http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
23 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
Maborosi : แรงระเบิดของคำถาม

โดย merveillesxx





ก่อนที่ผู้กำกับฮิโรคาสุ โคริเอดะ จะเป็นที่รู้จักในบ้านเราจากหนังเรื่อง Nobody Knows เขาเคยสร้างหนังยอดเยี่ยม 3 เรื่อง ออกมา (ได้แก่ Maborosi, After Life และ Distance) หนังทั้งสามเรื่องนี้มีจุดร่วมที่การใช้เทคนิคแบบสารคดี (อันเป็นผลพวงจากการเคยทำสารคดีมาก่อนของตัวผู้กำกับ) และมีล้วนมีธีมเกี่ยวกับ “การเกิดและการตาย” หรือหากจะลงลึกไปกว่านั้นมันคือ ความตายและการเกิดใหม่ ทั้งทางกายภาพและจิตวิญญาณ

Maborosi เป็นหนังเรื่องแรกของไตรภาคชุดนี้ หนังเปิดเรื่องด้วยภาพยูมิโกะในวัยเด็ก เธอกำลังวิ่งไล่ตามคุณย่า พร้อมอ้อนวอนให้กลับบ้านไปพร้อมกัน แต่ย่ายืนยันว่าจะกลับไปตายที่บ้านเกิด ยูมิโกะไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยืนมองคุณย่าเดินจากไปอย่างช้าๆ ...และคุณย่าของเธอก็ไม่เคยกลับมา

เมื่อเวลาผ่านไป ยูมิโกะ (วัยสาวแสดงโดย มากิโกะ อิสุมิ) แต่งงานกับอิคุโอะ (ทาดาโนบุ อาซาโน่) เพื่อนสมัยเด็กของเธอ ทั้งสองเพิ่งจะมีลูกชายด้วยกัน ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความสุขชนิดสามีภรรยาคู่ใหม่ปลามัน แม้จะต้องอาศัยอยู่ในห้องแคบๆ ที่มีตาแก่ข้างห้องที่ชอบเปิดวิทยุเสียงดัง หรือต้องออกไปอาบน้ำที่ห้องน้ำสาธารณะที่คนแน่นเอี้ยด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้สร้างทุกข์ร้อนแก่ทั้งคู่แต่อย่างใด

ฉากหนึ่งที่น่าประทับมากในช่วงต้นเรื่อง คือตอนที่อิคุโอะไปขโมยจักรยานของคนอื่นมา (ด้วยเหตุผลที่ว่าจักรยานของเขาก็เพิ่งถูกขโมยไป) ด้านยูมิโกะก็ออกไปซื้อสี จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันเปลี่ยนโฉมจักรยานคันเทาให้เป็นสีเขียว ฉากที่ทั้งสองช่วยกันทาสีพร้อมหัวร่อต่อกระซิกไปกันนั้นแทนภาพความรักของหนุ่มสาวอันบริสุทธิ์สดใสได้เป็นอย่างดี

แต่แล้วความสุขนั้นก็พังทลายลงในพริบตา เมื่ออิคุโอะฆ่าตัวตายด้วยการเดินให้รถไฟชน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งแวะเอาจักรยานมาจอดที่บ้าน หยิบร่มเดินออกไป พร้อมกับล่ำลาภรรยาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ...แต่เขาก็ไม่เคยกลับมา

ยูมิโกะตกอยู่ในอาการช็อคอย่างรุนแรง เธอเอาแต่นั่งนิ่งคิดหาสาเหตุว่าทำไมคนรักต้องจากเธอไป ผู้คนรอบข้างก็เอาแต่ถามเธอว่าก่อนหน้านี้เขามีอาการหรือสัญญาณบ่งบอกอะไรบ้างหรือเปล่า แต่นั่นกลับยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดของยูมิโกะ เพราะภาพสุดท้ายของอิคุโอะที่เธอจำได้ก็เป็นสีหน้าของคนที่ปราศจากเงาแห่งความตาย

หนังตัดภาพเหตุการณ์มายัง 5 ปีต่อมา ยูมิโกะตัดสินใจแต่งงานใหม่ และย้ายจากโอซาก้าไปอยู่กับสามีที่บ้านนอก ก่อนจะจากไปเธอมองห้องเดิมที่เธอเคยใช้ชีวิตกับอิคุโอะ ในจิตใจของเธอยังคงเต็มไปด้วยคำถามถึงการจากไปของคนรัก พร้อมกับสีหน้าที่ไม่มีความสดใสของวัยหนุ่มสาวหลงเหลืออีกต่อไป

ช่วงกลางเรื่อง หนังติดตามชีวิตของยูมิโกะในสภาพแวดล้อมใหม่ สามีของเธอมีลูกสาวจากภรรยาคนเก่า พร้อมกับพ่อที่อยู่ในวัยชรา แต่ทั้งสองก็ต้อนรับเธอเป็นอย่างดี จนเรียกว่านี่เป็นครอบครัวอันสงบสุขโดยสมบูรณ์ แม้จะเป็นการก่อตัวขึ้นจากความสัมพันธ์คนละฝาคนละฝั่ง

หลายฉากในหนังช่วงนี้ไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญเป็นพิเศษ หนังฉายเพียงภาพกิจวัตรประจำวันของยูมิโกะ เธอเลี้ยงดูลูก ทำงานบ้าน และพูดคุยกับเพื่อนบ้านตามประสาแม่และเมียที่ดี ในขณะเดียวกันเทคนิคการถ่ายภาพของหนังก็เด่นชัดขึ้นจนผู้ชมสังเกตได้ หนังใช้ภาพระยะไกลและระยะปานกลางเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงการใช้มุมกล้องระดับเสื่อ (tatami shot) ที่พบเห็นได้บ่อยในหนังของโอสุ ไม่มีฉากใดเลยที่ close-up ไปยังใบหน้าของยูมิโกะ อย่างไรก็ตามด้วยอากัปกิริยาท่าทาง เราต่างรู้สึกได้ว่าความเศร้ายังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจของเธอ หากแต่มันเป็นเสมือนระเบิดเวลาที่รอคอยวันที่จะปะทุปะทัง

ระเบิดเวลาที่ว่าของยูมิโกะเริ่มเดิน เมื่อเธอกลับไปยังโอซาก้าเพื่อร่วมงานแต่งงานของน้องชาย ในขณะที่เธอได้พบกับแม่และเพื่อนบ้านเก่าแก่ เธอก็ย้อนไปยัง “ห้องนั้น” อีกครั้ง ห้องอันเป็นดินแดนแห่งความทรงจำของเธอกับคนรักผู้จากไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากการเยี่ยมเยียนมีเพียงความว่างเปล่าและการระลึกย้อนถึงบาดแผล โดยเฉพาะคำให้การจากเจ้าของร้านกาแฟที่อิคุโอะแวะมากินก่อนที่จะเสียชีวิต คำบอกเล่าที่ว่าเขาดูปกติและมีความสุขดีทุกกระเบียดนิ้ว ยิ่งทำให้คำถามที่ยูมิโกะเฝ้าถามมาตลอดชีวิตพองโตขึ้นจนแทบจะฉีกตัวเธอออกเป็นเสี่ยงๆ

ยูมิโกะกลับมายังบ้านด้วยสภาพของคนที่ทำวิญญาณสูญหาย แม้แต่สามีก็ยังสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ซ้ำร้ายเหตุการณ์รอบตัวที่เกิดขึ้น ทั้งคุณป้าข้างบ้านที่ออกเรือไปจับปูให้เธอแล้วเจอกับพายุ หรือสามีที่กลับบ้านดึกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เธอกลัวที่สุด นั่นก็คือ “การจากไปโดยไม่มีวันกลับมา” เหมือนที่เกิดขึ้นกับคุณย่าและคนรักของเธอ

ถึงแม้คุณป้าข้างบ้านและสามีจะกลับบ้านมาโดยปลอดภัย แต่ก็ไม่ช่วยให้จิตใจของยูมิโกะกลับสู่จุดสมดุล ชนวนสุดท้ายที่ทำให้เธอถึงปลายปากเหว คือตอนที่เธอปล่อยให้ลูกชายไปดูจักรยานในร้าน เมื่อเธอหันกลับไปดู ภาพที่เธอเห็นคือเด็กน้อยกำลังจ้องจักรยานคันสีเขียวชนิดไม่วางตา อันเป็นเสมือนการกลั่นแกล้งของพระเจ้าที่มอบเส้นใยบางๆ ให้ลูกชายเชื่อมโยงกับพ่อแท้ๆ ของเขาได้ โดยที่เด็กน้อยไม่รู้ตัว แต่ผู้ที่รับรู้ถึงโศกนาฏกรรมนี้ก็มีเพียงยูมิโกะเท่านั้น

ในที่สุดยูมิโกะก็มาถึงจุดปลายของความตายแห่งจิตวิญญาณ และที่จริงหนังก็ชักนำเรามาตลอดทั้งเรื่อง เพราะไม่ต้องสังเกตสังกาอะไรมากนัก ผู้ชมล้วนสะกิดใจว่าตัวละครในหนังล้วนใส่ชุดดำกันทุกคน และตลอดเวลา เสมือนกับการไว้ทุกข์ให้กับทุกวันของชีวิต ฉากกึ่งจริงกึ่งฝันที่ยูมิโกะเดินตามขบวนกลุ่มคนชุดดำ (ซึ่งน่าจะเป็นขบวนแห่ศพ) แม้จะถ่ายด้วยภาพ extreme long shot แต่ก็ทรงพลังเกินกว่าจะอรรถธิบายด้วยถ้อยคำ เพราะนี่เป็นภาพแทนการมุ่งสู่ปรโลก -ทั้งที่ยังคงมีชีวิตอยู่

สามีของยูมิโกะออกตามหาเธอจนเจอ และในที่สุดยุมิโกะก็ระเบิดมันออกมา นั่นคือคำถามที่เธอเฝ้าถามตัวเองอยู่ทุกวินาทีของลมหายใจ “ทำไมเขาต้องจากฉันไป! ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ!” นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นเธอระเบิดอารมณ์และร้องไห้ฟูมฟายออกมา เป็นความเศร้าระทมที่สะสมมาถึงห้าปีเต็ม

เช่นเดียวกับยูมิโกะ สามีของเธอเองก็ไม่สามารถให้คำตอบถึงการจากไปของชายผู้นั้นได้ หากแต่เขาตอบด้วยเรื่องเล่าจากชีวิตของผู้เป็นพ่อที่ว่า “พ่อมักออกทะเลอยู่เสมอ พ่อบอกว่าประกายระยิบระยับของทะเลเรียกร้องให้พ่อกลับไป” แม้จะเป็นคำตอบที่ไม่อาจไขกระจ่างได้ทุกสิ่ง แต่ก็อธิบายถึงกลไกการดึงดูดของโลก หากมีคนบางคนถูกดึงดูดด้วยทะเล อีกหลายคนนั้นคงถูกดึงดูดด้วยความตาย เช่นเดียวกับพี่น้องตระกูลลิสบอนใน The Virgin Suicides และเหล่าตัวละครหนุ่มสาวในนิยาย Norwegian Wood ของฮารูมิ มูราคามิ

แต่คำตอบของสามีนั้นคงไม่ใช่ใจความหลักในการตัดสินใจมีชีวิตอยู่ต่อไปของยูมิโกะ หากแต่เป็นการดำรงอยู่ของ “ปัจจุบัน” ไม่ว่าจะเป็นสามี ลูก ครอบครัว เพื่อนบ้าน หมู่บ้านอันสงบสุข ไปจนถึงเสียงคลื่นลมทะเลที่ห้อมล้อมชีวิต ในฉากสุดท้ายยูมิโกะที่ใส่ชุดสีขาวเดินลงมาจากบ้าน พร้อมทักทายพ่อตาว่า “วันนี้อากาศดีจังนะคะ” จึงเป็นภาพแทนการเกิดใหม่ทางจิตวิญญาณได้อย่างงดงาม

นอกจาก Maborisi เป็นงานที่เรียบง่าย ล้ำลึก และเน้นความสมจริง มันยังทำให้ผมนึกถึงเรื่องจริงที่ประสบมา เรื่องแรกเกี่ยวกับเพื่อนของคนรู้จักที่ผูกคอตายชนิดที่ไม่มีใครทราบสาเหตุและปราศจากสัญญาณเตือนล่วงหน้า ทั้งที่เธอเป็นหญิงสาวที่ดูจะมีความสุขพร้อมเพรียงทุกอย่าง หน้าตาก็สะสวย การเรียนก็ดีเยี่ยม ครอบครัวก็อยู่กันพร้อมหน้า บางทีนี่อาจเป็นสิ่งย้ำเตือนเราว่าโลกใบนี้ช่างละเอียดอ่อนซับซ้อน เกินกว่าที่เราจะนิยามว่าชีวิตของใครที่มีความสุข ชีวิตของใครก็ตกอยู่ในห้วงทุกข์

ถัดมา เป็นเรื่องของรุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเป็นที่ขึ้นชื่อในความน่ารักสดใส แต่ภายใต้รอยยิ้มเธอกลับมีเรื่องน่าเศร้าเหลือทนฝังอยู่ในใจ แฟนของเธอรถคว่ำตาย (ที่น่าเศร้าคือ เขากำลังขับรถมาหาเธอที่บ้าน) จนทำให้เธอจิตใจแตกสลายและตัดขาดจากโลกภายนอกไปถึงหนึ่งปีเต็ม รุ่นพี่คนนี้คล้ายกับยูมิโกะใน Maborosi ตรงที่ปัจจุบันเธอมีแฟนใหม่แล้ว ผมเคยลองเลียบๆ เคียงๆ ถามเธอว่าคิดถึงแฟนคนก่อนบางมั้ย จำได้แม่นว่าเธอตอบว่า “คิดถึงสิ คิดถึงทุกวัน ไม่เคยลืมเลย”

อีกสิ่งที่ผมจำได้ไม่ลืมคือ เวลาพูดถึงคนรักผู้จากไป น้ำเสียงของเธอเปี่ยมไปด้วยความสุข และการระลึกความทรงจำดีๆ ไร้ซึ่งร่องรอยแห่งความเศร้า

เธอก็คงเหมือนกับยูมิโกะที่แม้จะเปลี่ยนมาใส่ชุดสีขาวแล้ว แต่ก็ยังจดจำจักรยานสีเชียวคันนั้นได้



“ความตายไม่ใช่การจบสิ้น หากแต่เป็นเพียงการจากลา”






Note

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮิโรคาสุ โคริเอดะ ได้ใน

- หนังสือ asia 4 โดย กัลปพฤกษ์
- Bioscope ฉบับที่ 34 (กันยายน 2547)
- Pulp ฉบับที่ 15 (กันยายน 2547)



Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 4:03:14 น. 39 comments
Counter : 2771 Pageviews.

 
"แล้วการจากลา มันก็คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนั่นแล"
แวะเข้ามาอ่านครับ


โดย: zoxmok IP: 124.176.122.41 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:6:40:19 น.  

 
ขอแอดหน่อยนะครับ ผมชอบงานข้อเขียนของคุณครับ


โดย: runtboy (runtboy ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:54:13 น.  

 
เขียนได้ดีมากๆเลยครับ ได้อ่านงานของคุณครั้งแรกจาก Bioscope ก็นึกชื่นชมอยู่ในใจ ตอนนี้ก็ทยอยไล่อ่าน Blog ทั้งหมดอยู่ ดูจาก Profile ของคุณแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าอายุเท่านี้จริงๆ เพราะงานเขียนเหมือนคนที่ตกผลึกทางความคิดเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ค่อยจะเกิดกับคนอายุน้อยๆ น่าทึ่งมากๆ


โดย: OTTO IP: 202.134.119.218 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:52:04 น.  

 
ซื้อมาตั้งนานยังไม่มีโอกาสดูเรยอะ
เขียนดีอย่างนี้ต้องรีบกลับไปดูซ่ะแล้ว


โดย: เอนนิสเดลมาร์ IP: 58.8.122.165 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:50:11 น.  

 
น้องต่อที่รัก!
7 เมษายน ฤกษ์กาลีบ้านกาลีเมือง(เพราะเป็นวันเกิดป้าแนน) น้องยักษ์ เอ๊ะ น้องรักของป้าเมย์ จะมาช่วยงานป้าเมย์มั้ยนะ??? น้องตรูสอบเสร็จยั้งอ่ะ?

จริงๆ ถามไปงั้นแหละ ให้เอ็งมาช่วยงานเป็นสต๊าฟวินส์ เดี๋ยวเด็กสาวๆ ในงานจะตกใจนึกว่ามางานผิดซะเปล่าๆ เอาเป็นว่า ยังไงก็ทำตัวให้ว่างวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายนแล้วกันนะเคอะ เพราะ 9 เมษาวันเกิดตรู 7 เมษาป้าแนน ดังนั้นกินทีเดียวโล่ด! ต้องมาสังสรรค์เหมือนทุกปีให้ได้นะเคอะน้องตรู เคลียร์คิวล่วงหน้าด้วยนะเคอะ

ลป. พี่โจ้ของหล่อนก็มาด้วยนะเคอะ หุหุ วันรวมพลคนเสม็ด


โดย: ป้าเมย์ (meichan ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:14:25 น.  

 
เขียนดีมากๆเลยอ่ะ เรากำลังมีโครงการเขียนบล๊อกร่วมกับพี่ๆอีก 2 คน แต่มาอ่านของคุณแล้วเราอายหง่ะ เพราะที่เราเขียนคงออกแนวขำๆ หาสาระอะไรอย่างนี้ไม่ได้แน่ๆ

อ่านแล้วรู้สึกเหมือนกันว่าชีวิตมันซับซ้อนหง่ะ
ซึ่งเราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจชีวิตเท่าไรเลย

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ เราเศร้าไป 2-3 วันเลบแหนะ จนพ่อกับแม่เครียดตาม แต่ตอนนี้โอเคขึ้นแล้วล่ะ
อย่างว่าแหละ เรายังต้องสอบตัวสุดท้ายในชีวิตป.ตรีอยู่นี่หน่า 555+

ช่วงนี้กำลังสอบใช่มั้ยคะ โชคเอเน้อ


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.166.210 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:06:48 น.  

 

อ่านแล้วแอบอินเหอะ ..
ถ้าดูคงต้องเศร้ามากแน่ๆเลยอ่ะ
เสียใจแทน ..


Get A นะคะ ..
สอบครั้งสุดท้ายแล้ว .. จะจบแล้ว~


ps. อยากดูเรื่องนี้อ่ะ .. ยืมหน่อยๆๆ
^________^*


โดย: Fernnie.* IP: 125.25.53.90 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:58:16 น.  

 
เขียนดีมากๆ
อ่านแล้วเศร้า และก็ตั้งคำถามไปด้วยเหมือนกันค่ะ คนที่ยูมิโกะรักล้วนแล้วแต่ลาจากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยหาสาเหตุไม่ได้

เศร้านะคะ


โดย: เยี่ยมรุ้ง วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:6:07:27 น.  

 
แหง่ว เรื่องนี้ยังไม่เคยดู แต่เคยดูเรื่องอื่นของตาผู้กำกับคนนี้แล้ว ชอบ After life ที่สุด มันจี๊ดใจดี

ส่วนเรื่องสัมมนาหมวดการเงินนี่คงจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าข้าพเจ้าหลีกลี่ยงที่จะเรียนหมวดนี้มาตลอดตั้งแต่ปริญญาตรีแล้ว


โดย: strawberry machine gun IP: 203.131.220.50 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:09:47 น.  

 
แวะมาเชียร์ Babel ค่ะ อยากอ่านความเห็นของคุณ :)


โดย: Tiktok IP: 58.8.173.201 วันที่: 12 มีนาคม 2550 เวลา:23:54:02 น.  

 
ยังไม่เึคยดูเหมือนกันแฮะ ท่าทางน่าจะดี
ต่อกลายเป็น indicator สำหรับหลายๆ คนไปแล้ว

ปล. เพิ่งรู้ว่า เขียนลง Bioscope ด้วยนะเนี่ย อิอิ


โดย: patsonic IP: 125.25.134.170 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:1:37:45 น.  

 
บล็อกใช้ได้แล้ว อย่าลืมกลับมาเขียนนะครับ


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:11:45:23 น.  

 
กว่าจะเม้นท์ได้ แวะมาหลายหนอยู่
เราเคยดูแต่ nobody knows จำได้ตอนนั้นหลังจากดูบ้าไปหลายวัน

อ้อ เราเปลี่ยนบล๊อกนะ เป็น autonomybeans.exteenฯ
เราเห็นละที่ลงใน anything ของไทยอินดี้ ไว้จะไปดูๆ


โดย: สุด IP: 58.8.49.254 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:12:35:59 น.  

 
คำพิพากษาของมหาสมุทร เป็นยังไงบ้างคะ


โดย: Little Detective วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:13:32:25 น.  

 
แวะมาทักทาย หลังจากหายหน้ากันไป


โดย: คนขับช้า วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:14:37:19 น.  

 
แวะไปดูที่ thaiindie.com มาแล้ว จะบอกเจ้าของบล็อก ว่า ชอบ Su-Ki-Da ค่ะ ได้มีโอกาสดูในช่วงเดียวกับที่เจ้าของบล็อกดู (เห็นมีเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้ที่บล็อกก่อนๆ) ว่าจะแนะนำเพื่อนบางคนให้ดูอยู่ค่ะ

บล็อกแก๊งค์ใช้ได้แล้ว อย่าลืมกลับมาอัพนะคะ :)
ว่าแต่ สอบโทเฟลไปรึยังคะ ตอนนี้เราก็กำลังหัวฟูกับหนังสือโทเฟลแบบใหม่เหมือนกันค่ะ :)


โดย: tiktok (tiktokthailand ) วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:16:42:14 น.  

 
แวะมาอ่านบทความค่ะ

เขียนได้ดีมากๆ เลย

มาอัพอีกนะคะ..จะรออ่าน




โดย: BaRoQuE IP: 58.9.48.238 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:19:32:17 น.  

 
วันนี้เราก็ไปดูหนังเหมือนกัน แต่ไม่ได้ดูสักเรื่องอ่ะ อย่างเซ็ง
รู้งี้ไปดู the Queen ที่สกาล่าดีกว่า


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.162.65 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:23:14:23 น.  

 
น่าดูจังเลยค่ะ ...
อ่านดูแล้วท่าจะหม่นเศร้าดี


โดย: renton_renton วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:17:08:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ ดีใจจัง ที่ได้กลับมาอัพบล็อคไดอารี่อีกครั้ง และมีโอกาสได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนเพื่อนๆชาวบล็อคอีกครั้งค่ะ สบายดีน่ะคะ

วันนี้เจนนี่แวะมาชวนไปร่วมทายผลเจ้าตัวเล็กของเจนนี่ที่บล็อคไดอารี่เจนนี่ค่ะว่า เจ้าตัวเล็กเจนนี่จะเป็น ผู้หญิง หรือ ผู้ชายดี ฮิฮิ อย่าลืมแวะไปร่วมทายน่ะคะ เจนนี่มีของขวัญเล็กๆน้อยๆ มอบให้สำหรับท่านที่ทายถูก เพียง 19 คนแรกด้วยน่ะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:19:26:56 น.  

 
ต่อที่รัก ไปดุ The Queen ยัง

พี่ดูแล้ว ชอบว่ะเฮ้ย อ่านที่พี่เต้เขียนแล้วเห็นด้วยทุกประการ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:22:36:10 น.  

 
อ่านที่อัพในเว็บไทยอินดี้แล้ว อยากดูเรื่อง Su-ki-da มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านที่คุณเขียนแล้ว...เข้าตัวมากๆๆๆๆ


โดย: เอนนิสเดลมาร์ IP: 58.8.121.217 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:9:39:55 น.  

 
แวะมาบอกว่าหนังสือเรื่อง โทรศัพท์สลับมิติ CALLING YOU ที่พี่เมอร์โปรดปราณ (ใช่มั้ย) ทำเป็นหนังแล้วนะ

//www.kimikoe.jp/index.html


โดย: Nighty IP: 58.8.36.228 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:22:14:23 น.  

 
ในที่สุดก็คอมเมนท์ได้ซะที
นานจนกูลืมไปแล้วว่าจะพูดเรื่องอะไร 555

เดี๋ยวกูจะตามไปอ่านที่ thaiindie บ้าง


โดย: สาว(สมอง)น้อย IP: 124.120.17.4 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:23:20:42 น.  

 
อ่ะ อัพบล็อกเถอะ
อย่ามัวไปอยู่ที่ thaiindy จนลืมบล็อกแก๊งเน้อ


โดย: grappa วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:7:40:10 น.  

 
คันฉัตรกลับบ้านด่วนค่ะ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:15:56:54 น.  

 
แวะมาอ้อนวอนให้กลับบล็อกแก๊งด้วยคนค่ะ
น้องต่อ กลับมาเร้วววววววววว ....


โดย: tiktokthailand วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:19:39:35 น.  

 
คันฉัตรหายไปไหนแล้ว


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.163.155 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:23:48:30 น.  

 
เข้าไปฟังเพลงที่แนะนำในไทยอินดี้แล้ว วงโอบเอื้อ 001อะไรนั่น

เพลงกวนตีนมาก


โดย: zoxmok IP: 60.229.40.160 วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:16:23:55 น.  

 
แง่มมม อยากดูเรื่องนี้ แต่ยังมะมีตังซื้อ เหอๆ
เราชอบผกก.คนนี้มาเมื่อได้ดู Nobody Knows ก็เลยลองตามหาหนังที่เค้ากำกับเมื่อครั้งก่อน แล้วก็เลยได้ดู After Life เปนหนังที่ ว่าไงดี ไม่ค่อยชอบช่วงต้นซักเท่าไร แบบมันมีแต่พูดๆๆๆๆ แต่โดยภาพรวมแล้วโอเชเลยอ่ะ คุ้มตังที่ซื้อมา

งืม ไอซ์เสก็ตเล่นที่เอสพละนาด อยู่แถวสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยอ่ะงับ ลานเล็กมั่กๆ แถมอุณหภูมิห้องก็ไม่ค่อยเยน น้ำแข็งเลยละลายเร็ว ไม่ค่อยเวิร์คหรอกงับ ต้องระวังหัวแตกด้วย


โดย: oHMu IP: 202.28.62.245 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:16:36:51 น.  

 
เอ้อออ..
นึกว่าอัพแล้วน่ะ



โดย: แยมมมม* IP: 58.64.103.63 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:21:24:14 น.  

 
อัพต่ออ๊ะยางงงงงง


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 124.121.162.124 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:21:50:25 น.  

 
แวะมาดูหนังค่ะ


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:0:29:39 น.  

 
ขอแอดหน่อยนะค้าบ
แวะไปบล็อกเราด้วย
//a-century.exteen.com


โดย: : ) IP: 58.8.29.92 วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:18:38:29 น.  

 
คุณ mer กั๊บ..ช่วงนี้ไม่ค่อยดูหนังหรอกั๊บ
อยากอ่านคุณ mer เขียนเรื่องหนังอ่ะก๊าบบบ


โดย: red IP: 202.44.8.100 วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:21:39:12 น.  

 
ตัวสามีพูดก่อนตาย เกี่ยวกับความรู้สึกที่มีลูกจ้างคนใหม่ที่เคยเป็นนักซูโม่แต่ไม่ยอมตัดมวยผมออก
เขาเก็บเรื่องนักซูโม่มาคิด
เหมือนตัวสามีเองก็เป็นแบบเดียวกัน แบบเดียวกับนางเอกด้วย เขาตายไปเพราะยังยอมรับบางเรื่องไม่ได้

แต่นางเอกผ่านความกังขามาได้ หลังจากที่ทำความเข้าใจอยู่นาน
นางเอกนั่งมองหน้าต่าง ดูคลื่นดูลม สามีใหม่บอกว่าตอนนี้อาจจะรู้สึกว่าเสียงคลื่นลมดังมาก แต่สักพักเธอก็จะชิน
นางเอกเคยพูดว่ามันคงประหลาด ถ้าพอแก่เธอต้องมีกระขึ้นเต็มหน้า
หลายปีต่อมา พอถูกทักว่ามีจุดขึ้นที่ตัว เธอกลับเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นแค่กระ
หนังจบด้วยภาพหน้าต่าง ให้เราฟังเสียงคลื่นเสียงลม สุดท้ายแล้วเราก็จะคุ้นเคยต่อมัน ถึงไม่เข้าใจแต่เราก็จะเริ่มเคยชินและยอมรับ
รวมถึงความตายด้วย


โดย: daddy long leg IP: 124.121.135.79 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:2:41:35 น.  

 
จนถึงป่านนี้กว่าจะหาหนังเรื่องนี้มาดูได้
ดูจบนั่งค้างอยู่ห้านาที แม้จะไม่ใช่หนังที่ชอบที่สุดของเขาก็ตาม แต่โคเระเอดะทำแบบนี้กับข้าพเจ้าอีกแล้ว เหมือนจิตหลุด ถูกพรากไป

เรื่องนี้ใช้ long shot และ extreme long shot อย่างที่พี่ว่าเยอะมากจริงๆ เออว่าจะมาถาม (ไม่รู้จะได้มาเห็นคอมเมนต์นี้มั๊ยแต่เอาเหอะ) ว่ารู้จักเรื่อง Okaeri มั๊ย เพราะดูเหมือนจะใช้การถ่ายภาพคล้ายๆกัน แต่เราก็ไม่เคยดูหรอกนะคะ


โดย: b u IP: 58.8.104.140 วันที่: 31 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:02:14 น.  

 
ชอบงานเขียนของคุณจังเลยค่ะ
เขียนงานดีๆออกมาอีกเรื่อยๆนะคะ
จะติดตามจากblog อย่างสม่ำเสมอค่ะ


โดย: nobuta wo produce วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:21:02:49 น.  

 
ขอบคุณมากครับ :)


โดย: merveillesxx วันที่: 11 ธันวาคม 2554 เวลา:5:37:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.