Frankenstein : เฟล-อะเกน-ตามสไตล์?
by merveillesxx
แฟรงเกนสไตน์ (2011, ถาปัด จุฬา, B-)
จากการดูละุครถาปัดจุฬาในหลายปีหลังมานี้ พบความจริง (ที่แทบจะเป็นสัจธรรม) ว่าไม่ว่าผู้จัดจะโปรโมตละครออกมาดูดี ดูแปลกแหวกแนว -หรือดูดาร์คน่ากลัวแบบในปีนี้- อย่างไร แต่สุดท้ายมันก็คือละครถาปัดอยู่ดี
แล้วละครถาปัดให้อะไรคนดู? ทุกๆ ปีอย่างน้อยมันต้องให้สองอย่างคือ หนึ่ง-งานสร้างด้านฉากที่สวยงามอลังการ ซึ่งแฟรงเกนสไตน์ก็ทำได้ และสอง-มุกตลกขำขัน แบบฮาลั่นทั้งห้องประชุม ทว่าน่าเสียดายที่ละครถาปัดปีนี้ทำส่วนนี้ได้ไม่ดีนัก มุกตลกส่วนใหญ่ไม่คมคายพอ รอบที่ผู้เขียนดูสัมผัสได้ถึงความเงียบและความเฟลพอประมาณ และจริงๆ ทางคณะผู้จัดทำอาจจะต้องเขียน special thanks ละครเรื่อง 'ดอกส้มสีทอง' ไว้ในสูจิบัตร เพราะมีการอ้างอิงถึงละครเรื่องนี้ประมาณสิบหนได้ และเป็นมุกแบบไม่ได้เจียระไนอะไรมามากนัก คิดอะไรไม่ออก ก็ตะโกนด่า อีเรยา! อีเรยา! ...เอ้า ฮา (อย่างไรก็ดี ก็มีมุกที่ผู้เขียนชอบอยู่หลายอันเหมือนกัน เช่น มุก แฮร์รี่ พ็อตเตอร์)
โครงเรื่องของละครถาปัด จุฬา มักใช้เรื่องราวที่มีอยู่แล้ว หรือคนรู้จักกันดีอยู่แล้วมาดัดแปลงในแบบของตัวเอง (อาทิ พระอภัยมณี, ก็อดฟาเธอร์, สโนวไวท์) ซึ่งโดยปกติก็ไม่ได้มีการตีความใหม่อะไรท้าทายนัก (ยกเว้นปี ก็อดฟาเธอร์ที่น่าสนใจขึ้นมาหน่อย) มีสิ่งที่น่าชื่นชมคือ ความพยายามที่จะโยงใยกับสถานการณ์ปัจจุบัน เหตุการณ์ในเรื่องคือการใกล้เข้ามาของการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ของประเทศไทย หากแต่ว่าประเด็นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกคะแนนเสียงจากประชาชนด้วยการสร้างความกลัว หรือระบบศาลเตี้ยในสังคม ก็ไม่ได้แหลมคมเท่าไรนัก
ข้อผิดพลาดอีกประการของละครคือ ความพยายามในช่วงท้ายจะบีบเค้นอารมณ์ดาราม่าอย่างมาก แต่ทว่าละครนำเสนอตัวละครแบบทีเล่นทีจริงมาตลอด ความสัมพันธ์ของ ดร.แฟรงเกนสไตน์ กับ สัตว์ประหลาด จึงไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย และตัวบทก็ยังถูกทำลายไปอีก ด้วยวิธีจบแบบพยายามจะแฮปปี้เอนดิ้งเสียเหลือเกิน ซึ่งในทางหนึ่งก็เหมือนการ 'โกง' อารมณ์คนดู
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดอาจจะเป็นมุกทางการเมืองที่ยังเป็นความคิดประเภททักษิณคือสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดในจักรวาล และเป็นจุดศูนย์กลางของปัญหาทั้งหมด ดูเหมือนว่าละครถาปัดจะยึดติดกับความคิดชุดนี้มายาวนานหลายปี แต่เมื่อผลตอบรับของมุกนี้คือ เสียงหัวเราะของแทบทุกผู้คนในฮอลล์ ปรากฏการณ์ชั่วแวบเพียง 3-4 วินาทีนั่นต่างหาก ที่อาจเป็นบ่อเกิดของปัญหาในทุกวันนี้
Create Date : 09 พฤษภาคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 2:16:26 น. |
Counter : 2180 Pageviews. |
|
|
|