http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
คู่กรรม 2013 : พี่ชาย ชั้นไม่เข้าใจพี่เลย!

by merveillesxx


คู่กรรม (2013, เรียว กิตติกร, D+)

ไม่รู้ว่าระหว่างดูหนังเรื่องนี้ สิ่งไหนที่ดิชั้นทำบ่อยที่สุด ระหว่าง
A: ถอนหายใจ
B: เอามือขึ้นมากุมขมับ
C: กลั้นหัวเราะ
D: ห้ามใจไม่ให้หยิบไอโฟนขึ้นมาอัพสเตตัสด่าหนัง 555

ก่อนอื่นก็รู้สึกชื่นชมในแง่การสร้างใหม่โดยที่ไม่แคร์ภาพจำเก่าๆ ที่คนเคยมีต่อ ‘คู่กรรม’ ตัวละคร อังศุมาลิน ในเวอร์ชั่นนี้สก๊อยมากพอจนสามารถไปอยู่ในหนังเรื่อง ‘เกรียนฟิคชั่น’ ได้อย่างสบายๆ อีกอย่างที่ชอบคือ แม้จะมีบริบททางสังคมเกือบทั้งเรื่อง (สงคราม, ไทย-ญี่ปุ่น, ขบวนการใต้ดิน บลาๆๆ) แต่หนังมันก็ดู individual มากๆ คือเป็นเรื่องของวัยรุ่นสองคน ที่คนนึงเสือกฟอร์มว่าไม่รักเธอนะ เพราะฉันมีผัวเก่ารออยู่ แล้วบังเอิญดันมีระเบิดตูมตามอะไรไม่รู้อยู่เรื่อยเลย พวกเราก็เลยต้องวิ่งหนีกัน - จริงๆ ถ้าถอดเนื้อๆ ของหนังออกมา ก็คือเรื่องนี้

แต่ทีนี้การตีความใหม่น่าสนใจก็จริง แต่ความรู้สึกตลอดเวลาที่ดูคือ “อะไรเนี่ย!?” (หรือจริงๆ คือ “อะไรของมึง!?”) ดิชั้นว่าปัญหาหลักเลยคือ เทคนิคภาพยนตร์ในเรื่อง เราเคยร่ำเรียนมาว่า เทคนิคภาพยนตร์น่าจะมีสามแบบใหญ่ๆ นะ complementary, contrary, irony แต่สำหรับเราเทคนิคภาพยนตร์ในเรื่องนี้คือ demolish คือหน้าที่ของมันกลายเป็นการทำลายหนังไปเรื่อยๆ ตลอดสองชั่วโมง ตั้งแต่เปิดเรื่องมา ที่มีสกอร์นิ้งน้องแน้ว ที่ชวนให้นึกถึงละครเอ็กแซ็กท์ และหลอกหลอนอยู่เกือบ 20 นาทีได้กระมัง ชั้นก็อยากจะเดินไปบอกเจ้าหน้าที่ฉายหนังเหลือเกินว่า เค้าได้แยกแทร็คสกอร์มามั้ยคะ? ถ้าแยกมา ช่วยปิดไปเลยได้มั้ย

โอเค พอไอ้สกอร์นิ้งน้องแน้วนั่นหายไป มันก็จะเป็นเพลงธีมบรรเลงมาแทน ก็ดีขึ้นค่ะ แต่สักพักก็เริ่มรู้สึกได้ไอ้เพลงนี่มันก็มาหลอกหลอนทุกฉากเลยค่ะ จนมันจะกลายเป็นเสียงจำแบบเวลาเราเปิด windows XP อ่ะค่ะ อะไรแบบนั้น, แล้วไหนจะภาพสโลว์โมชั่นอีก ดูไปดูมาก็เริ่มงงว่า นี่ดู คู่กรรม หรือหนังจอห์น วู อยู่คะเนี่ย คือบางฉากใช้แล้วมันก็เวิร์คค่ะ (เช่น ฉากระเบิดสะพาน - ชอบฉากนี้) แต่พี่ใช้เปลืองเหลือเกินค่ะ จนซีนท้ายๆ อังศุมาลินวิ่งหาศพโกโบริ พี่ยังสโลว์เลยค่ะ จนกูฮาเลย

ส่วนปัญหาใหญ่(มากกกกก)ถัดมาของดิชั้นคือเรื่องแอ็คติ้งค่ะ ดิชั้นว่ามันก็โหดร้ายเกินไปนะคะที่น้องริชชี่โดนด่าหนักขนาดนั้น เพราะจริงๆ ไม่ใช่แค่น้องริชชี่ที่เล่นไม่ดีค่ะ ยกเว้นณเดชน์แล้ว มันเล่นไม่ดีกันทั้งเรื่องเลยค่าาา! ไล่ตั้งแต่แม่อังศุมาลิน พ่ออังศุมาลิน (คนนี้อาการหนักมาก) ทหารนู่นนี่ ชาวบ้านชาวเมือง ฯลฯ (วนัสนี่ชั้นจะละไว้ในฐานที่เข้าใจ) คือมันเซอร์มากที่แอ็คติ้งไม่ดีแล้ว ไม่หลบด้วย แต่เน้นถ่ายแช่ ถ่ายไดอะล็อกกันยาวๆ จนนี่ดิชั้นก็ยังแอบคิดว่าพี่เรียวแกใช้คอนเซ็ปต์ the models ของ Robert Bresson หรือเปล่าคะ??

ส่วนที่น้องริชชี่โดนถล่มเละ ก็เพราะหล่อนเล่นปรากฏตัวแทบทุกฉากเลยไงคะ (ชื่อหล่อนยังขึ้นก่อนณเดชน์เลย) และเธอก็ล่มจมในทุกภาคส่วนจริงๆ ตั้งแต่การออกเสียง (ดิชั้นไม่ได้ติดใจนะคะว่าเธอจะพูด ร.เรือ ชัด/ไม่ชัด แต่วิธีการพูดของเธอ การเปล่งเสียง การเว้นคำ มันประหลาดหลุดโลกมากๆ), ภาษากาย หรือที่เห็นได้ชัดมาก คือฉากที่เธอยืนเฉยๆ แม้เหตุการณ์ตรงหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอยืนนิ่งๆ แบบว่างเปล่าเลื่อนลอยมากๆ ซ้ำร้ายเทคนิคภาพยนตร์นี่แหละค่ะ ที่เป็นตัวถีบเธอลงเหวไปเลย นั่นคือการที่หนังโคลสอัพหน้าเธอแทบทั้งเรื่อง โคลสจะเห็นไปถึงเครื่องในแล้วค่ะ ซึ่งดิชั้นก็สับสนงุนงงอย่างยิ่งว่ามันช่วยอะไรกับหนัง เพราะมันยิ่งขับเน้นความว่างเปล่าของเธอ คือเธอไม่ได้ขึ้นกล้องแบบ จูเลียต บิโนช หรือ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ น่ะค่ะ ไปๆมาๆ หลังจากหนังโคลสหน้าเธอไป 20 รอบ ดิชั้นก็รู้สึกว่าเธอเป็นผีจูออนค่ะ และเริ่มไม่แน่ใจว่าตกลงอี คู่กรรม เวอร์ชันนี้โกโบริหรืออังศุมาลินที่ตายกันแน่

เอาเข้าจริงๆ ดิชั้นเข้าโรงไปด้วยความรู้สึกเอาใจช่วยน้องริชชี่นะคะ แต่ยิ่งดูไปความรู้สึกอยากใช้ซีจีลบเธอออกจากหนังมันก็แรงกล้าขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดตอนที่เธอพูดย้ำว่า
“ออกไปจากชีวิตเรา ออกไปจากชีวิตเราเดี๋ยวนี้!”
“หล่อนเองนั่นแหละย่ะ ที่ควรออกไปจากหนังเรื่องนี้” – ดิชั้นคิดในใจค่ะ

(อนึ่ง เวอร์ชันที่ดิชั้นดูมีเสียง voice over ของอังศุมาลินแค่ครั้งเดียวค่ะ ได้ข่าวว่าจริงๆ มันจะต้องมี 4-5 รอบ ดิชั้นก็คิดว่าเป็นบุญของดิชั้นแล้วที่มันถูกตัดออกไป เพราะแค่มาครั้งเดียวดิชั้นยังแทบจะวิ่งเอาหัวไปฟาดเบาะวีไอพีเลยค่ะ)

อย่างไรก็ดี มีฉากที่ดิชั้นชอบอย่างสุดขีด นั่นคือฉากที่โกโบริปล้ำอังศุมาลิน เหตุผลแรกที่ชอบก็คือ ฉากนี้น้องริชชี่ไม่พูดค่ะ เป็นความสงบสุขในชีวิตของชั้นมาก (ฮา) อีกอย่างคือ ฉากมันดิบและฮาร์ดมากเลยค่ะ ลึกๆ แล้วดิชั้นสะใจนะคะที่ฉากนี้มันจะต้องทำให้แฟนนิยายอมตะมหาโรมานซ์ คู่กรรม ต้องขวัญกระเจิงกันแน่ๆ ดิชั้นชอบมากที่ผู้กำกับปล่อยให้ฉากนี้ยาวขนาดนั้น แม้จะรู้สึกว่าช่วงหลังๆ มันจะกายกรรมกันจนเป็น Butoh ไปหน่อยก็ตาม และการแสดงทางสีหน้าของน้องริชชี่ในฉากนี้ก็ดีทีเดียว

ถึงกระนั้น แม้ช่วงหลังของที่มีความ dramatic มากขึ้น แต่ดิชั้นก็ก็อุเบกขากับหนังไปแล้วเรียบร้อยค่ะ ดิชั้นเริ่มจิตใจลอยไปสู่เรื่องอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มคิดว่าหนังจบแล้วจะไปกินอะไรดี ...อืม อยากกินข้าวแกงกะหรี่จังเลยน้า เรียกได้ว่าดิชั้นไปรออยู่ที่ทางช้างเผือกก่อนพ่อโกโบริแล้วละค่ะ (ซึ่งจริงๆ ในหนังไม่มีทางช้างเผือก) ยิ่งพอ โบ้ท เดอะ เยอร์ส ปรากฏตัว พร้อมโปรเจคต์เสียงเนี่ย วิญญาณดิชั้นก็กระเจิงไปที่ดาวพลูโตเลยค่ะ (ดิชั้นว่าการแสดงของเขานี่แรงกว่าระเบิดในเรื่องอีกนะคะ) สารภาพว่าดิชั้นก็เริ่มคิดว่าเมื่อไรโกโบริจะตายซะทีคะ คือถ้ามีรีโมตอยู่แถวนั้น ก็คงกดฟาสต์ฟอร์เวิร์ดไปแล้วค่ะ

แล้วในที่สุดก็ถึงฉากที่โกโบริกับอังศุมาลินร่ำลากันเสียทีค่ะ แม้ว่าดิชั้นจะสงสัยว่าโกโบริมันเป็น บรู๊ซ วิลลิส ในเรื่อง Unbreakable หรือไงคะ มันถูกเสียบพุงขนาดนั้น มันยังเสือกอยู่ได้ถึงเช้า ...อ้อ ก็เพราะต้องให้พระอาทิตย์ “ฮิเดโกะ” ขึ้นไงคะ! หลังจากบทสนทนาอันยืดยาวววว ก็มาถึงบทสรุป
โกโบริ: “ฮั้ว-ใจ-ของ-พ้ม-จะ-อยู่-กับ-คุน-ต่ะ-หลอด-ปัย”
อังศุมาลิน: “หัวใจของเราก็จะอยู่กับนายตลอดไปเหมือนกัน”
เมอฤดี: “ตอนนี้หัวใจของกูไปอยู่ที่ร้านข้าวแกงกะหรี่แล้ว กูหิวข้าว ตายได้แล้วค่ะ พวกมึงมีความรักของมึง (ถึงกูจะยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามึงไปรักกันตอนไหน) แต่กูก็มีกระเพาะของกูค่ะ”

จบ.

ป.ล. อย่างไรก็ดี เป็นความงดงามมากๆ ที่มีหลายคนชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีด และ publish งานที่น่าสนใจไว้มากมาย




Create Date : 01 พฤษภาคม 2556
Last Update : 1 พฤษภาคม 2556 17:53:46 น. 4 comments
Counter : 5753 Pageviews.

 
ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยครับ แต่เท่าที่ฟัง เขียนถล่มมาขนาดนี้ ค่อนข้างชัดเจนเลยว่า คุณภาพของ คู่กรรม เวอร์ชั่นนี้ ได้สร้างอานิสงส์ ผลบุญ ให้ พี่มากขา เขาโกยรายได้แบบ Shock สังคนไทยไปซะขนาดนั้น หนังไทยชนโรงกันเอง ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย !!


โดย: โปสการ์ดราดซอส (โปสการ์ดราดซอส ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:25:52 น.  

 
ดูหนังเรื่องนี้แบบลำเอียงสุดๆ ครับ
เรื่องหน้าทำหนังในแนวถนัดเถอะนะครับพี่เรียว


โดย: คนขับช้า วันที่: 1 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:50:37 น.  

 
หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่พอดูตัวอย่างแล้วทำให้อยากไปดูสุด ๆ แถมยังส่งทีเซอร์ไปให้เพื่อน ๆ ที่ต่างประเทศดูกัน จนเค้าพากันอยากดูยกใหญ่ ประมาณว่าอยากจะบินมาดูที่เมืองไทยกันเลยทีเดียว แต่พอรอบสื่อออกฉาย เราก็ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาบ้างว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ตามเราก็ยังมีความหวังอยู่ว่ามันคงจะพอดูจนจบเรื่องได้ แต่นั่นแหละค่ะ ตอนนี้ยังไม่กล้าบอกเพื่อน ๆ เลยว่าหนังเป็นยังไง ให้พวกเค้าดูเองแล้วกัน

ปล.ชอบรีวิวของคุณจัง อ่านแล้วตลกดี :)


โดย: ช้างน้ำตัวน้อย วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:1:43:12 น.  

 

เข้ามาอ่านเจอ ผิดคาดมากเลย นึกว่าคุณเมอจะชอบ เพราะเห็นรสนิยมการดูหนังคล้ายๆกัน เราชอบคู่กรรมเวอร์นี้มากๆเลย เป็นหนังไทยที่มีพลังสุดๆในรอบหลายปี เป็นหนังที่มีชีวิต และสร้างบรรยากาศ ออกแบบ คุมโทนหนังได้อย่างดีเยี่ยม มันจะดูแปร่งๆเฉพาะรอบแรกเท่านั้น พอดูรอบสองเท่านั้นแหละ หนังลื่นไหลมาก เลยต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะติดใจ


โดย: ThisLonelyme (ThisLonelyMe ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2556 เวลา:22:23:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.