ตะลุยเทศกาลหนัง Bangkok International Film Festival 2006 (Part 2)
โดย merveillesxx
อ่าน PART 1
วันศุกร์ที่ 24 ก.พ. 2549
-- BIOSCOPE FOCUS เล่มใหม่ออกแล้ว (เป็นเล่มที่ 4) หน้าปก Match Point (หนังของวู้ดดี้ อัลเลน ไม่ใช่หนังเรื่อง เพราะรักครับผม) สวยมากๆ
-- ตอนนี้กำลังเสียดายมากๆ ที่ไม่ได้ดูหนังเรื่อง The Sun เพราะเท่าที่ถามหลายๆ คน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่ทุกคนจะแสดงความคิดเห็นถึงหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
หนังที่ได้ดูวันศุกร์ที่ 24 ก.พ.
1. House of Sand (2005, Andrucha Waddington, บราซิล, A+)
-- ตอนนี้หนังที่มีการถ่ายภาพที่ถูกใจตัวเองมากที่สุดในเทศกาลนี้มีสองเรื่องก็คือ The Ring Finger กับ The House of Sand ต่างกันที่ว่าเรื่องแรกเป็นการประดิดประดอยจัดองค์ประกอบภาพ, มุมกล้อง และแสงเงาอย่างละเอียดลออ แต่ในขณะที่เรื่องหลังสามารถ่ายภาพธรรมชาติ (ทะเลทราย, ทะเล) ได้อย่างทรงพลังและน่าทึ่งมากๆ
-- ชอบฉากเปิดของหนังมากๆ
-- ประทับใจการแสดงของนักแสดงหญิงทั้งสองคน แต่รู้สึกประทับใจคนที่เล่นเป็นตัวลูก (Fernanda Torres) มากกว่า เพราะเธอสามารถแสดงบท ลูกสาว ให้บุคลิกแตกต่างกัน จนรู้สึกเชื่อจริงๆ ว่าเป็นตัวละครคนละตัวกัน
2. Kissed by Winter (2005, Sara Johnsen, นอร์เวย์, A)
-- ตอนแรกเดาเอาว่าหนังเรื่องนี้จะต้องเป็นประมาณหนังสืบสวนสอบสวน ที่ตัวละครแต่ละตัวจะต้องมีเบื้องหลังอันลึกลับมากมาย แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ตัวละครทุกคนมีร่วมกันไม่ใช่เรื่องลึกลับอย่างที่ว่า แต่เป็น ความเจ็บปวด จุดนี้ก็เลยทำให้รู้สึกชอบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นอย่างมาก เพราะเหตุการณ์ฆาตกรรมในหนังนั้นเป็นเพียงแต่จุดร่วมบางๆ ที่โยงตัวละครเข้าด้วยกันก็เท่านั้น
-- หนังเรื่องนี้มีเพลงประกอบที่เพราะมากๆ คือเพลง Hallelujah ของ Jeff Buckley
-- ไม่ค่อยบทสรุปของตัวละครนางเอกเท่าไร แต่ชอบฉากจบของหนังมากๆ
3. The Great Water (2004, Ivo Trajkov, มาซีโดเนีย, A-)
-- หนังเรื่องนี้เล่าถึงค่ายกักกันที่จับเด็กๆ มาล้างสมองให้เชื่อแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งในค่ายนี้มีตัวละครสองตัวที่เฮี้ยนมากๆ
(**มี SPOILER เล็กน้อย**)
ตัวแรกคือ ทหารหญิงจอมโหด (ที่ดูคล้ายๆ แองเจลลิน่า โจลี่ แต่ดูโหดกว่า 10 เท่า) ดูหนังแรกๆ ไปเข้าใจว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน แต่จู่ๆ ฉากถัดมาเธอก็พยายามจะล่อลวงเด็กผู้ชาย (ในค่ายกักกันนี้มีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง) ก็เลยทำให้รู้สึกเหวอกับตัวละครนี้มากๆ แต่อะไรก็ไม่รุนแรงเท่ากับสิ่งที่เธอทำในฉากไคลแม็กซ์
ตัวละครที่สองที่เฮี้ยนแตกสุดๆ ก็คือเด็กหนุ่มชื่อ Isaac ซึ่งเป็นเพื่อนของพระเอก อิทธิฤทธิ์ของตัวละครนี้ได้แก่
3.1 ตลอดเรื่องตัวละครตัวนี้ไม่พูดเลย และก็ทำหน้านิ่งๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
3.2 ในเรื่อง Isaac เป็นเด็กผู้ชาย แต่ผู้กำกับมาเฉลยตอนหลังว่าตัวละครตัวนี้แสดงโดยเด็กผู้หญิง
3.3 เป็นเด็กเปรตที่เฮี้ยนมาก เพราะจะมีฉากที่ตัวละครตัวนี้เล่นพิธีกรรมไสยศาสตร์ตลอดทั้งเรื่อง อีเด็กคนนี้เอาทุกอย่าง เผาเส้นผม, กรีดเลือด, หยดเทียน, เสกดิน ฯลฯ แต่จะรุนแรงที่สุดคือ เด็กคนนี้ชุบชีวิตแมวที่ถูกไฟฟ้าช็อตขึ้นมาได้ จนทำให้ทหารคนหนึ่งเสียสติเป็นบ้าไปเลย
3.4 จุดจบของตัวละครตัวนี้ซึ่งรุนแรงมากๆ (ผู้ที่ทำให้จบก็คือ ยัยทหารหญิงจอมโหดข้างบนนั่นเอง)
-- รู้สึกไม่ค่อยหนังเรื่องนี้ที่บางจุดดู ล้นเกินไป โดยเฉพาะเรื่องซาวด์ประกอบ และการตัดต่อ แต่หนังถ่ายภาพสวยดี โดยเฉพาะการย้อมสีภาพเป็นสีเขียวและสีฟ้า
-- หนังมี End Credit ที่เก๋ไก๋มาก
4. Obaba (2005, Montxo Armendariz, สเปน, A-)
-- ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่น่าแปลกใจนัก เราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังแบบ อยู่ๆ อยากจะเล่าอะไรก็เล่า) แล้วก็ไม่แน่ใจว่าหนังเรื่องนี้จะจัดอยู่ในหนังประเภทไหนกันแน่ เพราะมันเป็นทั้ง ดราม่า, สยองขวัญ, coming of age, road movie และมีกลิ่นอายของสารคดีอยู่สูง
-- ฉากที่ชอบที่สุดก็ตอนที่ นางเอกดูกล้องวิดีโอที่ถ่ายตัวเองตอนหลับเอาไว้ เหวอมากๆ
-- ตัวละครที่เฮี้ยนมากๆ คือคุณป้าที่เป็นพี่สาวของชายหูหนวก ที่ดูจงเกลียดจงชังผู้ชายที่เป็นเจ้าของโรงแรมมากๆ จริงๆ แล้วหนังน่าจะลองเจาะไปที่ตัวละครตัวนี้บ้าง คงจะมีอะไรเหวอๆ อีกเยอะ
-- พอดูหนังจบแล้วก็เกิดความคิดว่าควรจะส่งนางเอกประเภท อยู่ไม่สุข อย่างในหนังเรื่อง The Ring Finger หรือ Obaba ไปเที่ยวแพ็คเกจทัวร์ด้วยกัน โดยให้พักใน โรงแรม ในหนังเรื่อง Hotel
วันเสาร์ที่ 25 ก.พ. 2549
-- ตอนที่ดูหนังเรื่อง The House of Sand ก็นึกถึงหนังญี่ปุ่นเรื่อง Woman in the Dunes (1964, Hiroshi Teshigahara) เหมือนกัน
-- รู้สึกว่าหลายวันที่ผ่านมาใช้ชีวิตอยู่ในสยามพารากอนมากกว่าที่บ้านหรือมหาลัยเสียอีก และดูหนังตลอดเวลาจนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลย เพราะกว่าจะรู้ว่าเขายุบสภากันไปแล้วก็ประมาณตอนตีหนึ่งของคืนวันศุกร์
-- สิ่งที่หลอกหลอนตัวเองมากที่สุดในตอนนี้
1. ตัวอย่างหนังเรื่อง King Naresuan
2. โฆษณาเบียร์สิงห์ที่เป็นผู้ชายเลื่อนแก้วไปมา (ถ้าผมเป็นผู้กำกับโฆษณานี้ สิ่งที่อยู่ในแก้วจะเป็นคอนดอม ไม่ใช่ไม้จิ้มฟัน)
3. ประโยคที่ว่า ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพ ประจำปี 2549 ซึ่งปีนี้ได้จัดเป็นปีที่ 4 แล้ว ในปีนี้เรามีหนังจากทั่วโลกถึง 200 กว่าเรื่อง
บลา บลา บลา
-- อัลบั้มเพลงที่แนะนำช่วงนี้คือ Panda Number 5: Between Hell And Heaven สำหรับคนที่อยากฟังเพลงแบบเมาๆ (อาจจะไม่ได้วางขายทั่วไป น่าจะหาซื้อได้ตาม ดีเจสยาม, power music)
หนังที่ได้ดูวันเสาร์ที่ 25 ก.พ.
1. The Village Album (2005, Mitsuhiro Mihara, ญี่ปุ่น, A-/B+)
-- ที่จริงแล้วหนังเรื่องนี้ก็น่าประทับใจดี แต่ตัวเองไม่ค่อยรู้สึกเชื่อความสัมพันธ์ พ่อ-ลูก ในหนังเรื่องนี้สักเท่าไร (ไม่เหมือนกับหนังโมร็อกโคเรื่อง Grand Voyage (A+) ที่ฉายในเทศกาล 3rd World Film Festival ที่ตอนแรกก็รู้สึกต่อต้าน แต่สุดท้ายก็อินไปกับหนังจนได้) และตอนจบของหนังก็ดู จงใจ เกินไป
-- ประทับใจกับ ภาพถ่าย ในหนังมากๆ รู้สึกว่าภาพถ่ายเหล่านั้นดู มีชีวิต และ มีความทรงจำ อยู่จริงๆ
-- เวบไซต์ของหนังอยู่ที่ //www.murasha.com
2. Dont Tell (2005, Christina Comencini, อิตาลี, B+)
-- รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับ ทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็ก ที่ดูจะ สะอาด ไปหน่อย ส่วนตัวแล้วหนังในแนวเดียวกันที่เข้าทางตัวเองมากกว่าคงจะเป็นหนังแบบ Bad Education (A) หรือ Mysterious Skin (A+) มากกว่า
-- Giovanna Mezzogiorno ให้การแสดงที่ดีในระดับหนึ่ง ฉากที่ชอบมากๆ คือตอนต้นเรื่องที่เธอพากย์หนังเป็นตัวละครผู้หญิงที่ถูกผู้ชายเข้ามาทำร้าย
-- อีกฉากที่ชอบมากๆ ก็คือ ตอนที่นางเอกตะโกนทุบตีพี่ชายอย่างบ้าคลั่งตอนจุดดอกไม้ไฟฉลองวันปีใหม่
3. Sympathy for Lady Vengeance (2005, Park Chan-wook, เกาหลีใต้, A)
-- ไม่ได้ดูในเทศกาล ดูแผ่นผี
-- หากซีรี่ย์ แดจังกึม มีชื่อไทยว่า จอมนางแห่งวังหลวง หนังเรื่อง One Fine Spring Day (A-) ก็ควรจะมีชื่อว่า จอมนางกิ๊กเด็ก ส่วนเรื่อง Sympathy for Lady Vengeance ก็น่าจะชื่อ จอมนางแค้นล้างโคตร
-- เข้าใจว่าผู้กำกับคงตั้งใจลดความโหดในหนังในน้อยลง แล้วเห็นไปเล่นกับสภาพจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกถึง การแก้แค้น และ การไถ่บาป ของตัวละครนางเอกแทน แต่รู้สึกว่าหนังทำในส่วนนั้นได้ไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะมีสิ่งที่ทำให้รู้สึกสะดุดอยู่ตลอดเวลา ก็คือวิธีการเล่าเรื่องของหนัง และความพยายามที่จะเป็นหนังตลกร้าย
-- รู้สึกชอบ Oldboy มากกว่า Sympathy for Lady Vengeance ถึงแม้ Oldboy จะมีอะไรเวอร์ๆ เยอะแยะ แต่ก็รู้สึก เชื่อ และมีอารมณ์ร่วมมากกว่าใน Sympathy for Lady Vengeance
-- สิ่งที่ชอบในหนังคือ อารมณ์ขันแบบร้ายๆ, การโยงหนังเข้ากับเรื่องศาสนา, เพลงประกอบ แต่ที่สุดมากที่สุดคือ การได้เห็น ลียังแอ ทำอะไร ชั่วๆ เพราะเบื่อหน้านางเอกผู้แสนดีของเธอใน แดจังกึม เป็นอย่างมาก
ADORABLE ACTOR (นึกว่าจะไม่เจอเสียแล้วในเทศกาลนี้)
-- Ken Kaito (เล่นเป็น Takashi ลูกชายในหนังเรื่อง The Village Album)
เกิดปี 1979 รู้สึกว่าเขาจะยังเล่นหนังไม่กี่เรื่องเลยหารูปและข้อมูลไม่ค่อยได้ และถ้าเดาไม่ผิดใน The Village Album เป็นหนังเรื่องแรกที่เขาได้รับบทเด่น
เนื่องจากจะเริ่มสอบ FINAL ในวันอังคารนี้แล้ว ผมจึงขอหยุดการดูหนังในเทศกาลบางกอกฟิล์มไว้เพียงเท่านี้
อันดับหนังทั้งหมดที่ได้ดู (20 เรื่อง) เรียงจากชอบมากสุดไปน้อยสุด (เกรดหนังอาจจะเปลี่ยนไปจากที่ให้ในตอนแรก และพร้อมจะเปลี่ยนเสมอในภายภาคหน้า)
01. The Ring Finger (2005, Diane Bertrand, ฝรั่งเศส, A+++++)
02. House of Sand (2005, Andrucha Waddington, บราซิล, A+)
03. Tsotsi (2005, Gavin Hood, แอฟริกาใต้, A+)
04. Kissed by Winter (2005, Sara Johnsen, นอร์เวย์, A)
05. Water (2005, Deepa Mehta, อินเดีย, A)
06. Invisible Waves (2006, เป็นเอก รัตนเรือง, A)
07. Istanbul Tales (2005, กำกับหลายคน, ตุรกี, A)
08. Sympathy for Lady Vengeance (2005, Park Chan-wook, เกาหลีใต้, A)
09. Dark Horse (2005, Dagur Kari, เดนมาร์ก-ไอซ์แลนด์, A)
10. Merry Christmas (2005, Christian Carion, ฝรั่งเศส, A)
11. Once Youre Born You Can No Longer Hide (2005, Marco Tullio Giordana, อิตาลี, A-)
12. Obaba (2005, Montxo Armendariz, สเปน, A-)
13. C.R.A.Z.Y. (2005, Jean-Marc Vallee, แคนาดา, A-)
14. Murk (2005, Jannik Johansen, เดนมาร์ก, A-)
15. Cut Sleeve Boys (2006, Ray Yeung, ฮ่องกง-อังกฤษ, A-)
16. The Great Water (2004, Ivo Trajkov, มาซีโดเนีย, A-)
17. The Village Album (2005, Mitsuhiro Mihara, ญี่ปุ่น, A-/B+)
18. Dont Tell (2005, Christina Comencini, อิตาลี, B+)
19. Jonis Promise (2005, Joko Anwar, อินโดเนเซีย, B+)
20. The Great Role (2004, Steve Suissa, ฝรั่งเศส, B-)
รางวัล mers AWARDS สำหรับเทศกาล BKKIFF 2006
BEST PICTURE The Ring Finger (Dir. Diane Bertrand)
BEST DIRECTOR Deepa Mehta (Water)
BEST ACTOR Presley Chweneyagae (Tsotsi)
BEST ACTRESS Olga Kurylenko (The Ring Finger) Fernanda Montenegro + Fernanda Torres (House of Sand)
BEST CINEMATOGRAPHY Alain Duplantier (The Ring Finger) Ricardo Della Rosa (House of Sand) Manual Alberto Claro (Dark Horse)
BEST MUSIC SCORE Beth Gibbons from The Potrishead (The Ring Finger) Snowblow (Dark Horse)
BEST OPENING House of Sand
BEST ENDING Kissed by Winter -- Once Youre Born You Can No Longer Hide
BEST SCENE
1. ฉากนางเอกนั่งดูวิดีโอที่ถ่ายตัวเองใน Obaba
2. ฉากเซ็กส์พิสดารและทุกฉากที่ถ่ายเท้าของนางเอกใน The Ring Finger
3. ทุกฉากบน เรือ ใน Invisible Waves
4. เมื่อโลกนี้เปลี่ยนสี ใน Dark Horse
5. ฉากร้องเพลงคริสต์มาสใน Merry Christmas
เพลงประกอบในหนังที่ประทับใจมากๆ
1. David Bowie: Space Oddity (C.R.A.Z.Y.)
2. Jeff Buckley: Hallelujah (Kissed by Winter)
3. เพลงจีนที่พูดถึง ความสิ้นสลายของวัยหนุ่มสาว ในหนังเรื่อง Cut Sleeve Boys
กระทู้คุยกันเรื่องเทศกาลหนังบางกอกฟิล์ม
//www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=26274
//www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=26378
//www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=26541
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการชมภาพยนตร์ พบกันใหม่ปีหน้าครับ
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2549 |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2549 17:15:21 น. |
|
12 comments
|
Counter : 4418 Pageviews. |
|
|
|
- รางวัลภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม (Best International Picture)
Water ภาพยนตร์ร่วมสร้างระหว่างแคนาดา และอินเดีย อำนวยการสร้างโดย Devid Hamilton กำกับโดย Deepa Mehta
- รางวัลผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยม (Best International Director)
Chan Wook Park ผู้กำกับชาวเกาหลีจาก Sympathy for Lady Vengeance
- รางวัลผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best International Actor)
Presley Chaweneyagae (เพรสลีย์ ชเวนเนยาเค) จาก Tsotsi
- รางวัลผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best International Actress)
Felicity Huffman (เฟลิซิตี้ ฮัฟฟ์แมน) จาก Transamerica
- รางวัลภาพยนตร์อาเซียนยอดเยี่ยม (Best ASEAN Award)
The Bride of Silence ผลงานกำกับของ 2 ผู้กำกับชาวเวียดนาม Doan Minh Phuong Doan Thanh Nghia
- รางวัลภาพยนตร์สั้นเอเชียยอดเยี่ยม (Jameson Best Asian Short Film Award)
Underconstruction กำกับโดย Lee Hyung Suk ผู้กำกับชาวเกาหลี
- รางวัลสารคดีนานาชาติยอดเยี่ยม ( Best International Documentary Award)
Rize กำกับโดย David La chapelle (อเมริกา)
- รางวัล New Voices Award for the Best New Director
Kept and Dreamless กำกับโดย Martin DeSalvo และ Vera Fogwill
- รางวัล Jameson People's Choice Award
ภาพยนตร์เรื่อง Art of the Devil 2 (ลองของ) กำกับโดย ก้องเกียรติ คมสิริ/ อาร์ต ธรรมตระกูล / ยศพงษ์ ผลทรัพย์ / พุฒิพงษ์ สายศรีแก้ว / อิศรา นาดี / ประสิทธิ์ บูรณะจันทร์ และเสรี ป้องนิธิ
ประเภทรางวัลเกียรติยศ
- รางวัลบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต จากการทำงานในวงการภาพยนตร์มาเป็นเวลายาวนาน (Lifetime Achievement Award)
แคเธอรีน เดอเนอฟ
สมบัติ เมทะนี
- รางวัลผู้กำกับภาพที่มีผลงานโดดเด่น (Crystal Lens Award)
Anthony Dod Mantle
- รางวัล Asian Perspective Award
Shoji Ueda
- รางวัล Merit Award for Outstanding Contribution to Asian Cinema
Wouter Barendrecht & Michael J. Werner จาก Fortissimo Films