BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : นนทบุรี : วัดชมพูเวก (2)

นนทบุรี : วัดชมพูเวก (2)

พระอุโบสถมีช่องหน้าต่างด้านละสามช่อง แต่ละช่องมีลวดลายปูนปั้นที่ต่างกัน
เหนือประตูมีปูนปั้นทรงบันแถลง ประดับลวดลายด้วยพันธุ์พฤกษา
มีรูปเทพพนมอยู่กลาง กรอบประตูประดับด้วยลายปูนปั้นดอกไม้และใบไม้
ภายในพระอุโบสถมีองค์ประประธานปางมารวิชัยและพระมาลัยอยู่ด้านหน้า

ทั้งสององค์ที่เห็นเป็นองค์จำลองโดยช่างกรมศิลปากร ส่วนองค์จริงย้ายไป
อยู่ที่พระอุโบสถหลังใหม่ฝาผนังด้านในทั้งสี่ด้าน มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ฝีมือช่างสกุลนนทบุรีเขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาว วางแผนผังตามคตินิยม
ผนังสกัดหลังเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้าสองพระองค์ประทับนั่งสมาธิ

ผนังหุ้มกลองด้านบนเป็นภาพอดีตพระพุทธเจ้าประทับบนแท่นบัลลังก์
มีสาวกเฝ้าอยู่สองข้าง ต่ำลงมาที่ว่างระหว่างช่องหน้าต่างเป็นภาพทศชาติ
แต่สำหรับคนที่ไม่มีความรู้ก็ไม่ต้องกังวล ที่ด้านนอกของโบสถ์มีโปสเตอร์บรรยาย
รายละเอียดของแต่ละช่องไว้ แต่ที่สำคัญคือเราต้องทำการบ้านโดยการอ่านมาก่อน

เนื่องด้วยที่นี่เป็นอาคารขนาดเล็ก จึงมีไม่ครบทุกชาติ ภาพเขียนอยู่ในสภาพดีพอควร
และสิ่งที่เราตามหาอยู่ที่ผนังสกัดหน้า เหนือประตูทางเข้าที่นิยมเขียนภาพมารผจญ
โดยโครงหลักคือภาพพระพุทธเจ้าประทับใต้ต้นโพธิ์ ด้านซ้ายมีภาพกองทัพมารที่เข้ามา
และด้านขวาเป็นรูปพญามารที่แพ้พ่ายออกไป ใต้รูปพระพุทธเจ้าเป็นรูปพระแม่ธรณี
ประทับนั่งบีบมวยผมอยู่ในซุ้มเรือนแก้วยอดแหลม ลวดลายอ่อนช้อยเหมือนลอยตัว

พุทธประวัติตอนมารผจญเกิดขึ้นในช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกของวันเพ็ญเดือนหก
ในขณะที่เจ้าชายสิทธัตถะกำลังจะตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เหล่าทวยเทพทั้งหลายส่งเสียงแซ่ซ้องสาธุการ จนได้ยินไปถึงพญามาร
ที่ไม่อาจนิ่งทนเพิกเฉยดูดาย ต้องยกพลมาขัดขวางด้วยจิตใจที่ริษยา

พญามารยกกำลังพลมามืดฟ้ามัวดิน เหล่าเทพที่มาเฝ้ารักษาต่างหนีกลับ
กันหมดด้วยเกรงกลัว บรรดาสมุนจู่โจมเข้ารุมทำร้ายพระพุทธองค์ด้วย
อิทธิฤทธิ์ต่างๆ นานา แต่ก็พ่ายต่อพระบารมีไปเสียทุกครั้ง

พญามารจึงไสช้างคีรีเมขล์ กวัดแกว่งอาวุธพระขรรค์ข้างละพันแขน
แล้วกล่าวว่าโพธิบัลลังก์ที่ประทับนั่งนั้นควรเป็นที่ของตน ด้วยผลทานบารมี
ที่ทำมามากล้นเหนือกว่าเจ้าชายมากมายนัก เหล่าสมุนต่างโห่ร้องสนับสนุน
เจ้าชายสิทธัตถะจึงชี้พระหัตถ์ขวาลงบนพื้นดิน ขอให้แม่พระธรณีช่วยเป็นพยาน

แม่พระธรณีก็ผุดขึ้นจากแผ่นดินและบีบมวยผม จากน้ำที่พระโพธิสัตว์
ทรงหลั่งลงดินขณะบำเพ็ญบารมีสั่งสมไว้ทุกชาติภพก่อนหน้า
ปริมาณน้ำมากมายได้โถมเข้าท่วมกองทัพมารจนแตกพ่ายย่อยยับ

เนื่องจากโบสถ์วัดชมพูเวกมีขนาดที่เล็กทำให้ไม่สามารถวาดภาพกองทัพมาร
ได้ใหญ่โตอลังการมากนัก และความเตี้ยของผนังจากเพดานลงมาถึงขอบประตู
มีผลทำให้ช่างต้องเปลี่ยนภาพพระแม่ธรณีที่เห็นในวัดปรกติจากยืนเป็นท่านั่ง

แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือความอ่อนช้อยที่งดงามเหนือคำบรรยายใดๆ

นี่คือภาพแม่พระธรณีบีบมวยผม ที่ได้รับการยกย่องว่างามที่สุดในสยาม

แม้ว่าจะบอกไปว่าเป็นจิตรกรรมฝาผนังในยุคอยุธยาตอนปลาย แต่ก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด
เนื่องจากมีการเขียนซ่อมในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ แต่ฝีมือนั้นละเอียดและปราณีต

จนแทบจะไม่แตกต่างไปจากของเดิมเลยทีเดียว

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 28 พฤศจิกายน 2554 16:58:08 น.

4 comments

Counter : 3284 Pageviews.

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวตามชมตามไหว้พระด้วยคนครับ

เพิ่งจะได้ทราบว่าภาพพระแม่ธรณีบีบมวยผม มีอยู่ที่วัดแห่งนี้เองครับ ดูแลวเป็นภาพเก่าที่ดุทรงคุณค่ามาก ๆ เลยนะครับ

อิอิ

โดย: อาคุงกล่อง

วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:51:52 น.

สวยจังเลยค่ะ
ชอบภาพจิตรกรรมฝาผนัง....สวยค่ะสวย
แหล่ม

โดย: อุ้มสี

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:29:44 น.

เรื่องจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องที่เราอยากรู้เรื่องมากที่สุดเวลาไปชมวัดค่ะ

ออกจากเชียงใหม่วันที่ 21 เลยไม่ได้ดูบอลลูน

เชียงใหม่มาโคราชนี่ไกลจัง ออกเดินทางวันจันทร์ที่ 21 ถึงโคราชวันนี้เอง

ตอนอยู่เชียงใหม่อาการไม่ร้อน ไม่หนาว แต่แดดร้อนค่ะ
มาอยู่เขาค้อ หนาวมาก ทั้งลมด้วย ฟ้าใส ดาวสวย
ตอนเช้าเมื่อวาน 16
ปากช่องเมื่อเช้าก็ 16 ค่ะ

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:10:01 น.

บล็อกคุณ ถปรร ลงรูปบอลลูนมาสองวันแล้วค่ะ

สวยดีค่ะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=abird&month=11-2011&group=5&date=26&gblog=49

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 27 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:58:41 น.