะกินแตงโมค้างอยู่ครึ่งลูก และผีเจ้าพระขวัญก็เวียนกลับมาร้องขอ
แตงโมกิน จนตำหนักนั้นไม่มีใครกล้าอยู่ พระเจ้าเสือจึงต้องรื้อตำหนักมาถวายวัดเป็นการแก้อาถรรพ์

ความตอนนี้ในพระราชพงศาวดารได้บันทึกถึงความ เฮี้ยน ของผีเจ้าพระขวัญ ซึ่งพระมารดาเจอมาด้วยตัวเองไว้ดังนี้ ”…ขณะเมื่อพระราชบุตรทูลลาไปเฝ้ากรมพระราชวังบวรนั้น เข้าที่พระบรรทมอยู่ แต่ทว่ายังมิได้บรรทมหลับสนิท พอเคลิ้มหลับลงแต่ได้ยินเสียงพระราชบุตรมาทูลว่า ข้าพเจ้าจะขอพระราชทานผลอุลิตหวานซีกซึ่งเหลืออยู่นั้นเสวยต่อไป…”

ผนังของศาลานี้ มีภาพเขียนสี แต่ก็ชำรุดทรุดโทรมไปเกือบหมด
นอกจากนี้ ยังมีธรรมมาสถ์สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ 3-4 อัน
ความงามเรื่องศิลปะ นี่คงอธิบายไม่ถูก เพราะไม่มีความรู้อันใดเลย
ก็ได้ชื่นชมในความเก่าแก่ของศาลาหลังนี้เท่านั้น






ออกมานอกศาลา ก็พบประตูบานหนึ่งมีลวดลายสวยงาม อยู่ในลูกกรงเหล็ก
บานประตูมีรอยแหว่งต้านบน คำบอกเล่ามีว่า สมัยพม่ามาตีกรุงศรี ครั้งที่ 2
ผู้คนมาหลบในศาลาหลังนี้ พม่าจึงเอาขวานจามประตู
แต่ทำไม ต้องจามสูงขนาดนั้น แล้วทำไมไม่จามกลอนประตูล่ะ
ก็ไปเจอความคิดเห็นของอาจารย์ท่านหนึ่ง
อาจารย์ล้อม เพ็งแก้ว ผู้เชี่ยวชาญเพชรบุรีศึกษา ให้ความเห็นว่า สังเกตรอยคมขวานดูแล้ว
มิได้ฟันจากบนลงล่าง แต่ขณะฟัน บานประตูน่าจะนอนอยู่กับพื้นมากกว่า
เพราะรอยคมขวานขึ้นบน จึงเป็นไปได้ว่า น่าจะเป็นการผ่าประตูเพื่อแก้อาถรรพ์ที่ติดมากับศาลาหลังนี้
อ้าว มันจะเกี่ยวกับเรื่องข้างบนไหมเนี่ย บรื๋อๆๆ



จากศาลาเราก็เดินไปอุโบสถ ด้านในมีสิ่งสำคัญคือ พระพุทธรูป ที่มีนิ้วเท้าหกนิ้ว
เหมือนในสาลา ภายในก็มีภาพจิตรกรรม สมแล้วที่เมืองนี้ เป็นสกุลช่าง ที่มีชื่อเสียง





ภายนอกพระอุโบสถ มีของแปลกอีกอย่างคือ หอไตรกลางน้ำ แต่มีเสาเพียงสามเสา
และที่วัดใหญ่นี้ เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังของท่านมุ้ย อีกรื่องหนึ่ง คือ สุริโยทัย
ฉากตอนที่พระเทียร หนีมาบวช แล้วฝ่ายขุนวรวงศา ตามมา
และก็ในอุโบสถด้วยนึกกันออกไหม





นึกถึงหนังเรื่องสุริโยทัย จะนึกถึงฉากที่ พระไชย เรียก ท้าวศร้สดาจันทร์ ไปเฝ้าก่อนสวรรคต
ทำไมท่านมุ้ย ทำให้ คนดูสงสัยว่า ในเมื่อ พระไชย รู้ว่า ท้าวสรีสุดาจันทร์ เป็นคนลอบวางยาพิษ
แต่ไม่สั่งประหารวีวิต ทำไมล่ะ ...

ผมนึกได้แต่เพียงว่า เหมือนท่านจะตีความว่า พระไชยเอง ก็ไม่ไว้ใจ พระเฑียร เหมือนกัน
เลยต้องกล้ำกลืนไว้ชีวิต ท้าวศรีสุดาจันทร์ เพื่อไว้คานอำนาจกับ พระเฑียร
เพราะในหนังก็สร้างว่า พระสุริโยทัย มีสายสัมพันธ์กับทางหัวเมืองเหนือ ทีมี่กำลังในระดับหนึ่ง
แต่ในขณะเดียวกัน หนังก็แสดงออกมาตลอดว่า พระเฑียร ในสายตาพระไชย เอง
ก็ไม่เคยกระหายในอำนาจทางการเมืองเลย แม้แต่น้อย
ก็เลยยังคิดไม่ออกว่า เพราะอะไร

อย่างที่บอก ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้มากในเรื่อง การเอาเอกสารเก่า หลายๆเล่ม มาตีความ
เอกสารไทยไม่มีเอกสารเล่มไหนที่สมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องเอาจิกซอร์มาต่อ ช่วงที่ขาดหาย
และต้องวิเคระห์ในส่วนที่ขัดแย้งกัน

มีหลายอย่างที่ในหนังถ้าเราสะกิดใจ เราจะค้นคว้าเพิ่มเติมได้ เช่น
ในหนังเราจะเห็นว่า พระไชย กับ พระเฑียร จะสนิทกันเหมือนลูกพี่ลูกน้อง
แต่ทำไม ช่วงที่โอรสของหน่อพุทธางกูร ประสูติ พระสุริโยทัยพูดว่า ดีใจไหมที่พระองค์จะมีพระอนุชา
ทำไมพระเฑียร จึงตอบว่า อย่าเอาเราไปเทียบ เราไม่มีวาสนาเพียงนั้น
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อพระไชย นำกำลังมาโค่นบัลลังค์
พระไชยกลับบอกว่า บัลลังค์นี้เป็นสิทธิ์ของเราอยู่แล้ว
จริงๆ ความชอบธรรมอะไรที่ทำให้สองพระองค์นี้แตกต่างกัน



Create Date : 29 พฤษภาคม 2551
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 14:06:04 น. 0 comments
Counter : 3197 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]