BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้น (1)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้น (1)

ตั้งอยู่ในพระราชวังดุสิต ตรงข้ามพระที่นั่งอภิเษกดุสิตใกล้พระที่นั่งอนันตสมาคม
เดิมเป็นโรงช้างต้นในพระราชวังดุสิต รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้าง
พระราชทานแก่พระเศวตอุดมวารณ์หลังจากได้ประกอบพระราชพิธีสมโภชขึ้น
เมื่อ พ.ศ.2449 และพระเศวตอุดมวารณ์นั้นล้มไปในปี พ.ศ.2452 โรงช้างต้นจึงว่างลง

พ.ศ.2454 ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ช้างเผือก จึงโปรดเกล้าให้จัดพระราชพิธีสมโภช
ขึ้นระวาง ณ มณฑลพระราชพิธิที่สวนมิสกวัน พระราชทานนามว่า พระเศวตวชิรพาหฯ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ยืนโรงอยู่ที่โรงช้างต้นแห่งนี้

พ.ศ.2470 ในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้มีช้างเผือก จึงโปรดเกล้าให้จัดพระราชพิธีสมโภช
ขึ้นระวางพระราชทานนามว่า พระเศวตคชเดชดิลกฯ จึงได้สร้างโรงช้างต้นขึ้น
อีกโรงหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนกันคู่กับโรงช้างต้น พระเศวตวชิรพาหฯ
พระเศวตคชเดชดิลกฯ ล้มใน พ.ศ. 2486 พระเศวตวชิรพาหฯ ล้มใน พ.ศ. 2488

โรงช้างต้นทั้งสองจึงว่างลง ครั้นถึง พ.ศ.2502 สมัยรัชกาลปัจจุบัน
ได้มีช้างเผือกมาสู่พระบารมี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ปฏิสังขรณ์โรงช้างต้น
ซึ่งพระเศวตวชิรพาหฯเคยยืนโรงขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสมโภช
ขึ้นระวางช้างเผือกเชือกแรกพระราชทานนามว่า พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ

ต่อมาทรงโปรดเกล้าให้สร้างโรงช้างต้นขึ้นในบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
โรงช้างต้นแห่งนี้จึงไม่ได้ใช้งาน
พ.ศ. 2517 ได้มีโครงการสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ด้านหลังพระที่นั่งอนันตสมาคม
ช่วงเวลานั้นอาคารโรงช้างต้นชำรุดทรุดโทรมลง
รัฐสภาได้ขอความเห็นชอบสำนักพระราชวังเพื่อรื้อโรงช้างต้นออกจากบริเวณ

สำนักพระราชวังได้ร่วมกันปรึกษากับกรมศิลปากรได้พิจารณาเห็นว่าโรงช้างต้น
เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะตัวอาคารมีความสำคัญทางด้านสถาปัตยกรรม
ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีที่เกี่ยวกับช้างเผือก ซึ่งเหลืออยู่เพียงแห่งเดียว
จึงดำเนินการขออนุรักษ์รักษาไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และจารีตประเพณี

ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2517 และได้รับการประกาศเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2531 และเปิดให้บริการเข้าชมอย่างไม่เป็นทางการในวโรกาส
ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษาเมื่อปี พ.ศ. 2535

อาคารโรงช้างต้น ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบไทย ก่ออิฐถือปูน
ขนาดกว้าง 12.5 เมตร ยาว 15 เมตร มีประตูเข้าออกด้านหน้า
ส่วนด้านหลังมีประตูขนาดเล็กสำหรับผู้ดูแลช้าง และมีหน้าต่างรอบอาคาร 17 บาน
ภายในมีแท่นเบญพาด สำหรับช้างต้นยืนโรง

ลักษณะแท่นเบญพาด ประกอบด้วยเสาตะลุง 2 ต้น ยอดเสาทำเป็นรูปหัวเม็ดทรงมัน
มีเสากลมขนาดเล็กพาดกลางระหว่างเสาตะลุงทั้งสอง เสาตะลุงแต่ละต้นฝังดินครึ่งหนึ่ง
ของความยาวลำต้น เพราะต้องการความแข็งแรงเพื่อทานกำลังช้างได้
เสาตะลุงด้านหัวช้างจะอยู่สูงกว่าด้านท้ายช้าง

ระยะห่างระหว่างเสาตะลุงขึ้นอยู่กับขนาดความยาวของลำตัวช้าง
ส่วนหัวช้างจะหันไปทิศใดก็ได้ยกเว้นทิศตะวันตกซึ่งถือว่าเป็นทิศอัปมงคล
ตรงข้ามเสาตะลุงทั้งสองต้นมีเสาหมอสำหรับตกปลอก และ เสาหมอนอกแท่น
สำหรับตกปลอกขาหลัง เมื่อเวลายืนแท่นเบญพาด ยกพื้นสูงพอประมาณ

เพดานตรงแท่นเบญพาดแขวนเบญจาสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำด้วยผ้าขาวลงยันต์
เขียนเส้นทอง มีระบายสองชั้นขลิบทอง กลางเบญจาห้อยใบไม้กันภัย
ได้แก่ ใบเลียบ ใบเงิน ใบทอง ใบหญ้าพันงู ใบรัก ใบมะเดื่อ ใบอุทุมพร
ใบมะม่วง ใบทองกวาว ใบตะขบ ใบมะตูม

จอดรถด้านข้างถนน วันธรรมดาน่าจะเหมาะกว้าเพราะไม่คนมาเก็บค่าที่จอด
ก้าวเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่บอกว่ามากันสองคนให้เดินชมตามอัธยาศัย
อาคารที่ 1 เป็นอาคารว่าด้วยประวัติโรงช้างต้น ความหมายและความสำคัญ
ให้ความรู้ทางด้านคชศาสตร์ และคติความเชื่อเกี่ยวกับช้างเผือก

แต่พอเราเริ่มถามไป 1 คำถาม พี่เค้าก็เลยพาเดินมานำชมทั้งอาคารเลย
ถ้านักท่องเที่ยวมีความรู้พอที่จะแลกเปลี่ยน ก็คงเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่
ช้างต้น คืออะไร ผมเขียนไว้อย่างยืดยาว ตามไปอ่านได้ในบล็อกเก่า

โดยมี keyword ที่สำคัญคือ ช้างต้นที่พระมหากษัตริย์ขึ้นระวางย่อมเป็นช้างสำคัญ
แต่ช้างสำคัญทุกช้างไม่จำเป็นต้องเป็นช้างเผือก และช้างเผือกก็ไม่จำเป็นต้องสีขาว
การนำชมที่นี่ทำให้เรามีความรู้เพิ่มหลายอย่างเช่น เมื่อชาวบ้านพบช้างสำคัญ
จำเป็นต้องรายงานเข้าเมืองหลวง จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่กรมคชลักษณ์ออกไปตรวจสอบ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็จะต้องฝึกให้ช้างป่าให้เชื่องลงเสียก่อน
เพราะสมัยก่อนการคมนาคมต้องขนส่งด้วยการใช้แม่น้ำ
การฝึกช้างให้คุ้นกับการอยู่เฉยๆ บนแพจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
ผมเคยคิดว่าเป็นแพซุงที่พอดีกับตัวช้างโดยไม่มีหลังคา ปรากฏว่าเข้าใจผิด

ของจริงก็ตามรูปเลยครับ ใหญ่มากเรียกว่าเหมือนบ้านลอยน้ำก็ว่าได้

Create Date : 30 มีนาคม 2559

Last Update : 30 มีนาคม 2559 14:35:22 น.

9 comments

Counter : 2064 Pageviews.

มาบล็อกนี้ทีไร เปิดหูเปิดตาทุกที อิอิ

โหวตให้นะคะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:9:52:24 น.

อลังการงาช้างจริงๆ เพิ่งรู้ว่ามีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตอยู่ในพระที่นั่งด้วยครับ

โดย: ชีริว

วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:21:56:55 น.

จริงค่ะ เมื่อก่อนญ๊่ปุ่นก็คงกินกุ้ง หอย ปู ปลาเหมือนกับเรามากกว่า

เราเองก็เพิ่งรู้ตอนทำบล็อกว่าไขมันวัวของญี่ปุ่นเป็นไขมันดีด้วยอ้ะ

มิน่าเรากินเนื้อญี่ป่นแล้วอร้อย อร่อย อิอิ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:11:42:21 น.

เคยเจอที่พิพิธภัณฑ์กำแพงเพชรค่ะ
เขามีความสุขมากที่เราสนใจจึงพาเดินพาเล่าทั้งอาคารเลย
เพิ่งทราบว่าเขาเอาช้างลงแพมา นึกว่าเดินมาค่ะ
+

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:14:25:36 น.

เดินมาเจอพิพิธภัณฑ์ช้างต้น ก็ตอนจะกลับบ้าน เค้าปิดแล้วล่ะค่ะ เลยถ่ายรูปได้แต่ภายนอก

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
kwan_3023 Diarist ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ไปเพชรบุรี ลองดูค่ะ น้ำจิ้มเค้าจะไม่เหมือนน้ำจิ้มทอดมันที่เราเคยกินกัน คือไม่หนักหวานอย่างเดียว ตัวทอดมันเอง ก็เหนียวได้เนื้อ ๆ ดี ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากัน อร่อยล่ะค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:19:03:59 น.

สวัสดีค่ะ..

เคยเข้าชม นานมาแล้วค่ะ

งาช้างสวยมากๆค่ะ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ

) วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:21:11:11 น.

เข้ามาโหวตให้ครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
แม่โอ๋เรนเจอร์ Diarist ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
ทุเรียนกวน ป่วนรัก Cartoon Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ชีริว

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:23:54:48 น.

ได้ความรู้เพิ่มค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
The Kop Civil Movie Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog

moresaw Funniest Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: newyorknurse

วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:2:41:27 น.

เคยชมสมัยเด็ก นานมากแล้ว

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Literature Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Photo Blog ดู Blog
Kavanich96 About Weblog ดู Blog
แม่โอ๋เรนเจอร์ Beauty Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ชมพร

วันที่: 6 เมษายน 2559 เวลา:23:52:20 น.