BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : อยุธยา : วัดขนอน

อยุธยา : วัดขนอน

ไม่ไกลจากครัวมะนาว คือวัดขนอน ต. บ้านป้อม
เป็นวัดที่อยากมาตั้งแต่สนใจเรื่องราวในประวัติศาสตร์
อันเพราะมีเรื่องเล่าว่ามีใบเสมาที่เก่าถึงอยุธยาตอนต้น
มีความงดงามกระทั่งนักศึกษาโบราณคดีต้องมาลอกลาย

จอดรถและเดินเข้าไปมีนกจาบคาเล็กเกาะยอดไม้อยู่สูงลิบ
เปลี่ยนเลนส์และถ่ายรูปใบเสมากลับมาอย่างรวดเร็ว
ถามว่าได้ดื่มด่ำความงามไหม ก็ไม่
เพราะร้อนมาก ถึงตรงนี้ ถามว่าได้อะไรจากวัดนี้บ้าง

ก็เป็นที่ทราบกันว่า ใบเสมาเป็นของที่ใช้กำหนดอายุสถานที่ได้
เพราะเป็นสิ่งที่ทำตั้งแต่สร้างวัด และมักจะไม่ถูกบูรณะเลย
การศึกษาใบเสมาจึงเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
ผมเคยอ่านหนังสือเสมา สีมา ของ อ. พิทยา บุนนาค
ก็ยังไม่เข้าใจ

แต่ถ้าจะเอาแบบไม่ต้องวิชาการ แค่ใช้ความรู้สึกแล้วละก็
ผมคิดว่าเป็นสมัยอยุธยาช่วงต้นที่ได้รับอิทธิพลมาจากใบเสมา
แบบหินชนวนสีเทาของเมืองเหนืออย่างวัดจุฬามณีที่มีประวัติว่า
สร้างโดยสมเด็จบรมไตรโลกนาถ ดังนั้นก็ยังนิยมต่อมา
จนถังรัชกาลสมเด็จพระนเรศวร ก็น่าจะอายุประมาณราวๆ นี้

หากเอาแบบวิชาการก็ต้องเปิด youtube ของ อ. วรณัย พงศาชลากร
ก็จะได้ความรู้ว่าลวดลายมีที่มาจากปราสาทเขมร ก็ลองฟังกัน
สอดคล้องกับหนังสือ Downtown Ayuthaya ของ สนพ. มติชน
ที่กล่าวว่า อาจจะมีเทครัวชาวเขมรมาในรัชกาลเจ้าสามพระยา

ที่ยกทัพไปตีเมืองพระนครจนแตก ดังนั้นจึงพบร่องรอยชาวเขมร
นอกเกาะเมือง ตั้งแต่วัดขนอน วัดพนัญเชิง เรื่อยมาถึงบางปะอิน
ดังงั้นใบเสมาอาจจะมีอายุหลังรัชกาลพระบรมไตรโลกนาถก็ได้
เพราะเมืองพระนครในนสมัยยนั้นก็นับถือพุทธเถรวาท

แต่สมัยสมเด็จพระเรศวรก็มีการไปตีกัมพูชาแตกอีกครั้ง
ซึ่งในคราวนั้นเมืองหลวงย้ายไปตั้งอยู่ที่ละแวก
สมัยสมเด็จพระนเรศก็ย่อมเทครัวเขมรมาเช่นกัน
ก็คงต้องโปรดให้มาตั้งบ้านเรือนควบคุมกันในถิ่นเดิมที่มี

ซึ่งก็คงเป็นฝั่งขวาแม่น้ำเจ้าพระยานอกเกาะเมือง
และอาจจะขยายลงไปได้ถึงเกาะบางปะอิน
เพราะหลักฐานกล่าวไว้ชัดว่า สมัยสมเด็จพระนารายณ์
โปรดให้ครัวเขมรที่หลบการเบียดเบียนไปตั้งที่สามเสนน
แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรอยุธยา

คำถามคือแล้วใบเสมาควรจะอยู่ในยุคไหน
นักวิชาการพบว่าพบใบเสมาแบบนี้ที่เมืองละแวก
จึงสรุปกันว่าน่าจะเป็นใบเสมาสมัยสมเด็จพระนเรศวร

นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่อธิบายว่า ทำไมรัชกาลของพระเจ้าปราสาททอง
ถึงมีการรื้อฟื้นศิลปะแบบเขมรในกรุงศรีอยุธยา
ผ่านเรื่องว่า วันหนึ่งสมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จประพาสบางปะอิน
แล้วได้สาวชาวบ้านนางหนึ่งเป็นภรรยา

มีบุตรที่ต่อมาที่จะได้ครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
เมื่อบางปะอินเป็นถิ่นของขอม ก็กลายเป็นพระราชนิยมของพระองค์
ตำนานนี้สืบต่อมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มาสร้างพระราชวังบริเวณนี้
ก็เลยต้องมีการสร้างเทวรูปพระเจ้าปราสาททองไว้ที่บางปะอิน

พูดเรื่องอืนซะยาวก็เพราะไม่มีอะไรจะเล่าเรื่องลวดลายใบเสมานั่นเอง

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2566

Last Update : 9 พฤศจิกายน 2566 16:49:37 น.

3 comments

Counter : 532 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณtuk-tuk@korat, คุณทนายอ้วน, คุณ**mp5**, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณnewyorknurse

โดย: หอมกร

วันที่: 8 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:05:54 น.

พระเจ้าปราสาททองจึงเลือกทำตามแบบปราสาทเขมรนี่เอง
ขอบคุณค่ะ

โห ถูกสลาก 50 ล้านเลยหรือคะ มาไวไวนะคะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 8 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:31:19 น.

เวลาไปอยุธยาเห็นป้ายชื่อวันนี้ผ่านตาบ่อยๆครับ

ยังเคยคิดว่าจะแวะไปถ่ายรูปแต่ก็ยังไม่อีโอกาส

--------------------------

จากที่บล็อก

เคยไปเที่ยวแพร่แล้วเพื่อนพาไปกิน "ขนมเส้น" ครับ หน้าตาคล้ายๆน้ำเงี๊ยว แต่น้ำใส ไม่มีส่วนผสมของน้ำพริกครับ หวานน้ำต้มกระดูกหมูมาก

เคยอ่านหนังสือเค้าบอกว่าน่าจะเป็นสูตรมาจากทางเชียงตุง เพราะมีอาหารหน้าตาเหมือนกันเรียกชื่อว่า "ขนมเส้นน้ำจ๋าง" ครับ

เพื่อนบอกอีกด้วยว่าถ้าจะให้ดั้งเดิมสุดๆต้องไปกินตอนกลางคืน ในตลาดสดด้วย คริๆๆ

โดย: ทนายอ้วน

วันที่: 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา:8:31:00 น.