เที่ยวชมศิลป์ ถิ่นพระพุทธบาท : วัดพระพุทธฉาย
พระพุทธฉาย หรือ รอยพระพุทธรูปอยู่บนแผ่นหินซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผา สันนิฐานว่าค้นพบหลังจากพบรอยพระพุทธบาทในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้สร้างพระมณฑปครอบพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เป็นสถานที่เคารพสักการะ ของพุทธศาสนิกชน ตลอดจนพระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่อมา
พงศวดารได้บันทึกไว้ว่าสมเด็จพระเจ้าเสือพร้อมด้วยข้าราชการบริพาร ได้เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการพระพุทธฉาย แล้วเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาท จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ พระองค์ได้เสด็จไปนมัสการพระพุทธฉาย ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา 3 ปี ดังคำในพงศาวดารได้กล่าวไว้ว่า
ครั้นเดือนอ้ายเสด็จขึ้นไปนมัสการพระพุทธฉาย แรมอยู่ 3 วัน ฯลฯ แล้วเสด็จกลับมาสมโภชพระพุทธบาท 7 วัน หลังเสียกรุงศรีอยุธยาพระพุทธฉายก็ได้ถูกทอดทิ้งมาเป็นเวลาช้านาน จนชำรุดทรุดโทรมลง มณฑปเดิมซึ่งสร้างไว้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และศาสนสถานถาวรวัตถุต่างๆ ขาดการดูแลเอาใจใส่
จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการบูรณะฟื้นฟู พระพุทธฉายอีกครั้งหนึ่ง ตามเป็นหลักฐานว่า "พระพุทธศาสนาล่วงมาได้ 2347 ปีมะโรง นักษัตรจัตวาศก พระคุณเจ้าสมภาร 4 วัด พร้อมทั้งญาติโยม ได้มีอุสาหะพากันมาบูรณปฏิสังขรณ์พระพุทธฉาย เป็นเวลาถึง 7 ปี
ได้จัดสร้างพระพุทธปฏิมากรระเบียงมณฑป ลงลักปิดทอง บ้างจำลองลายสุวรรณอันบวร ปฏิสังขรณ์พระสถูปเจดีย์ สร้างหอระฆัง สร้างศาลา เป็นต้น ด้านยอดเขา ได้บูรณะพระมณฑปและลานพระโมคคัลลานะขุดสระบ่อน้ำ บูรณะพระอุโบสถ และตบแต่งสถานที่เป็นเวลาอีก 3 ปี
จนถึงปีฉลูจึงเสด็จตามความประสงค์ ได้จัดมหกรรมฉลององค์พระพุทธฉาย เมื่อปีเถาะ เบญจศก" ล่วงเลยมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระพันวษาอัยยิกาเจ้า ได้เสด็จมาฟื้นฟูบูรณะพระพุทธฉาย ทรงสร้างมณฑปขึ้นใหม่เป็นมณฑปสองยอดแทนมณฑปเดิม
และทรงบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุอื่นๆ มี พระอุโบสถบนยอดเขาพระพุทธฉาย ปฏิสังขรณ์มณฑปครอบรอยพระบาทจำลองยอดเดี่ยวบนยอดภูเขาด้านตะวันออก พระองค์ยังได้เสด็จไปนมัสการพระพุทธฉายอีกหลายครั้ง ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ติดอยู่ ณ เงื้อมผาด้านทิศตะวันตก พร้อมด้วยนามาภิไธยพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน
ตะวันทอแสงอย่างอ่อนแรงถึงเวลากลับบ้านแล้ว แต่ก่อนนี้เวลาไปวัดเก่าๆ ที่มีสิ่งสวยงามตามคู่มือนักท่องเที่ยวแล้วพบว่า มีผมยืนอยู่แค่คนเดียว ส่วนมากนั้นเค้าก็ไปไหว้พระขอพรกันแต่วัดที่มีชื่อเสียง มันทำให้ผมเคยเย่อหยิ่งและจองหองว่า คงไม่มีใครที่จะมาเที่ยวชมวัดเก่าๆ โบราณสถานปรักหักพัง และใส่ใจที่จะเรียนรู้เรื่องราวที่ไม่คิดว่าคนอื่นจะสนใจ
แต่ทริปนี้เหมือนการตบหน้าผมให้ได้สติว่ายังมีคนอีกมากที่ยังรัก ในศิลปะที่ตกทอดมาแต่ครั้งบรรพกาล และพวกเค้ารู้ลึกซึ้งยิ่งนัก หากจะเปรียบความรู้ที่ผมมี ก็คงเป็นเพียงแสงหิ่งห้อย ที่คิดจะเทียบรัศมีดวงจันทร์ หรือดั่งการจุดเทียนไขในยามเที่ยง
นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้เรียนรู้จากการเดินทางในครั้งนี้
Create Date : 06 กรกฎาคม 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2555 16:23:29 น. |
Counter : 3050 Pageviews. |
|
|