Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
ธันวาคม 2566
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
4 ธันวาคม 2566

อยุธยา : วัดพระยาแมน



จากบลอกก่อนหน้า ที่ว่าจะไปท่องเที่ยวแบบคนธรรมดาบ้าง
ก็เลยคิดว่าจะไปชม โบราณสถานวัดพระงาม
ซึ่งมักพบเห็นภาพ คนแต่งชุดไทยถ่ายกับประตูย้อนแสงในยามเย็น
แต่ว่ามีกรรมบังเ ค้ากำลังซ่อมถนนทางเข้าอยู่ อดเข้าไปเลย
 
แม้วัดพระแมนไม่ได้อยู่ในแผน แต่ก็ขอแวะหน่อยแล้วกัน
 

วัดพระยาแมนเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัย เป็นราชธานี
โดยไม่ปรากฏนามผู้สร้าง และไม่ทราบว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยใด
แต่ชื่อวัดพระยาแมนปรากฏในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
ก่อนที่สมเด็จพระเพทราชา จะได้ครองราชสมบัตินั้น
 
ผนวชอยู่ที่วัดพระยาแมน โดยพระอาจารย์อธิการได้ทำนายว่า
พระองค์จะได้ขึ้นครองราชย์สมบัติ ดังนั้นเมื่อสมเด็จพระเพทราชา
ได้เสวยราชสมบัติแล้ว จึงทรงพระราชดำริถึงคุณพระอาจารย์อธิการ
จึงเสด็จพระราชดำเนินไปยัง วัดพระยาแมนเพื่อถวายนมัสการพระอาจารย์

แล้วมีพระราชดำรัสให้ให้สร้างพระอารามให้ถาวรขึ้นกว่าเก่า
เมื่อสร้างแล้วเสร็จทรงพระกรุณา ให้มีการสมโภช 3 วัน
และทรงตั้งพระอาจารย์อธิการ วัดพระยาแมน
ชื่อพระยาศรีสัจจญาณมุนี ราชาคณะฝ่ายคามวาสี
พร้อมถวายเครื่องสมณบริขาร พร้อมตามศักดิ์พระราชาคณะ
 

 
เนื้อความตรงกับ พงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศว่า
วัดนี้น่าจะสร้างราว พ.ศ. 2238 หลังการปราบกบฏนครศรีฯ
และรูปแบบอาคารก็ดูคล้ายกับ วัดบรมพุทธารามที่มีเอกสารว่า
สร้างโดยสมเด็จพระเพทราชาเช่นเดียวกัน ก็น่าจะจบเท่านี้
 
แต่ก็มีเรื่องสงสัยตั้งแต่บล็อกก่อนหน้า เรื่องวัดครุธา
ที่พระเจ้าเอกทัศน์ได้ทรงสร้างคู่กับวัดละมุด ว่าทำไมต้องมาแถวนี้
เราคงต้องตามรอยนิราศนครสวรรค์ ที่เขียนครั้งสมเด็จพระนารายณ์
หลังการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ได้มีการพบช้างเผือกจึงเสด็จไปรับ
 
ลุถึงพะเนียดช้าง        สาวสรรค์
เอาแต่ตัวตรูมัน        โอบอ้อม
นำมาสู่ซองกรร        กงเขื่อน ขันนา
เสด็จออกเอาพลล้อม        ลากเข้าโรงรมย์ ฯ

ดลบ้านไทยใหญ่น้ำ        นองชล เชี่ยวแฮ
ยลย่อมพานิชสน        เสียดซ้อง
คิดครวญร่ำจวนจน        ใจเดือด แดนา
กี่เมื่อเลยจะหล้อง        ลาดเข้าคืนเวียง ฯ

วัดพระงามเงื่อนเพี้ยง        แมนสรรค์
งามรูปปฏิมาพรรณ        รุ่งเร้า
ถวายวันทนอัน        ปราโมช แล้วแฮ
ขอจงพลันคืนเข้า        สู่บ้านเมืองหลวง ฯ



 ไคลคลานาเวศใกล้        ทรายมี มากนา
เกาะราชเทพีศรี        ชื่อไซร้
ถนัดกลเทพี        เพ็ญภาคย์ งามแฮ
มาเพื่อโลมลวงให้        หน่วงหน้านานถึง ฯ

สัดจรเลอทุ่งถ้อง        ทางไป เปล่าแฮ
เห็นแต่แฝกแขมใบ        ค่าค้อม
ราตรีสว่างแสงใส        โสภาคย เดือนนา
ลมระรวยชวยอ้อม        โอบเนื้อเสียวสมร ฯ

 ลุบางลางน้ำเชี่ยว        ใจหมาง
เจ็บจรเทินมรกลาง        สวาทช้ำ
บางลางบเห็นลาง        ใดหนึ่ง เลยนา
สิจะคืนพลันช้ำ        ใคร่รู้โดยถวิล ฯ

 เยียมาดลด่านด้าว        แดนไพร
วังซื่อแสงกแสงใจ        ขุ่นขั้ง
นึกวังราชมีใน        นัคเรศ พูนแฮ
ราเมศมานฤมิตตั้ง        แต่งไว้เป็นเฉลิม ฯ

ถึงตำบลบ้านป่า        ในนาม
บ้านนอกดูมูมมาม        หม่นเศร้า
เรือนรกห่อนฤๅงาม        สักหยาด
เป็นคอกโคควายเข้า        เปลือกปล้อมลอมฟาง ฯ

ปากน้ำพระสพซึ้ง        สัญญา
ถึงจะรีบจวนเวลา        ค่ำคลุ้ม
พระสพแต่บูรพา        มาอยู่ ไซร้นา
ขอเดชพระมาคุ้ม        โทษแท้จงเกษม ฯ




ตัดมาให้เพียงเท่านี้ เพื่อให้เราสามารถที่จะจินตนาการได้
ถึงเส้นทางการเสด็จทางชลมารค ที่คงอึกทึกครึกโครมมากในเวลานั้น 
จากปากคลองสระบัวตรงข้ามพระราชวัง มาออกแม่น้ำลพบุรีที่ปากประสบ

ปัจจุบันปากคลองฝั่งแม่นำ้ลพบุรีถูกเปลี่ยนเป็นคลองชลประทาน
ที่ไม่ได้ไหลไปออกแม่น้ำเช่นเดิม เพราะเส้นทางน้ำเดิมช่วงนี้ที่เป็นโค้งขวา
ได้ถูกขุดดขยายต่อไปโดยโค้งไปทางซ้าย
จุดเดิมที่ออกแม่น้ำลพบุรี ปัจจุบันอยู่ที่ใต้สะพานตรงข้ามกับวัดวรนายกรังสรรค์
 
เปิดแผนที่ในปัจจุบันเทียบดู จะเห็นสิ่งแรกได้คือ
จากวังหลวงทำไมไม่ออกแม่น้ำเจ้าพระยาตรงหัวแหลมผ่านวัดท่าการ้อง
ก็จะล่องออกแม่น้ำเจ่้าพระยาขึ้นไปได้ถึงนครสวรรค์แล้ว
แสดงว่าแม่น้ำในสมัยนั้น อาจจะแตกต่างไปจากในปัจจุบันหรือเปล่า

เราจะแกะรอยจากนิราศนครสวรรค์ ส่วนถัดไป
ที่ได้นำมาลงในบล็อกนี้เพราะจะยาวเกินไป 
โดยหลังจากออกปากน้ำประสบ ชื่อบ้านต่างๆ ก็สูญหายไปมาก
เหลือเพียงบางชื่อที่ยังคงอยู่ เช่น ไชโย บางพุทรา อินท์บุรี โพธิ์แม่นางดำ

เมื่อเอาชื่อเหล่านี้นั้นใส่ google map ก็จะเห็นแนวเส้นทางน้ำในอดีต
ปัจจุบันชื่อว่าคือคลองแก้ว ซึ่งแยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.อ่างทอง
ไหลเข้า อ.มหาราช จ. พระนครศรีอยุธยา โดยมีชื่อบ้านขวางตรงกับในนิราศ 
จากนั้น จะมาบรรจบกับแม่น้ำลพบุรีที่ ต. บ้านไผ่ อ. มหาราช ในปัจจุบัน
 
ใน wiki กล่าวว่าคลองนี้เดิมคือ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกขุดลัด
ในช่วงรัชกาลของพระเจ้าท้ายสระ เกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหม่
ถึงตรงนี้เราได้ข้อมูลว่า ทำไมคลองสระบัวที่เป็นลำน้ำสำคัญ
เพราะว่าเดิมคือเส้นทางน้ำที่เชื่อมโยงกับแม่น้ำลพบุรีไปออกเจ้าพระยานั่นเอง
 
แล้วทำไมไม่พายไปทางวังหน้า เลี้ยวซ้ายผ่านแม่น้ำลพบุรีตรงหัวรอเลยตรงๆ
ทำไมต้องมาลัดผ่านคลองสระบัวที่เล็กกว่า
เพื่อไปออกแม่น้ำลพบุรีตรงปากประสบด้วยนั้น
อันนี้ก็เกินความสามารถในการแกะรอยจริงๆ
 

 
เราคุ้นเคยคลองสระบัวกันดีว่า เป็นสถานที่ลอบสังหารท้าวศรีสุดาจันทร์
ที่โดนหลอกว่ามีช้างเผือกมารอที่เพนียด
และทำให้เรานึกวัดโคกพระยาที่เป็นสถานที่ประหารชีวิตคนในราชวงศ์
แสดงว่าในช่วงต้นถึงตอนกลางกรุงศรีอยุธยา
แถบนั้นน่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างเบาบาง

ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มีสงครามกับเชียงใหม่
ย่อมมีการเทครัวลงมา ปัจจุบันเราสามารถพบเห็นร่องรอยนี้ได้จาก
ศิลปกรรมแบบล้านนาในวัดบริเวณเกาะลอย
จากนิราศจะสังเกตได้จากชื่อบ้านไทยใหญ่ ซึ่งการเทครัวครั้งนั้น
คงให้มาอยู่ใกล้กันกับชาติพันธ์เดิมคือชาวไทยใหญ่

แสดงว่าตั้งแต่สมัยกลางกรุงศรีอยุธยาที่ชาติตะวันตกเดินทางมาค้าขาย
นับแต่ฮอลันดาเข้าเจริญสัมพันธ์การค้าในสมัยพระเอกาทศรถ
บ้านเมืองที่สงบทำให้การค้าดำเนินการไปได้ มีผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น
จึงจำเป็นที่จะต้องหาสถานที่ที่จะสร้างชุมชนใหม่ๆ

จนกระทั่งถึงช่วงที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงไปสร้างเมืองใหม่ที่ลพบุรี
เราคงเคยได้ยินข้อสันนิษฐานว่า ก็เพื่อเป็นป้อมปราการ
เพราะความไม่ไว้ใจชนชาติฝรั่งเศส
แต่การเมืองเพียงอย่างเดียวไม่สามารถหมุนโลกนี้ได้
การค้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะทำให้เมืองนั้นยังคงอยู่

เราจะมาหาคำตอบว่า ทำไมพื้นที่ทางทิศเหนือของอยุธยาจึงเติบโตขึ้น
จนถึงสมัยอยุธยาตอนปลายที่มีการสร้างหรือบูรณะวัดมากมายในแถบนี้
จนเป็นเหตุผลที่นักวิชากรส่วนหนึ่งใช้สนับสนุนในทฤษฏี
ว่าศิลปะสุโขทัยที่เห็นในปจจุบันสร้างขึ้นในสมัยพระนารายณ์

ติดตามได้ในตอนต่อไป



Create Date : 04 ธันวาคม 2566
Last Update : 12 ธันวาคม 2566 16:13:38 น. 2 comments
Counter : 465 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณtuk-tuk@korat


 


โดย: หอมกร วันที่: 5 ธันวาคม 2566 เวลา:13:37:03 น.  

 
ศิลปะสุโขทัยที่เห็นในปจจุบันสร้างขึ้นในสมัยปลายอยุธยา
อาจารย์พิชญาก็เคยพูดถึงอยู่ แต่ยังไม่ได้ตามอ่านจริงจัง


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 10 ธันวาคม 2566 เวลา:7:53:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]