BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : เที่ยวเมืองเชียงใหม่ 2558 :วัดเชียงมั่น (2)

เที่ยวเมืองเชียงใหม่ 2558 :วัดเชียงมั่น (2)

เป็นวัดสำคัญในฐานะหมุดหลักแรกของของราชวงศ์มังรายผู้สร้างเชียงใหม่
เมื่อมีการฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่หลังจากถูกทิ้งร้างในสงครามอันยาวนาน
พระยากาวิละก็กลับสถาปนาให้กลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้ง
ก็ได้ใช้วัดเชียงมั่นเป็นจุดเริ่มต้นเช่นกัน ความว่า

ลุศักราช ๑๑๕๘ มโรงนักษัตรวันอาทิตย์เดือนหกขึ้นแปดค่ำก็ยกกรีธาพลากร
แลราษฎรชายหญิงทั้งปวงออกจากเมืองป่าช้างไปโดยมรรคาได้ ๗ วัน
ถึงวันพฤหัศเดือนหกขึ้นสิบสองค่ำยามเช้าก็ถึงเมืองพิงค์เชียงใหม่
เดินกระบวนเบียบรอบเมืองแล้วเวลาจวนเที่ยงก็เข้าประตูช้างเผือกไปพักอยู่
น่าวัดเชียงมั่น ไพร่พลเข้าตั้งเคหฐานบ้านเรือนคงคืนเปนบ้านเมืองดังก่อน

เราทราบกันดีว่าในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีพระองค์ขึ้นมาครองพิษณุโลก
เพื่อการรับศึกจากล้านนา นั่นหมายความว่าเวลานั้นพิษณุโลกคือเมืองหลวง
ต่อมาอยุธยาหย่าศึกกับล้านนาได้ในสมัยพระบรมไตรโลกนารถก็จะกลับกัน

โดยพระมหาอุปราชว่าที่พระมหากษัตริย์จะได้รับการตั้งให้มากินเมืองพิษณุโลก
เหตุผลก็เป็นเช่นเดิมเพื่อควบคุมหัวเหมืองเหนือให้พ้นจากอำนาจของล้านนา
สิ่งนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งยกเลิกไปในสมัยพระไชยราชา ที่หลายคนเชื่อว่า
พระองค์ได้กองทัพมาจากรัฐสุโขทัยในการลงมาชิงราชบัลลังค์กรุงศรี

แต่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก่อนในล้านนา เริ่มต้นแต่สมัยพญามังราย
เมื่อสถาปนาเมืองเชียงใหม่ ก็ให้ขุนไชยสงครามราชบุตรไปครองเชียงราย
เมื่อพระยามังรายสวรรคตก็ไปเชิญขุนไชยสงครามจากเชียงรายลงมาครองเชียงใหม่
ขุนไชยสงครามตั้งท้าวเสนภูเป็นผู้ครองเมืองเชียงใหม่ เสด็จกลับไปครองเมืองเชียงราย

เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำไปมา เชียงใหม่ไม่ได้เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดมาแต่เริ่ม
น่าสงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เราต้องย้อนกลับไปในสมัยก่อตั้งเมือง
จากความร่วมมือของ 3 กษัตริย์พระร่วง พระยางำเมือง พระยามังราย
จะเห็นได้ถึงศึกสามเส้าแห่งอำนาจของรัฐทางภาคเหนือ

พระยางำเมืองนั้นสืบราชวงศ์มาก็มีความเข้มแข็งระดับหนึ่ง
พระยามังรายก็ต้องพยายามขยายอาณาเขตให้ได้เช่นกัน
เมืองพระเยานั้นมีลำน้ำสายหนึ่งที่ทอดลงจากกว๊านพระเยาลงไปเชียงแสน
อีกด้านหนึ่งก็เป็นจุดกำเนิดของแม่น้ำอีกสายที่ไหลลงไปยังสุโขทัยได้เช่นกัน

ดังนั้นเมื่อเริ่มต้นราชวงศ์มังรายกษัตริย์หรืออุปราชจำเป็นต้องไปครองเชียงราย
บางครั้งก็เชียงแสนเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เมืองพะเยาลงมาแย่งชิงไปได้
การคุมเชิงนี้ดำเนินไปจนกระทั่ง ตามพงศาวดารโยนกกล่าวว่า

จุลศักราชได้ ๗๐๐ ปีขานสัมฤทธิศก เจ้าพระยาคำฟูไปชักชวนพระยากาว
เมืองน่านเข้าสมทบทัพกันไปรบเมืองพเยาว์ เจ้าพระยาคำฟูเข้าเมืองพเยาว์ได้
ได้ผู้คนช้างม้าแลทรัพย์สิ่งของเปนอันมากก็มิได้แบ่งปันให้พระยากาวน่าน

กองทัพชาวน่านจึงกลับต่อรบกับพระยาคำฟู ๆ ก็ล่าหนีกลับมาเมืองเชียงแสน
กองทัพน่านยกเลยไปปล้นเอาเมืองฝางได้ ฝ่ายเจ้าพระยาคำฟูก็ยกกองทัพ
ไปต่อรบชาวน่านยังเมืองฝาง
กองทัพน่านพ่ายแพ้กลับไป เจ้าพระยาคำฟูก็กลับมายังเมืองเชียงแสน

ครั้นอยู่มาอีก ๒ ปี พระยาคำฟูยกกองทัพไปตีเมืองแพร่
ชาวแพร่ออกต่อรบเปนสามารถ เจ้าพระยาคำฟูก็เลิกทัพถอยคืน
มาทางเมืองนครเขลางค์ แต่นั้นมาเจ้าพระยาคำฟูมิได้ยกทัพไปรบเมืองใดอีก

จะเห็นได้ว่าพะเยาคือเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อทั้งสองรัฐ
เมื่อพระยาคำฟูแต่งตั้งเจ้าสามฝั่งแกนขึ้นมาครองเชียงใหม่
สร้างความไม่พอใจต่อท้าวยี่กุมกามผู้พี่ที่ครองเมืองเชียงราย
จึงยกทัพมาต่อรบแต่แพ้ จึงหนีไปของความช่วยเหลือจากสุโขทัย

พระยาไสลือไทเข้าตีเมืองพะเยา จากนั้นยกทัพไปพักที่เมืองเชียงราย
ผ่านเมืองฝางเข้าตีเมืองเชียงใหม่ กลายเป็นตำนานเรื่องเวียงเจ็ดลิน
ความขัดแย้งระหว่างสุโขทัยและเชียงใหม่นั้นโยงไปที่จารึกปู่สบถหลาน
ที่กล่าวถึงความเป็นพันธมิตรระหว่างสุโขทัยและเมืองน่านในช่วงเวลานั้น

กระทั่งสมัยพระเจ้าติโลกราชจึงสามารถรบยึดได้ทั้งแพร่และน่านในที่สุด
สร้างความกดดันต่ออยุธยาในฐานะผู้ที่เข้ามามีอำนาจเหนือสุโขทัยเดิม
จึงเป็นเหตุให้เกิดสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานระหว่างสองขั้วอำนาจในที่สุด
และเป็นเหตุให้พระเจ้าติโลกราชส่งพระยายุทธิษฐิระไปครองเมืองพะเยา

ความสำคัญทางศาสนาพบว่า มีโกลนพระพุทธรูปหินทรายที่มีลักษณะ
คล้ายกับพระแก้วมรกตทำให้เชื่อว่า พระแก้วมรกตเป็นฝีมือช่างพะเยา
การแกะสลักพระพุทธรูปจากหินมีค่า น่าจะต้องใช้ความชำนาญสูง
ดังนั้นพระพุทธรูปกลุ่มพระแก้วอาจจะมีที่มาจากเมืองพะเยาก็เป็นได้

Create Date : 10 พฤษภาคม 2559

Last Update : 11 พฤษภาคม 2559 13:37:14 น.

5 comments

Counter : 1121 Pageviews.

เที่ยววัดในเชียงใหม่ วันเดียว ไม่น่าจะพอเนาะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ Literature Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
The Kop Civil Diarist ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Travel Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
Raizin Heart Food Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

*** เคยเห็นเค้าซ่อมภาพที่พระอุโบสถวัดบวรฯ เป็นปีเลยค่ะ กว่าจะเสร็จ เหมือนลงสีใหม่หรือไงนี่ค่ะ แต่ที่วัดนางนอง บางจุดไม่มีเค้าโครงเหลือเลย เสียดายเหมือนกันนะคะ ถ้าเค้าบูรณะแบบวาดลงไปใหม่ .... ไม่เอาเหมือนกันค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 10 พฤษภาคม 2559 เวลา:19:35:09 น.

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 10 พฤษภาคม 2559 เวลา:20:37:26 น.

สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะคะ
ต้น Kwanzan Cherry ปลูกเอง ตอนแรกปลูกแค่สองต้น
ราคาแพงมาก ต้นละ เกือบสองร้อยเหรียญ แต่ระยะนี้ราคา
แค่ต้นละ 70 ลดลงมาเหลือต้นละ 30 เหรียญ เลยซี้อมาปลูก
เป็นสิบต้นเลย หน้าสปริงมีดอกเต็มต้นแล้วมีใบเต็มต้นจนหน้า
ใบไม้ล่วง สวยดีค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog

โดย: newyorknurse

วันที่: 11 พฤษภาคม 2559 เวลา:0:18:58 น.

ตามมาเที่ยวต่อค่าา

จีนพัฒนาไปเร็วจริงๆ ค่ะ หลายๆ อย่างเราก็ตกใจ ไปห่างกันปีเดียวบางที่ยังเปลี่ยนซะงงเลยค่ะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 11 พฤษภาคม 2559 เวลา:9:50:46 น.

ตามมาเที่ยววัด

อีกทั้งยังได้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ไปด้วย

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ

โดย: เรียวรุ้ง

วันที่: 11 พฤษภาคม 2559 เวลา:12:02:49 น.