BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : วัดสุวรรณาราม : วิฑูรบัณฑิต

วัดสุวรรณาราม : วิฑูรบัณฑิต

ก่อนอื่นต้องขอัยที่ไม่มีภาพในเรื่องนี้ประกอบเนื่องจากในขณะนั้น
พระคุณเจ้าได้มานั่งเทศนาธรรมแก่ประชาชนในอุโบสถ (แต่ไม่มีคนฟัง)
ซึ่งภาพวิฑูรชาดกนี้อยู่เบื้องหลังท่านพอดี จึงไม่เหมาะสมที่ถ่ายภาพ
หากเห็นจิตรกรรมภาพยักษ์กำลังพยายามฆ่ามนุษย์ เดาว่าน่าจะเรื่องนี้

ในเมืองอินทปัตต์แห่งแคว้นกุรุ มีพระราชาทรงพระนามว่า ธนัญชัย
มีนักปราชญ์ประจำราชสำนักชื่อว่าวิฑูร ผู้มีวาจาฉลาดหลักแหลม
เมื่อจะกล่าวถ้อยคำสิ่งใด ก็สามารถทำให้ผู้ฟังเกิดความเลื่อมใสครัทธา

มีชาย 4 คน เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาแต่ก่อน ต่อมาได้ออกบวชเป็นฤษีบำเพ็ญพรต
อยู่ในป่าหิมพานต์ ครั้งหนึ่งมีเศรษฐี 4 คน ได้อัญเชิญฤาษีทั้งสี่ไปที่บ้านของตน
เมื่อบริโภคอาหารแล้ว ได้เล่าให้เศรษฐีฟังถึงสมบัติในเมืองต่างๆ ที่ตนได้เคยไปเยือนมา
ฤาษีตนที่หนึ่งเล่าถึงสมบัติของพระอินทร์ ตนที่สองเล่าถึงสมบัติของพญานาค
ตนที่สามเล่าถึงสมบัติพญาครุฑ และองค์สุดท้ายเล่าถึงสมบัติของพระราชาธนัญชัย

เศรษฐีทั้งสี่ได้ฟังคำพรรณนา ก็เกิดความเลื่อมใสอยากจะได้สมบัติเช่นนั้นบ้าง
ต่างก็พยายามบำเพ็ญบุญให้ทาน รักษาศีลและอธิษฐานขอให้ได้ไปเกิดเป็นเจ้าขอสมบัติ
ด้วยอำนาจแห่งบุญ ทาน และศีล เมื่อสิ้นอายุแล้ว เศรษฐีทั้งสี่ก็ได้ไปเกิด
คนที่หนึ่งไปเกิดเป็นท้าวสักกะเทวราช คนที่สองไปเกิดเป็นพญานาคชื่อว่าท้าววรุณ
คนที่สามไปเกิดเป็นพญาครุฑ และคนที่สี่ไปเกิดเป็นโอรสพระเจ้าธนัญชัย

ทั้งท้าวสักกะ พญานาควรุณ พญาครุฑ และพระราชา ล้วนมีจิตใจปรารถนา
จะรักษาศีล บำเพ็ญธรรม รักษาศีลอุโบสถและบำเพ็ญบุญ ให้ทานอยู่เป็นนิตย์
ด้วยอำนาจแห่งความผูกพันที่มีมาตั้งแต่ครั้งยังเกิดเป็นเศรษฐี บุคคลทั้งสี่
เผอิญได้มาพบกันที่สระโบกขรณี จึงได้ทักทายปราศรัยกันด้วยไมตรี

ขณะสนทนาก็ได้เกิดถกเถียงกันขึ้นว่า ศีลของใครประเสริฐที่สุด
ท้าวสักกะกล่าวว่า พระองค์ทรงละทิ้งสมบัติทิพย์ในดาวดึงส์
มาบำเพ็ญพรตอยู่ในมนุษย์โลก ศีลของพระองค์จึงบริสุทธิ์กว่าผู้อื่น
ฝ่ายพญานาควรุณกล่าวว่า ธรรมดาครุฑนั้นเป็นศัตรูตัวร้ายของนาค
เมื่อตนได้พบกับพญาครุฑ กลับสามารถ อดกลั้นความโกรธเคืองได้

พญาครุฑกล่าวแย้งว่า ธรรมดานาคเป็นอาหารของครุฑ ตนได้พบนาค
แต่สามารถอดกลั้นความอยากในอาหารได้ ส่วนพระราชาทรงกล่าวว่า
พระองค์ได้ทรงละพระราชวังอันเป็นสถานที่สำราญมาบำเพ็ญธรรม
แต่ลำพังเพื่อประสงค์ความสงบ ควรนับว่าศีลของพระองค์ บริสุทธิ์ที่สุด

ทั้งสี่ถกเถียงกันเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงชวนกันไปหา
วิฑูรบัณฑิต เมื่อฟังแล้วก็ตัดสินว่าคุณธรรมทั้งสี่ประการนั้น ล้วนล้ำเลิศทั้งสิ้น
ต่างอุดหนุนเชิดชูซึ่งกันและกัน ไม่มีธรรมข้อไหน ต่ำต้อยกว่ากันหรือเลิศกว่ากัน
บุคคลใดตั้งมั่น อยู่ในคุณธรรมทั้งสี่นี้ ถือได้ว่าเป็นสันติชนในโลก

ทั้งสี่เมื่อได้สดับคำตัดสินนั้น ก็มีความชื่นชมยินดีในปัญญาของวิธุรบัณฑิต
ที่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุมีผล ต่างคนต่างก็ได้บูชา
ความสามารถของวิธุรบัณฑิต ด้วยของมีค่าที่เป็นสมบัติของตน

เมื่อพญานาควรุณกลับมาถึงเมืองนาคพิภพ พระนางวิมลามเหสีได้ทูลถามขึ้นว่า
แก้วมณีที่พระศอของพระองค์หายไปไหน พญานาควรุณตอบว่า เราได้ถอดแก้วมณี
ให้กับวิฑูรบัณฑิตผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลม พระนางวิมลาได้ฟังดังนั้นก็เกิดความปราถนา
จะได้ฟังวิฑูรบัณฑิตแสดงธรรมบ้างจึงทรงทำ อุบายว่าเป็นไข้

เมื่อพญานาควรุณ เสด็จไปเยี่ยมตรัสถามว่า พระนางป่วยเป็นโรคใดทำอย่างไรจึงจะหายได้
พระนางวิมลาทูลตอบว่า ขอได้โปรดประทานหัวใจของวิฑูรบัณฑิตให้หม่อมฉัน
พญานาคได้ฟังก็ตกพระทัย ตรัสว่า วิฑูรบัณฑิตเป็นที่รักใคร่ของผู้คนทั้งหลาย
คงจะไม่มี ผู้ใด สามารถล่วงล้ำเข้าไปเอาหัวใจวิธุรบัณฑิตมาได้

พระนางวิมลาก็แสร้งทำเป็นอาการป่วยกำเริบหนักขึ้นอีก พญานาควรุณ
ก็ทรงกลัดกลุ้มพระทัยอย่างยิ่ง ฝ่ายนางอริทันตีธิดาพญานาคเห็นพระบิดาวิตกกังวล
จึงถามถึงเหตุที่เกิดขึ้น นางอริทันตีจึงทูลว่า นางจะช่วยให้พระมารดาได้สิ่งที่ต้องการให้จงได้

นางอริทันตีจึงป่าวประกาศให้บรรดาคนธรรพ์ นาค ครุฑ มนุษย์ กินนรทั้งปวง
ได้ทราบว่า หากผู้ใดสามารถนำหัวใจวิฑูรบัณฑิตมาให้นางได้ นางจะยอมแต่งงานด้วย
ปุณณกยักษ์ผู้เป็นหลานของท้าวเวสุวัณมหาราชผ่านมาเห็นนางก็นึกรัก
จึงเข้าไปหาและถามว่าวิฑูรบัณฑิต อยู่ที่ไหนเราจะนำหัวใจของเขามาให้นาง

เมื่อปุณณกยักษ์ได้ทราบว่าวิธุรบัณฑิตเป็นราชครูของพระเจ้าธนัญชัย
จึงดำริว่าหากเราต้องการตัว คงจะไปพามาง่ายๆ คงไม่ได้ เราจะท้าพนันสกา
โดยเอาวิฑูรบัณฑิตเป็นสิ่งเดิมพัน ปุณณกยักษ์ก็ไปหาพระราชาธนัญชัย
ทูลว่าข้าพระองค์มาท้าพนันสกา หากชนะข้าพเจ้าจะถวายแก้วมณีวิเศษ

แล้วก็ทูลถามว่าหากพระราชาแพ้พนันจะให้อะไรเป็นเดิมพัน
พระราชาก็ทรงตอบว่า ยกเว้นตัวเรา เศวตฉัตร และมเหสีแล้ว
เจ้าจะเอาอะไรเป็นเดิมพันเราก็ได้ทั้งสิ้น จึงเริ่มทอดสกาพนัน
ปรากฏว่าพระราชาแพ้ ปุณณกยักษ์จึงทวงทรัพย์เดิมพันว่า

ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาทรัพย์สมบัติใดๆ ขอแต่วิฑูรบัณฑิตแต่ผู้เดียวเป็นรางวัล
พระราชาตกพระทัยตรัสกับปุณณกยักษ์ว่า วิธุรบัณฑิตนั้นก็เปรียบได้กับตัวเราเอง
ซึ่งเราเดิมพันว่า เว้นแต่ตัวเรา เศวตฉัตร และมเหสีแล้วจะขออะไรก็จะให้ทั้งนั้น

วิฑูรบัณฑิตจึงได้ออกเดินทางไปกับปุณณกยักษ์ ในระหว่างทางปุณณยักษ์คิดว่า
เอาแต่หัวใจของวิฑูรบัณฑิตไปคงจะสะดวกกว่าจึงพยายามจะฆ่าวิฑูรบัณฑิตด้วยวิธีต่างๆ
แต่ก็ไม่เป็นผล ในที่สุดวิฑูรบัณฑิตจึงถามว่า ท่านต้องการจะฆ่าข้าพเจ้าทำไม
ปุณณกยักษ์จึงเล่าความเป็นมาทั้งหมด วิฑูรบัณฑิตหยั่งรู้ได้ด้วยปัญญาว่า

ที่แท้นั้นพระ นางวิมลาปราถนาจะได้ฟังธรรมอันเป็นที่เลื่องลือของตนเท่านั้น
จึงคิดว่าควรจะแสดงธรรมแก่ปุณณกยักษ์ เพื่อมิให้หลงผิด กระทำการอันมิควร
ครั้นแล้ววิฑูรบัณฑิตจึงได้แสดงธรรมชื่อว่า สาธุนรธรรมมีใจความว่า
บุคคลใดที่คิดร้ายต่อผู้ที่มีอุปการคุณ ได้ชื่อว่าเป็นเผาฝ่ามืออันชุ่มเสีย

ปุณณกยักษ์ได้ฟังธรรมก็รู้สึกในความผิด จึงตัดสินใจว่าจะพาวิธุรบัณฑิตกลับ
ไปยังกรุงอินทปัตต์ ตนเองจะไม่ตั้งความปรารถนาในนางอริทันตีอีกต่อไปแล้ว
เมื่อวิธุรบัณฑิตทราบถึงการตัดสินใจจึงกล่าวว่า นำข้าพเจ้าไปนาคพิภพเถิด
ข้าพเจ้าไม่เกรงกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่เคยทำความชั่วไว้ในที่ใด

ปุณณกยักษ์จึงนำวิธุรบัณฑิตไปเฝ้าพญานาควรุณในนาคพิภพ
แล้วพาพระนางวิมลามาพบวิฑูรบัณฑิต เมื่อพระนางทอดพระเนตรเห็น
ก็ได้ถามว่าท่านตกอยู่ในอันตรายถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่หวาดกลัวแต่อย่างใด
วิธุรบัณฑิตทูลตอบว่า ข้าพเจ้าไม่เคยทำความชั่วจึงไม่กลัวความตาย
ข้าพเจ้ามีหลักธรรมและมีปัญญา เป็นเครื่องประกอบตัว จึงไม่หวั่น เกรงภัยใดๆ

พญานาควรุณจึงตรัสว่า ปัญญานั้นแหละคือหัวใจของบัณฑิตหาใช่หัวใจ
ที่เป็นเลือดเนื้อไม่ จากนั้นพญานาควรุณก็ได้ยกนางอริทันตี ให้แก่ปุณณกยักษ์
ผู้ซึ่งมีดวงตาสว่างไสว ขึ้นด้วยธรรมของวิฑูรบัณฑิตพ้นจากความหลงในสตรี
แล้วสั่งให้ปุณณกยักษ์พา วิฑูรบัณฑิตไปส่งยังสำนักของพระราชาธนัญชัย

ภาพประกอบทั้งหมดเขียนอยู่ใต้ภาพมารผจญ ฝั่งขวามือเป็นตอนเสด็จออกผนวช
ฝั่งซ้ายเป็นขบวนแห่ ไม่ทราบเรื่องราวว่ามาจากพุทธประวัติตอนใด

Create Date : 01 ตุลาคม 2555

Last Update : 2 ตุลาคม 2555 16:10:12 น.

2 comments

Counter : 2915 Pageviews.

พระคุณเจ้าเทศนาธรรม แต่ไม่มีคนฟัง...

ชอบตอนนี้ค่ะที่วิฑูรบัณฑิตตอบว่า...ข้าพเจ้าไม่เคยทำความชั่วจึงไม่กลัวความตาย

ขอบคุณค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 1 ตุลาคม 2555 เวลา:20:09:59 น.

ขอบคุณที่แนะนำการดูรูปค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 2 ตุลาคม 2555 เวลา:16:19:05 น.