BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (10)

การอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง : พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (10)

12. ท้าวมหาชมพูเข้าเฝ้า พระพุทธเจ้าทรงแสดงปาฏิหาริย์
ทรงเครื่องกษัตริย์ ทรงเทศนาโปรดท้าวมหาชมพูบดีให้เห็นแจ้งว่า
พระนิพพานมีคุณค่ายิ่งเหนือทรัพย์สมบัติใดๆ ทั้งสิ้น
ท้าวมหาชมพูบดีบวชเป็นภิกษุและสำเร็จเป็นพระอรหันต์

-----------------------------------------------------------------------------

13.ท้าวชมพูบดีระรานพระเจ้าพิมพิสารแห่งแคว้นมคธ
โดยเหาะไปเตะถีบยอดปราสาท พระเจ้าพิมพิสารเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
พระพุทธองค์ตรัสว่าผลบุญย่อมคุ้มครองผู้เป็นอุบาสกแห่งพุทธศาสนา

นครเบญจานคราชเป็นเมืองใหญ่ที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปรีชาสามารถ
ในการทำสงคราม สามารถปราบปรามเมืองใหญ่ให้อยู่ภายใต้การปกครองได้
เมื่อพระเจ้ามหาชมพูอยู่ในพระครรภ์แห่งพระราชมารดา
พื้นแผ่นดินก็อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร มีทรัพย์สมบัติเกิดขึ้นมากมาย

เมื่อประสูติแล้วพราหมณ์ได้พยากรณ์ว่า พระราชกุมารนี้จะได้เป็นใหญ่
ในสกลชมพูทวีปและนาคพิภพจึงถวายพระนามว่า ชมพูบดี
เมื่อทรงครองราชย์ พระเจ้าชมพูบดีทรงใช้ลูกศรเป็นราชทูต
ไปหาท้าวพระยาทั้งปวงในชมพูทวีปให้มาเฝ้า

หากใครไม่เสด็จมาลูกศรนั้นจะร้อยพระกรรณของกษัตริย์องค์นั้น
มาสู่ที่ประทับของพระเจ้าชมพูบดีเป็นการแสดงพระราชอำนาจ

วันหนึ่งพระเจ้าชมพูบดีทรงสวมฉลองพระบาทแก้วมณีโชติ
แล้วเหาะไปถึงปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร
ทรงดำริว่าใครเป็นเจ้าของปราสาทที่งดงามจนน่าอิจฉาหลังนี้
ดำริแล้วก็ทรงพิโรธยกพระบาทถีบยอดปราสาทหวังจะทำลาย

ด้วยอำนาจที่พระเจ้าพิมพิสารเป็นพุทธอุบาสกก็คุ้มครองยอดปราสาทนั้นไว้
พระบาทและพระชาณุของพระเจ้าชมพูบดีกลับแตกโลหิตไหล
ครั้นพระเจ้าชมพูบดีทรงเอาพระแสงขรรค์ฟันยอดปราสาท
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า เทวดาก็บันดาลให้พระขรรค์นั้นบิ่นไป

พระเจ้าชมพูบดีจึงเดินทางกลับมาถึงเมือง
แล้วใช้ให้ศรวิเศษให้เหาะไปร้อยพระกรรณพระเจ้าพิมพิสาร
พระเจ้าพิมพิสารตกพระทัยเสียงวิษศรที่ดังมาจึงทรงหนีไปเวฬุวนาราม
พระพุทธเจ้าจึงทรงใช้จักรไปทำลาย ศรวิเศษหนีกลับไปหาพระเจ้าชมพูบดี

พระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นว่า พระเจ้าชมพูนั้นมีปัญญาที่พอจะสอนสั่งได้
จึงให้พระอินทร์ให้เป็นราชทูตไปตามพระเจ้าชมพูบดีมาเฝ้า
พระเจ้าชมพูบดีไม่สามารถต่อกรพระอินทร์ได้
จึงยอมมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์

พระพุทธเจ้าทรงเตรียมการทรมานโดยเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าราชาธิราช
ประทับอยู่เหนือบัลลังก์ในปราสาท มีท้าวมหาพรหมยืนถือเศวตฉัตร
พระราหุลเป็นขุนคลัง พระสาวกเป็นพระยาประเทศราช
และโปรดให้มาฆสามเณรไปย่นระยะทางและพาพระเจ้าชมพูบดีเข้ามา

พระพุทธองค์ทรงทราบทิฐิมานะของพระยาชมพูบดีจึงทรมานเป็นขั้นๆ
ให้ลดทิฐิลงมาในระดับที่จะรับฟังคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ได้
เมื่อใกล้จะถึงพระนคร มาฆสามเณรบังคับให้พระเจ้าชมพูบดีลงจากหลังช้าง
พระเจ้าชมพูบดีไม่ยอม มาฆสามเณรจึงเนรมิตกายใหญ่โตเข้าไสช้างจนล้มไป

พระเจ้าชมพูบดีต้องเสด็จด้วยพระบาทเข้าไปยังพระนคร
เจ้าราชาธิราชต่อสู้กับพระเจ้าชมพูบดีจนยอมจำนน
เจ้าราชาธิราชจึงแสดงพระองค์เป็นกลับมาเป็นพระพุทธเจ้า
ตรัสเทศนาจนพระเจ้าชมพูบดีเลื่อมใส จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

เหตุการณ์นี้เป็นตอนต้นเรื่อง เกิดขึ้นก่อนหน้าภาพที่ 12
แต่เพราะตอนทรมานพระยาชมพูเป็นฉากใหญ่
ช่างจึงสลับเอาฉากฟันยอดปราสาทมาไว้เป็นภาพเล็กที่มุมประตูแทน

ชมพูบดีสูตรเป็นพระสูตรนอกนิบาตร ไม่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับใด
จึงเป็นเรื่องคติเฉพาะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเรื่องมหาธรรมราชา
พระมหากษัตริย์ที่่ต้องการแสดงสถานะความเป็นพระจักรพรรดิราชทางธรรม
อันมีเค้ามาแต่สมัยพระยาลิไทแห่งสุโขทัยที่ประกาศเป็นพระมหาธรรมราชา

มหาชมพูบดีสูตรน่าจะเกิดขึ้นเพื่อรองรับแนวความคิดนั้น
ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลางที่พบพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์
คำให้การของขุนหลวงหาวัดกล่าวว่า เมื่อราชฑูตลังกาเห็นพระพุทธรูปปางนี้
ก็เกิดความงุนงง พระเจ้าบรมโกศจึงโปรดให้คัดลอกพระสูตรนี้ไปเผยแพร่

Create Date : 21 กรกฎาคม 2557

Last Update : 1 สิงหาคม 2557 14:40:40 น.

5 comments

Counter : 2645 Pageviews.

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ที่พระที่นั่งพุทไทสวรรค์นี้ผมเคยเข้าไปชมครั้งเดียวเองครับ ได้เข้าไปไหว้พระได้เห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เหมือนกัน แต่ว่ากำลังซ่้อมแซมอยู่เลยไม่ได้เดินชมครับ

พอได้มาชมผ่านบล็อกนี้แล้วได้ความรู้เยอะขึ้นมากเลยครับ

อิอิ

โดย: อาคุงกล่อง

วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:45:54 น.

ว่าแล้วก็โหวตให้แก่บล็อกนี้ครับ

+++++

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ปลาทอง สมองน้อย Art Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

+++++

อิอิ

โดย: อาคุงกล่อง

วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:46:44 น.

มาชมกันต่อค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:04:10 น.

สวัสดีอีกรอบค่า

ใช่เลยค่ะ คนจีนมาทำอาหารไทยค่ะ ชื่อร้านก็บอกชัดมากเลย ฮา

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 22 กรกฎาคม 2557 เวลา:9:07:55 น.

ขอบคุณค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 23 กรกฎาคม 2557 เวลา:17:55:29 น.