Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
14 พฤศจิกายน 2557

วัดบวรสุทธาวาส : ตำนานพระพุทธสิหิงค์ (4)

Untitled
สงครามภาพที่สอง (อาจจะเป็นคราวกรมพระราชวังบวรขึ้นไปช่วยเมืองลำปาง)


พ.ศ. 2454 สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยา ดำรงราชานุภาพ
ได้ทรงนิพนธ์ต่อจากพระโพธิรังสีจากสมัยเชียงใหม่มาจบที่กรุงเทพ

พ.ศ. 2203 พวกฮ่อยกกองทัพลงมาตีพม่า พระยาเชียงใหม่กลัวว่า
ถ้าพวกฮ่อจะยกล่วงลงมาถึงเมืองเกรงว่าจะสู้ไม่ได้
เมื่อพม่าเองก็ติดศึกจึงให้แสนสุรินทร์ไมตรีลงมาขอกองทัพ
ทางกรุงศรีอยุธยาขอไปช่วยรักษาเมืองเชียงใหม่

เมื่อใกล้จะถึง เจ้าเมืองเชียงใหม่กลับมีหนังสือลับมาแจ้งฑูตว่า
บัดนี้พวกฮ่อได้ถูกพม่าโจมตีกลับไปแล้ว เมืองเชียงใหม่ปลอดภัย
แต่หากพม่ารู้ว่า ทางเชียงใหม่ไปของกองทัพอยุธยามาช่วย
ก็คงเป็นความผิดมหันต์ ดังนั้นให้ถ่วงเวลาอยุธยาไว้ก่อน

เมื่อรอนานเข้า สมเด็จพระนารายณ์ก็รู้ว่ามีการเล่นตุกติกขึ้น
จึงยกทัพเข้าตีเมืองเชียงใหม่จนแตก แล้วกวาดต้อนผู้คนลงมา
พร้อมด้วยพระพุทธสิหิงค์ ปรากฏอยู่ในจารึกวิหารร่มพระแท่นศิลาอาสน์
ที่จารขึ้นโดยกล่าวถึงการปฏิสังขรณ์ในปี พ.ศ. 2297 – 2301

โดยออกพระศรีราชใชยม่หัยสูรีนบูรีนทพิรียะภาหะพรทายนำ
เจ้าเมืองสวรรคโลก ผู้บูรณะได้เท้าความเป็นมาตอนต้นของจารึกว่า
ท่านเป็นหลานตาของเจ้าเมืองเชียงใหม่ที่สมเด็จพระนารายณ์
ทรงพระกรุณาชุบเลี้ยงให้เป็นข้าราชการของอยุธยา

“ คลังสํมเดจ์พระณะรายเปนเจ้ามารํบเมียงเชยีงไมใดพระพุทธ่ส่หิ่ง
แล้วกวาดตอนเอาแมนลาวทังนีลํงมาเปนข้าพรเจ้ากรุงศรีอยุธยา ”


ตรงกับพงศาวดารโยนกที่กล่าวว่า ลุศักราช 1022 ปีชวดโทศก
กองทัพกรุงศรีอยุทธยายกขึ้นมาตีเมืองนครเชียงใหม่แลเชียงแสน
ชาวเชียงใหม่พ่ายหนีละเมืองเสียไปตั้งเวียงน้อยอยู่ในป่าห้วยใต้ได้ 2 ปี
ลุศักราช1024 ปีขาลจัตวาศก จึงได้กลับคืนมาตั้งเมืองเชียงใหม่ดังเก่า


Untitled
กระบวนแห่พระพุทธสิหิงค์จากเชียงใหม่


คำให้การชาวกรุงเก่าบันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
การศึกครั้งนี้จึงมีเป้าประสงค์ในพระพุทธรูปสำคัญเมืองเชียงใหม่2 องค์
คือพระพุทธสิหิงค์และพระพุทธรูปนาคปรกแกะสลักจากไม้จันทน์แดง
คำให้การชาวกรุงเก่าได้ให้ข้อมูลกล่าวถึงตำนานของพระพุทธสิหิงค์

อันเป็นที่รับรู้กันของคนอยุธยาในสมัยนั้นว่ามีที่มา 2 ทาง
เรื่องแรก หลังจากพุทธปรินิพพาน พระมหาอุปคุตเถรเจ้าได้มายังเมืองเชียงใหม่
และประสงค์ที่จะสร้างพระพุทธรูปให้เหมือนองค์พระพุทธเจ้า
จึงให้เทวดาและนาคมาเนรมิตเป็นพระพุทธเจ้าให้ช่างหล่อเป็นพระพุทธสิหิงค์

เรื่องที่สองกล่าวว่าพระเจ้าเชียงใหม่โปรดให้หล่อพระพุทธสิหิงค์ขึ้น
โดยนำแก้วมณีที่มีอานุภาพฝังลงในพระเนตรทำให้พระพุทธสิหิงค์มีฤทธิ์
สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยอำนาจของแก้วมณีนั้น

ความเชื่อนี้ทำให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ได้ตรัสถามพระยาแสนหลวงอำมาตย์ของเมืองเชียงใหม่ว่า
“ เราได้ทราบข่าวว่า พระพุทธสรหิงนี้มีอานุภาพเหาะเหีรเดีรอากาศได้จริงหรือ ”

พระยาแสนหลวงกราบทูลไปว่า “ แต่เดีมเมื่อพระพุทธสรหิงยังประดิษฐาน
อยู่ที่เมืองปาตลีบุตรนั้นเหาะเหีรเดีรอากาศได้จริง
แต่มีคนทุจริตมาควักเอาแก้วมณีที่ฝังเปนพระเนตรไปเสีย
แต่นั้นมาพระพุทธสรหิงก็เหาะเหีรเดีรอากาศไม่ได้

ส่วนพระพุทธรูปปางมารวิชัยแกะสลักจากไม้แก่นจันทน์แดงนั้น
น่าจะหมายถึง พระแก่นจันทน์ที่พระยายุทธิษฐิระอัญเชิญมาจากแจ้ห่ม
แล้วพระเจ้าติโลกราชอัญเชิญต่อมาไว้ที่วัดโพธาราม เชียงใหม่
แต่ก็หาต่อไปไม่ได้ว่าปัจจุบันนั้นอยู่ที่ใด ?

เพราะในสงครามครั้งนั้นก็ไม่มีบันทึกว่า มีการอัญเชิญมา


Untitled
กระบวนแห่พระพุทธสิหิงค์มาถึงวังหน้า


นับตั้งแต่สมเด็จพระนารายณ์ทรงอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากลงมา
ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการจำลองพระพุทธสิหิงค์สืบต่อมาจนกระทั่งเสียกรุง
แต่สำหรับคนทั่วไปกลับมีความเชื่อว่า พระพุทธสิหิงค์นั้นมีเพียง 3 องค์

เมื่อมีการค้นพบพระพุทธรูปที่มีจารึกว่า พระสิง
ที่วัดโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร จึงกลายเป็นเป็นข่าวโด่งดัง

ยังมีพระพุทธสิหิงค์จำลองที่ไม่เป็นข่าวอยู่อีกหลายแห่งมากๆ
ผมเคยเห็นว่าที่สุโขทัยก็มี โดยมีศิลปะแบบสุโขทัย
คือนอกจากพระพักตร์แล้ว องค์พระยังเอนไปด้านหลังเล็กน้อย
ซึ่งเมื่อนำไปตั้งไว้บนฐาน แล้วมององค์พระจากเบื้องล่าง จะงามสง่างดงาม

ที่เชียงใหม่นี่ก็เยอะมาก มีกระทั่งพระพุทธสิหิงค์ทรงเครื่อง
ในภาคกลางก็มีพระพุทธสิหิงค์ที่สร้างตามความเชื่อที่ว่า
พระพุทธสิหิงค์นั้นมีปาฏิหาริย์เหาะเหินเดินอากาศได้
เพราะในพระเนตรนั้นฝังแก้วมณีมีค่าไว้

เช่น พระพุทธสิหิงห์จำลองในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
พระพุทธสิหิงห์จำลองใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
และพระพุทธสิหิงห์จำลองในวิหารวัดเสาธงทอง จังหวัดลพบุรี

แต่พระพุทธสิหิงค์ที่โด่งดังที่สุดคือ พระพุทธสิหิงค์เมืองนครศรีธรรมราช
โดยตีความว่าพระมหากษัตริย์ผู้สร้างมี 3 พระองค์ พระพุทธสิหิงค์จึงมี 3 องค์
แต่ในความเป็นจริง เป็นพระพุทธรูปจำลองสายสกุลช่างของอยุธยา
พระพักตร์กลม อมยิ้ม พระอุระอวบอ้วน จึงเป็นที่มาของการเรียกพระขนมต้ม

ดังนั้นจึงมีอายุไม่มากไปกว่า รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์


Untitled
กระบวนแห่พระพุทธสิหิงค์มายังวังหน้า


แล้วพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่ที่ไหนในอยุธยา
ขอเชิญชวนไปอ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเขียนโดย คุณปลาทอง สยองเมือง

วิหารยอดปรางค์ที่เคยทรงพระสิหิงค์ในสมัยอยุธยา
น่าจะมีลักษณะคล้ายมณฑปที่สร้างโดยกรมสมเด็จพระราชวังบวร
ที่เคยประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ เนื่องจากท่านเป็นขุนนางส่วนกลาง
ที่ทุกปีต้องมีการเข้าไปถือน้ำในอุโบสถวัดพระศรีสรรเพชร

ซึ่งต้องผ่านหอพระพุทธสิหิงค์ที่อยู่ด้านหน้าอย่างแน่นอน
จึงอาจจำลองปราสาทยอดปรางค์มาประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์
ให้เหมือนเมื่อครั้งบ้านเมืองยังดี แต่ต่อมามณฑปหลังนี้ได้ถูกถวาย
ให้นำไปใช้ตั้งพระประธานในอุโบสถวัดไพชยนต์พลเสพย์

ยังอาจคล้ายคลึงกับมณฑปน้อยที่วัดไลย์ ลพบุรี
ซึ่งทำเป็นยอดปรางค์และมีทับเกษตรรอบเช่นกัน
(ผมเคยไปวัดนี้และไปยืนดูสิ่งก่อสร้างนี้ตั้งนาน
เพราะว่ามันคล้ายหอระฆัง แต่ตำแหน่งที่ตั้งนั้นแปลกมาก)


Untitled
พระที่นั่งพุทไธสวรรย์มองจากด้านข้าง


พระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีสรรเพชรจนกระทั่ง พ.ศ. 2310
ชาวเชียงใหม่ที่มากับกองทัพพม่าได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไป
หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี
ก็รวบรวมก๊กต่างๆ ที่ตั้งตนเป็นอิสระเมื่อครั้งกรุงแตกกลับมาเป็นปึกแผ่น

นอกจากนี้พระองค์ยังได้ขยายขอบเขตอำนาจขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่
เพื่อไม่ให้ใช้ล้านนาเป็นที่ซ่องสุมกำลังพล เรือ และเสบียงลงมาทำศึกได้อีก
เมื่อพระยาจ่าบ้านหันมาเข้ากับไทย พระเจ้ากรุงธนบุรีจึงได้เมืองเชียงใหม่
นับแต่นั้นเมืองเชียงใหม่ก็ร่วมมือกับกรุงธนบุรีในการต่อต้านทัพพม่า

แต่พม่าก็ถือว่าเชียงใหม่เป็นเมืองในขอบขัณฑสีมาตนเองจึงมีการทำศึก
ระหว่างกันหลายครั้ง พ.ศ. 2330 สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ยกทัพไปตีเมืองลำปางคืน
และตีทัพพม่าที่ป่าซางแตก

เนื่องจากทรงดำริว่าพระพุทธสิหิงค์นั้นเดิมประดิษฐานอยู่ที่อยุธยา
หลังสงครามครั้งนี้จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กรุงเทพ
พระองค์ได้สร้างพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ไว้เพื่อประดิษฐานเป็นการเฉพาะ



Create Date : 14 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2557 15:19:37 น. 3 comments
Counter : 1768 Pageviews.  

 
กำลังจะไปอยุธยา เที่ยวยังไงดีคะ เวลา 1 -2 วัน


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:35:22 น.  

 
ถึงตอนนี้ คิดเอาเองว่า ได้มีโอกาสไปกราบพระพุทธสิหิงค์ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เกือบทุกปี เป็นสิริมงคลกับชีวิตนักค่ะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557 เวลา:20:33:36 น.  

 



สวัสดีค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ปลาทอง สมองน้อย Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 15 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:26:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]