Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
12 กันยายน 2555

วัดสุวรรณาราม : พระมหาชนก



ภาพที่สอง คือชนกชาดก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญวิริยะบารมี
เมื่อเกิดเป็นคนควรมีความพากเพียรให้ถึงที่สุด เพื่อให้ถึงแก่สิ่งที่มุ่งหวัง
เพียรสุดกำลังจนชีวิตหาไม่ก็จงเพียร แล้วความสำเร็จจะมาเยือน

มุมซ้ายบนเป็นตอนต้นเรื่องหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เรื่องนั้นมีอยู่ว่า
เมืองมิถิลามีพระเจ้าอริฏฐชนกครองบ้านเมือง มีเจ้าโปลชนกทรงเป็นอุปราช
อำมาตย์คนหนึ่งไม่พอใจพระเจ้าโปลชนก จึงทูลพระราชาว่าอุปราชคิดขบถ
พระเจ้าโปลชนกจึงต้องเสด็จหนีไปหลบไปอยู่ที่ชายแดนเมืองมิถิลา

ชาวบ้านที่ทราบเรื่องได้เข้ามาเป็นพวกอุปราชจำนวนมาก
จึงตัดสินใจกลับไปโจมตีเมืองมิถิลา ทหารต่างพากันมาเข้าเป็นพวก
พระเจ้าอริฏฐชนกจึงตรัสสั่งพระมเหสีซึ่งกำลังทรงครรภ์แก่ให้หลบหนีไป
พระองค์ทรงออกทำสงคราม และสิ้นพระชนม์ในสนามรบ

ฝ่ายพระมเหสีของพระเจ้าอริฏฐชนก เมื่อถึงเมืองกาลจัมปากะ
บังเอิญมีพราหมณ์ทิศาปาโมกข์เดินผ่านมาเห็น ก็เกิดความเอ็นดูสงสาร
จึงรับพระนางไปอยู่ด้วยที่บ้าน พระนางก็ประสูติพระโอรสพระนามว่า มหาชนกกุมาร
เมื่อมหาชนกกุมารทรงเติบโตขึ้น ทราบว่าพระองค์ทรงมี ความเป็นมาอย่างไร
ก็ทรงตั้งพระทัยว่าจะเรียนวิชาการเพื่อจะได้เสด็จไปเอาราชสมบัติเมืองมิถิลาคืน



มุมขวาบนเล่าตอนมหาชนกกุมารร่ำเรียนจนพระชนม์ได้ 16 พรรษาจึงทูลมารดาว่า
หม่อมฉันจะเดินทางไปค้าขาย พระมารดาทรงพระราชทานทรัพย์สินมีค่า 3 สิ่ง
พระมหาชนกทรงจัดซื้อสินค้าบรรทุกลงเรือไปกับพ่อค้าชาวสุวรรณภูมิ
ในระหว่างทางเกิดพายุใหญ่โหมกระหน่ำ พระมหาชนกกุมาทรงทราบว่าเรือจะจม
ก็เสวยอาหารจนอิ่มและนำผ้ามาชุบน้ำมันจนชุ่ม แล้วนุ่งผ้านั้นอย่างแน่นหนา

พระมหาชนกทรงแหวกว่ายอยู่ในทะเลได้นานถึง 7 วัน นางมณีเมขลา
เห็นพระมหาชนกจึงลองพระทัย โดยพูดว่ามหาสมุทรกว้างใหญ่ จะพยายามเท่าไร
ก็คงไม่ถึงฝั่ง คงจะตายเสียก่อนเป็นแน่พระมหาชนกตรัสตอบว่า
คนที่ทำความเพียรนั้น แม้จะต้องตายไปก็จะไม่มีผู้ใดมาตำหนิติเตียนได้
นางมณีเมขลาช่วยอุ้มพามหาชนกกุมารไปจนถึงฝั่งเมืองมิถิลา ในรูปเล่าไว้ตรงกลางภาพ

พระราชาโปลชนกทรงมีพระธิดา พระนามว่าเจ้าหญิงสิวลี
ครั้นเมื่อพระองค์ประชวรหนักใกล้จะสวรรคต เสนาจึงทูลถามขึ้นว่าราชสมบัติ
ควรจะตกเป็นของผู้ใด พระองค์ตรัสสั่งว่า จงมอบให้แก่ผู้มีความสามารถดังต่อไปนี้

ประการแรก เป็นผู้ที่ทำให้พระราชธิดาของเราพอพระทัยได้
ประการสอง สามารถรู้ว่าด้านไหนเป็นด้านหัวนอนของบัลลังก์รูปสี่เหลี่ยม
ประการสาม สามารถยกธนูใหญ่ ซึ่งต้องใช้คนถึงพันคนจึงจะยกขึ้นได้
ประการสี่ สามารถชี้บอกขุมทรัพย์มหาศาลทั้ง 13 แห่งได้
แล้วจึงตรัสบอกปริศนาของขุมทรัพย์ทั้งหมดแก่เหล่าอำมาตย์



คนทั้งหลายพยายามที่จะเป็นผู้สืบราชสมบัติ แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่มีคุณสมบัติครบทุกข้อ
ข้าราชบริพารจึงตั้งพิธีเสี่ยงราชรถ เพื่อหาตัวบุคคลผู้มีบุญญาธิการสมควรครองเมือง
ราชรถเสี่ยงทายนั้นแล่นตรงไปหยุดอยู่หน้าศาลาที่พระมหาชนกทรงนอนอยู่
ปุโรหิตที่ตามราชรถจึงให้ประโคมดนตรีขึ้น พระมหาชนกมิได้แสดงอาการอย่างใด

ปุโรหิตเข้าไปตรวจดูพระบาทพระมหาชนก เห็นลักษณะต้องตาม
คำโบราณว่าเป็นผู้มีบุญ จึงทูลอัญเชิญพระมหาชนกให้เข้าไปในเมือง
และก็สามารถทำตามที่พระเจ้าโปลชนกได้ตรัสสั่งไว้ได้ครบทุกประการ
ผู้คนจึงพากันสรรเสริญปัญญาของ พระมหาชนกกันทั่วทุกแห่งหน

เมื่อขึ้นเป็นพระราชาแล้วทรงบริจาคมหาทานเป็นประจำ เมืองมิถิลาจึงมีแต่ความผาสุก
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชามหาชนกเสด็จอุทยานทอดพระเนตรเห็น
มะม่วงต้นหนึ่งกิ่งหัก ใบไม้ร่วง แต่อีกต้นกลับมีใบแน่นหนาเขียวชอุ่ม
อำมาตย์จึงกราบทูลว่าต้นมะม่วง ที่มีกิ่งหักนั้น เป็นเพราะผลมีรสอร่อย
ผู้คนจึงพากันสอยบ้าง เด็ดกิ่งและขว้างปาเพื่อเอาบ้าง จนมีสภาพเช่นนั้น

ส่วนอีกต้น ไม่มีผล จึงไม่มีคนสนใจ ใบและกิ่งจึงสมบูรณ์เรียบร้อยดี
พระราชาได้ฟังก็ทรงคิดว่าราชสมบัติเปรียบเหมือนต้นไม้มีผลอาจถูกทำลาย
เราจะทำตนเป็นผู้ไม่มีกังวลเหมือนต้นไม้ไม่มีผล
พระมหาชนกจึงมอบราชสมบัติให้แก่พระโอรสคือ ทีฆาวุกุมาร
ปลงพระเกศา ครองผ้ากาสาวพัสตร์ แล้วเสด็จออกจากเมืองไป





 

Create Date : 12 กันยายน 2555
6 comments
Last Update : 12 กันยายน 2555 11:34:22 น.
Counter : 3835 Pageviews.

 

เข้ามาชมค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 12 กันยายน 2555 12:32:03 น.  

 

ดูต้นมะม่วงในภาพเป็นแล้วค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 12 กันยายน 2555 14:06:40 น.  

 

ถ้าพูดไปจะโดนว่ามั้ยคะเนี่ย...

ชอบดูจิตรกรรมฝาผนังค่ะ ในตอนที่ถ่ายรูปมา คิดในใจว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาเพ่งพินิจอีกรอบ ว่าเค้าพูดถึงเรื่องอะไร แต่ก็ยังไม่ได้ทำจริงจังซักที เก็บภาพมาก่อน เพราะกลัวนานไป จะไม่มีภาพให้เก็บค่ะ

เคยมีทริปนำชมภาพจิตรกรรมวัดพระแก้ววังหน้าค่ะ โทร.ไปช้า สมัครไม่ทัน เสียดายมากค่ะ ยังหาโอกาสจะไปใ้ห้ได้ค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 12 กันยายน 2555 15:30:36 น.  

 

ใช่ค่ะ อภิเนาว์สถานวังหน้า จองไม่ทัีนค่ะ ถ้าเค้าจัดไปวังหน้าอีก จะไปให้ได้ค่ะ

ตอนวังบางขุนพรหมนี่ก็อยากไป ไม่สะดวก อดอีกค่ะ

ภาพจิตรกรรมฝาผนัง...ต้องดูหน้งสือประกอบด้วยรึป่าวคะ หลักๆ ส่วนมากเป็นภาพพุทธประวัติ ทศชาดก ถ้าเป็นพุทธประวัติพอเดาได้... แต่ทศชาดกนี่ จำไม่ได้เลยค่ะ จริงๆ เราต้องจำเนื้อเรื่องทั้งสิบชาติก่อนนะคะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 12 กันยายน 2555 19:21:54 น.  

 

ทริปของที่นี่ ถ้าเป็นตัวเอง สะดวกไปวันธรรมดาค่ะ แต่ตอนที่ไม่ได้ไปวังบางขุนพรหม จุดนัดเค้าไปไม่ถูกค่ะ ถ้าจัดใหม่จะดิ้นรนไปให้ได้ค่ะ

ประวัติวัดพระสิงห์ ไม่เคยทราบเลยค่ะ ใช่วัดพระสิงห์ที่อยู่เชียงใหม่รึป่าวคะ

ไม่ค่อยได้มีโอกาสเข้าพระอุโบสถในบางวัด เพราะเค้าปิด ต้องไปช่วงเช้าตอนทำวัตรเช้า (คงเพราะเหตุผลว่าพระอุโบสถไว้ประกอบกิจของสงฆ์มังคะ) หรือไม่ก็ตอนเย็น เลยไม่สะดวกค่ะ หรืออีกทีต้องเป็นวันสำคัญทางศาสนา

จะแวะมาอ่านเรื่อยๆ นะคะ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 13 กันยายน 2555 13:49:36 น.  

 

สวัสดีค่ะ

จากบล็อก

ปีก็น่าจะหลัง 2500
เพราะคลับคล้ายคลับคลาว่า
เด็ก ๆ เคยรู้เรื่องการจัดแสดงช้างหน้าพระที่นั่ง



 

โดย: tuk-tuk@korat 14 กันยายน 2555 12:21:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]