|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ปลาสำลียำมะม่วง




ส่วนผสมปลาสำลียำมะม่วง ปลาสำลี 1 ตัว ไข่ไก่ 1 ฟอง แป้งสาลีอเนกประสงค์นิดหน่อย เกล็ดขนมปังป่นสำหรับชุบปลาทอด 1-1+ 1/2 ถ้วย มะม่วงหิมพานต์มากน้อยตามชอบ เกลือป่นนิดหน่อย พริกไทยป่นนิดหน่อย น้ำมันพืช มะนาว มะม่วงดิบเปรี้ยว ๆ 1 ลูก หัวหอมแดงมากน้อยตามชอบ พริกขี้หนูมากน้อยตามชอบ ใบสะระแหน่ น้ำตาลทราย น้ำปลา

ปลาสำลีหน้าตาประมาณนี้ค่ะ เนื้อเค้าจะนุ่ม ๆ นะคะ เหมาะแล้วที่เค้าชื่อแบบนี้
ปลาสำลี หรือ ช่อลำดวน หรือ Black Banded Kingfish ใช้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Zonichthys Nigrofascita จัดอยู่ในวงศ์ปลาหางแข็ง ลักษณะ เป็นปลาตัวไม่ยาวมากนัก ค่อนข้างกลม มีความหนาที่กลางลำตัว ส่วนหัวกลมมน สันหลังและท้องโค้งเท่าๆ กัน ครีบหลังชุดเดียว เริ่มด้วยก้านครีบแข็ง แล้วต่อด้วยครีบอ่อน ครีบหูกว้าง และสั้น ด้านบนลำตัวเป็นสีเท่าอมน้ำตาล แล้วจางลงข้างลำตัว ตอนยังเล็กจะมีแถบสีดำจางขวางลำตัว 5-7 แถบ พอโตขึ้นแถบดังกล่าวก็จะจางลง ความยาวสูงสุดเท่าที่พบในบ้านเราประมาณ 50 ซม. ความยาวส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 30 ซม.
เป็นปลาที่ชอบหากินตามพื้นท้องทะเล และประมาณกึ่งกลางน้ำ อยู่รวมกันเป็นฝูงย่อมๆ ชอบว่ายติดตามไปกับปลาใหญ่ พบทางฝั่งอ่าวไทยมากกว่าฝั่งอันดามัน ส่วนใหญ่แล้วชาวประมงจะจับปลาสำลีได้ด้วยเบ็ดราวน้ำลึก
เป็นปลาที่นิยมมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แดดเีดียว เผา ทอด หรือต้ม อร่อยทุกรส เนื่องจากเป็นปลาที่มีเนื้อละเอียด ไม่มีกลิ่นคาว ปริมาณเนื้อเยอะ ก้างน้อย จึงได้รับความนิยมในการบริโภคกันอย่างกว้างขวาง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของเค้าได้ที่นี่ค่ะ //www.wahoodivingcenter.com/learnDetail.asp?id=59

ซื้อมาก็ขอดเกล็ด ล้างน้ำ ผ่ากลางตัวด้านหลังให้แบะออก เอาพุงและไส้ออกค่ะ หากทำไม่เป็นบอกร้านให้ผ่ากลางตัว จะเอาไปทอดค่ะ ทำความสะอาดแล้วพักให้สะเด็ดน้ำนะคะ

ตอนแรกจุ๋มทอดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ไว้ก่อนค่ะ ลองลำดับเหตุการณ์เอาตามความเหมาะสมนะคะว่าเลือกทำอะไรก่อน หรืออาจจะทำตามจุ๋มก็ได้ไม่ว่ากัน
ตั้งกระทะรอกระทะอุ่น ใส่น้ำมันนิดหน่อยสำหรับทอดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รอน้ำมันร้อน ใช้ไฟอ่อนค่ะ แต่จุ๋มใส่น้ำมันเยอะหน่อยเพราะจะทอดกุ้งแห้งสำหรับทำ "ยำตะไคร้" ต่อด้วยค่ะ

น้ำมันอุ่นไปทางร้อนแล้วเทเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปทอด ใช้ตะหลิวคนบ่อย ๆ เพราะเดี๋ยวจะเหลืองไม่เสมอกัน

เม็ดมะม่วงหิมพานต์เหลืองอ่อน ๆ แล้วใช้กระชอนตักขึ้น หรือหากไม่มีกระชอนก็ใช้ตะหลิวนั่นแล แล้วพักให้สะเด็ดน้ำมัน อาจจะเอาวางบนกระดาษทิชชูหรือกระดาษซับน้ำมันเพื่อซับน้ำมันอีกทีนะคะ
ในรูปมีกุ้งแห้งด้วย มันเป็นส่วนที่จะไว้ใส่ "ยำตะไคร้" นะคะ

มะม่วง ปอกเปลือกออก ล้างน้ำ สับแล้วซอยไว้ พริกขี้หนู ล้างน้ำ ปลิดขั้วทิ้ง ซอยไม่ต้องบางมาก หัวหอมแดง ปอกเปลือก ล้างน้ำ ซอยบาง ๆ ตามยาวหัวค่ะ

มะนาวนิดหน่อยค่ะ เสี้ยวหรือสองเสี้ยวพอแล้ว เพราะเดี๋ยวจะได้ความเปรี้ยวจากมะม่วงเป็นหลัก น้ำปลาประมาณ 3 ช้อนคาว น้ำตาลทรายประมาณ 1 ช้อน ใส่ชามผสม คนให้น้ำตาลละลายให้หมด ชิมรสดูค่ะ

ใส่พริกขี้หนูซอยมากน้อยตามชอบค่ะ ของจุ๋มใช้เม็ดใหญ่แบบยาว 1 นิ้ว 6 เม็ดได้ค่ะ

หัวหอมแดงซอยโยนตามลงไปค่ะ

ตามด้วยมะม่วงสับ เห็นแล้วอยากกินตำมะม่วงมาตะหงิด

ใช้ช้อนหรือทัพพีคน ๆ ให้เข้ากัน สักพักมะม่วงเค้าจะคายความเปรี้ยวออกมา ชิมดูค่ะ ไม่พอใส่อะไรไปเพิ่มตามความต้องการ ให้จิ๊ดจ๊าดแสบทรวง แสบกระดองใจ กับข้าวไทย ทำไปชิมไปเสมอนะคะ

ปลาสำลีที่พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ เอากระดาษทิชชูซับน้ำออกอีกที ระวังเศษกระดาษค้างคาที่ตัวปลาด้วยค่ะ

โรยเกลือป่นและพริกไทยป่นลงไป เอามือทา ๆ ให้ทั่วตัวปลาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พักไว้ 15 นาที ให้ความเค็มจากเกลือป่นซึมเข้าตัวปลานิดหน่อย

ครบเวลาไปตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเพิ่มให้เพียงพอที่จะทอดปลา ไฟไม่ต้องแรงมาก ไฟกลาง ๆ นะคะ เดี๋ยวกว่าจะทำปลาเสร็จน้ำมันจะร้อนพอดีค่ะ
ตักแป้งสาลีเอนกประสงค์ใส่ไปนิดหน่อย เอามือลูบให้แป้งติดตัวปลาทั่ว ๆ กันบาง ๆ ไม่ต้องหนามากค่ะ

ตอกไข่ใส่ชาม ตีไข่ให้แตกแต่ไม่ต้องฟูมากค่ะ

เทไข่ที่ตีไว้ใส่ภาชนะแบน ๆ ที่สามารถวางตัวปลาลงไปได้

หาถาดแบน ๆ อีกใบ เทเกล็ดขนมปังใส่ลงไป เกลี่ย ๆ ให้ทั่วถาดค่ะ

ปลาที่คลุกแป้งไว้เมื่อกี้เอามาชุบไข่ค่ะ ชุบไข่เพื่อให้มันเปียกแล้วเดี๋ยวไปชุบเกล็ดขนมปังอีกทีเพื่อให้เกล็ดขนมปังติดดีนะคะ

ชุบไข่ให้ทั่วทั้ง 2 ด้านนะคะ หน้าและหลัง หากมันไม่ค่อยติดเอามือลูบ ๆ ช่วยได้ค่ะ

แล้วก็เอาปลาที่ชุบไข่ไว้ไปชุบเกล็ดขนมปังอีกทีค่ะ

ทำทั้ง 2 ด้านเช่นกันค่ะ ใกล้จะได้ทอดแล้ว โอ้ว เย้.....

กว่าจะทำปลาเสร็จน้ำมันก็จะร้อนพอดี หรือเกือบร้อนนะคะ หากมันยังไม่ร้อนดีก็รอสักหน่อย หากมันร้อนไปปิดเตาไปสักพักรอให้ความร้อนลดลงแล้วค่อยทำต่อค่ะ

น้ำมันร้อนแล้วก็เอาปลาลงทอดค่ะ ใช้ไฟกลางจนกว่าเกล็ดขนมปังจะเหลืองทองสีสวย ใช้เวลาไม่นานค่ะ 2 ข้างทอดประมาณ 4-5 นาที

กลับด้านแค่ครั้งเดียวค่ะ กลับมากเกล็ดขนมปังหลุดไม่รู้ด้วยนะ

พอเหลืองเสมอกันทั้ง 2 ด้านแล้ว ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ
ขออภัย ภาพไม่ชัด เพราะครัวนอกแสงไม่พอค่ะ

พอสะเด็ดน้ำมันแล้วก็ย้ายมาใส่จาน โรยด้วยเม็ดมะม่วงทอดและใบสะระแหน่หรือผักชีสักนิดหน่อยนะคะ


ส่วนน้ำยำก็ตักใส่ถ้วย โรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์นิดหน่อย และเพิ่มสีสันด้วยผักชีค่ะ เสิร์ฟพร้อมกัน
Create Date : 11 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 11 พฤษภาคม 2551 16:12:40 น. |
|
12 comments
|
Counter : 5822 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: โสดในซอย วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:08:08 น. |
|
|
|
โดย: สายป่าน (Doungtawan ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:33:46 น. |
|
|
|
โดย: cadeau วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:13:27 น. |
|
|
|
โดย: หน่อย(โตเหมี่ยว) IP: 203.170.150.215 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:07:37 น. |
|
|
|
โดย: น้าปังปอนด์ IP: 58.173.17.58 วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:01:21 น. |
|
|
|
โดย: babyying (BABYYING ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:19:56 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:24:54 น. |
|
|
|
โดย: นิเฟอซัง วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:15:28:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เห็นแล้วกลืนน้ำลายไปสามเอื๊อก
ของชอบซะด้วยสิคะ