Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
17 มีนาคม 2553

เพชรบุรี : พระรามราชนิเวศน์



ประเพณีนิยมที่พระมหากษัตริย์ไทยรับมาจากชาวตะวันตกหนึ่งนั้นคือ
การมีพระราชวังตากอากาศชายทะเล เพื่อแสดงถึงความศิวิไลซ์
และใช้เพื่อพักผ่อนหากมีอาการประชวร เนื่องจากเป็นที่มีอากาศบริสุทธิ์
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ก็มีพระนครคีรีเป็นสถานที่แรก ในจังหวัดเพชรบุรี

ซึ่งก็คงไม่มีใครไม่เคยไป เพราะเป็นทางผ่านที่เราต้องเห็นทุกครั้ง
เมื่อเราเดินทางลงใต้ ผมนี่ไปหลายครั้งมาก มากซะจน
รูปล่าสุดหายไปไหนก็ไม่รู้ งั้นขอยกยอดไปก่อนก็แล้วกัน

เมื่อเข้าสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะมีพระราชวัง
เพื่อประทับค้างแรมที่จังหวัดเพชรบุรี เพื่อที่ใช้ประทับยามหน้าฝน
พระองค์จึงมีพระราชโองการให้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านที่เขตบ้านปืน
ทรงโปรดให้สร้างพระรามราชนิเวศน์ หรือพระราชวังบ้านปืน

พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2453
โดยมีนายคาร์ล ดอห์ริง สถาปนิกชาวเยอรมนีเป็นผู้เขียนแบบ
ดร.ไบเยอร์ ชาวเยอรมนี เป็นนายช่างก่อสร้าง โดยได้แบบแผนมาจาก
ตำหนักในพระราชวังของพระเจ้าไกเซอร์ที่ทรงเคยประทับ
และมีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ควบคุมการก่อสร้าง
และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์
กรมขุนนครสวรรค์วรพินิต ควบคุมด้านการไฟฟ้า

ตัวอาคารสร้างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมด้วยสวนหย่อม
มีสระน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลาง ส่วนที่ประทับเป็นตึกสองชั้นขนาดใหญ่
หลังคาทรงสูงรูปโดม ภายในเป็นโถงสูงมีบันไดโค้งขึ้นสู่ชั้นสอง
ซึ่งจัดเป็นจุดเด่นของพระตำหนักตัวพระตำหนักจะเน้นความทันสมัย
โดยจะไม่มีลายปูนปั้นวิจิตรพิศดาร แต่จะเน้นในเรื่องของความสูง
ของหน้าต่าง ความสูงของเพดานซึ่งกว้างเป็นพิเศษ
ทำให้พระตำหนักดูใหญ่โต และสง่างาม

การก่อสร้างสำเร็จเมื่อ ในปี 2459 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 6
ปี 2461 ทรงปลี่ยนชื่อพระราชวังบ้านปืน เป็น พระรามราชนิเวศน์
และทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
หล่อรูปปั้นพระนารายณ์ทรงปืนเพื่อนำมาประดิษฐานไว้ยังหน้าพระที่นั่ง
(ปัจจุบัน รูปปั้นนี้อยู่ที่หน้าพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร)

แต่รัชกาลที่ 6 พระองค์ก็มิได้เสด็จประพาสมายังพระราชวังนี้บ่อยนัก
พระราชวังจึงเริ่มทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ ครั้นถึงรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้ปรับ
พระราชวังนี้เป็นสถานศึกษาของครู ซึ่งต่อมาก็ได้ย้ายออกไป
ต่อมาได้รับการโปรดเกล้าให้ใช้เป็นโรงเรียนวังพระรามราชนิเวศน์
โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรม โรงเรียนฝึกหัดครูผู้กำกับลูกเสือ
และโรงเรียนประถมวิสามัญหญิง จนสุดท้ายโรงเรียนเหล่านี้ย้ายออกไป

พระราชวังบ้านปืนจึงถูกทิ้งให้รกร้างอีกครั้ง
ล่วงมาถึงในรัชสมัยรัชกาลที่ 8 เมื่อเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา
ฝ่ายทหารได้ใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้พระราชทานวังนี้
ให้เป็นที่ตั้งของจังหวัดทหารบกเพชรบุรี ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นมณฑล
ทหารบกที่ 15 ซึ่งเป็นผู้บูรณะและดูแลพระราชวังแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน



Create Date : 17 มีนาคม 2553
Last Update : 17 มีนาคม 2553 14:52:30 น. 5 comments
Counter : 1862 Pageviews.  

 
ไปมาแล้ว ดูเหมือนเป็นบ้านที่น่าอยู่มาก ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:16:00:52 น.  

 
ไปกับออฟฟิศมาเมื่อปลายปีที่แล้วครับ
ก่อนหน้านั้นก็ไปส่วนตัวหลายรอบ

ผมว่าของที่จัดวาง อย่างพวกโต๊ะ เก้าอี้ เก่าๆ มันหายไปนะ
ไม่รู้เจ้าหน้าที่เขาเก็บไปไว้ไหน ทำให้บางห้องมันเลยดูโล่งเกินเหตุ


โดย: NATSKI13 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:8:37:16 น.  

 
ว้าว...เพิ่งไปพระราชวังบ้านปืนมา...เมื่อเสาร์ที่แล้วนี้เอง อิอิ


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:9:32:52 น.  

 
ไปล่าสุด เค้าปิดด้านหลังเพื่อซ่อม


โดย: VET53 วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:15:00:42 น.  

 
ผมชอบบันไดของที่นี่ครับ สวยมาก




โดย: NATSKI13 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:13:59:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]